คือแบบ...เป็นโรคซึมเศร้า แต่ก็เจอสิ่งกระทบกระทั่งใจอยู่ดี
ตั้งกระทู้ใหม่
"แล้วชีวิตตัวเองมันมีอะไรน่าเศร้ามั้ยล่ะ"
คือจุก...
ที่บ้านอ่ะ ช่วงแรกๆไม่มีหรอก แต่ที่โรงเรียนอ่ะเจอเยอะค่ะ คือเราเรียนทับความเศร้าให้ลืมๆไปเลย เราเลยติดอันดับต้นๆของห้อง แต่เพื่อนขี้อิจฉาแม่ง...
เยอะชิบ
เคยมีครั้งนึง เพื่อนเคยสนิทกัน แต่ไม่มาก คือสนิทกับครูคนนึง แต่พอครูย้ายออกไปก็กลายเป็นว่าเขาหยิ่ง แต่นั่นยังพอรับได้ แต่มีเพื่อนในแก๊งค์ของเขาขี้อิจฉา เคยทำงานกลุ่มด้วยกัน พอเรายื่นขอเสนอเกี่ยวกับงานก็บอกว่า "อวดเก่ง" คือ...กูไปทำอะไรให้-!!!(ขออภัยในคำหยาบ)
ไม่พอนะคะ
มีอีกคนนึง เป็นรุ่นพี่แต่ตกซ้ำชั้น เพื่อนเขาเรียกว่าจักกะแหล่น ตกซ้ำชั้นไม่พออ่านหนังสือไม่ออก อ่านหนังสือไม่ออกไม่พอมันยังอวดเก่ง อวดเก่งไม่พอมันพาล มันพาลไม่พอมันยังทำเป็นขอโทษทั้งๆที่เขาก่อเรื่องใหญ่เอาไว้ นิสัย!!!
คือเพื่อนคนแรกที่กล่าวมามันยังไม่จบวีรกรรม พอใกล้วันเกิดครูคนสนิทก็หาของขวัญกันวุ่น หนูก็ถามเพื่อนว่า "ของขวัญของครูเขาอ่ะ จะรวมเงินกันซื้อมั้ย" แล้วมันมาบอกว่า"แล้วแต่ ถ้าอวดเก่ง" คือ... แต่สุดท้ายมันก็มาขอลอกงานอยู่ดี
คือไอจักกะแหล่นอ่ะชอบแกล้งเพื่อน บางครั้งก็แกล้งกระทบกระทั่งจิตใจ เพื่อนคนแรกที่พูดมาก็เหมือนกัน เช่น เอาแก้วน้ำของลิขสิทธิ์ใบโปรดที่ราคาแพงเอาเรื่องไปซ่อน ทำกระเป๋าที่จะใช้ไปเที่ยวกับคุณครูขาดจนสะพายไม่ได้ พอร้องไห้ก็ล้อนั่นล้อนี่เหมือนหนูไม่มีหัวใจที่จะเจ็บ
แต่ยังโชคดีที่ยังมีการเขียนนิยายที่ยังพอบำบัดโรคซึมเศร้าได้บ้าง แต่พอไปหลุดปากพูดเรื่องนิยายที่กำลังแต่งก็โดนล้อว่านิยายบ้าๆอย่างนี้มีคนอ่านด้วยหรอ
แล้วอยู่ที่บ้านล่ะ?
หนักอยู่พอตัวเลยสำหรับหนู หนูเคยพูดเรื่องเรียนอย่างจริงจังกับพ่อก็โดนเอาไปพูดเป็นเรื่องเล่นๆ ไปคุยกับแม่เรื่องเรียน ท่านยังพอเข้าใจ แต่บางครั้งก็โดนเอาไปทำเหมือนเรื่องเล่นจนจุกอก
แล้วไหนผลการเรียนก็ยังไม่พอสำหรับพ่ออีก
ท้อ...
เคยอยากได้อะไรหลายๆอย่างแต่ก็นะ...เราต้องเก็บเงิน แค่นั้นยังไม่พอ ถ้าอยากได้อะไรซักอย่างนึงต้องขอแม่ก่อนซื้อทั้งๆที่เก็บเงินเอง แต่เงินก็มาจากแม่ทั้งนั้น
พอขอพ่อทำงานผ่านเน็ตที่เราดูซ้ำๆจนแน่ใจว่ามันไม่เสียค่าสมัครและได้เงินจริง แต่พ่อก็บอกว่า"เอาที่1มาให้พ่อดูก่อน"
ก็นะ...
