7 วิชาสามัญปี66 ปีนี้ ยากหรือง่ายกว่าปี 65 ปีที่แล้ว
ตั้งกระทู้ใหม่
มีหลายคนอาจจะบอกว่า รอถึงวันที่ 17 เมษายน 2566 ก็ประกาศผลสอบทุกวิชาแล้ว รู้แน่นอน ไม่ต้องคาดการณ์อะไรให้เปลืองสมอง ตอนนี้เที่ยวพักผ่อนให้สนุก คลายเครียด ดีกว่า
ส่วนตัวอยากรู้มาก อยากถามเหมือนทุกปี ว่า ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ A-Level ปี 66 ปีนี้ ยากหรือง่ายกว่าปี 65 ปีที่แล้ว
แยกเป็นรายวิชา ยาก หรือง่ายกว่าปีที่แล้ว หรือเท่าเดิม
1.คณิต 1
2.อังกฤษ
3.ฟิสิกส์
4.เคมี
5.ชีวะ
6.ไทย
7.สังคม
และโดยรวม 7 วิชาสามัญปีนี้ ยาก หรือง่ายกว่าปีที่แล้ว
เพื่อประโยชน์ ในการคาดการณ์ คะแนนรวมต่ำสุด กสพท.66 จะลดลง หรือเพิ่มขึ้น
ที่มา https://www.dek-d.com/board/tcas/4053972/
9 ความคิดเห็น
คนที่ทำข้อสอบได้ ไม่ดีมาก ก้ำกึ่ง ลูกผี ลูกคน กว่าจะรอถึง 17 เม.ย.66
อาจจะทำให้ คิดกังวลมาก ไปหลายวัน น่าจะเครียดมากกว่า ที่ต้องรอจนถึงวันนั้น
การเข้ามาบอกความรู้สึกว่า ข้อสอบปีนี้ยากหรือง่ายกว่าปีที่แล้ว เป็นการผ่อนคลายมากกว่า
และจะได้รู้ว่าคนอื่นๆ มีความคิดเห็นอย่างไร มีความรู้สึกอย่างไร ความเห็นอาจจะไม่ถูกต้อง ก็ได้
แต่ความรู้สึก ความเห็นของคนส่วนใหญ่ พอเชื่อถือได้ ทุกปีก็เป็นแบบนั้น
ระหว่างเที่ยวก็เข้ามาบอกได้ ไม่เสียหายอะไร
สรุปปีที่แล้ว ปี 65 7 วิชาสามัญ
มีสังคมง่ายกว่าเดิมวิชาเดียว อีก 6 วิชา ยากหมด
-ไทย อังกฤษ เคมี ชีวะ ยากมากกว่าเดิม มาก
-คณิต1 ฟิสิกส์ ยากกว่าเดิม เล็กน้อย
กสพท.65 ปีที่แล้ว แพทย์ ม.รัฐ คะแนนต่ำสุด น้อยที่สุด(บ๊วยสุด) คือ แพทย์พระมงกุฎ(ชาย) 55.77 เป็นคะแนนต่ำสุด น้อยที่สุด(บ๊วยสุด) 3 ปี ติดต่อกัน
ส่วนทันตะ ม.รัฐ คะแนนต่ำสุด น้อยที่สุด(บ๊วยสุด) คือ ทันตะ มทส. 54.44
เป็นคะแนนต่ำสุด น้อยที่สุด(บ๊วยสุด) 3 ปี ติดต่อกัน
กสพท.66 ปีนี้ ถ้าใครได้คะแนนรวม วิชาเฉพาะ และ 7 วิชาสามัญ ต่ำกว่า 54 - 55 ลงมา คะแนนยังก้ำกึ่ง ลูกผีลูกคน คงต้องลุ้นมากหน่อย เพื่อให้ติดแพทย์/ ทันตะ ม.รัฐ ได้
เด็กส่วนมากที่ได้คะแนนรวมน้อย แต่มากกว่า 55 ขึ้นไปเล็กน้อย น่าจะให้ความสนใจ รุมเลือก แพทย์พระมงกุฎ(ชาย) และทันตะ มทส.ไว้ เพื่อกันพลาด ที่จะหลุด แพทย์/ทันตะ ม.รัฐ กสพท.66
ข้อควรระวัง ถ้ามีคนรุมเลือกกันมากๆ คะแนนต่ำสุด น้อยที่สุดปีที่แล้ว ปีนี้อาจจะไม่บ๊วยก็ได้
หมายเหตุ คะแนนต่ำสุดของทุกสถาบันใน กสพท.66 จะ ขึ้น หรือลดลง จากปี 65 หรือไม่
ให้ติดตามดู ประกาศผล 7 วิชาสามัญ ในวันที่ 17 เม.ย.66 เป็นสำคัญ
