Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ช่วยเราที.....เราสับสน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ช่วยเราที.......
เรารู้สึกเหมือนเราจิตไม่ปกติ....
เรารู้สึกเหมือนตัวเราเป็นโรคจิต...
บางครั้งเรามีความรู้สึกอยากตายมากๆ ทั้งที่ก็ไม่มีอะไรเลย....
เราไม่ชอบให้ใครมาห่วงเรา เพราะบางทีเรารำคาญ เราไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัว เพื่อนส่วนใหญ่จะคบเราได้ไม่เกิน1ปี....
เราอยากผลักทุกคนออกจากชีวิต....
เราไม่อยากให้ใครมารักมาห่วงเราอีก เพราะพวกเขาจะผิดหวัง...
คนที่ทำให้เรายิ้มได้ เขามักจะทำให้เราร้องไห้ได้เสมอ....
ไม่มีใครเข้าใจเรา แต่เราเข้าใจเขา เขาบอกว่าเราติสท์ แต่ว่าเราว่าเราไม่ติสท์
เรามักเบื่อทุกอย่างรอบตัว สิ่งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต กำลังถูกพังลงช้าๆ...
เราไม่ได้อกหักเพราะเราไม่มีแฟน...
เราไม่อยากอยู่ แต่เราก็อยากอยู่
เราอยากตาย แต่เราก็ไม่อยากตาย
เราไม่อยากทำ แต่เราก็เผลอทำ
เราเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่เราก็อดทนได้
เราสับสน.....สับสนมาก....สับสนมากๆ...สับสนฉิบหาย 
ตอบเราที่ว่าเราเป็นอะไร. แนะนำหมอหรือรพ.ก็ได้นะเรารับมือตัวเองไม่ไหวแล้ว...
มันไม่ได้เป็นแค่ที่บ้าน มันเป็นที่โรงเรียนด้วย....
เราเหนื่อย และเราอยากตายอีกแล้ว.....

แสดงความคิดเห็น

4 ความคิดเห็น

Marie_Antoinette 14 ก.พ. 62 เวลา 22:33 น. 2

เป็นโรค Schizophrenia หรือเปล่าก็ไม่รู้สิ....

แต่คิดว่าถ้าอยากรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ก็ต้องลองคุยกับจิตแพทย์ หมอเค้าดูออกว่าเป็นโรคอะไร

0
HGD350 15 ก.พ. 62 เวลา 00:21 น. 3

สวัสดีค่ะ...พึ่งเคยตอบคอมเมนต์ของคนอื่นเป็นครั้งแรก หากผิดพลาดอะไรตรงไหนก็ขอโทษด้วยนะคะ


คือเรื่องมีอยู่ว่า "หนูก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยทางจิตเวชเหมือนกันค่ะ" ก็เลยคิดว่าอาจจะพอจะเข้าใจความรู้สึกบ้างส่วนหนึ่ง


เพราะเรื่องเกี่ยวกับจิตมันเป็นเรื่องของนามธรรมค่ะ เราไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดหรือตัวอักษรได้ทั้งหมดหรอกหนูเข้าใจ


หนูอายุ15ปี เป็นผู้ป่วยอย่างเป็นทางการตอนอายุ13ปีค่ะ


แต่การฆ่าตัวตายครั้งแรกของหนูเริ่มขึ้นตอนป.3ยาวมาเรื่อยๆจนตอนนี้เริ่มจะหายดีขึ้นบ้างแล้วค่ะ


หนูรักษากับคุณหมอคนหนึ่งในโรงพยาบาลศิริราชแผนกจิตเวชเด็กและวัยรุ่นอ่ะค่ะ แต่หนูไม่ทราบว่าพี่อายุเท่าไหร่ หนูก็เลยตอบไม่ได้ว่าควรเริ่มที่ไหนเป็นจริงเป็นจัง


แต่ครั้งแรกที่หนูเริ่มคือ...ลองไปปรึกษาคุณหมอทั่วไปดูก่อนค่ะ(ไม่จำเป็นต้องโรงบาลจิตเวชก็ได้) ลองบอกว่าเรามีความคิดแบบนี้ๆ มีความรู้สึกแบบนี้ๆ มีอาการแบบนี้ๆ


หรือไม่ก็ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับจิตเวชดูก่อนค่ะ ว่าอาการเราใกล้เคียงหรือไม่


โรคทางจิตเวชจะแบ่งได้โดยคร่าวๆประมาณ 3 แบบหลักๆค่ะ


1 คือ โรคจิตเวช อาการคือ หูแว่ว เห็นภาพหลอน การกระทำผิดปกติ ความคิดผิดปกติและอันสุดท้ายจำไม่ได้(กรรม....)

