Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว+เตรียมตัวสอบ รอบ 1 สถาปัตย์จุฬา (ออกแบบภายใน)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่





สวัสดีค่า เรา dek66 มาจากสายศิลป์-ภาษา ติดตัวจริงอินทีเรียจุฬา รอบ 1 นะคะ  สอบถามเพิ่มเติม ig t_sky_a  จร้า





ปล. เรียนที่สตู (ig : adjust_studiobkk) 















กระทู้นี้จะเป็นประสบการณ์การเตรียมตัวของเราที่เข้ารอบ 1 ( portfolio) สถาปัตย์จุฬา (ออกแบบภายใน) เพื่อเป็นความรู้ให้น้อง ๆ ได้เตรียมตัวในรอบ 1 ต่อไปค่า  

ป.ล. เพิ่งตั้งกระทู้ dek-d ครั้งแรกอาจจะจัดหน้าบาดสายตาไปหน่อยแต่ก็พยายามเต็มที่แล้วจร้ส ใครมาดราม่าโดนต่อยนะจร้า





1) คุณสมบัติ 

(สิ่งที่ต้อง make sure ว่ามีถึงไหม ไม่ถึงเค้าไม่รับ!!!)

- เกรดวิชา คณิต อังกฤษ วิทย์ ขั้นต่ำ 3.00 
(รับสายศิลป์ภาษาเพราะส่วนตัวเราก็สายศิลป์ภาษาค่า)
- cu tep ขั้นต่ำ 40 คะแนน  ไปสอบเร็ว ๆ ก็ดีนะจร้า จะได้เอาเวลามาทำพอร์ต
 (บางปีใช้ ielts (ง่ายกว่าแต่แพงกว่า) ยื่นได้แต่ต้องดูกำหนดการมหาลัยดี ๆ เพราะบางปีใช้แค่คะแนน cu-tep ค่ะ)
-portfolio 10 หน้าไม่รวมพวกหน้าเรียงความ ข้อมูลส่วนตัว
-รอบคอบ ***ต้องอ่านกำหนดการของมหาลัยดี ๆ 



2) คีย์ลัด หาที่เรียนพิเศษ (สตูดิโอ)
Key 
“เลือกสตูก็เหมือนเลือกอนาคตเรา ไม่เกี่ยวว่าเราจะเรียนมาจากโรงเรียนไหน สุดท้ายก็ต้องมาเริ่มเรียนใหม่ที่เรียนพิเศษอยู่ดี”

-พยายามทดลองเรียนไปก่อนว่าสตูไหนเหมาะกับเรา ทั้งการเรียนการสอนแล้วก็สังคมส่วนตัวเราเรียนทั้งหมด 3 สตู จนมาจบที่สตู @adjust_studiobkk แล้วรู่สึกว่าสตูนี้ใกล้บ้าน + สังคมตรงเพื่อนดี)
- สตูแต่ละสตูมีแนวทางการทำพอร์ตไม่เหมือนกันนะจร้า  เพราะฉะนั้นส่วนตัวเราว่าการที่เราได้เรียนติวก็สามารถเพิ่มโอกาสการสอบติดได้ (การศึกษาไทยที่เปิดสอนถาปัตคือมีน้อยมากก โครต  privilege เหมือนผลักให้เราต้องไปเรียนพิเศษถ้าอยากติดมหาลัย   เพราะฉะนั้นสามารถทักมาปรึกษาเราได้จร้า จะพยายามช่วยนุ๊)**
- เลือกสตูใกล้บ้านก็จะดีมาก เพราะต้องเดินทางบ่อย+ยิ่งใกล้ส่งพอร์ตยิ่งอยู่ดึก หรือจะเลือกเช่าหอแถว ๆ สตูก็ได้จร้า ขอขายว่าสตู @adjust_studiobkk ค่าหอถูก 6555555555



2.1) รีวิวประสบการณ์ ( ข้ามได้ ฟีลเม้ามอยหอยสังกันไป ) 

ส่วนตัวตอนแรกต้องบอกก่อนเลยว่าเราไมได้อยากจะเข้าสถาปัตย์เลยยยยย แต่เพราะชอบพวก art เลยแอบเล็ง ๆ ไว้บ้าง แล้วก็ตอนแรกรู้สึกว่าต้องไม่เหมาะกับมันแน่  ๆ    แต่พอรู้ตัวอีกทีภาควิชาสถาปัตย์ก็กลายเป็นหนึ่งใน goal   ของเราแล้ว