ข้อสอบ A-LEVEL ปี #66 เมื่อเทียบกับ ข้อสอบ วิชาสามัญ ปี #65 มีความคิดเห็น ดังนี้
1. คณิต1 (=) ใกล้เคียงเดิม อาจง่ายกว่าเดิมเล็กน้อย
เนื่องจากปีนี้ ข้อไหนดูยาก น่าจะติด หรือทำไม่ได้จะข้ามทันที
เลยรู้สึกเหมือนจะทำได้มากขึ้นเล็กน้อย
2. ฟิสิกส์ (=) ใกล้เคียงเดิม อาจยากกว่าเดิมเล็กน้อย
เนื่องจากปีนี้จัดการไม่ดี ไม่ได้ข้ามข้อที่ยาก ทำให้เสียเวลาไปพอสมควร
เลยรู้สึกเหมือนจะทำได้น้อยลง
3. เคมี (^) ยากกว่าเดิม
เนื่องจากส่วนตัวไม่ถนัดวิชาดังกล่าว เป็นอย่างมาก
แต่รู้สึกเหมือนจะยากกว่าเดิมอยู่พอสมควร
4. ชีวะ (=) ใกล้เคียงเดิม
แต่เนื่องจากข้อสอบมีการลดจำนวนข้อลง ในปีนี้ ทำให้น้ำหนักคะแนนต่อข้อเยอะขึ้น
จึงคาดว่า น่าจะทำให้คะแนนเฉลี่ยโดยรวมลดลงเล็กน้อย
5. อังกฤษ (=) ใกล้เคียงเดิม
แต่เนื่องจากข้อสอบมีการลดจำนวนตัวเลือก จาก 5 ไปเป็น 4 ตัวเลือก ในปีนี้
จึงคาดว่า น่าจะทำให้คะแนนเฉลี่ยโดยรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
6. ไทย (=) ใกล้เคียงเดิม
เป็นวิชาที่ทำไป ก็คิดไป ว่าเราคนไทยจริงไหมนะ ทำไมตีความ ตัดตัวเลือกได้ไม่ขาด ฮ่า ๆ
แต่ทั้งนี้ ก็คล้าย ๆ ปีก่อน อารมณ์เดิม เลยรู้สึกว่าน่าจะประมาณเดิม
7. สังคม (^) ยากกว่าเดิม
เป็นข้อสอบที่มีแค่รู้ กับไม่รู้ ข้อที่ไม่รู้ก็จิ้มเลย โอกาส 1/5 ทั้งนี้ก็คล้าย ๆ ปีก่อน อีกเช่นกัน
แต่ข้อที่ไม่รู้เยอะขึ้น เลยรู้สึกว่ายากกว่าเดิม
สรุป
1. วิชาที่รู้สึกว่ายากขึ้น (^) : เคมี / สังคม
2. วิชาที่รู้สึกว่าประมาณเดิม (=) : คณิต1 / ฟิสิกส์ / ชีวะ / อังกฤษ / ไทย
3. วิชาที่รู้สึกว่าง่ายลง (v) : ไม่มี
***หมายเหตุ ทั้งนี้ ส่วนตัว ปีนี้ (#66) มีความพร้อมน้อยกว่า ปีที่แล้ว (#65)
ฅนเฒ่า
สังคมยากจริงครับ
สอบถามเด็กเตรียมพัฒน์ คนหนึ่ง มีความรู้สึกว่า ปีนี้ 7 วิชาสามัญ แยกรายวิชา
1.คณิต 1 ยากกว่าเดิม
2.อังกฤษ ง่ายกว่าเดิม
3.ฟิสิกส์ ยากกว่าเดิม
4.เคมี เท่าเดิม
5.ชีวะ ยากกว่าเดิม
6.ไทย ง่ายกว่าเดิม
7.สังคม ยากกว่าเดิม
โดยรวม 7 วิชาสามัญ ปีนี้ยากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย
ไม่รู้ จริงหรือไม่ ต้องรอฟังความรู้สึกคนอื่นๆ ด้วย
เสียงส่วนใหญ่มีความเห็นอย่างไร ก็น่าจะเป็นไปตามนั้น
เคมี,สังคม ยากกว่าเดิม
คณิต,ฟิสิกส์,ชีวะ เท่าเดิม
ไทย,อังกฤษ ง่ายกว่าเดิม
ตอนนี้ ผู้ปกครองและเด็กผู้เข้าสอบแพทย์/ทันตะทุกคน กำลังเฝ้ารอลุ้นคะแนนกันอย่างเคร่งเครียด คิดว่า จะได้คะแนนเป็นไปตามเป้าหมาย หรือไม่ ขอบอกความจริงเลยว่า
