Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มาเล่นเกมจับผิดกัน! ประเด็น "รับน้องฉาว" ในคณะจิตรกรรม ใครโกหก ใครพูดจริง?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ถ้าใครชอบไถหน้าฟีดโซเชียลมีเดียตอนนี้ คงเจอกับประเด็นดราม่ารับน้องคณะจิตรประกรรมและภาพพิมพ์ของ ม.ศิลาปากรที่ขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่ ไลน์หลุดว่ารุ่นพี่ใช้คำพูดว่ารุ่นน้องที่แม่เสียชีวิต ว่าเอาแม่มาอ้างเพื่อจะได้ไม่ต้องเข้าร่วมกิจกรรม จนฉาวขึ้นเรื่อยๆ ในระดับที่ว่ามีนักศึกษาปีสองมาเปิดเผยกับสื่อว่าการบังคับรุ่นน้องแก้ผ้าในกิจกรรมรับน้องไปซะอีก!!!
   

ไลน์หลุดที่เป็นประเด็นโครมคราม
      
จั่วหัวฉาวซะขนาดนี้ แน่นอนว่าสื่อใหญ่หลายหัวย่อมรุมหาข่าวเพื่อขยายความจริงแล้วตีแผ่ให้สังคมได้ทราบถึงความเป็นไปของการรับน้องในประเทศไทย ที่รุ่นพี่หลายสถาบันมักมีคำพูดติดปากว่า "ปีนี้ก็เบาลงกว่าทุกปีแล้ว" แต่ดูแล้วก็ยังหนักอยู่ดีสำหรับความเป็นมนุษย์อยู่ดี T_T ซึ่งการสืบเสาะหาความจริงเนี่ย ก็จำเป็นต้องอาศัยแหล่งข้อมูลจากหลายๆ แหล่งมาประกอบกัน บางข้อมูลก็ขัดกันบ้าง หรือสอดคล้องกันบ้าง แต่ด้วยความที่เราตามเผือกเรื่องนี้อยู่บ้าง เลยจะมาชวนเพื่อนๆ ในบอร์ดเล่นเกมจับผิดกันค่ะ ><

มาเข้าเรื่องกันเถอะ! หลังจากมีประเด็นดราม่าไลน์หลุดอย่างที่บอก ความพีคที่มากขึ้นของการรับน้องของคณะนี้ก็ดำเนินมาอยู่ที่การที่นักศึกษาชายปี 2 คนหนึ่งได้ออกมาให้ข้อมูลกับสื่อว่าตอนตนเองและเพื่อนๆ อยู่ปี 1 ได้ไปเข้าร่วมกิจรรมรับน้องที่วิทยาเขตนครปฐม แล้วได้เจอกับกิจกรรมที่ใช้ความรุนแรง ไปจนถึงอนาจารย์

ฝั่งแรกที่เราต้องฟังก่อนคงต้องเป็นข้อมูลจากการชี้แจงของคณะ :

(เราสรุปใจความจากแต่ละฝ่ายแต่ละคนแบบนี้นะ)

เมื่อวานนี้ (18 กันยายน 2560) คณบดีคณะจิตรกรรมและภาพพิมพ์ ม.ศิลปากร พร้อมด้วยนักศึกษาปี 2 ที่ออกมาให้ข่าว และตัวรุ่นพี่ พร้อมทั้งรุ่นน้องที่แม่เสียชีวิตในประเด็นไลน์หลุด ก็ได้ออกมาร่วมกันชี้แจงถึงข้อเท็จจริงต่อสื่อตามนี้ค่ะ

