เด็กมนุษย์เป็ด ที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตจนหาตัวเองไม่เจอ
ตั้งกระทู้ใหม่
วันที่พิมพ์ วันพฤหัสบดี ที่ 25/11/64 เวลา 3.24 น.
เริ่มต้นเลยครับ
ผมเป็นเด็กที่ชอบศิลปะ อาศัยอยู่กับครอบครัวที่มีทั้ง เป็นครูวิทยาศาสตร์ เป็นครูอังกฤษ เป็นครูคณิตศาสตร์ จะเห็นได้ว่าเด็กเป็ดกำลังจะเริ่ม
ผมจบประถมที่เกรด 4.00 ครอบครัวผมต่างดีใจแต่ผมกลับรู้สึกไม่มีความสุข ผมไปขอป้าไปต่อมัธยมที่โรงเรียนกินนอนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีระบบคล้ายทหาร คือ มีการกินข้าวพร้อมกัน นอนเวลาพร้อมกัน และผมก็สอบติดห้อง English program ขึ้นมา แน่นอนครอบครัวผมดีใจมากแต่ผมไม่เคยดีใจกับมันเลย เหมือนรู้สึกว่าสอบติดก็ติด ไม่ติดก็ไม่ติดและได้เรียนอย่าง งงๆ เพราะทุกอย่างที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษทุกวิชา ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ทุกวิชาต่างเป็นภาษาอังกฤษซึ่งตอนนั้นคือเป็นเด็กประถมที่มีความรู้ระดับประถมก็เลยเรียนไปแบบ งงๆ และวันแรกได้เข้าโรงเรียนก็มีเสียงจากวงโยธวาทิต ซิ่งผมหลงใหลในเสียงของมันมาก จึงขอไปสมัคร จนได้เข้าไปเล่น saxophone ในวงและได้รู้ว่าวงนี้ได้เคยไปแข่งระดับประเทศด้วย ผมเลยตั้งใจซ้อมอย่างหนักไปพร้อมๆกับการเรียน เพื่อให้ได้ไปแข่ง จนในที่สุดได้ไปแข่งถึงระดับโลกที่จัดขึ้นในไทยแต่ทุกอย่างไม่ได้ดีอย่างที่คิด เพราะสิ่งที่ซ้อมมากลับมีปัญหาด้านสถานที่ที่ไม่ตรงกัน จนได้รางวัลตอบแทน คือ เหรียญทองแดง วันนั้นคือวันแรกที่ผมรู้สึกเสียใจครั้งแรกและดีใจเป็นครั้งแรก ว่าผมเสียใจเพราะไม่ได้แสดงอย่างเต็มที่และดีใจเพราะผมได้ทำบางสิ่งบางอยู่ได้เป็นอย่างดี รู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถ นอกจากนี้ผมจึงหัดเล่น guitar และศึกษาทฤษฎีดนตรีเล็กน้อย จนจบม.3 และได้ไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ประเทศสิงคโปร์ มาถึงตรงนี้ผมมีความสามารถหลายอย่าง คือ ศิลปะวาดรูปพูดภาษาอังกฤษได้ เล่นดนตรีได้ เช่น saxophone guitar piano นิดหน่อย ว่ายน้ำ พิมพ์ดีด
จนมาถึง ม.4 ความฝันผมเปลี่ยนไปจากทหารตอนนี้อยากเป็นทันตะ แต่ก็ไม่รู้ว่าชอบจริงไหมและป้าก็สนับสนุน ผมเลือกไปต่อโรงเรียนแห่งหนึงเป็นโรงเรียนไป-กลับ เพื่ออยากรู้ศึกษาใช้ชีวิตว่าโลกภายนอกเป็นยังไง เพราะโรงเรียนเก่า 3อาทิตย์จะได้กลับบ้านทีนึง ม.4 ผมจึงเลือกไปสอบห้องวิทยาศาสตร์(สุขภาพ) ที่เป็นห้องสำหรับคนที่อยากเป็นเกี่ยวกับหมอ ซึ่งผมเกือบสอบไม่ติดแต่ก็ติดมาได้ ม.4-ม.6 ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องปรับตัวกับสังคมใหม่และเครียดมากครับ ไม่เคยได้ใช้ชีวิตแบบโรงเรียนไปกลับมาก่อน เรียนกลับบ้านทำงาน ผมสอบตกบ่อยมากจนมีครูมาดูถูก จนได้รู้สึกตัวว่า การที่จะชอบสิ่งอะไรมันต้องเอาตัวเองไปอยู่คลุกคลีกับสิ่งนั้นเราถึงได้รู้ว่า ตัวเองชอบจริงไหม จนในที่สุดจากความชอบของผมตั้งแต่เด็กกลับกลายเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากจะเดินเข้าไปหาอีกต่อไป จนจบ ม.6