ถึงแม้จะมีคะแนน 7 วิชาสามัญประกาศออกมาแล้ว โดยปกติทั่วไป ผู้ปกครองและเด็กที่อยากเข้าแพทย์/ทันตะ ก็ยังต้องคิดมากอีกอยู่ดี ต้องลุ้นคะแนนรวมอีกว่า คะแนนปีนี้จะเฟ้อ หรือฝืด หรือไม่
เพื่อประโยชน์ในการเลือกแพทย์/ทันตะ 10 อันดับ ให้ได้สถาบันตามที่ต้องการ เด็กที่ได้คะแนนก้ำกึ่ง ลูกผี ลูกคน เลือกผิด อาจจะหลุด ไม่ติดแพทย์/ทันตะ กสพท.สถาบันใดๆ เลย
หลักการเลือกแพทย์/ทันตะ 10 อันดับ เพื่อประกอบการพิจารณา ควรดูข้อมูล ดังนี้
1.สถิติคะแนนต่ำสุดของแพทย์/ทันตะปี 65 ปีที่แล้ว เพื่อเปรียบเทียบ
2.คะแนนต่ำสุดของแพทย์/ทันตะปี 66 ที่คาดการณ์ไว้ เพื่อเลือกให้เหมาะสม ใกล้เคียงกับคะแนนที่ได้
3.สถาบันที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เพื่อการทำงานในอนาคต
4.สถาบันที่เด็กอยากเข้าเรียนมากที่สุด เพื่อขยันเรียน รับผิดชอบมากยิ่งขึ้น
5.สถาบันที่มีคะแนนต่ำสุด ใกล้เคียงกับคะแนนรวมที่ได้ในปีนี้ (สำหรับเด็กเรียนสถาบันใด ก็ได้)
เพื่อให้เหมาะสมกับคะแนนที่ได้
6.สถาบันที่อยู่ใกล้บ้านมากที่สุด เพื่อป้องกันอาการซึมเศร้า ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ และตัวเด็กผู้ปกครองสะดวกในการเดินทางไป-กลับบ้านและสถาบัน
7.ค่าเรียนแพทย์/ทันตะ แต่ละสถาบัน เพื่อประหยัดเงินค่าเรียน
8.พยายามเลือกให้ติดแพทย์/ทันตะ ประมาณอันดับ 5-7 (จาก 10 อันดับ) เพื่ออาจจะได้ใช้สิทธิ์ในการเลือกรอบ 3/2 รอบ 3/3
9.สถาบันที่ตั้งอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยว มีสายการบินหลายสาย เพื่อเด็กและผู้ปกครอง สะดวกในการเดินทางไป-กลับ
10.สภาพแวดล้อมสถาบัน เจริญมาก เจริญน้อย ธรรมชาติ เช่น ทะเล ภูเขา ป่าไม้
11.เลือกตามเพื่อน (เพื่อนเรียนจากโรงเรียนเดียวกัน)
12.อื่นๆ (เพิ่มเติมได้)
ค่าเรียนแพทย์แต่ละสถาบันปี 63 ได้ปรับปรุงแก้ไขใหม่ ให้เป็นปัจจุบันแล้ว
1. จุฬาฯ 34,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 408,000 บาท
2. ธรรมศาสตร์ 21,100 บาท/ทอม ตลอดหลักสูตร 253,200 บาท
3. รามาฯ 30,000 บาท/ภาค ตลอดหลักสูตร 360,000 บาท
รามา-จุฬาภรณ์ 30,000 บาท/ภาค (แก้ไขแล้วปี63)
4. ศิริราช 30,000 บาท/ภาค (คนเข้าเรียนก่อนปี 63 ค่าเรียนเท่าเดิม)
แพทย์ร่วมผลิตกระทรวงสาธารณสุข (PI) 30,000 บาท/ภาค(แก้ไขแล้วปี63)
ทันตะ 50,000 บาท/ภาค เภสัช 30,000 บาท/ภาค สัตวแพทย์ 25,000 บาท/ภาค
ถ้ามีสอบตก ต้องลงภาคฤดูร้อนคิด 50% ของเทอมปกติ
ถ้าเรียนจบช้าแล้วต้องละทะเบียนเพิ่มในเทอมปกติ ไม่เกิน 9 หน่วยกิต คิด 50% ของทั้งเทอม
