Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เราคิดว่าเราเป็นโรคกลัวความรักที่ไม่ได้กลัวการตกหลุมรัก..

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
.
 เรื่องก็ตามหัวข้อเลยเราคิดว่าเราเป็นโรคกลัวความรักมันมาจากการที่เรามีความรักนี้แหละมันเลยทำให้เรากลายเป็นแบบนี้.. เรื่องมันเริ่มตอนสามปีที่แล้ว ตอนนั้นเราอยู่ ม.5 เราคุยกับน้องหนึ่งซึ่งเป็นน้องวงโยที่โรงเรียน ทุกอย่างก็ไปได้ดี เหมือนความรักวัยรุ่น ป๊อปปี้เลิ้ฟทั่วๆไป แต่เรื่องมันมาเริ่มที่ แฟนของเรา(ขอสมมุติว่าA) A สอบติดนักเรียนทหาร ซึ่งก็แปลว่าเราต้องแยกกันคนละที่ เราก็ไม่ได้คิดมากอะไรเพราะเชื่อในความรักที่เรามีให้กัน บวกกับนิสัยของAแล้วไม่เคยทำให้เราผิดหวังAเป็นคนนิ่งๆ ต่อหน้าคนอื่นไม่ค่อยพูดเป็นคนใจเย้นไม่เคยด่าว่าเราสักครั้งต่างกับเราที่โมโหร้ายเอาแต่ใจมากๆ ชอบด่าชอบว่า A  พอAเข้าไปเรียนที่โรงเรียนทหาร เราก็ใช้ชีวิตเด็กม.6 ของเราไป A ก็ฝึก 2เดือนที่ไม่ได้คุยกันเราก็รอได้ ไม่ได้ไปมีใคร แล้วเราก็คืดว่าA ไม่มีใคร ด้วยความไว้ใจเราเลยเป็นตัวของตัวเองเต็มที่แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาจะรับได้แล้วเข้าใจนิสัยเรา  พอA ขึ้นปี 2 เราก็เข้าเรียนมหาลัยคณะนิติ ช่วงนั้นเราไม่ค่อยมีเวลาให้เอาเอเลยเพราะปีหนึ่งใหม่ๆเราต้องปรับตัว ต้องอ่านหนังสือ ด้วยความที่เราไว้ใจอีกเช่นเคย เราเลยอ่านหนังสือใช้ชีวิตของเราไปโดยที่เราคิดว่าเขาคงใจความไม่มีเวลาของเรา
แต่เรื่องมันมาถึงจุดเปลื่ยนก็ตอนที่  เอ ออกไปกินเหล้าแล้วเราจับได้ เราคิดแค่ว่าทำไมไปไหนไม่บอกกัน ในสมองเรานี่ไม่ได้มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาคิดเลยเพราะเราไว้ใจมากๆ แต่อยู่ๆเซ้นเรามันแรงมากก เราเลยถามไปว่า มีคนอื่นใช่ไหมพูดมาตรงๆเถอะหายไปไหนมาทั้งคืน  มันเป้นคำถามที่เรามั่นใจคำตอบอยู่แล้วว่าเขาต้องตอบไม่ได้มีใคร  แต่มันผิดคาด เอตอบมาว่า "ใช่ เอ มีคนอื่น เอ มันเ-้ยเอง " แล้ว เอก็น้ำตาซึม  พอเรารู้แค่นี้เราก็ร้องไห้หนักมากกก เราเริ่มไปถามคนรอบตัวเอที่เรียนอยู่ด้วยกัน ซึ่งพวกนั้นก็เพื่อนเราทั้งนั้น สรุปแล้วผู้หญิงคนนั้นคือ รุ่นพี่ปีสาม(มีผู้หญิงด้วยรุ่นละประมาณ 5 คน)  ทุกคนในนั้นรู้หมดทุกคนรู้!! มีแต่เราคนเดียวที่โง่ โง่มากๆด้วย เราเลยถามเพื่อนเราไปว่า " นี่-รู้ทำไม-ไม่บอกกูวะ เวลา-เห็นหน้ากูตอนนอยู่กับมัน-ไม่รู้สึกสงสารกูบ้างหรอ " เพื่อนเราตอบกลับมาว่า "กูเห็นหน้า-ตอนอยู่กับมัน-ยิ้มได้ -มีความสุข กูเลยไม่ยากบอก- "  เราจุกไปหมดเลย เหมือนกับเราถูกทุกคนหักหลังเราโดนคนที่เราไว้ใจคนที่เรารักหักหลังแบบไม่เหลือชิ้นดี เหตุการณ์วันนั้นทำให้เรากลายเป้นคนขี้ระแวง เสียความมั่นใจ