จนถึงมหาวิทยาลัยผมไม่รู้จะไปทางไหนดี ผมไม่มีเป้าหมาย ผมหาตัวเองไม่เจอ ชีวิตผมหวิวมาก ครอบครัวอยากให้เรียนครูแต่ผมไม่อยากเป็น จนผมารู้ตัวว่าผมไม่เคยใช้ชีวิต ผมไม่เคยมีชีวิตเป็นของตัวเอง ผมไม่เคยค้นหาตัวเองจริงจังๆ ผมเลยยื่นครูดนตรี และสถาปัตย์ มหาลัยนึง แต่ไม่ติดดนตรีตอนสัมภาษณ์ ผมเลยบอกครอบครัวว่าเลือกเรียนสถาปัตย์เพราะติด จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ผมเลือกมันค่อนข้างย้อนแย้งกัน แต่ที่บ้านก็ไม่สนับสนุน และก็เรียนไปและก็ทำหาอะไรทำ นั่นคือ ลองทำอาหารให้เพื่อนกินแต่เพื่อนกลับบอกว่าอร่อยและอ่านหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจ การเงิน ในการเรียนไม่เคยทำให้ครอบครัวผิดหวังเรื่องเกรด ไม่เคยตกไป 3.20 แต่ผมกลับไม่รู้สึกสนุกกับมัน ยิ่งเรียนยิ่งสับสน ผมจึงคิดได้ว่า ผมไม่ควรมานั่งตรงนี้ ผมไม่เหมาะกับมัน สิ่งทิ่คิดว่าตัวเองชอบแต่กลับไม่ ยิ่งรู้ยิ่งเบื่อ ยิ่งพยายามที่จะชอบแต่ใจกลับปฎิเสธ เป้าหมายผมหายไป จนผมไปบอกครอบครัวว่า อยากจะดรอปไว้ก่อน ออกมาทำอะไรบางอย่าง ออกไปหาตัวเอง ออกมาค้นหาชีวิตว่าผมควรอยู่เพื่ออะไร ว่าผมคือใคร แต่ที่บ้านบอกว่า อย่าพึ่งออก/ดรอปเพราะเลือกเรียนเอง ผมไม่เคยทำให้ที่บ้านผิดหวังตั้งแต่เด็ก ไม่เคยขออะไรที่ทำให้เดือดร้อน ไม่เคยร้องไห้ เสียใจทำให้ครอบครัวได้เห็น แต่มาถึงวันนี้ผมขออยากอยากไปหาชีวิต ไปตามหาเป้าหมาย อยากลองไปทำธุรกิจด้านอาหาร อยากลองไปเล่นดนตรี อยากลองหาเงินเอง อยากจะแบ่งเบาภาระด้านการเงินให้ครอบครัว แล้วถ้าผมไปไม่ถึงสิ่งที่อยากลองผมก็จะกลับมาเรียนเอาใบปริญญาให้ครอบครัว แต่ผมกลัวว่าเป็นจะกลับมาเป็นแบบนั้นเหมือนเดิม เหมือนกับตอนประถมและตอนมัธยมที่ทั้งได้เกรดดีทั้งเรียนจบแต่ไม่เคยดีใจ ไม่เคยมีความสุข ผมเลยอยากจะขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนครับ ว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไป
มาถึงตอนนี้ความสามารถ/พิเศษของผมที่มีอยู่ตอนนี้ คือ พูดภาษาอังกฤษได้ พูดญี่ปุ่นได้นิดหน่อย เล่นดนตรีได้ saxohphone guitar ทำอาหารได้ดี ศิลปะวาดรูป พิมพ์ดีดได้ไวอยู่ ตัดต่อรูปก็โอเค(มั้ง) เขียนแบบสถาปัต(แต่ยังไม่จบ) แต่ไม่สุดสักทาง
ตอนนี้อยู่ปี 3 สถาปัตย์ ครับว่าจะดรอปไปก่อนไปตามหาตัวเอง อยากจะให้พี่ๆแนะนำหน่อยครับ
6 ความคิดเห็น
ไงๆ ก็อยู่ปี 3 แล้ว อดทนให้เรียนจบก่อน คนที่เขาสงเสียเราเรียนจะได้ไม่ทุกข์ หลังจากนั้นค่อยไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบหรือไปแสวงหาสิ่งที่ชอบ
