Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

3 ปีกับการเตรียมตัวสำหรับรอบ 1 Portfolio คณะแพทยศาสตร์ และ คณะวิทยาศาสตร์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ขอเล่าก่อนเลยนะครับว่ามีความฝัน 2 อย่างคือหมอกับนักวิจัย แน่นอนว่าต้องหวังทั้งสองอยู่แล้วแต่ความฝันแรกต้องผิดหวังกับคะแนน Ielts ก็เลยเลือกที่จะตามความฝันที่สอง คือ นักวิจัย

เริ่มเตรียมตัวจริงๆคือ ม.5 แอบไปสอบ คัดค่าย สอวน ชีวะ แต่ไม่ผ่าน ;-; หลัังจากนั้นก็เริ่มที่จะประกวดโครงงานต่างๆเห็นงานประกวดที่ไหนก็ลง แล้วก็ช่วง ม.5 เป็นช่วงที่ออกไปทำกิจกรรมบ่อย เกรดที่ รร.มันก็จะตกไปหน่อยๆ แต่ก็สำหรับเราคิดว่ามันก็ยังโอเคอยู่ ช่วง ม.5 คือทำกิจกรรมเยอะที่สุดแล้ว เพราะว่าในพอร์ตจริงๆ เกือบ 80 เปอร์ มาจาก ม.5 ส่วน ม.6 ก็มีงานชิ้นใหญ่ชิ้นนึง คืองานวิจัย ได้ Published ที่ IJMCR สำหรับเราคิดว่าไม่ตีพิมพ์ก็ได้ แต่การตีพิมพ์ก็เหมือนเป็นการยืนยันว่างานวิจัยนี้ใช้วิธีการวิจัยถูกตามหลัก ภาษาในการเขียนถูกต้อง (แต่ราคาก็แอบแรงนิดนึง) แล้วก็เตรียมสอบ BMAT ด้วย

PART ของ BMAT (15C)

ขอเล่าก่อนเลยว่าเตรียมสอบค่อนข้างน้อยแล้วก็เวลาน้อยมากๆ เริ่มต้นที่เริ่มเรียนคือ

- Course Foundation All Part (Zoom)

ของ Edutrain [Part1+2+Wri]

- Course Intensive Part 2 ของ ignite (Anywhere)

- เริ่มเรียนทั้งหมด ตอนปลายเดือน July - กลางๆ October จำได้ว่าเหลือเวลาอีก 10 วันจะสอบเลยกลับไปทำข้อสอบเก่า ทำแค่ 10 ปีย้อนหลังวันละฉบับ แล้วก็ทำโจทย์ในหนังสือ 700BMAT เล่มสีเขียววันละ 2 Partๆ ละ 40 ข้อ

- ส่วน Part Writing เป็น Part ที่ไม่ชอบแล้วก็ซ้อมทำน้อยมากส่วนตัวชอบไปหา Answer เก่าๆแล้วลองมาแปลเป็นไกด์แล้วลองเอามาเขียนในสไตล์งานเขียนของตัวเอง

- อีกอย่างที่สำคัญ Part 1 หา duo สักคนนึงที่จะสอบ BMAT แล้วลองมา discus กันจะทำให้เราเห็นแนวคิดบางอย่างที่บางทีเราอาจไม่เจอคำตอบในข้อนั้นๆ

- Part 2 สำหรับ รร.ไทย คือรู้สึกว่าเนื้อหาที่ รร.ค่อนข้างเพียงพอกับขอบเขตของข้อสอบแต่การเป็น รร.ไทยปกติ มันจะเสียเปรียบจริงๆที่ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษและหลายบทมีศัพท์เฉพาะทางเยอะมาก

- ศูนย์สอบ British ไม่มีตรวจ ATK

หลังจากนั้นก็รู้และว่าหมอรอบแรกมันไม่ทันแล้ว ก็เลยหันไปที่อีกหนึ่งความฝันคือนักวิจัย

เป้าหมายเดียวของ คณะวิทย์ คือ มหิดล หลังจากนั้นก็ไปศึกษา อ่านประกาศ ไปดูไลฟ์ต่างๆของคณะ

การทำพอร์ต ของมหิดล ค่อนข้างที่จะทำให้เด็กทำได้ง่าย เพราะทางมหาลัยกำหนดให้ใช้ฟอร์ม มมวท.03 ที่เป็นฟอร์มที่ให้ใส่ผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์เลย แล้วก็อีกหนึ่งใบก็เป็นใบรับรองพฤติกรรม

หลังจากยื่นพอร์ต ไป วันที่ 14 มค ประกาศรายชื่อว่ามีสิทธิ์สสัมภาษณ์ ก็ค่อนข้างที่จะดีใจ รอบนี้มีภูมิคุ้มกันจาก ielts แล้ว 555555 ก่อนสอบทำสมาธิค่อนข้างเยอะเลย 

 

PART INTERVIEW มหิดล

Q : โชว์บัตร ปชช หน่อยครับ

Q : ครับแนะนำตัวเลยครับ
A : สวัสดีผม…. มาจาก รร. …..