คณบดี :
เป็นปีแรกที่ท่านได้เข้ามาบริหารคณะนี้ ก็ยังไม่ทราบเรื่องอะไรมากมาย แต่ได้ทำการสืบเสาะข้อมูลที่ได้ และพิจารณาตามจริง ก็ต้องบอกว่าการรับน้องของคณะนี้มีการอาบน้ำร่วมกันจริง แต่แยกชายหญิง เพราะคนเยอะต้องประหยัดเวลา และข่าวในส่วนอื่นๆ ที่แหล่งข่าวได้มาจากนักศึกษาปี 2 คนนั้นรุนแรงและบิดเบือนไปจากความจริงอยู่มาก ซึ่งก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีการพูดคุยและปรับปรุงกันต่อไป

รุ่นพี่ที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้น : ยอมรับว่าการว้ากที่นักศึกษาปี 2 คนนั้นบอกมีจริง แต่ไม่มีการบังคับแก้ผ้าใดๆ แค่ถอดกางเกง แล้วนอนซ้อนกันแบบเอาหัวพาดขา แกล้งกันฮาๆ 

รุ่นพี่ในคณะ :
การอาบน้ำรวมมีจริงๆ แต่มีถังน้ำ มีขันเจาะรูเตรียมให้ ไม่ได้เอาสายชำระมาฉีดให้น้องผู้ชายด้วย มีพี่บางคนก็เข้าใจว่าถ้ามองมุมน้องก็ไม่พอใจได้แหละ มีสิทธิ์อะไรมาบังคับแก้ผ้า แต่มันก็เป็นการละลายพฤติกรรมด้วย คณะเราทำไรอยู่ด้วยกัน ช่วยเหลือกันตลอด ส่วนการว้ากก็มีจริงๆ แต่ไม่มีการบังคับแก้ผ้า

รุ่นน้องที่มีประเด็นดราม่าแม่เสียชีวิต :
ตอนแรกก็โกรธ แต่พี่เค้ามาขอโทษ เค้ายอมรับว่าพลั้งปากไป ตอนนี้ก็ปรับความเข้าใจกันโอเคแล้ว


ฝั่งที่สองที่มีข้อมูลแย้งกัน :

นักศึกษารุ่นพี่ที่เคยจัดกิจกรรมรับน้องที่โดนแฉกับแหล่งข่าว :
การอาบน้ำรวมมีจริง
แต่พี่ไม่ได้เข้ามาอาบให้ พี่จะเตรียมถังและขันให้น้องใช้อยู่แล้ว จะใช้สายฉีดชำระรึเปล่าแล้วแต่น้อง ส่วนเรื่องการว้ากกลางดึกอันนี้มีจริง แต่การแก้ผ้าเป็นข้อผิดพลาดที่เราเตรียมการไว้แล้วว่ามันจะต้องไม่มี เพราะมันผิดคิวที่รุ่นพี่ปีแก่ๆ เข้ามาแจมด้วย เลยไม่มีพี่ปีที่คุมกิจกรรมอยู่กล้าขัดคำสั่ง น้องเลยโดนแบบนั้น

นักศึกษาปี 2 ที่เอาเรื่องมาเผยกับนักข่าว :
การรับน้องที่เขาเจอมามันรุนแรงมาก มีกิจกรรมที่อนาจารย์ด้วย เช่น รุ่นพี่ให้น้องอาบน้ำรวม แล้วให้ทุกคนแก้ผ้า จับอวัยวะเพศกัน สำเร็จความไคร่ให้กัน รุ่นพี่เอาอวัยวะเพศมาถู แล้วอาบน้ำให้ด้วยสายฉีดชำระ ตอนนอนก็ถูกปลุกมาว้ากกลางดึก 
ถูกสั่งให้เข้าห้องรวมแล้วถอดเสื้อผ้ากองรวมกัน กิจกรรมแต่ละอย่างก็รุนแรง แบบเอาผงปูนมาสาดใสตัวน้องจนสกปรก เป็นที่นุกสนานของรุ่นพี่ จนวันกลับบ้านยังไม่รู้เลยว่าใส่ชุดใครกลับมา เป็นการทำร้ายจิตใจคนเป็นน้องอย่างมาก ผู้ที่เอาเรื่องมาเปิดเผยจึงอยากบอกต่อเรื่องนี้สู่สังคม เพื่อหยุดเหตุการณ์แบบนี้ไว้ไม่ให้เกิดซ้ำรอยอีกต่อไปค่ะ