2 คือ โรคซึมเศร้าค่ะ ชื่อก็ตรงตัวเลยคือ ซึมเศร้า (ปล.โรคยอดฮิตค่ะ 555+)

และ3คือโรคไบโพร่าค่ะ คือ มีช่วงที่ขึ้น(ร่าเริงผิดปกติ)และช่วงที่ลง(คือเป็นซึมเศร้าค่ะ)


ของหนูเป็นโรคซึมเศร้ากับคนหลายบุคคลิกค่ะ


เขียนแล้วคงจะยาวแต่ก็อยากเขียนค่ะ เพื่อใครมาอ่านแล้วจะได้มีกำลังใจ


เริ่มแรกชีวิตของหนูก็เป็นชีวิตที่ปกติสุขดีค่ะ มีคุณพ่อมีคุณแม่มีเงินมีทุกๆอย่าง


ในอดีตตอนที่หนูเด็กๆ(สมัยอนุบาล)หนูเคยคิดเสมอว่าชีวิตของหนูเนี้ย...มันช่างดีเลิศประเสริฐศรีอะไรเช่นนี้


จนกระทั้งวันหนึ่งซึ่งก็ดูเป็นวันปกติธรรมดาวันหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างก็ค่อยๆเปลี่ยนไป...


ตอนนั้นหนูอายุประมาณ 3 ขวบ สมัยนั้นยังอยู่ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น(พ่อกับแม่ทำงานที่นั่นก็เลยได้เรียนอนุบาลที่นั่น)วันนั้นเราได้ยินเสียงพ่อกับแม่ทะเลาะกันดังมากอยู่นอกห้องนอน


จากนั้นแม่กับพ่อก็เข้ามาทะเลาะกันในห้อง....ต่อหน้าต่อตาเรา พวกเขาทั้งด่าทอแล้วก็ตบตีกันจนเลือดอาบ...


นั่นคือครั้งแรกที่เราเริ่มรู้แล้วว่า...ชีวิตมันไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ


จากนั้นมาขึ้นชั้นประถม ครอบครัวเราย้ายถิ่่นกลับมาอยู่ที่ไทยหนูก็เลยได้มาเรียนอยู่ที่นี่


ป.2 (ขอไปเร็วขึ้นอีกนิด) -พ่อกับแม่แยกทางกันอย่างชัดเจน คำพูดติดหูคือ "-จะอยู่กับแม่-หรือจะอยู่กับกู!!!" พ่อหนูได้กล่าวไว้


ป.3 -แม่หนีออกจากบ้านพาเรามาอยู่บ้านเพื่อนที่รู้จักของคุณเธอ

-แม่ชอบบอกว่าเราเหมือนพ่อและเริ่มเหวี่ยงใส่ เพราะช่วงนั้นนางไม่ค่อยมีเงิน

-พ่อเมื่อรู้ก็เลยหนีไปอยู่ต่างจังหวัด กลายเป็นว่าแยกกันอยู่และช่วงที่ปิดเทอมต้องไปหา

-เมื่ออยู่กับพ่อ พ่อบอกว่าทำไมเรานิสัยเหมือนแม่???

-คำพูดแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นคือ "กูจะทิ้ง-เหมือนกับแม่-" พ่อเราได้กล่าวไว้

-เป็นครั้งแรกที่เริ่มรู้สึกเกลียดตัวเองขยะแขยงตัวเองและเริ่มหันมามองตัวเองอย่างจริงจัง

-แม่พาญาติห่างๆของนางมาอยู่ด้วย(ตามไสตล์คนอีสานที่ต้องมีพรรคมีพวกมีพี่น้อง)

-ญาติเริ่มจับผิดโยนความผิดมาให้เรา

-แม่ก็เชื่อ...เชื่อใครคะ? เชื่อญาติค่ะ แล้วนางก็มาลงที่เรา

-จากนั้นก็ย้ายบ้าน

-เริ่มมีความคิดที่จะฆ่าแม่

-และที่น่ากลัวคือไม่ใช่แค่แม่แต่ลามไปถึงคนรอบๆตัว

-ทางแก้ปัญหาในตอนนั้นคือ พึ่งจินตนาการค่ะ จินตนาการสูงมากจนสามารถหลุดเข้าไปในจินตนาการของตัวเองได้ พูดกับตัวเองที่ไม่ใช่ตัวเองได้

แล้วอีกอย่างคือระบายกับเพื่อนสนิทที่มีเพียงคนเดียว


ป.4 -ญาติเริ่มทำพิษหนักเมื่อพวกนางเริ่มใจแตก หนีตามผู้ชายกันเป็นว่าเล่น

-นำพามาสู่การท้องไม่มีพ่อ...คือวุ่นวายมาก

-แล้วเมื่อพวกนางมีสามีก็นำสามีเข้าบ้าน

-จากนั้นเราก็โดน1ในสามีของพวกนางทำอนาจาร

-เก็บเงียบค่ะ...พูดไปก็ไม่เชื่อ

-เริ่มความคิดอยากตายอย่างจริงจัง

-แต่ก่อนตายเคยโดนเพื่อนดักไว้ก่อนตอนป.3ว่า "เราต้องไปเที่ยวรอบโลกด้วยกันก่อนแล้วถึงตายได้"

-เริ่มแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งที่ได้รู้จัก

-ใช้ชีวิตปกติมาเรื่อยๆจนกระทั่ง...

-เพื่อนเสีย...และคนที่แอบชอบพาแฟนมาอวด

-แทบจะเป็นบ้า ร้องไห้ทั้งวันไม่มีหยุด 3วันติด แล้วก็ขังตัวเองอยู่ในจินตนาการ

-จากนั้นก็เริ่มทำใจได้และได้แนวคิดมาจากตัวตนคนหนึ่งในจินตนาการว่า "ลองมองโลกให้มันสวยงามดูสิ" มาช่วยประคับประคองจิตใจ

-แต่สุดท้ายก็ระบายออกด้วยการไปไล่ฆ่าแมวข้างถนนอยู่ดี(ดีนะไม่โดนจับ)


ป.5 -ช่วงเวลาของการโดดเดี่ยวและหมกหมุ่นกับจินตนาการ

-ได้โลกใบใหม่ในจินตนาการขึ้นมาอีกหนึ่งใบ (Iden world)

-จนกระทั้งได้พบกับเพื่อนสนิทคนใหม่

-เริ่มผันตัวเป็นคนสายฮาและมองโลกในแง่ดี

-ญาติเริ่มคลอดลูก

-เด็กๆเริ่มโต

-และสร้างปัญหาแบบไม่จบไม่สิ้น

เกลียดที่สุดเลย...-คำว่าก็เขาเป็นเด็กของแม่ ในตอนที่มันเอาชีทเรียนของเราไปฉีกเล่น

-เริ่มพูดคนเดียวบ่อยขึ้นและเกลียดตัวเองมากขึ้น

-เก็บกดมากขึ้น


ป.6 -ใกล้สติแตกอีกครั้ง เบื่อคุณแม่ที่เห็นแต่ญาติกับเพื่อนสนิท ไม่เห็นหัวลูกตัวเองเลย

-ด้วยความที่นิสัยพ่อกับแม่นั้นต่างกันราวกับฟ้าดิน มันเลยทำให้เรามองแม่ว่าเป็นคนโลกสวย...

