Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำไมผมรู้ไม่รู้สึกชอบ (ผู้หญิงและผู้ชาย)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


ผมพยายามลองหาคำตอบกับเรื่องนี้มานานมากครับ  ผมรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติมาได้สักพักแล้ว  คือต้องขอบอกก่อนเลยน่ะครับว่าตั้งแต่เด็กจยโตมาถึงวัยรุ่นเนี่ยผม "ไม่รู้สึกชอบใครเป็นพิเศษ"  ตอนนี้ก็อายุ  18  แล้วครับ  บางเวลาก็รู้สึกเหงาแต่บางเวลาก็ไม่รู้สึกอะไร


ผมคิดว่าผมแปลกอย่างนี้ไม่รู้ว่ามาจากอะไรกันแน่
 
เรื่องอะไรต่างๆของวัยรุ่นทางบ้านผมเขาไม่ปิดกั้นครับ  กับเรื่องอะไรทำนองนี้  เพราะเวลาผมมีปัญหาอะไรจะปรึกษาพ่อกับแม่ก่อน รู้สึกว่าไว้ใจท่านไกก้มากกว่าเพื่อนในวัยเดียวกันอ่ะครับ  ไม่รู้สิครับผมว่าพ่อกับแม่ผมเขาเปิดกว้างมากน่ะครับ  เรื่องบุหรี่  เรื่องเหล้า  เรื่องเซ็ก  มันเลยทำให้ผมไม่อายที่จะถามพกวท่านมาก 

 
มีครั้งหนึ่งในระหว่างที่เรากำลังกินข้าวแบบพร้อมหน้าพร้อมตา  อยู่ๆพ่อผมก็ถามขึ้นกลางจานข้าวเลยว่า  "มีแฟนยัง?"  ผมก็อายเนาะก็เลยได้แต่ยิ้ม  พ่อก็ถามต่อ  "ทำเป็นหรือเปล่า  ถ้าจะทำอะไรก็อย่าลืมป้องกันเด้อ"  คือผมนี้อายไปเลย  แล้วประเด็นคือพ่อผมถามแบบนี้กับผมตอน ม.3 และบ้านผมเขาค่อนข้างจะพูดเรื่องพวกนี้กันแบบตรงๆอ่ะครับ  เช่น  บางครั้งพ่อผมก็ถามว่า  "เคยสูบบุหรี่ไหม"  ผมก็บอกว่าไม่  แล้วพ่อก็ถามต่อ  "อยากลองไหม  ลองได้น่ะพ่อไม่ว่า  ลองแล้วก็คิดเอาว่ามันดีไหม"  ผมก็ค่อนข้างช็อกนิดหนึ่ง  แต่จนถึงทุกวนนี้ผมก็ไม่เคยลองน่ะครับ  เหล้าก็เหมือนกัน  พ่อผมแนะนำให้หัดไว้ครับ  พ่อว่าเผื่อเขามหาลัยจะได้เอาตัวรอดได้
(เผื่อโดนมอม  55  พ่อกลัวผมคออ่อน)

 
เข้าประเด็นหลักครับ
 
ผมสับสนมานานมาก  ขอแบ่งเป็น 2 กรณีแล้วกัน  (ผมเป็นคนเพื่อนน้อยครับ  แต่เข้ากับคนอื่นได้ดี  เป็นคนตลก  ปนลามกแบบเปิดเผยนิดๆ  เพราะคำพูดผมเนี่ยออกไปทาง ...  ตลอดเรื่องที่มไม่น่าโยงเข้า  18+ ได้ผมก็โยงได้)