ที่มา http://www.student.mahidol.ac.th/portal/document/announce/2562/announce-03102019.pdf
5. พระมงกุฎฯ 24,000 บาท/ปี ตลอดหลักสูตร 144,000 บาท
ปี 1 ต้องเรียนหลักสูตรเตรียมแพทย์ที่ คณะวิทย์ มก. ค่าเทอม เทอมละ 16,300 บาท
ปี 2-6 เรียนที่ วพม.ค่าเทอม ปีละ 24,000 บาท
จบปี 6
1. ประเภททุนกองทัพบก (นพท. ชาย 20 คน) - ได้ยศร้อยตรี สังกัดทหารบก
2. ประเภท นศพ.(ส่วนที่เหลือ 80 คน) - ไม่ได้ยศ แต่จะไปสมัครเข้าสังกัดทหารเองได้ ต้องแข่งกับแพทย์ที่อื่น (แต่ วพม.จะมีสิทธิพิเศษกว่า) เลือกสังกัดทหารเข้าได้ (เรือตรี เรืออากาศตรี)
ทุน ทบ.เสียค่าบำรุงการศึกษา 1,000 บาท มีเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยง 3,000-6,000บาท
/เดือน อาหารฟรี ที่พักฟรี ซักผ้าฟรี
แต่ต้องใช้ทุน 10 ปี(แก้ไขแล้ว) ได้ยศร้อยตรีเหมือน จปร. ยศตันที่พันเอกพิเศษ เต็มที่พลโท)
6. ศรีนครินทรวิโรฒ 28,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 336,000 บาท
7. มศว ร่วมมือกับนอตติงแฮม 300,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 3,600,000 บาท
ปี 1-3 ชั้นปรีคลีนิค เรียนที่น็อตติงแฮม สหราชอาณาจักร โดย ปี 1-2 ค่าเทอมประมาณปีการศึกษาละ 23,790 ปอนด์ และปีที่ 3 ค่าเทอมประมาณ 9,500 ปอนด์(เรียนไม่เต็มปี) และค่าใช้จ่ายส่วนตัวและที่พักที่มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประมาณ 10,000 ปอนด์/ปี (อัตรานี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
่ส่วนชั้นปีที่ 4-6 ชั้นคลีนิค 300,000/ปี
8. พระจอมเกล้าลาดกระบัง (นานาชาติ) 495,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 5,940,000 บาท
9. รังสิต 325,000 บาท/เทอม(650,000 บาท/ปี) ตลอดหลักสูตร 3,900,000 บาท
(แก้ไขแล้ว)
10. วชิระฯ 35,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 420,000 บาท(แก้ไขแล้ว)
11. ขอนแก่น 18,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 216,000 บาท
12. บูรพา ประมาณ 100,200 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 1,202,400 บาท(แก้ไขแล้ว)
13. อุบลราชธานี 42,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 504,000 บาท
14.สุรนารี ประมาณ 28,000 บาท/เทอม(ปีละ 3 เทอม)ตลอดหลักสูตร 504,700 บาท
ส่วนมากแพทย์สถาบันอื่นๆ ปีละ 2 เทอม(แก้ไขแล้ว)
15. เชียงใหม่ 20,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 240,000 บาท