 มีทัศนคติติดลบกับเรื่องความรัก เรามีโอกาสได้คุยกับคนหนึ่งหลังจากที่เลิกกะเอไป แต่ด้วยสิ่งที่เราเจอมามันทำให้เรามองโลกในแง่ร้าย ระแวงคนที่เราคุยด้วยทุกอย่าง เราไม่มีความสุขเลยสักนิด กลัวเขาจะแอบไปกินเหล้าตอนที่เราหลับไปแล้ว เราระแวงจนเขาทนไม่ไหวเลิกคุยกับเราไป  ผ่านไปประมาณสองเดือนมันเป็นช่วงที่เราไม่อยากมีใครแล้ว เราก็ใช้ชีวิตของเราไป วันนั้นเราได้ไปบริจาคของที่สถานเด็กกำพร้ากับผู้ชายเรา เราได้มีโอกาสเจอกัพี่คนหนึ่งเค้าเป้นเพื่อนร่วมงานกะพี่เรามาบริจาคของด้วย (เรียกว่าพี่ kละกัน)  เราก็แบบเห้ยพี่เขาดูน่ารักดีนะคือเห็นแว๊ปป!!แรกนี่ใช่เลยอ่ะ55555 (ยังๆยังไม่เข็ดนะ) เราก็แอดเฟสพี่เขาไปเราก็แค่ปลื้มๆทักไปคุยถามเรื่อยเปื่อยไม่ได้หวังจะคบเป้นแฟนหรืออะไรแต่ พี่เขาก็ไม่มีแฟนเหมือนกัน เราก็เลยเอ้อพี่เขาก็โแเคดีนะ ก็ลองคุยๆดี  เหตุการณ์นี่ก็มาอีกละจ้าาาา วันนั้นพี่เขาบอกเราว่าจะไปกินเหล้า (มีพี่ชายเราไปด้วยแต่พี่ชายเราไม่รู้ว่าเราคุยกะพี่k) เราก็ไม่คิดมากเพราะเราดว่าเราต้องออกจากอดีจแย่ๆเราไม่คสรตัดสินคนอื่นจากอดีตที่เราเจอมาเราก็เลยไม่อะไร  เรื่องมันพีคตรงที่วันนั้นเราเล่นกล้องภ่ายรูปพี่ชายเรา แล้วที่นี้ไปเจอรูปของพี่k จ้าาแหม้ะะ คลอเคลียกับผู้หญิงไปอีก (เรามารู้ทีหลังผ่านมาสักเป้นอาทิตละมั้ง) ซึ่งผู้หญิงคนนั้นคือแฟนเก่าพี่ k แล้วดราก็มารู้อีกว่าเขาไปนอนด้วยกัน (เรากะพี่kอายุห่างกัน9ปีเราอยู่ปีสอง) วินาทีนั้นแหละที่เรารู้คือเราร้องไห้หนักมากกก เราเสียใจที่เราต้งมาเจออะไรซ้ำๆมันเหมือนกับดรื่องที่เราฝังใจ มันกลับมาทำร้ายเราอีกครั้ง แต่ก็บอมรับว่าตอนนั้นแค่คุยกะพี่k ไม่ได้เป็นอะไรกัน เราก้ยังให้อภัยเขาเรากแค่ว่าการอภัยมันจะเปลื้ยนจิตใจคนได้ พอคุยมาได้สักพักเราก็ตกลงคบกัน หลังจากที่คบกันก็ไม่มีเรื่องผู้หญิงอีกเลยย แต่!!!! เราจับได้ว่าพี่เขาแอบไปกินเหล้ากับเพื่อนร่วมงานประมาณช่วงตีหลังเที่ยงคืนที่เราหลับไป อีกแล้วค่ะอีกแล้ววววว
จนตอนนี้เรากลายเป้นคนขี้ระแวงมากก เราไม่มีความสุขเลย ที่เห็นตัวเองเป็นแบบนี้ บางทีเราเรียนมาหนักๆ อ่านหนังสือมาหนักร่างกายอยากจะพักผ่อน แต่เราก็ต้องคอลไลน์กะพี่เขาตงจนกว่ารเานเหล้าทุกร้านจะปิดเราถึงจะสบายใจแล้วนอนได้ พี่เขาก็ำยายามแสดงคสามบริสุทใจเต็มที่ ทำงานก็คอลหาเราให้เราสบายใจไปไหนก็บอก แต่ความคิดเราบวกกับสิ่งที่เราเจอมันทำให้เราแย่มาก  มากๆตอนนี้ เราก็หวังแค่ว่าพี่เขาจะทำให้เรากลับมาเผ็นเราคนเดิม คนที่เคยสดใสมองโลกในแง่ดีกว่านี่และเราก็หวังว่าเขาจะเข้าใจในสิ่งที่เราเจอมาจนทำให้เรากลายเป็นแบบนี้  คงจะมีสักคนที่เข้ามาทำให้โลกสีเทาๆของเรากลับมาเป็นสีชมพูอีกครั้ง.....
ที่เรามาเล่าเรื่องนี้เพราะว่าวันนี้เราจะออกจากความรู้สึกแย่ๆทั้งหมด สุดท้ายแล้วมันทำให้เรารู้ว่าไม่มีใครรักและเป็นห่วงหวังดีกับเราเท่ากับตัวเราเองอีกแล้ว เรากลับมาตั้งใจเรียนกฎหมายกลับมาอ่านหนังสือ เราคิดแค่ว่าชีวิตเราหลังเรียนจบเราไม่ต้องการที่จะพึ่งพาผู้ชาย แค่เรามีความรู้ความสามารถพึ่งพาตัวเอง ก็ไม่ต้องไปง้อผู้ชายคนไหนอีกเพราะนี้คือ 2017 ที่ผู้หญิงเข้มแข็งพอที่จะอยู่คนเดียวได้แล้ว
   โลกมันเปลื่ยนไปแล้วจริงๆ