กรณีผู้หญิง

อันนี้ต้องขอบอกว่าแอบรู้สึกร้อนวูบๆอยู่เหมือนกันเวลาที่ผู้หญิงเอาตัวมาผ่านเรา  แบบเฉียดๆก็รู้สึกล่ะ  ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงอกโตแล้วด้วยเนี่ย  หืม แต่ไม่ถึงกับขั้นน้อยโด่  และห็มีบ้างครั้งที่ผมชอบ(ฉวยโอกาศ)  ไม่ถึงกับฉวยครับประมาณว่าโอกาศพลอยได้  ผมก็จะไม่เลี่ยงสายตาที่จะมองหน้าอกผู้หญิงที่คอเสือพวกเธอเป็นใจ  ปกติผู้ชายที่มีมารยาทจะหลบหน้าหนี  แต่ผมไม่ผมกลับมอง  มองแบบไม่รู้ตัวจนเพ่อนผู้หญิงคนนั้นรู้สึกตัวแล้วก็จะทำท่าอายแล้วก็ว่าให้นิดหน่อย เชิงน่ารัก  แต่ที่สำคัญคือผมไม่ชอบการที่เพื่อนผู้หญิงชอบมาเกาะแขนเวลาเดินอยู่ข้างนอกและก็ไม่ค่อยชอบเวลาที่พวกเธอพยายามจะมายืนใกล้  แต่ถามว่ารู้สึกดีไหม  ก็รู้สึกดีครับแต่จะออกแนวรำคาญมากกว่า  เคยมีครั้งหนึ่งเพื่อนผผู้หญิงที่สนิทกันมากมันเดินไปทานข้าวะร้อมกับพวกผมแล้วอยู่ๆมันก็เลือกเดินมาเกาะเเขนผม  ถือวิสาสะเอาไปควงเลยน่ะครับ  ต่อหน้าต่อตาคนที่กำลังไปกินข้าว  ทันทีผมก็แกะมือออกแล้วพูดตรงๆเลยครับว่า  "เฮ้ย  มาเกาะก๔เพื่อ"  มันก็ตอบ  "ทำไมเกาะแค่นี้ไม่ได้เหรอ   รำคาญเหรอ"  ผมก็ตอบทันทีเลยครับพร้อมกับมองหน้าแบบ...  "เอ่อ  กูรำคาญไม่ชอบให้ใครมาถูกตัว ปล่อย"  แล้วเพื่อนก็ปล่อย  ซึ่งผมก็ไม่คิดอะไรน่ะครับ  ผมว่าการพูดตรงๆมันกลับดีเสียอีก

กรณีเพื่อนผู้ชาย

อันนี้ผมไม่น่าจะชอบลงมั้ง  แต่ผมก็ไม่ได้ชอบผู้หญองแถมไม่ได้รู้สึกชอบผู้ชายด้วยกันด้วย  ผมเป็นประเภทว่าไม่เข้ากับเพื่อนผู้ชายไม่ยุ่งกับเพื่อนผู้หญิง  ดูหยิ่งๆน่ะ  แต่ที่จริงก็คุยกันได้แหละครับ  กับผู้ชายสมัยนี้ผมรู้สึกรำคาญเสียมากว่า  ชอบทำตัวมุ๊งมิ๊งเหมือนผู้หญิง  มันดูน่ารำคาญและขัดหูขัดตามากๆ  ที่แม่งเรียกร้องความสนใจสัสๆ  เห็นหน้าแล้วหมั่นไส้(แต่ก็ไม่ว่าอะไร  เราเป็นคนดี)  แต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่รู้สึกน่ะครับ  มีครั้งหนึ่งที่เพื่อนผู้ชายมาโอบไหล่แล้วผม โอบแบบข้ามไหล่อีกข้างมาอีกข้างเลยน่ะ  ผมก็นิ่งไม่พูดอะไร  จนมันถามขึ้น  "ใช่ไหมนาย...(ูพูดชื่อเต็มผม)"  ผมก็ตอบอือๆ  แล้ววมันก็มองหน้าผม  ผมก็มองหน้ามันกลับ  ตอนนั้นรู้สึกรำคาญมากครับ  เลยพูดกับมันไปว่า  "ปล่อยกูได้ยัง  จะเดิน"  แค่นี้ครับมันก็ปล่อยผมเลย  รู้สึกว่าใจสั่นแปลกๆ  แต่ถ้าผู้หญิงมาเกาะกลับรู้สึกเฉยๆ(ชอบมองมากกว่า  ตื่นเต้นดี)  แต่ถึงว่าแหล่ะจะมาเกาะไหล่ทำตัวสนิท  ผมเองก็ไม่พอใจปนไปด้วย  เคยมีครั้งหนึ่งหมอนี้พยายามมาคุยกับผมพยายามเข้าหาแบบเพื่อนผู้ชายธรรมดา  แต่ผมก็จะพูดน้อยตอบน้อยบางทีก็แค่ยิ้มและหัวเราะหรือไม่ตอบเลย  (ดูหยิ่ง  555  เปล่าแค่พูดน้อย)