-เกลียดแม่

-เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า "เกิดมาทำไม"

-เริ่มรู้สึกว่าหลอกตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป


ม.1 -ผลที่ได้คือเริ่มปวดหัวเป็นระยะ และวันที่ปวดหัวจนแทบระเบิดทุกครั้งคือตอนที่พ่อกับแม่โคจรมาพบกัน

-เข้าโรงบาล

-คุณหมอแนะนำให้เอ็กซเรย์สมองดูปรากฎว่า ปกติ

-ก็เลยโยงมาที่จิตใจแทนปรากฏว่าใช่

-ส่งให้หมอจิตเวช

-คนแรกเป็นผู้หญิง นางก็เริ่มรักษา

-รักษาไปรักษามาเผลอหลุดพูดถึงเรื่องโดนลวนลาม

-นางก็เลยรีบจังเราออกมาจากแม่แล้วไปอยู่กับพ่อแทน

-เรื่องกลายเป็นว่า...เราป่วยที่โดนลวนลวน ทั้งๆที่จริงคือเป็นเรื่องครอบครัว

-ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล


ม.2-ย้ายมาอยู่กับพ่อแบบเต็มตัว

-พึ่งตระหนักรู้ว่าทรมานกว่าแม่อีก

-เพราะพ่อเราเป็นคนแรง อารมณ์ร้อนและก็เจ้าระเบียบสุดๆ ไม่มีใครในครอบครัวทั้งฝ่ายพ่อกับฝ่ายแม่เราที่อยู่กับพ่อเราได้เลย แถมยังขี้บ่น ช่างจับผิดแล้วก็เอาตัวเองเป็นใหญ่ที่สุดในโลก ขี้เหนียว - ขวานผ่าซาก

ตัวเองถูกที่สุด ก็นิสัยโดยประมานนี้

-พยายามคิดนะ ว่าแกแก่แล้ว(พ่อ71 แม่ 61) แต่มันก็ไม่ไหว คือแกบ่นทุกๆวินาทีเลยอ่ะ

-ปวดหัวมากแล้วก็รำคาญ สะอิดสะเอียนแทบสุดใจ แค่หน้ายังไม่อยากจะมอง

-ติดยูทูปหนักขึ้น(ดูพี่เอกเป็นกำลังใจ)เข้าไปในจินตนาการบ่อยขึ้น เริ่มไม่อยากไปโรงเรียน เริ่ม...เบื่อ

-ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งเบื่อยิ่งเกลียดโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น พาลให้เกลียดคนทั้งโลกไปด้วยแบบไม่มีสาเหตุ

-แต่ก็อดทนไว้ พยายามยิ้มสู้ มองโลกให้เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ ส่งยิ้มให้กำลังใจกับตัวเองในกระจกบ่อยๆ



ม.3 -เริ่มรู้สึกว่า ทุกๆการกระทำของตัวเองมันเป็นเรื่องตอแหล

-ไม่กล้ามองตัวเองในกระจก

-เริ่มรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด

-จนวันหนึ่งทนไม่ไหวอีกต่อไปเราระเบิดทุกอย่างออกมา ผลิกจากหน้ามือเป็นหลังตีน

-จากที่เคยเป็นคนช่างอดทนก็ตบะแตก เริ่มทำลายข้าวของ เดินกระแทกเท้า ทำร้ายหมาที่เลี้ยงไว้เหมือนลูกแท้ๆ แล้วก็เริ่มสนุกไปกับการทรมานสัตว์ต่างๆ

-เริ่มพูดสอเสียดประชดประชันแบบที่พ่อพูดกับเรา เริ่มแสดงความรู้สึกและอารมณ์ที่รุนแรง

-เริ่มพูดหยาบคาย ไม่เห็นหัวใครทั้งสิ้น แล้วก็ด่าท้อต่อว่าจิกกัด ทำร้ายคนที่เริ่มมีปัญหากับตัวเอง(โดยหลักๆแล้วจะเป็นพ่อ)

-จนกระทั้งคล้ายจะกลายเป็นบ้า สุดท้ายทางครอบครัวญาติฝ่ายพ่อต้องมาจับตัวเราไปโรงบาล เพราะเราเริ่มจะพูดไม่รู้เรื่องขึ้นทุกวัน

-ปรากฏเราได้กินยาไม่รู้อะไรบ้างไปกว่า 10 กว่าเม็ดเกือบ 20 หมอล้างท้องส่งเราเข้าแอดมิด แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิด

-คุณเคย reset ตัวเองบ้างรึเปล่า?

