ตีแผ่วงการเชียร์หลีดเดอร์ ใครคิดจะเป็นต้องอ่าน
คือช่วงก่อนปิดเทอม รุ่นพี่สตาฟสีนัดประชุมสีกัน เราก็กะว่าจะมาเช็คชื่อเฉยๆ นั่งอยู่ดีๆมีรุ่นพี่มาขอให้เราเป็นหลีด ก็เขามาขอเราหลายรอบแล้วเราเลยตอบตกลง ที่ตกลงนี่คือปีที่แล้วเราอยากเป็นมาก ปีนี้โอกาสมา เราต้องคว้าเอาไว้ 555 ก็ตั้งแต่นั้น เราก็มีการซ้อมหลีดหลังเลิกเรียนกัน หลีดสีเรามีประมาณ 10 คน ก็จ้างรุ่นพี่ศิษย์เก่ามาสอนให้ ค่ามัดจำคนล่ะ 150 บาท พอปิดเทอมเราก็มาซ้อม เราก็จำท่าได้นิดนึง 555 แต่ว่าพอไปได้ พอ 1 อาทิตย์ต่อมารุ่นพี่มาบอกให้ไปนอนบ้านหลีด เราก็ขอพ่อแม่ไปนอน ก็มีปัญหากันนิดหน่อย พอมานอนบ้านหลีด ก็รุ่นพี่หลีดก็พาน้องๆกินเหล้าขาวผสมอิชิตัน เรากินไม่เป็นด้วยเรยไม่ยุ่ง วันต่อมาก็พาผู้ชายมานอนที่บ้านหลีด แล้วปรากฏว่า ได้เอากัน !!! คืนนั้นเราไม่ได้นอนทั้งคืน แล้วเรามาเป็นหลีดเราไม่ชอบพี่คนหนึ่งในหลีดนี่แหละ แทบจะผิดธาตุเลยด้วยซ้ำ ทำเป็นอวดเก่ง เราทำท่าไม่แข็ง ก็มาบอกเราอย่างนั้นทำแบบนี้น่ะน้อง โอ๊ย-กูล่ะอยากเอาตีนตบแม่ง อีเชี้ย แล้วเราก็ซ้อมมาๆเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 13 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต ทางโรงเรียนขอเลื่อนกีฬาสี พวกเราเลยแยกกันกับบ้าน พอกับบ้านมาสัก 2 อาทิตย์กว่า รุ่นพี่ทักแชทมาบอก ว่า น้องออกจากหลีดดีไหม ??? เราก็เลย งง ก็รุ่นพี่ก็มาด่าเรากะหน่ำ หาว่าเราตอแหลอย่สงนั้นอย่างนี้ แล้วไล่เลาออก ยังมีหน้ามาบอกให้เลากับไปเป็นหลีดอีก โอ๊ย- ( รุ่นพี่นี่อยู่ ม.4 เราอยู่ ม.3 ) ออกก็ออกดิ่ว่ะ ไม่เห็นดีสักอย่างตั้งแต่ซ้อมมานี่ นับตั้งแต่นั้นเราเกลีนดคำว่า เชียร์หลีดเดอร์มากที่สุด ขอบคุณที่ทำให้เรามาเป็นศัตรูกัน ขอบคุณสำหรับอาหารที่ทำให้- ต่อจากนี้ใครมาขอให้เป็นหลีดอีก กูไม่สนใจค่ะ จบ ..
1 ความคิดเห็น
จะเป็นหลีดต้องมีเรื่องยังว่าด้วยเหรอ ยังกะวงการดารา
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?