เคยมีหลายๆ คนบอกว่าผมเนี่ยเดาใจยากมาก  ขนาดมองหน้ากันอยู่พยายามอ่านผมแต่ก็ไม่รู้ว่าผมคิดอะไร  ไม่พอใจเรื่องอะไร  เขาว่าผมเป็นพวกไม่สังคม  นกน้อยไม่เข้าพวก  ขี้น้อยใจและก็ประชด  ผมก็ว่าไม่น่าใช่น่ะ  แคไม่อยากวุ่นวายกับใครเขาเฉยๆ

แสดงความคิดเห็น

3 ความคิดเห็น

เดินวน 25 ก.พ. 61 เวลา 22:08 น. 1-1

แหม่ท่านครับ เล่นมาแบบนี้ผมจะทำไงดีเนี่ย 555 ขอบคุณน่ะครับอย่างน้อยผมก็ขำออกเพราะเม้นส์ของคุณ

0
Masoso 25 ก.พ. 61 เวลา 17:43 น. 2

ไม่มีใครรู้ใจใครหรอกค่ะ ไม่มีใครอ่านใจใครได้ท้งหมดด้วย ไม่ชอบก็แค่ไม่ชอบ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่

ถ้าเจอที่ชอบที่ใช่จริงๆกะคนนั้นเราก็มีข้อยกเว้นให้ได้

เจ้าของกระทู้อาจจะเป็นคนขี้รำคาญ ชอบสันโดษงี้ป่าว

#คุณไม่ผิดปกติหรอก :)

2
เดินวน 25 ก.พ. 61 เวลา 22:07 น. 2-1

ก็น่าจะอย่างนั้นแหล่ะครับ แต่เห็นเพื่อนมีจุดยืนแล้วตัวเองกัลับยังลอยเค่วงอยู่มันก็ใจหวิวๆน่ะครับ เพื่อนมีแฟนมันก็ตีตัวออกห่าง เลยไม่รู้ว่าตัวเองจะยืนจุดไหนดี ชอบอะไรดี งงกับตัวเอง แต่ยังไงก็ขอบคุณมากครับ

0
Masoso 26 ก.พ. 61 เวลา 01:22 น. 2-2

ไม่ต้องเครียดนะคะ สบายๆมันแค่ยังไม่ถึงเวลาของคุณ จังหวะแต่ละคนมันก็ต่างกันออกไปเนอะ :)

0
White Frangipani 25 ก.พ. 61 เวลา 19:10 น. 3



ทำไมผมรู้ไม่รู้สึกชอบ (ผู้หญิงและผู้ชาย)


....


...................


....................................



...เคยมีหลายๆ คนบอกว่าผมเนี่ยเดาใจยากมาก ขนาดมองหน้ากันอยู่พยายามอ่านผมแต่ก็ไม่รู้ว่าผมคิดอะไร ไม่พอใจเรื่องอะไร เขาว่าผมเป็นพวกไม่สังคม นกน้อยไม่เข้าพวก ขี้น้อยใจและก็ประชด ผมก็ว่าไม่น่าใช่น่ะ แคไม่อยากวุ่นวายกับใครเขาเฉยๆ



สวัสดีค่ะ


ช่วยเม้นต์นะคะ



จากที่อ่านๆตามที่คุณเล่ามา...บอกเล่าได้ราวกับว่า...คุณนะคะ คงยังไม่เคยมีประสบการณ์ที่น่าจะมีความรู้สึก..เป็นความรักที่แท้จริง...ค่ะ


คืออ่านแล้วรู้สึกราวกับว่า...คุณไม่เคยมีประสบการณ์ที่คุณนั้นเคยได้มีโอกาสมีความรักกับใครด้วยจิตใจ ด้วยจิตวิญญาณของคุณเลยสักครั้ง...แบบนั้นค่ะ