Q : ระหว่างเรียนเราทำโครงงานอะไรบ้าง
A : ก็ตอบตามพอร์ตเลยย

Q : แล้วกลไก การทำงานของโครงงานนี้คืออะไรนะ (อ.ก็ค่อนข้างที่จะสนใจในโครงงานของเราเหมือนกัน)
A : ผมขอเล่าความเป็นมาโครงงานนี้ก่อนนะครับ แล้วก็เล่าไป
Q : โอเค แล้วเราเลือกสาขาไหนไว้ในใจบ้างไหน

A : ลังเล ชีวะ กับ bio tech ครับ
Q : อ่อ อ.อยู่ bio tech นะ ก็ถ้าเป็น ชีวะมันจะเป็น theory ส่วนใหญ่ งานวิจัยก็จะเป็นพื้นฐานของชีวะ ตั้งแต่ เซลล์ คน สัตว์ พืช ส่วน bio tech มันจะเป็นประยุกต์ แล้วก็เลือกลงไปได้อีก 4 สาย ทั้ง แพทย์ พืช อุตสาหกรรม …. 

bio tech ก็ดูเหมาะกับเรานะ เกี่ยวกับด้านการประยุกต์

A : ครับผม
Q2 : แล้วเราจะอยู่หอไหม
A : อยู่ครับ ที่บ้านไปกลับไม่ไหว

Q2 : อ.ว่าอยู่หอก็ดีนะ มีเพื่อนเยอะ ได้ทำกิจกรรม

A : ครับ

Q : มีคำถามอะไรเพิ่มเติมไหม
A : คือถ้าผมสนใจที่จะทำวิจัยตั้งแต่ปีแรกๆจะสามารถทำได้เลยมั้ย
Q : ถ้าเราสนใจในการทำวิจัยเราสามารถไปหา อาจารย์ได้เลย หรือถามได้เลยว่ามีหัวข้อวิจัยให้เราทำไหม เราต้องการนศ แบบนี้

A : อ่อครับ

Q : สุดท้ายนี้อยากจะบอกอะไรกับ อ. มั้ย

A : อย่าลืมเลือกผมนะครับ
Q Q2 : นึกว่าเลือก สส 

5555555555555555555

Q : โชคดีครับแล้วเจอกัน

 

> สุดท้ายนี้ <

คำแนะนำสำหรับคนที่จะสอบที่แวะมาอ่าน ถ้ามีเวลาก็ลองฝึกทำโจทย์เยอะๆ

ฝึกจับเวลาทำให้น้อยกว่าเวลาจริงนิดนึงมันจะทำให้เวลาสอบเราจะรู้สึกสบายกว่าตอนฝึก

ถ้ามีเวลาก็อ่านหนังสือเยอะๆ แต่ที่สำคัญอย่าลืมให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนบ้าง

keep fighting Na

 

สำหรับประกวดโครงงาน 

แนะนำ Contestwar, Dek-D, Camphub

แสดงความคิดเห็น

2 ความคิดเห็น

WATTANA- 18 ม.ค. 65 เวลา 11:13 น. 1

PART IELTS (4.5)

เอ่อเป็นส่วนที่พูดถึงจะเจ็บใจมาก 5555 คือต้องเล่าก่อนว่า ก่อนสอบได้เตรียมตัวกับ เว็บ Practice ielts ละคะแนนดีมากก็ต้องบอกว่าอยู่ที่บ้านมันชินกับสภาพแวดล้อมแหละ แต่พอไปสอบจริงๆ วันที่ไปสอบคือ สอบแบบ Computer

พลาด 2 PART คือ Listen กับ Speak ขอพูดถึง Speak ก่อนเลยคือมันค่อนข้างที่จะตื่นเต้นแล้วเราแบบสอบคนแรกของวันไปถึงก็สอบเลย ไม่ได้ทำสมาธิเลย สรุปคือ ในหัวมีคำตอบมากมายที่อยากตอบออกไปแต่พูดวกไปวนมา ตอนสอบเสร็จรู้เลยว่าพลาดมากๆ ส่วน Listen สติหลุดตั้งแต่ช่วง ข้อที่ 10 กว่าๆแล้วก็หลุดยาวเลย ส่วน Part ที่คิดว่าทำได้ดีที่สุดคือ Write เพราะว่า มันชินมากับการเขียน Research ไม่ได้ยืิ่นแพทย์สักที่เลย ;-;

0