Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์เตรียมสอบเข้าหมอ สิ่งที่อยากบอก กำลังใจ!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีครับ แนะนำตัวก่อน ตอนนี้พี่เรียนอยู่ที่คณะแพทย์ มศว เป็น dek65 นะครับ อยากเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะมีน้องหลายคนถามเข้ามาว่าเหลือเวลาเท่านี้เตรียมทันไหม เกรดไม่ดีจะติดไหม และอีกหลายอย่างเลยอยากเอาประสบการณ์การเตรียมตัวของพี่เองมาแชร์กันครับ


ปล.พี่เป็น dek65 ดังนั้นถ้าน้องปีหลังๆมาอ่านอาจจะต้องดูกำหนดการแต่ละปีดูนะครับ แต่รับรองว่าอ่านแล้วได้ประโยชน์แน่นอน


ขอเล่าพื้นฐานของพี่เองตอนมัธยมก่อน พี่เรียนมัธยมที่โรงเรียนวัดธรรมดาๆเลย เกรดก็ไม่ได้ดีมาก สอบตกบ้าง ที่พีคๆก็ตอน ม.4 ตกวิทย์ทุกตัว ได้เกรดฟิสิกส์ 2 แต่ตอนสอบเข้าพี่ได้ฟิสิกส์ 70 คะแนน (สำหรับพี่ถือว่าสูงมากๆ) ดังนั้นน้องๆที่มาอ่านแล้วรู้สึกว่าตอนเรียนเราทำไม่ได้ เราไม่เข้าใจ พี่เชื่อว่าคนเราสามารถพัฒนาได้แน่นอน ต่อไปพี่จะแชร์การเตรียมตัวของพี่แต่ละวิชา+คะแนนที่พี่สอบได้


เลข 59/100

ต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวพี่พื้นฐานเลขไม่ได้แย่มากแต่ก็ไม่ดี พี่เริ่มเตรียมเลขตอนปิดเทอมขึ้น ม.6 เรียนคอร์ส ENT สรุปเนื้อหา และก็ตะลุยโจทย์ ทำข้อสอบเก่า สิ่งที่พี่อยากบอกคือ น้องต้องแม่นพื้นฐานมากๆก่อนอันดับแรก เพราะมันใช้เป็นพื้นฐานสำหรับทุกบทเลย จำสูตรให้แม่น และต้องเข้าใจทุกสูตรที่จะเอาไปใช้ ถ้าน้องเข้าใจการใช้สูตร เวลาลืมแล้วกลับมาทวนมันจะดึงขึ้นมาได้เร็ว สุดท้ายทำข้อสอบเยอะๆ ทำไม่ได้ข้อไหนต้องเคลียร์ให้กระจ่าง เทคนิคที่พี่ใช้คือเวลาพี่ทำข้อสอบเก่าผิดพี่จะจดใส่สมุดไว้ว่าผิดตรงไหน ทำไมผิด วิธีที่ถูกคืออะไร จดไว้เล่มนึงเลยทุกข้อแล้วอ่านทวนเยอะๆ ถ้าใครที่ทำข้อสอบเก่าครั้งแรกๆแล้วได้คะแนนน้อยน้องไม่ต้องเศร้านะ มันยากแหละ แต่เราจะเก่งขึ้นทุกครั้งที่ทำ


ENG 58.75/100

ก่อนเริ่มเตรียมตัวพี่แย่มากๆกับวิชานี้เรียกว่าวิกฤตสุดๆ แล้วน้ำหนักมันเยอะด้วย พี่เลยให้เวลากับมันค่อนข้างมาก พี่เรียนพื้นฐานใหม่หมดเลยไปจนถึงคอร์ส 9 วิชาสามัญ(ชื่อก่อนจะเป็น A-level) พี่เรียนกับพี่เกม GAT ENG COOL COOL นะ แนะนำสำหรับน้องที่ยังไม่มีพื้นฐาน พี่กล้าพูดเลยว่าพี่เกมเปลี่ยนชีวิตภาษาอังกฤษพี่เลย  สำหรับพี่พื้นฐานสำคัญมากเราต้องแม่นชนิดคำ โครงสร้างประโยค tense ที่เหลือมันคือการต่อยอดเทคนิคเพิ่มเข้าไป และที่สำคัญแบบสุดๆคือคำศัพท์ สิ่งที่พี่ทำคือ ท่องศัพท์ก่อนนอนทุกวัน จดคำเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆทุกวันและท่องวนไปจนกว่าจะจำได้ การที่เรารู้ศัพท์เยอะเวลาเราสอบอ่ะต่อให้เราไม่รู้ว่าจะตอบอะไร แต่เราแปลออกมันอุ่นใจกว่าแปลไม่ออกมาก และศัพท์ก็สำคัญในการสอบมากๆด้วย ที่เหลือก็จะเป็นเทคนิคการทำข้อสอบซึ่งก็แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนเลย


ฟิสิกส์ 70/100

จากยาขมสู่ของหวาน พี่เกลียดฟิสิกส์มากตอนอยู่ ม.4 เรียนจนได้เกรด 2 อ่ะ55555 แต่พอลองมาเอาจริงกับมันมากๆ ก็พบว่าเอ้าเป็นวิชาเก็บคะแนนได้นิ ถ้าเราเข้าใจมัน รู้สูตรบอกเลยว่าเก็บได้แน่นอน แล้วมันออกไม่ได้พลิกแพลงมาก พี่ก็เริ่มเรียนคอร์ส ENT ตอนปิดเทอมขึ้น ม.6 แล้วก็เรียนตะลุยโจทย์มาเรื่อยๆ สิ่งสำคัญของวิชานี้สำหรับพี่คือสูตร จำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะจำได้ และใช้มันให้ถูกกับโจทย์ ดังนั้นการแม่นสูตรและทำโจทย์บ่อยๆจึงสำคัญมาก พี่ทำไปเยอะมาก ทำข้อเดิมซ้ำหลายรอบด้วย จนสามารถเห็นโจทย์อื่นแล้วต้องคิดได้เลยว่าจะใช้สูตรไหน ทำอะไร เทคนิคที่พี่ใช้คล้ายๆกับเลขคือพี่จะจดข้อผิดพลาดของตัวเองเอาไว้แล้วกลับมาทวนบ่อยๆ อยากให้น้องเปิดใจ ใครที่คิดว่ายังพอไหวกับวิชานี้ ลองลุยดูจะพบว่ามันคุ้มค่ามาก


ชีวะ 68/100

เป็นวิชาที่พี่ happy ที่สุดในวิทย์ 3 ตัว พี่ก็เลยค่อนข้างแม่นในบางบทที่พี่ชอบตั้งแต่ตอนเรียนในห้อง พี่เริ่มเตรียมตัวจริงจังตอนปิดเทอม ม.6 เทอม 1 เรียนคอร์สสรุปเนื้อหาแบบเร่งรัดของครูฝ้าย easybio เนื่องจากพี่โอเคกับวิชานี้อยู่แล้วเลยเตรียมไม่ลำบากมาก สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าใจ ไม่ใช่จำอย่างเดียว พยายามเรียนจนสามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้แบบคอนเซปต์หลัก กระบวนการ พ้อยหลักของบท แล้วตัวข้อสอบพี่ว่ามันก็ออกได้ไม่ยากมาก บทเก็บคะแนนสำหรับพี่คือ พันธุศาสตร์ ตรงๆ ตายตัว เซลล์ ร่างกายมนุษย์ บทที่พี่ไม่ชอบและรู้สึกว่ายากก็คือพืช แต่ก็แล้วแต่คนอีกอ่ะนะ สุดท้ายก็พยายามอย่าเท เก็บให้ครบ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะออกบทไหนง่ายในแต่ละปี อย่างน้อยเราก็ต้องมีความรู้ในบทนั้นๆด้วย