เพราะความรัก...นะคะ หากคุณเคยมีคุณจะเข้าใจ...อาการตามเนื้อเพลงเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ



ทั้งหมดนี้เป็น หรือ คือความรัก...ค่ะ


คุณรู้สึกอย่างไร? เมื่อรับฟังเพลงเหล่านี้เอ่ย...คือหากคุณเคยมีความรัก...นะคะ คุณจะเข้าใจความหมายของเพลง...และยอมรับ ยอมเสพมันด้วยความสุข และสุนทรีย์ค่ะ


คุณลองรับฟังดูนะคะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-11.png


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-10.png




https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-11.pngหรือแบบนี้ค่ะ ฮื้อออ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-13.png





https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-11.pngหรือ...แบบนี้ค่ะ..


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-10.png





https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-11.pngและแบบนี้...ค่ะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-13.png





และแบบนี้ค่ะ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-11.png



https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-03.png







ทั้งหมดนี้...นะคะ หากคุณมีความรัก...คุณจะรู้ซึ้ง...ถึงความหมายของมันค่ะ


(หากคุณเคยมีความรัก...นะคะ คุณจะมีความรู้สึกเป็นสุขละมุนละไม หรือแม้ จะรู้ได้ถึงคุณ และโทษ...ของความรักไปด้วยกับบทเพลงเหล่านี้...ค่ะ


คือคุณไม่มีความงง หรือสงสัย หรือคุณจะไม่สับสนอีกต่อไป...เกี่ยวกับ...ความรัก...ค่ะ


ตามที่คุณเล่ามาทั้งหมดนั้น...เจ้าของเม้นต์เข้าใจว่า...สาเหตุน่าจะมาจากคุณยังเป็นเด็กผู้ชายในวัยรุ่น...ซึ่งคุณก็มีอารมณ์ที่พลิ้วไหวไปต่างๆนานาน(ตามปะสาคนในวัยของคุณค่ะ)


เพราะความที่คุณไม่เคยมีความรักที่แท้จริงนั้นเองค่ะ


จริงแล้วคุณอายุเพียง18ปีนะคะ หากคุณยังไม่เคยมีประสบการณ์ที่จะรักใครได้...ก็น่าจะเป็นการดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ

คุณได้นำพลังทั้งหมดของคุณไปตั้งใจเรียนก่อน...น่าจะดีที่สุดค่ะ


เรื่องความรัก...ไว้ทีหลัง...ก็ยังไม่สายค่ะ


เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ



https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-big-09.png



3
เดินวน 25 ก.พ. 61 เวลา 22:05 น. 3-1

ขอบคุณมากน่ะครับ ผมก็คิดๆอยู่ว่าจะลองปรึกษาเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่ดู เผื่อท่านมีทางออก แต่คิดไปคิดมา "ไม่ดีกว่าครับ" เดียว่านไม่สบายใจ รอให้คนที่ใช้มาทำให้ผมสปาร์คดีกว่าเนาะ

0
White Frangipani 26 ก.พ. 61 เวลา 01:25 น. 3-2

สวัสดีค่ะ เจ้าของกระทู้



ผมก็คิดๆอยู่ว่าจะลองปรึกษาเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่ดู เผื่อท่านมีทางออก แต่คิดไปคิดมา "ไม่ดีกว่าครับ" เดียว่านไม่สบายใจ


ตรงนี้นะคะเห็นด้วยเป็นที่สุดค่ะ คือจะให้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่จะคุยกับท่าน หรือเปิดอกเปิดใจคุยกับท่านก็ขอให้คุณแน่ใจเสียก่อนนะคะ


ไม่อย่างนั้นคุณพ่อคุณแม่ของคุณจะเสียใจ ผิดหวัง และเป็นห่วงคุณด้วยนะ ท่านจะทรมานค่ะ