Image may contain: text
ภาพจาก ANTI SOTUS
 
แล่วๆๆๆ ตอนแรกก็ว่ามาทางเดียวกัน ไปๆ มาๆ ส่อจะเป็นหนังคนละม้วนอีก!!! จะเชืื่อใครดีล่ะทีนี้? เพราะเรื่องมันก็ผ่านไปแล้วด้วย แต่อะไรที่พูดมาแบบรุ่นสู่รุ่นก็คงมีมูลบ้างแหละนะ ว่าแต่มูลนั้นจะใช่สิ่งที่ทำให้เกิดดราม่ารึเปล่านี่สิ? หรือถ้ามองมุมกลับ ปรับมุมมอง ว่าถ้าเราก็แค่เลิกทำอะไรรุนแรงกันซะที มันคงจะง่ายกว่าให้มาตีกันโชว์ชาวบ้านหรือสร้างความร้าวรานให้นักศึกษาใหม่แบบรุ่นสู่รุ่นกันคงจะดีกว่า T_T

ป.ล. สีเยอะอาจจะลายตาหน่อย แต่ที่เน้นเขียวๆ คือให้การตรงกัน ส่วนตัวเอียงคือที่แย้งกันนะจ๊ะ


เครดิต : ANTI SOTUShttp://www.amarintv.com/news-update/news-3059/86809/

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

Nyx 21 ก.ย. 60 เวลา 11:09 น. 1

1. ค้นหาเปรียบเทียบตั้งมากมายเพื่อสุดท้ายไม่รู้แม้แต่ข้อเท็จจริงในรายละเอียดว่าเป็นอะไรอย่างไรเหรอครับ ? แต่ก็ถือว่าดีกว่ายกเมฆนิดนึงนะ


2. ส่วนหนึ่งของปัญหาการรับน้องคืออาจารย์ไม่ใช่คนจัดกิจกรรมแต่พยายามควบคุมดูแลเพียงอย่างเดียว ห้ามอย่างเดีียวแต่ไม่ช่วยคิดว่ารูปแบบกิจกรรมควรเป็นแบบไหน มีปัญหาต้องรับมือยังไง และคนจัดกิจกรรมก็ไม่ได้คิดอย่างถี่ถ้วนว่าจะต้องมีกิจกรรมหลัก กิจกรรมรอง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ให้น้อง ๆ รู้จักกันและคุ้นเคยกัน จึงสักแต่ว่าจัดและพยายามบังคับให้น้องทุกคนมารวมกันในกิจกรรมเดียวซึ่งมันฝืนธรรมชาติมาก ๆ


3. ทั้งที่พวกเราไม่ใช่ตำรวจ อัยการ ศาล แต่ดูเหมือนจะ "พิพากษา" เรื่องราวทั้งหลายเรียบร้อยแล้ว ต่อให้้รู้ว่าอะไรเท็จอะไรจริง มันจะมีประโยชน์อะไรอีก น้อง ๆ ถูกกระทำย่ำยี สถาบันการศึกษาเสียชื่อ คณาจารย์เสียหน้า ฯลฯ ไม่รู้ใครเสียอะไรต่อมิอะไรอีก เออแต่ถ้าไม่นับสื่อต่าง ๆ ล่ะก็ คนตั้งกระทู้ที่เอาประเด็นมาเล่นขยี้ ๆ ๆ มีคนแชร์ ๆ ๆ และตอบเม้น ๆ ๆ ก็กอบโกยคะแนนความมีอิทธิพลในเว็บบอร์ดเด็กดีไป คงถือว่า "ได้" ล่ะมั้ง ? ช่างเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ

0