คล้ายๆเราเลยคิดว่านะ เราน่ะเรียนไม่เก่งหรอก เรียนได้ที่เกือบโหล่ แต่พยายามเรียนมาโดยไม่ได้คาดหวังว่าจะต่ออะไรจะทำอะไรดีหรือชอบทำอะไร รู้แค่ทำอะไรอยู่ก็ทำไปเรื่อยๆ รู้สึกเรียนไม่ดีก็พยายามทำให้ดีขึ้น เพื่อที่จะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวังที่เราไม่พยายามเรียนทั้งๆที่อุตสาทุ่มเทเงินส่งให้เรียนนู่นเรียนนี้เท่าที่จะทำได้ เราพยายามเป็นเด็กดีเท่าที่ทำได้ พยายามเข้าใจสถานะการเงินของครอบครัว พ่อแม่บอกให้ทำนู้นดูนี้ดูก็ทำ พยายามไม่ไปไหนอยู่บ้านจนเพื่อนเข้าใจผิดว่าโลกส่วนตัวสูง มันก็ถูกนิดนึงแต่เราต้องประหยัดเงินไว้กับไม่ทำให้แม่เป็นห่วงแค่นั้นแหละ ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากไป จนกลายเป็นคนไม่รู้จักโลกกว้าง อยู่ในวงที่พ่อแม่ขีดเอาไว้โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ สรุปกลายเป็นคนกลัวโลกกว้าง ทำอะไรก็กังวลและกลัวไปหมดเลย
สุดท้ายเราก็รู้สึกว่างเปล่ามาก โอเคกับการเรียนภาษาญี่ปุ่น ชอบวาดรูปแค่รูปคาแรคเตอร์ในอนิเมะจากการชอบดูอนิเมะ พ่อเราเห็นก็อยากให้เข้าสถาปัต(มันเกี่ยวเหรอ)แต่เราก็เถียงอยากเข้าคณะนิเทศสาขามัลติมีเดีย แต่ก็คิดได้ว่าใช้เงินเยอะแน่ บ้านเรามันไม่ได้รวยขนาดนั้น แต่สถาปัตมันก็ใช้เยอะพอกัน ตอนนั้นตามใจพ่อเข้าสถาปัต แต่ไม่ไหว พอแล้วออกมาเข้าคณะที่เป็นกึ่งกลางระหว่างชอบกับโอเค คือ ศิลปศาสตร์ภาษาญี่ปุ่น ตอนนี้ก็เรียนอยู่ แต่ถามว่าโอเคไหม ก็ดี แต่ยังไม่รู้ว่าจบแล้วจะทำงานหรือทำอะไรดีเนี้ยแหละปัญหา
ตอนนี้เราเป็นโรคซึมเศร้ากับวิตกกังวลจนเกินไปอยู่ ทำให้รู้สึกไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น อยากอยู่เฉยๆเลยละ เพราะไอความคาดหวังของพ่อแม่ที่อยากให้จบแล้วให้หาเงินมาเลี้ยงพ่อแม่นี้แหละ เราอยากไปนู้นมานี้ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ก็กลัวว่าจะเรียนตกเอาและไม่มีเงินด้วยแหละ รู้สึกว่าตอนนี้แค่เรียนให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้คือเต็มกำลังตัวเองแล้ว
จขกท. ยังดีนะคะที่คุณรู้ว่าอยากทำอะไร เพราะฉะนั้นทำคะ ถ้ารู้สึกอยากทำและมีกำลังมากพอที่จะออกไปทำได้ มันจะทำให้คุณได้เปิดโลกที่กว้างขึ้นและอาจจะได้ค้นพบความสามารถความชอบ ความรักในบ้างสิ่งอย่างที่คุณยังไม่รู้ก็ได้
ถ้าทำไหวก็เรียนไปด้วยหาสิ่งที่อยากทำไปด้วยเลยคะ แต่ถ้าได้อย่างใดอย่างนึงละก็เรียนให้จบคะเพราะปี3มันนานพอตัวเลย มันจะเสียเวลาชีวิตมากถ้าออก ดรอปก็ดีนะระหว่างดรอปก็ไปหาสิ่งที่อยากทำแต่พอกลับมาเรียนมันจะทำให้เรียนไม่ประติดประต่อกัน อาจทำให้เกรดร่วงได้ถ้าไม่ตั้งใจรื้อฟื้นการเรียนให้ดีๆ
อันนี้ความเห็นเรานะ สุดท้ายมันก็อยู่ที่การตัดสินใจของเราเองคะ
ขอบคุณที่อุตส่าห์อ่านมาจนถึงนี้นะค่ะ