และการที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นสากล หรือว่าทันยุคทันสมัยและเปิดใจกับคุณด้วยนะคะ นั้นแสดงว่าท่านนะทุ่มสุดตัว...ทั้งความเป็นะพ่อแม่ที่รักคุณ ท่านเหล่านี้จะยอมรับทุกอย่างที่คุณเป็นด้วยการเปิดใจ เพราะความรักที่มีต่อคุณ...หากคุณล้มเหลว หรือทำให้ท่านผิดหวังนะคะ ท่านจะไม่เหลืออะไรเพื่อตัวท่านเลย คือท่านจะเสียใจ...ในตัวตนของท่านด้วยค่ะ



มีประสบการณ์เดียวกันค่ะ


จะเล่าให้คุณอ่านเล่นๆนะคะ อ่านเล่นๆเป็นคล้ายนิยายไปเลยนะคะ555


คือคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าของเม้นต์ก็เป็นสากลมากๆ คือท่านสามารถเปิดใจรับทุกอย่างได้ง่ายๆ...


...เช่น วัฒนธรรมต่างๆในขณะปัจจุปัน คือท่านรับรู้ ท่านสามารถเปิดอกพูด ถาม ตอบ...ในเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้...ได้อย่างเปิดเผย คือคล้ายเป็นเพื่อน


เป็นผู้ที่คอยดูแลไถ่ถามความเป็นไปของเราในสังคม ในวัฒนธรรมที่เราออกไปใช้ในส่วนของเราข้างนอกบ้าน ในทุกวัันนั้น...คือชีวิตนอกบ้านของเรานะ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของเราโดยปริยาย ท่านเข้าใจและยอมรับได้เป็นอย่างดี


 ท่านเชื่อใจ ท่านไว้ใจเรา แต่ท่านก็พยายามแนะนำถามไถ่ ใส่ใจ ให้ความสนใจ พูดคุยกับเราได้แบบมีเหตุผล และบางครั้งยังคุย ถาม เป็นเรื่องสนุกๆได้ด้วยค่ะ


โดยเฉพาะคุณแม่ เป็นคนที่ตรงไปตรงมามาก มากจนบางครั้งเราเองที่เกรงว่าคำตอบของเรา คำบอกเล่าที่จะมีให้ท่านนั้นเราเกรงว่าเรานะจะทำร้ายจิตใจท่าน(กลัวมากๆ) เพราะท่านบริสุทธิ์ใจกับเรามาก


คือแม้คุณแม่จะเป็นคนที่ตรงไปตรงมา คุณแม่ก็ยอมรับทุกอย่างได้เป็นอย่างดีอีกด้วย คือหากเรานะพลาด ทำ หรือตอบ คำถามของท่าน...ในสิ่งที่ท่านไม่รู้สึกดีด้วย...เรานะน่าจะเป็นคนที่ทำบาปมากมาย คือทำให้คุณแม่ต้องยอมรับสิ่งที่ท่านอาจจะไม่เห็นด้วย...โดยปริยาย


เพราะฉะนั้นเรื่องราวเหล่านี้ระวังมากๆค่ะ(เกรงว่าตนจะล้มเหลว จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ผิดหวังด้วยค่ะ กลัวท่านเสียใจนะ กลัวเป็นบาปด้วยค่ะ)


เคยทำให้ท่านเสียใจมากด้วยค่ะ รู้สึกผิดมากจนถึงทุกวันนี้


โดยปรกติคุณพ่อคุณแม่จะถามว่า...มีคนพิเศษหรือยัง(ตอนนั้นอายุ19-20แล้วนะคะ) ถามในยามที่เราร่วมทานอาหารมื้อเย็นด้วยกันนะ(หนีไม่ได้ หลบหน้าไม่ได้ ไม่ตอบไม่ได้ด้วยค่ะ เป็นวัฒนธรรมที่ท่านใช้...ที่ให้ผลมากๆค่ะ)


ก็ถามคุณแม่ว่า...และที่เขาคนนั้นที่จะมาเป็นเพื่อนพิเศษนี้ต้องหน่้าตาดี ฐานะ การศึกษาเป็นเยี่ยมด้วยหรือไม่คะ(แซวๆท่านเล่นค่ะ ถามด้วยรอยยิ้มนะ5555)