         จริง ๆ เราเริ่มเรียนพิเศษสถาปัตย์ช่วง ม.4   แต่เหมือนตอนนั้นเรายังรู้สึกว่าคณะนี้สำหรับเรายังไม่ใช่แต่ด้วยความที่เป็น ม.4   เรายังไม่ได้ฟิตไรมากมายเลยปล่อยเบลอไปก่อน คือรู้ละว่าถาปัตย์คงไม่ได้เลือกเรียนแต่ก็ยังไม่คิดว่าจะเข้าคณะอะไรดี จนมา ม.5 คือรร.เราให้เรียนออนไลน์ อันนี้เราว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเหมือนกัน ที่ทำให้เรารู้สึกสนใจคณะนี้มากขึิ้น คือเอาจริง ๆ เรียนออนไลน์มันว่างมากกกกกกก เลยมีเวลาหาข้อมูลคณะที่เราสนใจ จนเราได้มารู้ว่าจริง ๆ แล้วถาปัตย์คือ หลากหลายมากกก มีหลายสาขาแยกกันไป ไม่ว่าจะเป็น ออกแบบอุตสาหกรรม ออกแบบภายใน แลนด์สเคป ผังเมือง   เราเลยรู้สึกว่าที่ไม่ใช่สำหรับเราอาจจะไม่ใช่คณะแต่เเป็นสาขาหลักที่เราไม่ชอบ   เราเลยหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกสาขารอง จนได้มาเจออันที่เราสนใจจะเรียนจริง ๆ   แต่กว่าจะเริ่มตัดสินใจเรียนก็เป็นช่วงขึ้น   ม.6   ละ 555565   

         สตูที่เราเลือกเรียนก็เป็นสตู  @adjust_studiobkk   ที่เราเลือกสตูนี้คือมาจากคนรู้จักล้วน ๆ แต่พอมาเรียนจริง ๆ คือ ยอมรับเลยว่าทำให้เรามองถาปัตย์เปลี่ยนไปเลย 555655 จากภาควิชาที่ดูน่าจะเบื่อกลับเป็นสนุก คือ ตอนทำพอร์ตเราได้ลองอะไรหลาย ๆ อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานชิ้นจริง ออกแบบอินทีเรียต่าง ๆ สีน้ำ คือรวม ๆ   สนุกกว่าที่คิด แล้วที่สำคัญคือได้อยู่กับเพื่อนนานมาก ช่วงทำพอร์ตอยู่นานกว่าอยู่กับพ่อแม่ 5555555 คือมันได้ค้างที่สตูเหมือนได้เข้าค่ายอะไรซักอย่างที่แบบถ้าแกไม่ได้ทำพอร์ตแกจะไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ แต่มันดีนะ คือเรารู้สึกว่าเราโชคดีที่เจอเพื่อนดี สตูดี (@adjust_studiobkk) ตอนทำพอร์ตถึงแม้ว่าจะหนักมากแบบนอนน้อยส่งงานล้มงานวนไป แต่เพื่อนก็โดนเหมือนกัน 5555655 อะไม่ใช่ คือมีเพื่อนแบบคอยให้กำลังใจกันช่วยแนะนำกัน ใครมีความรู้ด้านไหนก็ให้คำแนะนำเพื่อนด้านนั้น คือที่เราติดพอร์ตได้ส่วนหนึ่งก็มาจากเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่โครตดีที่แบบ ไม่ได้หาเจอกันง่าย ๆ ตามท้องถนนเหมือนอยู่กันแบบครอบครัว เพราะผ่านร้อนผ่านหนาว เศร้ามาด้วยกัน 

         โดยรวมรู้สึกประทับใจในสตูนี้หลาย ๆ อย่่าง ทั้งการสอน คำแนะนำของพี่ติวที่แบบเค้าใส่ใจงานเราจริง ๆ แล้วก็สังคมเพื่อน ถ้าให้แนะนำก็แนะนำสตูนี้แหละ มาเรียนกันเถอะะะ เค้าเด็ดจริง ( ถ้าอยากถามไรเพิ่มเติมทักไอจีจร้า)