คือผลการเรียนที่หนูทำออกมาดีที่สุดมันยังไม่พอใจพ่ออีกหรอ พ่อคิดว่าหนูต้องทำอะไรบ้างล่ะกว่าจะติดอันดับต้นๆของห้อง แต่ความจริงแล้วหนูเก่งที่สุดของห้องอ่ะแหละ แต่หนูมีกิจกรรมเยอะ จนต้องซ้อมในเวลาเรียน สุดท้าย...งานก็ไม่คบเพราะเพื่อนบอกงานไม่เหมือนกัน
แต่ถึงจะคิดยังไง สุดท้ายท่านก็ยังรักเราอยู่ดี
อยากจะขอถามทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ว่า
"หนู...ควรจะปล่อยวางเรื่องพวกนี้ยังไงดี?"
คือหนูเครียดมาก จนคิดที่จะฆ่าตัวตายมาหลายครั้งแล้วค่ะ ช่วยตอบหน่อยนะคะ
หนู...ไม่มีที่ปรึกษา
5 ความคิดเห็น
การทำแบบวัดโรคซึมเศร้าเป็นเพียงแบบคัดกรองครับ
การวินิจฉัยต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อยืนยันครับ ^^
และการเป็นโรคซึมเศร้าไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเศร้าในชีวิตครับ
ในเบื้องต้น
ลองมองเรื่องที่เราคิดว่าทำให้เราเศร้าในมุมอื่น ๆ ดูครับ
ว่าในเหตุการณ์นั้น ๆ มันมีข้อดีอะไรมั้ย มันทำให้เราเรียนรู้อะไรได้บ้างครับ
อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยได้มากคือการออกกำลังกายครับ ทำเป็นประจำสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายจะทำให้หลั่งสารสื่อประสาทดี ๆ ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้
อย่างไรก็ตามถ้ากังวลใจ แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ครับ
คคืออยากให้แม่พาไปพบจิตแพทย์ค่ะ แต่ไม่กล้า เพราะเคยบอกท่านหลายรอบแล้ว ท่านก็เดินหนี
ไปหาหมอเหอะ อย่าวินิจฉัยเอง พวกแบบประเมินวัดอะไรไม่ได้
เคยยกเรื่องฆ่าตัวตายมาพูดกับแม่หรือยังคะ บางทีจะมีน้ำหนักมากกว่าการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเฉยๆ ถ้าไม่ได้ผลอีก ลองปรึกษาครู ให้ครูช่วยพูดกับแม่ด้วยนะคะ ถึงจะโดนโกรธบ้าง แต่ก็ดีกว่าไม่ได้รับการรักษานะคะ
แนะนำให้แอบไปค่ะ เราก็แอบไป สิทธิ30บาทใช่ได้นะคะ
ถ้ารู้สึกว่าพูดคุยกับใครไม่ได้ ลองคุยกับสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ดูจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยรับฟัง
เราเคยโทรไปแนะนำดีมาก เป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่าเพิ่งกังวล ลองไปพบแพทย์ก่อนนะคะ
- สายด่วยสุขภาพจิต 1323 โทรได้ 24 ชม.ค่ะ
- ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ ถ้าอาการรบกวนจิตใจ รบกวนชีวิตประจำวัน ก็ไปหาหมออย่างที่ตั้งใจไว้ดีแล้วค่ะ
โทรสอบถามโรงพยาบาลที่จะไปก่อน ว่าอยากพบจิตแพทย์แต่ผู้ปกครองไม่ยินยอมมาด้วย สามารถไปได้หรือไม่ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
(ตามหลักสามารถไปคนเดียวได้ค่ะ และเมื่อตรวจแล้ว ทางรพ.จะแนะนำให้พาผู้ปกครองมาครั้งหน้า หรือรพ.อาจติดต่อผู้ปกครองให้วันนั้นเลยว่าคุณมาพบแพทย์แล้ว)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?