คุณพ่อยิ้มๆเท่านั้น คุณแม่เป็นผู้ตอบ...ก็บอกไปหลายๆครั้งแล้วไงว่า...ตราบใดที่ลูกนะรักเขา และเขารักลูกนั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด


ก็บอกท่านไปว่ายังไม่มีค่่ะ ตอบแล้วก็พยายามหายใจออกลึกๆเงียบๆ ปล่อยๆออกไป5555 (คุยเรื่องนี้เมื่อไรนะ เกร็งเน้อ555)


คุณแม่ก็บอกว่าถึงเวลาแล้วนะที่จะลองๆหาเพื่อนสนิท ที่จะมาเป็นเพื่อนพิเศษ หรือเป็นคู่ชีวิตต่อไปนะ...เพราะต้องใช้เวลาที่ต้องดูใจ แม่ไม่อยากให้อยู่คนเดียวนะ ต่อไปอายุมากอยู่คนเดียวเหงานะ พ่อแม่เป็นห่วง


ก็ตอบว่า...ค่ะ...จะลองพิจารณาดู ท่านก็เงียบไป ยิ้มให้ด้วย คล้ายกับท่านจะไม่ละลาบละล่วงต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้


ต่อมาประมาณร่วมสอง สามปีเรานะก็อายุประมาณ22-23แล้วนะ


อยู่มาวันหนึ่งเป็นช่วงฮออลลิเดย์ ทุกๆคนมีวันหยุด ชวนคุณแม่ไปเที่ยวในเมืองไปช็อปปิ้ง(คืออยากนำเจ้ามือไปด้วย แบบนั้นค่ะ555)


คุณแม่ก็เต็มใจไปด้วย


และความที่เราอยากสนุกกับการเที่ยว และการที่จะได้เข้าไปทานอาหารในร้านต่างๆ หรือเดินชอ๊ปให้สะใจไปเลยวัันนั้นเราไม่ไปด้วยรถส่วนตัว แต่เรานั่งรถไฟเข้าเมือง เราได้เดินเตร่ได้เต็มที่ ให้สนุกแบบสุดๆไปเลยด้วย


และในเมืองที่กว้างใหญ่...เราก็ต้องใช้รถบัส...หรือรถรางซึ่งวิ่งวนในตัวเมือง


มาถึงช่วงหนึ่งเราต้องรอรถราง ที่คิว หรือที่ป้ายรถนะมีผู้คนเยอะแยะที่กำลังรอรถอยู่ ก็มีผู้ชายซึ่งเขาอาจจะเป็นคนรุ่นเดียวกับเจ้าของเม้นต์ หรือว่าอาจจะอายุมากกว่านิดหน่อย


เขานะดูท่าทีมีอัธยาศัยดีมากๆด้วย เขาทักเราขึ้นมา...ทั้งๆที่เขานะเป็นคนที่ดูจะไว้ตัว ถือตัว ท่าทางดูเงียบๆเรียบร้อย แต่งตัวมีไสตล์มาก (แต่เขาก็กล้าออกตัวทักเราออกมา แปลกจังเลย)


เขาถามว่ามาเที่ยวหรือ อยู่ที่ไหน มากับใคร ก็ตอบเขาไปตรงๆ และตบท้ายด้วยว่า...มากับคุณแม่


คุณแม่ยืนอยู่ไม่ห่างนักท่านน่าจะได้ยินชัดเจนนะ ท่านยิ้มรับเมื่อเชายคนนั้นหันไปมองท่านและยิ้มให้ตามที่เราแนะนำว่าท่านคือคุณแม่เรา


และก็บังเอิญในทันทีรถสายที่เราจะไปก็แล่นเข้ามา เราทำท่าจะเดินเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถ เขากล่าวดังๆในทันทีว่า...ผมของเบอร์โทรศัพท์ ขอเฟส ขอไลน์ มีไหมครับ


แต่วินาทีนั้นนะเรากลับตอบทันทีว่า คงให้ไม่ได้ค่ะ ขออภัยนะคะ แล้วก็เดินนำหน้าคุณแม่ขึ้นรถรางไป