3) สิ่งที่เราใส่ใน portfolio 

- ปก มีรูปตัวเองชื่อคณะ สาขา
-  ประวัติส่วนตัว กิจกรรมต่าง ๆ  งานประกวด
-  ผลงานสีน้ำ ดีไลน์ สเกตดีไซน์ งานมือต่าง ๆ 
- เรียงความ
- งานชิ้นจริง งานคอม งานที่อยากโชว์ไอเดีย  8 หน้า

รวม 12 หน้า 



4) รีวิว สัมภาษณ์ + การเตรียมตัว

      4.1) การเตรียมตัว+คำแนะนำ

- สอบถามรุ่นพี่ที่ติดพอร์ต หรือเคยสัมภาษณ์ว่าโดนคำถามไรบ้าง ลองถามว่าพี่เค้ามีแนวการตอบแบบไหน  รวบรวมคำถามแล้วนำมาตั้งคำถามกับตัวเอง
-   พยายามตอบคำถามให้ได้ครอบคลุมกับงานตัวเองที่สุด ควรเตรียมคำตอบของงานทุกงานไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าอาจารย ์จะถามงานไหนของเรา อย่าตอบน้ำเยอะ แต่ควรจะตอบแล้วขายงานตัวเองไปด้วย จะเซฟ ๆ กว่า
- ให้ซ้อมพูดกับเพื่อน พี่ หรือหน้ากระจกอะไรก็แล้วแต่สะดวกให้เพื่อนช่วยถาม จะได้รู้ว่าเราช็อตไมค์ไหม ซ้อมบ่อย ๆ ไม่ต้องกลัว
- ระวังการ mention ถึงอะไรซักอย่าง ต้องเตรียมคำตอบไว้ด้วยนะ สมมติว่าเรา mention ถึงเราเรียนสายศิลป์จีน ก็ต้องเตรียมพวก สถาปัตยกรรมจีน ความแตกต่างกับไทย ยิ่งรีเสริชแน่นยิ่งดี
สรุปคือพูดอะไรไปบ้างให้อัดคลิปเสียงตัวเองไว้แล้วตั้งคำถาม เช่น เราบอกว่า เราเป็นคนอีสาน เราก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่าอะไรเกี่ยวกับอีสานบ้าง สถาปัตยกรรม ผู้คน บ้านเรือน อะไรแบบนี้ เพราะอาจารย์เค้าถามจากสิ่งที่เราพูด
- คำถามเบสิก ๆ เตรียมไปอย่าให้พลาด เช่น ทำไมถึงอยากเรียนที่นี่ ทำไมถึงอยากเรียนสาขานี้ งานไหนที่ชอบที่สุด งานไหนที่ไม่ชอบ ข้อดีข้อเสีย สถาปนิกที่ชอบ บอกผลงานที่ชอบของเค้าด้วย  สถาปัตยกรรมที่ชอบ ถ้าเป็นอินทีเรีย เตรียมไปด้วยว่า อินทีเรียกับมัณฑนศิลป์ ต่างกันอย่างไร หาความรู้พวก material ต่าง ๆ ในงานด้วย แล้วก็อ่านพวกจริยธรรมสถาปนิกก็ดี พวกเซ็นแบบ กฎการทุจริตต่าง ๆ 