เคมี 54/100

ช่วงแรกๆพี่ซัฟเฟอร์มากกับเคมี โดยเฉพาะบทปริมาณสาร คือทำไงมันก็ไม่รู้เรื่อง เรียนยังไงก็ไม่เข้าใจ เครียดมากๆ แล้วเคมีเป็นวิชาที่ทุกบทมันเชื่อมกันอ่ะ ถ้าไม่ได้อันนี้ไปอันต่อไปลำบากละ แต่สุดท้ายพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพี่ถึงเข้าใจขึ้นมาตอนเรียนตะลุยโจทย์ มันเหมือนพอทำโจทย์เยอะมากจนจุดนึงมันเก็ทเกือบทุกอย่างเลยจากที่ทำไม่ได้จนพี่คล่องมากๆ แล้วบทนี้มันเอาไปใช้กับหลายบทอีก ดังนั้นน้องๆห้ามทิ้งปริมาณสารเด็ดขาดกัดฟันสู้จนเข้าใจให้ได้ สิ่งที่ทำอีกอย่างก็เหมือนเลขกับฟิสิกส์จดสิ่งที่พลาด สิ่งที่ลืมแล้วเคมีเป็นวิชาที่โจทย์ยาก มันเล่นได้เยอะ มีข้อยกเว้นจุกจิก ดังนั้นถ้าจำอันไหนไม่ได้ ทำข้อสอบแล้วลืม จดไว้แล้วมาทวนย้ำๆนะ พี่เรียนกับอาจารย์อุ๊ ตั้งแต่คอร์ส ENT - ตะลุยโจทย์ อ่อสิ่งที่พี่อยากแชร์มากคือ ตอนทำข้อสอบในคอร์สตะลุยโจทย์ของอาจารย์อุ๊อ่ะ พี่ได้น้อยมากส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 20-30 คะแนนยันชุดสุดท้าย ดังนั้นน้องที่ได้น้อยเหมือนกันอย่าพึ่งท้อนะ มันอัพไดัจริงๆจากพี่เป็นตัวอย่างมาแล้ว พี่ย้อนกลับไปดูแล้วยังตกใจตัวเอง จากคนที่ได้แค่ 20 นิดๆตลอด วันจริงได้ 54 มันเยอะมากๆแล้วสำหรับพี่กับเคมี แล้วก็ที่สำคัญมากๆแล้วมันทำให้พี่ได้คะแนนดีขึ้นเยอะในช่วงท้ายคือ Mock ของอาจารย์อุ๊ อันนี้คือดีมาก อาจารย์เขาจะออกโจทย์ให้ยากกว่าข้อสอบจริง เล่นหลายจุด เป็นการเช็คให้เราแม่นจริงๆก่อนเข้าไปทำข้อสอบ อยากฝากน้องๆห้ามพลาด!!


ต่อข้างล่างนะ!!

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

fullyonly 2 ธ.ค. 66 เวลา 19:23 น. 1

ไทย 56/100 สังคม 54/100

พี่ขอรวบทีเดียวเลยละกัน 2 วิชานี้ ไทยพี่ทำโจทย์อย่างเดียวกับฟังเฉลยในยูทูป สังคมพี่ดูคลิปของครูป๊อปในยูทูปกับในแอปที่เขาสอนฟรี แล้วก็อ่านหนังสือของเขา เล่ม ลับสุดยอด แค่นี้เลย จะบอกว่าครูป๊อปสอนดีมากๆ เข้าไปฟังเพลินๆ แล้วก็ทำข้อสอบเก่าไทยเยอะๆจะพอเริ่มจับจุดได้เอง แต่พี่ก็ไม่ได้คะแนนเยอะเท่าไหร่ 2 วิชานี้ถ้าเทียบกับคนอื่นอ่ะนะ


ความถนัดแพทย์ 17.9

พี่เรียนของ meddent อยากให้น้องพยายามทำเชื่อมโยงกับเชาว์ให้ดี มันจะได้มาช่วยพาร์ทจริยธรรมได้ เตรียมตัวให้ดี รอบคอบเยอะๆ พี่พลาดเชื่อมโยง คะแนนรวมเลยค่อนข้างน้อย


วันสอบ pre-ad

พี่ว่าน้องๆที่เตรียมสอบส่วนใหญ่น่าจะรู้จัก dek-d pre ad ที่เป็นการสอบจำลองก่อนสอบจริง ตอนปีพี่ พี่ก็ไปสอบเหมือนกัน สอบช่วงเดือนธันวา รู้สึกตัดสินใจถูกมากที่ไปสอบ เพราะมันทำให้เรารู้ตัวเองจริงๆว่าเราพลาดเนื้อหาส่วนไหน พลาดวิชาไหน จุดอ่อนคืออะไร ถึงแม้มันจะไม่ใช่ข้อสอบจริง แต่มันก็วัดความรู้เราได้ คือตอนนั้นคะแนนพี่แย่มาก แล้วพี่ก็พอรู้ตัวตั้งแต่สอบเสร็จละ พี่ได้คะแนนรวม 48 คะแนน ซึ่งถ้าตอนยื่นจริงมันไม่ติดหมอแน่ๆ แล้วตอนนั้นเหลือเวลาไม่ถึง 4 เดือน แต่พี่ก็ยังไม่หมดหวัง กลายเป็นยิ่งตั้งใจมากกว่าเดิม จนในที่สุดวันประกาศผลสอบจริงๆพี่ก็ได้ 59.xx คะแนนแล้วก็ติดหมอมาได้ ดังนั้นน้องๆที่ไปสอบมา หรือทำข้อสอบเก่าแล้วได้คะแนนไม่ดี อย่าเพิ่งท้อนะ เพราะมันไม่ใช่วันจริง เรายังแก้ตัวทัน อ่านเพิ่มทัน ให้พร้อมที่สุดในวันสอบ