เมื่อมานั่งที่เบาะ คุณแม่นั่งข้างๆ สักพักท่านก็ถามเสียงเรียบๆว่า เพราะอะไรจึงไม่ให้เขาไปหล่ะ ดูเขาเป็นคนที่ไม่น่ารังเกียจอะไรเลยนะ เป็นเพราะอะไรหรือจึงไม่ให้


ก็ตอบคุณแม่ว่าก็มีเพื่อนที่ตนกำลังจะพิจารณาให้เขามาเป็นเพื่อนพิเศษตามที่คุณแม่ขอไงคะ จึงต้องเริ่มปิดกั้นตัวเองค่ะ แบบนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดค่ะ(เรานะ มารู้ตัวอีกครั้งรู้สึกว่าเรานะพลาดที่โพล่งออกไป)


คุณแม่ก็ตอบเพียง...เหรอ...แม่ภูมิใจนะที่ลูกเป็นคนเช่นนี้...ด้วยรอยยิ้ม แล้วท่านก็เงียบไป


ต่อๆมาคุณแม่ก็คะคั้นคะยอขอให้นำเพื่อน...ซึ่งเราเองคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่เราจะพิจารณาให้เขาเป็นเพื่อนพิเศษคนนั้น


แต่ก็คุยกับคุณพ่อคุณแม่ไว้ก่อนล่วงหน้าว่า...แค่เพียงลองๆพิจารณาดูก่อนเท่านั้น ขอให้คุณพ่อคุณแม่เชื่อว่าเรานะยังคงเป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันกันเท่านั้นนะ


เมื่อตกลงก็พาเขามาทานมื้อเย็นที่บ้านตามที่คุณแม่เชิญ


ครั้งแรกที่พบหน้าเขานะ ดูคุณพ่อคุณแม่พอใจในตัวของเขามาก ดูจะรักเอ็นดู และยอมรับเขามากด้วย


บังเอิญมากที่เขานะหน้าตาดี ครอบครัวมีฐานะ เขาเป็นศึกษาในระดับปรัญญาเอกในแขนงวิชาที่ยากมากด้วย


และที่สำคัญที่สุดๆคือ เขานะรักเคารพนับถือท่านทั้งสองมากด้วยเช่นกัน...ดูเขาจะมีเคมีที่ตรงกันกับทุกคนในครอบครัวของเราด้วย


ทุกครั้งที่เขามาเยี่ยมบ้านเราดูเขาสนุกสนาน มีความสุข พูดคุยสนทนากับคุณพ่อ คุณแม่ถูกคอ ซึ่งท่านทั้งสองก็มีอาการคล้ายกัน


ทุกอย่างผ่านไป...ด้วยดี เขามาเยี่ยม มาทานอาหารที่บ้านเราบ่อย เราหรือก็ถูกเขานำไปพบคุณพ่อคุณแม่ของเขาทานมื้อต่างๆด้วยกันบ่อยๆด้วยเช่นกัน


หากแต่....สิ่งที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น...คือ เราและเขามีอันต้องจากลา...จากกันไป...ในที่สุด


มีเหตุ(ซึ่งเป็นส่วนตัว)ที่เราต้องจบความสัมพัน์ระหว่างเขาและเราลง...


ช่วงนั้นนะคุณแม่แย่มากๆ คุณพ่อด้วย เขาด้วย เราด้วย แต่ทุกอย่างต้องจบลง...คือมีวิธีเดียวเท่านั้น


คุณแม่นะแม้ท่านจะเสียใจ ผิดหวัง แต่ท่านก็เข้มแข็งมากๆที่จะเข้าใจ และปล่อยวาง...ท่านพยายามมากที่จะเป็นหลักให้เรายึด พยายามให้กำลังใจ และยังให้เกียรติ์เราด้วยโดยการที่บอกว่า...ลูกนะที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเขา หากลูกไม่รู้สึกดีที่จะเดินทางต่อ...แม่ก็จำนน