แล้วเราก็ตื่นมาอีกที่แบบคนที่ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย

-ใช้ชีวิตแบบว่างเปล่าต้องเรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิตใหม่หมด ตั้งแต่อาบน้ำ กินข้าว การพูดคุย สื่อสารไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวัน สรุปอยู่ในโรงบาบประมาณ 2 อาทิตย์

-เมื่อพอจะอยู่ตัวแล้วก็ออกไปหาประสบการ์ข้างนอก

-ใช้เวลากว่า 2 อาทิตย์จึงได้ความทรงจำกลับมา

-พอความทรงจำกลับมาแล้วก็ยิ่งร้าวขึ้นกว่าเดิม

-พ่อกับเราทะเลาะกันจนเราเกือบจะฆ่าท่านไปแล้วถ้าไม่มีใครแจ้งตำรวจให้บุกเข้ามาก่อน

-โดนจับส่งโรงบาลธนบุรี คราวนี้เป็นอาการที่คล้ายๆกับที่พี่เขียน คือ มีแค่3อารมณ์เท่านั้น 1เบื่อ 2เฉยๆ 3หงุดหงิด

-เป็นครั้งแรกที่รู้สึกราวกับตายทั้งเป็น ชีวิตที่ไม่อาจรู้สึกอะไรได้เลยนอกจากสามอย่างนี้มันทรมานมากนะ

-ประจวบเหมาะกับระบบจินตนาการที่เราสร้างไว้เริ่มรวน จินตนาการที่เราคิดว่าไม่มีอยู่จริง จู่ๆก็ออกมาได้โดยที่เราไม่รู้ตัว

-เบ็ดเสร็จมีทั้งหมด 9 บุคคลิกด้วยกันที่ออกมา(รวมเราด้วย) ทั้งหมอทั้งเราตะลึกกันมากเมื่อได้พบเจอจุดนี้

-หมอก็เลยถามเราว่า เรายังพอติดต่อกับคนในโลกจอนตนาการได้ไหม? หมออยากให้เรามีสติแล้วก็มีแค่เรา หมอพยายามให้เราเลิกนึกถึงพวกเขาแล้วก็ให้เราค่อยๆลืมพวกเขาไป

-ทุกสิ่งทุกอย่างคงจะดี ถ้าทุกๆบุคคลิกหายไปหมดแล้ว

-แต่มันมีอยู่บุคคลิกหนึ่งที่ไม่ยอมหายไปเสียที เราเรียกเขาว่า the last

ดูเหมือนเป็นนิยายเลยเนอะ แต่มันคือเรื่องจริงค่ะ...สาบาน


เราก็เลยอยากมาให้กำลังใจพี่ว่า...พี่คิดว่าความปกติเนี้ย...มันคืออะไรกันแน่??


คนแบบไหนที่เรียกว่าปกติ มีมือมีตีน หน่วยก้านครบ32องค์ประกอบ


มีเสื้อผ้าใส่ มีหน้าที่การงาน พูดจารู้เรื่อง หรือมีบ้าน มีเงินทอง


คนเรามันมีร้อยแปดละค่ะ โบราณว่าไว้... มีเป็นร้อยยังไม่พอ เกินมาแปดอีก!


เพราะฉะนั้นพี่ไม่ต้องไปตามหาอะไรมากหรอกค่ะชีวิตนี้ แค่ตื่นขึ้นมาใช้ชีวิต หาอะไรทำสนุกๆ ดูยูทูปเล่นเกมส์ ดูสารคดีดูละคร ออกไปเที่ยวข้างนอก เดินห้างตากแอร์ ชีวิตมันก็มีแค่นี้แหละค่ะ ทำยังไงให้ตัวเองอยู่รอดไปได้ในวันพรุ่งนี้ "ชีวิตยังไม่สิ้นก็ดิ้นไป...ดินกลบหน้าเมื่อไหร่ก็จบกัน"


เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอบพระคุณค่าาาาาาาา ที่เข้ามาอ่าน(จนจบ...)



