ร้องไห้ตอนสอบสัมภาษณ์โควต้าแพทย์ จะเป็นไรไหม

ไม่เป็นไรครับ

เดาว่า สัมภาษณ์วันนี้ น่าจะเป็นสอบสัมภาษณ์แพทย์แม่ฟ้าหลวง รอบ 2 โควตาภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง ซึ่ง มฟล.ได้มีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ของแต่ละจังหวัด เข้าสอบสัมภาษณ์จำนวนหลายคน มีผู้ผ่านข้อเขียน(วิชาการ)มีจำนวนมาก จะคัดเลือกให้ติดแพทย์ได้ จังหวัดละ 1 คน ยกเว้นเชียงราย เชียงใหม่ จังหวัดละ 4 คน ลำพูน 2 คน

และได้มีการยกเลิกระเบียบที่กำหนดว่า ตัดสินผลการคัดเลือก พิจารณาจาก คะแนนวิชาการ ค่าน้ำหนัก 70% คะแนนสัมภาษณ์ 30% ไปแล้ว

แก้ไขใหม่ เป็น ตัดสินผลการคัดเลือก พิจารณาจาก 1.คะแนนวิชาการ 2.คะแนนสอบสัมภาษณ์ เกณฑ์การตัดสิน ผ่าน/ไม่ผ่าน

 แบบนี้แสดงว่า จะติดแพทย์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการฯด้วย ไม่เหมือนกับเด็กที่ติดแพทย์ กสพท.ที่การสอบสัมภาษณ์ไม่มีผลให้ชนะคะแนนวิชาการ

ความเห็นส่วนตัว ขอเตือนเด็กที่เข้าสอบสัมภาษณ์แพทย์แม่ฟ้าหลวง กรรมการฯสอบสัมภาษณ์ จะถามจี้จุดใจดำอย่างไร ถามกวน ถามยั่วให้โกรธ ถามกวนประสาท

ห้ามโมโห ห้ามร้องไห้เด็ดขาด เพราะอาจจะแสดงถึงความอ่อนแอของจิตใจ จิตใจจะทนรับความกดดัน ความเครียด ในการเรียนแพทย์ ที่ต้องเรียนหนัก ได้หรือไม่ 

ไม่ได้เกี่ยวกับผู้ป่วย หรือญาติคนไข้ แต่อย่างใด

ตัวอย่าง

เคยมีเด็กเข้าสอบสัมภาษณ์ ถูกกรรมการฯถามจี้จุดใจดำ ถามว่า ทำไมปีที่แล้ว สอบไม่ติดแพทย์ เด็กเสียใจอยู่แล้ว ที่สอบเกือบติดแพทย์ ม.รัฐ ต้องเสียเวลามาซิ่วใหม่ กลั้นอารมณ์ไม่อยู่ น้ำตาไหลออกมาเลย แต่ตอนประกาศผล ผ่าน/ ติดแพทย์ได้

ผลเป็นประการใด ติดหรือไม่ติด อย่าลืมแจ้งข่าวให้รู้ด้วย อยากรู้มากๆ

คิดว่าไม่มีผลครับ.. ผมร้องไห้ในห้องสัมภาษณ์รับตรงแพทย์รามารอบ1 ในห้องนึง อัตราแข่งขัน 2:1 (สัม 50 รับ 25) ก็ติด

จะติดหรือไม่ติดน่าจะขึ้นอยู่กับคะแนนสอบมากกว่า เพราะอารมณ์คนเรามันสามารถพัฒนาได้ ผู้สัมภาษณ์เป็นถึงอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยมีทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิผ่านชีวิตมามากมรประสบการณ์ชีวิตมาเยอะ ไม่ต้องกลัวจะไม่ผ่านเพราะสัมภาษณ์ ถ้าไม่ติดคงเป็นเพราะคะแนนสอบมากกว่า จุดที่น่ากลัวอยู่ตรงที่คะแนนเท่ากันกับคนอื่นแล้วต้องเลือกเขาคนเดี๋ยว แต่โอกาสน้อยที่คะแนนจะเท่ากันเป๊ะๆ

เราคิดว่าไม่มีผลค่ะ เชื่อว่าคนที่สอบสัมแพทย์ก็มีหลายคนร้องไห้ตอนเจอคำถามเช่นทำไมอยากเรียนแพทย์ เคยอ่านกระทู้นึงของคนที่สอบหมอ si จขกท.ที่เขียนรีวิวก็ร้องไห้ค่ะแต่คนสัมภาษณ์บอกไม่เป็นไร ร้องไห้ได้ไม่ถูกตัดคะแนนเพราะร้องไห้