ทั้งที่พ่อแม่ผิดหวัง โดยเฉพาะคุณแม่ท่านคงจะเสียใจ(เพราะความเป็นแม่นะ ท่านเป็นเพศที่เปราะบางด้วยเราเข้าใจนะ) คุณแม่ห่วงใย แต่คุณแม่ก็ไม่แสดงออก ไม่เคยท้อที่จะให้กำลังใจ ท่านอดทนที่จะเคียงข้างเราตลอด (เพราะความที่ท่านเข้าใจ และเปิดใจ)


ทั้งหมดนี้เป็นเหตุสำคัญที่เคยทำให้คุณพ่อคุณแม่เสียใจ รู้ตัวนะ แต่ด้วยเหตุผล...จึงไม่รู้สึกว่าเป็นบาปค่ะ


และที่ดีหน่อยเขาคนนั้นยังคงเป็นเพื่อนกับเรา เราทักทายกันบ้างบางครั้ง เขาส่งความคิดถึงมาให้คุณพ่อคุณแม่เสมอ(มาวัันนี้เขาลงเอยกับเพื่อนเรา ยินดีด้วยที่เขาเป็นสุขค่ะ)


ทั้งหมดเป็นประสบการณ์...ดังที่ว่า...การที่จะทำอะไร...ด้วย ซึ่งมีคุณพ่อคุณแม่มีส่วนร่วม และแน่นอนท่านห่วงใยเรา แม้ท่านจะเปิดใจ...และยอมรับทุกอย่างที่เราทำหรือเราเป็นได้ในระดับที่สูงส่ง หากแต่ท่านก็เป็นคนนะ (คือท่านก็มีความรู้สึกค่ะ)


คือท่านอาจจะพบความผิดหวัง เสียใจ ได้ด้วยหากเราล้มเหลวหรือผิดหวังค่ะ


อยากแนะนำว่า...จะทำอะไร...ก็ขอให้คิดให้มากๆ ก่อนที่จะพูดกับท่าน หรือก่อนที่จะทำอะไรลงไปค่ะ


อย่างน้อยก็ให้คิดถึงอกคุณพ่อ คุณแม่ให้มากๆนะคะ (ท่านรักเรามาก ท่านก็จะมีส่วนที่จะร่วมทุกข์ทรมานมากหากเราผิดหวัง หรือเราล้มเหลวค่ะ)


จริงแล้ว...คำบอกเล่า...ประโยคดังกล่าวนี้...อย่างน้อยก็ให้คิดถึงอกคุณพ่อ คุณแม่ให้มากๆ นี้นะคะ เป็นวัฒนธรรมคำสั่งสอน...ซึ่งตนนั้นได้เรียนรู้มาจากเมืองไทยค่ะ


เข้าใจว่า...คำสั่งสอนนี้มีค่า มีความหมาย ซึ่งเป็นความจริงอย่างยิ่งยวด...ที่เราๆควรระลึกและปฎิบัติ...เกี่ยวกับความรักของเรา เกี่ยวกับชีวิตอนาคตของเราก็ตามที ค่ะ


เพราะเรามีคุณพ่อ คุณแม่เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมโดยตรงนั้นเองค่ะ



เล่า...ประสบการณ์ให้เด็กวัยรุ่นอ่าน...เพื่อแบ่งปัน



เรื่องเล่า...ที่ยาวๆมว๊าก จะอ่านไหวหรือไม่...นะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png



สุดท้าย...เม้นให้ตรงนี้...


...เดียว่(ท่)านไม่สบายใจ รอให้คนที่ใช้มาทำให้ผมสปาร์คดีกว่าเนาะ....ของคุณด้วยค่ะ



5555 คุณเป็นผู้ชายก็พูดได้สิคะประโยคนี้



เป็นผู้หญิงพูดแบบนี้ไม่ได้ค่ะ ไม่เหมาะสมค่ะ


ใครจะมาทำอะไรให้...ก็พูดไม่ได้ค่ะ ฮื้อออ


จะใช่ ไม่ใช่นะก็ต้องรอ...ให้ชะตา...เป็นผู้ลิขิต...เป็นวิธีเดียวเท่านั้นค่ะ



https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-03.png



0
เดินวน 28 ก.พ. 61 เวลา 22:09 น. 3-3

ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆครับ ปล. ผมอ่านหมดน่ะครับ

0