เป็นเหมือนเราเลยค่ะ เราเป็นคนที่ทำอะไรก็ไม่สุดสักทาง เราเรียนได้เกรดดีแต่ก็ไม่ไเก่งขนาดระดับประเทศอะไรขนาดนั้น เราชอบวาดภาพ แต่ก็ไม่ได้สวยจนขายได้หรีอทำเป็นอาชีพ พูดภาษาเกาหลีได้แต่ก็ไม่ได้เก่งหรือสื่อสารรู้เรื่อง อ่านภาษาญี่ปุ่นออกแต่ก็ไม่สามารถสื่อสารได้ขนาดนั้น ภาษาอังกฤษก็พอคุยกับต่างชาติรู้เรื่องบ้างแต่ก็ตกแกรมม่า ตอนนี้เราเรียนสถาปัตย์เหมือนกันค่ะ แต่อยู่ปีสอง ตออนนี้เราดรอปออกมาอยู่บ้านแล้วค่ะ เพราะรู้สึกว่าเราเรียนไปแล้วไม่ได้มีจุดหมาย ไม่ได้อยากจะเป็นสถาปนิกแถมตอนเรีรยนยังเหนื่อยอีก ตอนเรียนอยู่เกรดเราก็อยู่ในระดับดี ทำโปรเจคออกมาก็มีแต่คนชม แต่เรายังรู้สึกว่าเพื่อนเราเก่งกว่ามาก เราทำได้ไม่ได้ดีขนาดนั้น ออกจะอยู่ระดับล่างด้วยซ้ำ จนสุดท้ายเราคิดว่าอยู่ต่อไปแล้วเราไม่ได้ชอบเขียนแบบขนาดนั้น รวมถึงการเรียนสถาปัตย์มันหนักมากๆจนร่างกายเราไม่ไหว เราเครียดมากและตัดสินใจดรอปเรียนค่ะ
ระหว่างที่ดรอปออกมาเราไปหาจิตแพทย์เพราะเราเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับและมีอาการวิตกกังวลร่วมด้วย เพราะความคาดหวังของพ่อแม่ ตอนเราตัดสินใจบอกแม่ว่าจะดรอป แม่เราโกรธและเครียดมาก เรารู้สึกผิดไปเป็นเดือนๆเลย โทษตัวเองตลอดว่าทำให้พ่อกับแม่ลำบาก เรียนก็ไม่จบ ดรอปเรียน เหมือนเอาเงินแม่มาเขวี้ยงเล่น แต่พอเราได้ไปหาหมอและลองคุยกับแม่จริงจัง เขาก็เริ่มเปิดใจและเข้าใจเรา
ตอนนี้เราอยู่บ้านและทบทวนตัวเอง เรานอนคิดมาตลอดว่าจริงๆแล้วเราชอบเรียนภาษาและอยากจะเรียนอักษร อยากทำงานที่ต่างประเทศ ตลอดเวลาที่เราดรอปออกมา เราทั้งลองลงเรียนภาษาญี่ปุ่น เรียนภาษาเกาหลี ไปลองเรียนบัญชี เรียนบริหารกับแม่ ทำทุกอย่างที่อยากทำเลย แต่สุดท้ายก็ไม่เจอว่าตัวเองชอบอะไรจริงๆ อยากให้ลองทำหลายๆอย่างดูค่ะ ตอนนี้เราก็หาตัวเองอยู่เหมือนกัน ถ้าหากว่าจขกทพอจะมีเวลาหรือมีกำลังทรัพย์มาพอ อยากให้ค้นหาตัวเองจนเจอนะคะ เราเป็นกำลังใจให้ จากใจมนุษย์เป็ดเหมือนกัน TT
คิดว่าไม่ควรดรอปค่ะ เรียนให้จบๆ ไปเลยดีกว่า เพราะว่า ถ้าดรอปแล้วกลับมาเรียนโดยไม่มีเพื่อน จะไม่มีใครช่วยเลยนะ กับรุ่นน้องก็ไม่รู้จักกัน ดรอปแล้วจะต้นหาตัวเองนานแค่ไหน กลับมาจะต่อได้หรือไม่ เสียดายเวลาที่เรียนมาแล้ว จบปริญญาตรีแล้วไปทำงานไม่ต้องตรงสายก็ได้ ถ้าดรอปแล้วไม่ได้ต่อ หรือ เรียนต่อไม่ไหว ที่ผ่านมาเท่ากับเสียไปเปล่าๆ ทั้งทีืทำคะแนนไว้ดีแล้ว ส่วนเรื่องการค้นหาตัวเอง เรียนทำอาหาร เรียนดนตรีตอนปิดเทอม หรือเวลาว่างก็ได้ ไปเที่ยวก็ได้ แค่แบ่งเวลาให้ดีค่ะ อีกไม่นานก็จบแล้ว
ส่วนตัวนะครับ ควรเรียนให้จบจากนั้นค่อยไปหาตัวเอง ถ้าน้องลาออกตอนนี้คือเรียนก็ไม่จบ สมัครงานอะไรก็ไม่ได้ แต่ถ้าน้องเรียนจนจบอย่างน้อยคือมีหลักประกันว่าน้องยังสามารถเลี้ยงตัวเองพร้อมกับค้นหาตัวเองได้นะ
คิดว่าจะดรอปก็ดรอปเลยถ้าทนอยู่ต่อมีหวังได้ไม่มีความสุขแน่ไปดรอปเลือกในสิ่งที่ชอบเหอะอย่าพยายามบำบากเลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?