วันสอบ

สิ่งสำคัญคือห้ามลน ทำใจให้สบาย คิดว่าเรามาปล่อยของที่เราซุ่มอ่านมาทั้งปีก็เพื่อวันนี้ ตอนทำข้อสอบพี่จะทำให้เหมือนรู้สึกว่าเรานั่งจับเวลาทำข้อสอบที่บ้าน ทำตามที่ซ้อมไว้ แล้วมันจะไม่ลน ถ้าเจอข้อไหนทำไม่ได้ก็อย่าตกใจ ถ้ามันยากคนส่วนใหญ่ก็ทำไม่ได้แสดงว่านั่นไม่ใช่ข้อเก็บคะแนน มั่นใจในตัวเองเยอะๆตอนทำข้อสอบ ดูเวลาดีๆ


สุดท้ายนี้อยากบอกน้องๆทุกคนเลยทั้ง dek67,68,69 หรือใครที่อ่านกระทู้นี้มาจนถึงตอนนี้ อยากให้ทุกคนเชื่อว่าเราจะทำได้ อย่างพี่ที่ตอนแรกแทบไม่คิดเลยว่าจะติด แต่ก็ตั้งใจอ่านทุกวัน ทำทุกวันให้ดีที่สุด จนสุดท้ายผลลัพธ์มันก็ออกมาดีมากๆ อยากให้น้องทุกคนลงมือทำทุกวันอย่างเต็มที่ ให้เราไม่เสียดายทีหลัง ทำให้เต็มที่ที่สุด แล้วพี่เชื่อว่าวันประกาศผลจะเป็นข่าวดีสำหรับทุกคนแน่นอน พี่รู้ว่ามันเหนื่อยมากๆ ยากมากๆ การจะผ่านไปได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่วันที่เราผ่านมาได้ เราจะมีความสุขมากกก สู้ๆนะครับ คนที่เตรียมสอบอยู่ทุกคนเลย พี่เป็นกำลังใจให้นะ

ปล.1 ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะ

ปล.2 ใครอยากถามอะไรเพิ่มถามที่ด้านล่างได้เลยนะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

สื่อศิลป์ 6 ธ.ค. 66 เวลา 11:50 น. 3

อยากจะเสริมให้เด็กๆรู้อีกนิด หมอเรียน6ปี อินเทิร์นอีก1-3ปี(ตามจำนวนทุนที่ต้องใช้คืน) ชีวิตหมอเรียนหนักเรียนนาน น้องต้องเตรียมใจทำใจไว้ด้วย ที่สำคัญหมอจบใหม่สมัยนี้ทำงานรพ.รัฐ จะไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการทันทีเหมือนหมอรุ่นเก่าๆ ต้องรอให้หมอในหน่วยงานเกษียณก่อนถึงจะมีตำแหน่งว่างให้บรรจุต้องรับรู้ตรงนี้ไว้ด้วย


เรื่องที่เด็กๆควรรู้และคิดพิจารณาให้มากๆ ค่าตอบแทนของหมอใหม่ๆไม่คุ้มกับการทำงาน แต่ค่าตอบแทนหมอจะดีขึ้นหลังขึ้นเป็นหมอเรสซิเด้นท์3-4ปีขึ้นไป หมอรุ่นใหม่ๆพอขึ้นเป็นหมอเรสซิเด้นปีสองปีก็ลาออกกันซะเยอะเพราะเรื่องค่าตอบแทน ผมเลยอยากจะบอกให้รู้(หมอด้วยกันเขาไม่พูดหรอกเพราะขึ้นเป็นเรสซิเด้นแล้วหมอทุกคนคือคู่แข่งกันทั้งนั้น ใครอยากออกก็ให้ออกไปตัดคู่แข่งในสายงานไป)


ถ้าอดทนทำงานไปอีกนิดขึ้นเป็นหมอรุ่นพี่ในสายงานมันมีค่าตอบแทนในสายงานให้อีก -ิ่งอยู่นานจะได้เงินเยอะขึ้น แถมทำงานเท่าเดิมหรืออาจจะเบาลงด้วยซ้ำ ถ้าอัพเกรดตัวเองให้เป็นอาจารย์หมอเมื่อไหร่ก็สบายล่ะครับ


ก็ฝากเสริมไว้ให้คนที่คิดอยากจะเป็๋นหมอหรือกำลังจะเป็นหมอเอาไปพิจารณาเท่านี้ครับ


0