ไม่มีปัญหาหรอกครับ ถ้าโมโห ด่ากรรมการก็ไปอย่าง

ไม่มีผลค่ะ ถ้าเป็นเรื่องที่เหมาะสม อยู่ในขอบเขตที่เข้าใจได้ เป็นปกติของคนธรรมดาค่ะ คนเรียนหมอก็คนเนอะ มีจิตใจไม่ใช่หุ่นยนต์

แต่ถ้าร้องจนหยุดไม่ได้ คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย อันนี้อาจจะมีผลค่ะ

เก่งมากๆแล้วนะคะ ให้กำลังใจนะ เราเข้าใจมากๆ เพราะเราก็รู้สึกแบบเดียวกับคุณเรื่องครอบครัว แม้จะอยู่พร้อมหน้าก็ไม่ได้แปลว่าจะสมบูรณ์อยู่ดีค่ะ ขอบคุณตัวคุณเองมากๆเลยนะ ขอให้สอบติดค่ะ สู้ๆ

ไม่แน่ใจว่าจะช่วยได้มั้ยนะคะ ส่วนตัวตอนสัมภาษณ์ไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศก็เจอคำถามtrigger+กดดันจนร้องไห้กลางห้องสัมภาษณ์เหมือนกัน แต่ก็ได้ไปนะคะ อันดับดีด้วย

ตามที่แพทย์แม่ฟ้าหลวง 64 รอบ 2 ได้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์แล้ว

โควตา 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้ 46 คน

โควตา 8 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้ 22 คน

บัดนี้ แพทย์แม่ฟ้าหลวง ได้ประกาศรายชื่อ ผู้ผ่านการคัดเลือกเป็นผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษา รอบ 2 โควตาภาคเหนือ ทั้งตัวจริง 24 คน ตัวสำรอง 20 คน แล้ว

ที่มา https://drive.google.com/file/d/16kQDZa4HBJBB59scsctVKn53RmgxL-dx/view

ตกลง จขกท สอบติดหรือป่าวมาอัพเดทด้วย

จขกท เหมือนจะสัมแพทย์ pi มหิดล(cpird) ประกาศผลวันจันทร์

ร้องไห้เหมือนกันค่ะ โดนจี้ด้วยโฆษณาที่เขาให้วิเคราะห์ แต่ก็ผ่านนะ เพราะวิเคราะห์ได้แม้จะร้องไห้ก็ตาม 555

ปล เมื่อนานแสนนานมาแล้ว

เอาจริงๆหมอก็คน มีจิตใจร้องไห้เป็น ถ้าจะให้ตัดสินวันนี้ว่าการที่คุณร้องไห้คุณจะไม่สามารถเป็นหมอได้ ไม่มีความอดทนก็ไม่ใช่เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างจะสอนให้คุณเข้มแข็งขึ้นเอง และเติบโตไปเป็นหมอที่ดี

ทำไมเจี่ยคิดไม่เหมือนคนอื่น คือ เรื่องบางเรื่อง มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคนอะค่ะ บางคนต้องผ่านและพบเจอเรื่องในชีวิตมามากมาย ไม่แปลกที่คำถามบางคำถามมันไม่ควรจะถาม และการที่เขาร้องไห้เพราะโดนถามคำถามนี้ ก็ไม่ควรจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเขาจะเป็นหมอได้หรือไม่ บางทีถ้าวัดกันจริง ๆ น้องอาจจะเข้มแข็งกว่าคนที่ไม่เคยต้องเจอเรื่องอะไรแบบนี้ แล้วก็ตอบคำถามกรรมการไปอย่างสบาย ๆ เสียอีก พี่เข้าใจความรู้สึกที่น้องบอกเลยว่ามันจี้ใจดำค่ะ อีกอย่าง น้องก็ยังเป็นผู้เยาว์อยู่เลย สังคมที่ดีคือสังคมที่ไม่ซ้ำเติม แต่ช่วยค้ำจุนคนที่ผ่านเรื่องร้าย ๆ มา จากพี่เคยอยู่เมืองนอก+ถามเพื่อนที่เคยเรียนเมืองนอกมา เขามี support ให้นักเรียนที่ประสบปัญหาส่วนตัวต่าง ๆ ด้วยซ้ำ และสนับสนุนให้สามารถเรียนหนังสือต่อได้ ฮรืออออ จะพูดมากไม่ได้เพราะตัวเองก็ไม่ใช่หมอ ขอกอดให้กำลังใจแทนนะคะ สู้ ๆ น้า เป็นกำลังใจเสมอค่ะ

ตามนี้ค่ะ

https://www.facebook.com/DekDfc/photos/a.391958666454/10157832762006455/

เป็นอาชีพที่ประสาท-และ toxic ตั้งแต่ สัมภาษณ์ จริงๆ พอเข้าไปแล้วนะ ใครหัวเร็วอ่านได้ไวไม่ต้องมีความtoxic แบบนี้ก็เรียนรอดเรียนเก่ง ไม่ต้องraise ประเด็นไรงี้เลย