16. แม่ฟ้าหลวง 50,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 600,000 บาท
17. พะเยา 50,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 600,000 บาท
18. นเรศวร (ปี 1 – 3) 20,000 บาท/เทอม (ปี 4 – 6) 40,000 บาท/ปี ตลอดหลักสูตร 240,000 บาท
19. สงขลานครินทร์ 28,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 336,000 บาท
20. วลัยลักษณ์ 33,900 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 406,800 บาท
21. มหาสารคาม 40,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 480,000 บาท
22. นราธิวาสราชนครินทร์ 23,000 บาท/เทอม ตลอดหลักสูตร 276,000 บาท
23. สยาม (เหมาจ่าย) 359,000 บาท/เทอม ปีละ 718,000 บาท ตลอดหลักสูตร 4,300,000 บาท
24. กรุงเทพธนบุรี (เหมาจ่าย) 450,000 บาท/เทอม ปีละ 900,000 บาท ตลอดหลักสูตร 5,400,000 บาท
25. เวสเทิร์น (เหมาจ่าย) 604,000 บาท/เทอม ปีละ 1,208,000 บาท ตลอดหลักสูตร 7,248,000 บาท
หมายเหตุ บางสถาบัน คิดค่าเทอมตามหน่วยกิตที่ลง ลงหน่วยกิตน้อยจ่ายน้อย ลงหน่วยกิตมากจ่ายมาก แต่สถาบันส่วนมาก จะจ่ายค่าเรียนแบบเหมาจ่าย จึงคิดค่าเทอมชัดเจนได้ หากเก็บเป็นปี ให้หาร 2 ถ้าตลอดหลักสูตร 12 เทอม ให้หาร 12 ก็จะเป็นค่าเรียนต่อเทอม
หากมีข้อมูลที่ผิดพลาด หรือไม่สมบูรณ์ ขอเชิญผู้รู้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเติม ได้ตามสบายเลย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเด็กที่ต้องการเรียนแพทย์ ใช้ประกอบการพิจารณาได้
ที่มา https://www.dek-d.com/board/tcas/4056200/
ส่วนตัวลงสอบซ้ำกัน 2 ปีแค่วิชาเดียวคือวิชา pat 1 ปีที่แล้วกับวิชาคณิตศาสตร์ 1 ปีนี้
คิดว่าคณิตศาสตร์ 1 ของปีนี้ง่ายกว่า pat 1 ของปีที่แล้ว
7 วิชาสามัญ สรุปเสียงส่วนใหญ่ เห็นว่า
1.คณิต 1 ง่ายกว่าเดิม
2.อังกฤษ ง่ายกว่าเดิม
3.ฟิสิกส์ ยากกว่าเดิม
4.เคมี ยากกว่าเดิม
5.ชีวะ ยากกว่าเดิม
6.ไทย ง่ายเดิม
7.สังคม ยากกว่าเดิม
สรุปคะแนนรวม 7 วิชาสามัญปีนี้ น่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
ประกาศคะแนนออกมาแล้ว คะแนนจริง 7 วิชาสามัญ เมื่อเทียบค่าเฉลี่ยปี 66 กับปี 65 ผลปรากฏว่า
1.คณิต 1 ยากกว่าเดิม
2.อังกฤษ ง่ายกว่าเดิม
3.ฟิสิกส์ ยากกว่าเดิม
4.เคมี ยากกว่าเดิม
5.ชีวะ ง่ายกว่าเดิม
6.ไทย ง่ายกว่าเดิม
7.สังคม ง่ายกว่าเดิม
สรุปคะแนนจริงรวม 7 วิชาสามัญปี 66 ยากกว่าปี 65
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?