0
Behind_mist 14 มี.ค. 62 เวลา 02:48 น. 4

ก่อนอื่นใจเย็นนนนน

1.ลองหาที่ปรึกษาทางใจดู เวลารู้สึกว่าทำไรแปลกๆก็ปรึกษาเค้าดู ใครก็ได้ที่คุยได้ จิตแพทย์ก็ได้ เพื่อน พ่อแม่ญาติพี่น้อง หรือถ้าไม่อยากเล่าให้เค้าฟังก็หาpenfriendคนที่ไม่รู้จักคุยก็ได้เล่าปัญหาชีวิตไป (หาไม่ได้ทักเราก็ได้)

2.อย่าพึ่งอยากตายชีวิตมีไรอีกเยอะ

3.การที่มีคนเป็นห่วงอะมันดีนะ มันแปลว่าเค้ารักแกอยู่

4.ส่วนเรื่องเพื่อนที่คบได้ไม่เกินปีนี่ชอบอยู่คนเดียวใช่ม้ะ อยู่คนเดียวแล้วมีความสุข???

"ฟังนะถ้าอยู่คนเดียวแล้วมีความสุขก็อย่ามีเพื่อนเลยเพราะมันจะทำร้ายจิตใจเพื่อนเค้าจะคิดว่าทำไมเค้าไม่ดีหรอทำไมเพื่นคนนี้ไม่ทำดีกับเค้าตอบมั่ง แต่ถ้าอยากมีเพื่อนแกก็ทำดีกับเค้าสินึกอะไรไม่ออกก็เริ่มแค่คุยดีๆ"

5.อยู่คนเดียวบนโลกได้หรอเหงานะ

6.ที่บอกว่าถ้าคนอื่นรักแล้วห่วงจะผิดหวัง ทำไมต้องผิดหวังอะ รักก็อยากให้ยิ้มได้อยากให้มีความสุขนะแค่นี้ไม่ได้หวังอะไรตอบแทนซะหน่อย

7.ทำให้ยิ้มได้ก็ทำให้ร้องไห้ได้ ก็จริงแหละแต่เดี๋ยวเค้าก็ทำให้เรายิ้มอีกได้นะแต่ถ้าเค้าทำเราร้องไห้บ่อยๆเลิกคบนะ^^ก็แค่อยู่ห่างๆจะได้ไม่ต้องร้องบ่อยๆคุยเท่าที่จำเป็น

8.ไม่มีใครเข้าใจ เฮ้อออ เราก็เป็น เรื่องมันเศร้าอะนะ เค้าจะบอกว่าแกเป็นยังไงก็เรื่องของเค้าเหอะเอาเป็นว่าแกรู้ตัวว่าแกเป็นแบบไหนชอบอะไรเป็นพอ(อยากมีคนเข้าใจกลับไปอ่านข้อแรก) เราพูดอะไรเค้าก็จะทำเหมือนเราเป็นธาตุอากาศTT

9.ที่บอกว่า เบื่อทุกอย่างรอบตัว สิ่งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต กำลังถูกพังลงช้าๆ เราไม่รู้หรอกว่าส่วนหน่องของชีวิตของแกคืออะไร แต่ว่า แกบอกว่าส่วนหนึ่งของชีวิต แปลว่าในชีวิตแกยังเหลือส่วนอื่นๆอีกใช่มั้ยเล่ายิ้มไว้

10.ไม่อกหักเพราะไม่มีแฟนอะถูกแล้ว

11.อยากตาย แต่ก็ไม่อยากตาย (เลือกให้:ไม่อยากตายดีกว่า)

12.ไม่อยากทำ แต่ก็เผลอทำ(ปกติ^^ก็มันเผลออะน้าาาาา ไม่ได้ตั้งใจ)ว่าแต่ทำไรหรอ???

13.อารมณ์ร้อน แต่ก็อดทนได้(อันนี้ทุกคนเป็น ทุกคนก็มีขัดจำกัดของความอดทนถ้าแกอดทนจะถึงขีดแล้วแกก็จะเริ่มหัวร้อน)

14.เหนื่อย? อยากตาย? เราก็เคยเป็นตอนที่ทุกเรื่องเข้ามาพร้อมกันรับมือไม่ไหวแต่ตอนนั้นก็เพราะไม่มีใครรับฟัง(กลับไปอ่านข้อ1)หาคนช่วยรับมือดูแล้วแกจะสบายใจขึ้น อย่างน้อยก็มีคนช่วยแกคิดแกจะได้เหนื่อยน้อยลง

----------------------------------------------------------------------

ตอบแล้วนะ

ปล.อ่านแล้วตอบด้วยนะจะได้รู้ว่าอ่านแล้ว

0