   4.2) รีวิวสัมภาษณ์ ของอินทีเรีย

อย่าลืมเตรียมเอกสารพวก  สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน ใบปพ.ฉบับจริง สำเนา cu-tep พอร์ตเล่มจริง ผลงานจริงถ้าเอาไปได้ ไปนะจร้า***
        พอมีสิทธิ์สัมภาษณ์แล้วจะขึ้นว่าตัวเองต้องไปสัมภาษณ์กี่โมง ตึกไหน   ให้แคปไว้แล้วไปตามเวลาเลยค่า ส่วนตัวเราสัมภาษณ์ช่วงเช้าแต่ค่อนข้างเลทไปช่วงบ่าย เลยมีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น + ไม่ค่อยตื่นเต้นแล้ว บรรยากาศวันสัมค่อนข้างดี คือต้องออกตัวก่อนว่าสตูเราอินทีเรียติดสัมทุกคนเลยมากันเป็นฝูงใหญ่ 555655555  ไม่คอ่นตื่นเต้นมาก พอขึ้นไปอาจารย์จะขอยึดโทรศัพท์กับตรวจเอกสาร พอตรวจแล้วอาจารย์จะให้นั่งรอชั้นบน แนะนำว่าถ้ายังไม่ใกล้คิวอยู่ข้างล่างดีกว่า พอถึงคิวเราอาจารย์ก็เรียกไป พอเข้าไปจะเป็นห้องไม่ใหญ่มาก มีอาจารย์ 3 คน แล้ว gap ระหว่างอาจารย์กับเราตอนสัมภาษณ์มีไม่เยอะ คือเป็นโต๊ะยาว แล้วเราหันหน้าเข้าหาอาจารย์ ฟีลแบบด้านกว้างของโต๊ะชนด้านกว้างของโต๊ะ ไม่รู้เข้าใจไหมแต่ห่างไม่เยอะ พอไปถึงเค้าก็จะเปิดสไลด์บนจอทีวีของเราอยู่แล้วเราก็ยื่นพอร์ตให้อาจารย์ดูได้เลย อาจารย์ตอนถามค่อนข้างชิวแบบไม่ค่อยให้เรารู้สึกกดดัน เราได้คำถามประมาณว่า แนะนำตัว ทำไมถึงอยากเรียนที่นี่ ชอบงานไหนที่สุด เรียนสายภาษาสู้ฟิสิกส์วิทคณิตได้ไหม ความสูงของห้องสัม ถามพวก human scale   สถาปนิกที่ชอบ ผลงานอินทีเรียที่ชอบ อินทีเรีย vs มัฑณศิลป์ จบไปนำความรู้อินทีเรียไปช่วยสังคมอย่างไร ประมาณนี้เท่าที่เราจำได้ โดยรวมเราใช้เวลาไปประมาณ 20 นาทีกว่า ๆ ส่วนใหญ่จะถามพวกที่เราเมนชั่นถึง จริยะธรรม เหมือนเราโดนถามที่เกียวกับงานในพอร์ตจริง ๆ ประมาณ 3-4 คำถาม ที่เหลือจะเป็นคำถามทัั่วไป จริยธรรม แล้วก็วิเคราะห์ material ประมาณนี้ โดยรวมคือคำถามค่อนข้างยากอยุ่จร้า แต่ถ้าเตรียมตัวมาดี ๆ ยังไงก็ไม่ตาย รอด!!! ตั้งใจทำได้สู้เค้า



สุดท้ายอยากบอกทุกคนที่มาอ่านกระทู้นี้ว่า ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรถือว่าตัวเองทำเต็มที่ที่สุดแล้ว ถ้าเรามองย้อนกลับไปการที่เด็กคนนึงที่ไม่ได้มีความรู้ มีแต่ความชอบและใจรักมาถึงจุดนี้ได้ ต้องผ่านอะไรมามากมาย ความเครียด ความกดดัน อุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิต  แกเก่งขึ้นมาก ๆ จากเด็กที่ไม่รู้อะไรในวันนั้น จนมาถึงจุดที่แกสามารถสร้างสรรค์งานเป็นของตัวเองได้ ภูมิใจในตัวเองเข้าไว้ กอดและรักตัวเองเยอะ ๆ  แกเก่งกว่าที่ตัวเองคิดเสมอ เพราะทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผลเสมอ เหมือนที่แกได้อ่านกระทู้เรา 




ป.ล. ฝากสตู @adjust_studiobkk ด้วยจร้า สอนดีพี่ติวเริ่ดเพื่อนดี ผู้บ่าวหล่อ แม่หญิงสวย













ไว้เจอกันจร้า
.... see you at CU


ติดต่อได้ที่ ig t_sky_a 



 





แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

MikkyMikjai 17 ม.ค. 66 เวลา 20:34 น. 1-1

หลายห้องเลยคร่า ห้องไหนคนหล่อเยอะก็ไปห้องนั้นค่ะ

0
MikkyMikjai 17 ม.ค. 66 เวลา 20:36 น. 3-1

เพื่อนผชหล่อหลายคนค่า ฟีลเด้กสวนเด้กใจ แต่หล่อสุดน่าจะเป็นเจ้าของสตูค่า

0