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

Yuri Rommony 31 ส.ค. 60 เวลา 06:27 น. 1

บังเอิญผ่านมา....


เราเคยผ่านจุดนั้นมาแล้วค่ะ อยากจะบอกว่า ผู้ชายแบบนี้ควรตัดทิ้งค่ะอย่าเข้าใกล้เด็ดขาด เพราะหัวใจผู้หญิงอ่อนไหวง่าย หลงรักง่ายกว่าผู้หลายเท่าทีเดียว (ผู้หญิงไม่เจ้าชู้)


แนะนำว่าตอนนี้สิ่งที่คุณควรทำที่สุด คือ การเรียนค่ะ อย่าทำให้การเรียนตกนะคะ อนาคตสำคัญมาก ส่วนเรื่องความรักถ้าคุณโตขึ้น คุณสามารถนำความรู้มาประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ มีบ้าน มีรถ มีเงิน ไม่ต้องสวยมากมายก็ได้ รับรอง! ว่าแฟนเก่าของคุณเสียดายจนอยากร้องไห้ขอให้คุณกลับมาเลยค่ะ (ถ้าสวยด้วยก็เพอร์เฟค อิอิ)


สุดท้ายเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ผ่านเรื่องร้ายๆไปด้วยดีค่ะ เก็บเกี่ยวความสุขที่มีไว้นะคะเพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเองตรองขึ้นค่ะ :):):)

0
Beam248 8 มิ.ย. 62 เวลา 21:24 น. 2

เราไม่รู้หรอกว่าเราเป็นโรคกลัวความรักหรือเปล่า แต่เราไม่เคยมีแฟน แต่มีคนคุยนะ มีคนที่เราเคยชอบแต่พอเขาชอบกลับ เราก็เป็นฝ่ายถอยหาออกมาเอง เพราะเรารู้สึกว่า คนๆนี้จะไว้ใจได้เหรอ จะเชื่อใจได้เหรอ แล้วเราก็กลัวว่า ถ้าคบไปแล้วเขาจะทิ้งเราไหม เราอาจจะกลัวการโดนทิ้งก็ได้มั้ง55555

0