Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

จะมีใครเข้าใจหนูบ้างไหม

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ หนูเขียนกระทู้นี้ขึ้นเพื่อระบายอารมณ์ของสถานการณ์ในตอนนี้ และ เพื่อขอคำปรึกษาพี่ๆทุกคนนะคะ

ก่อนอื่นหนูก็จะขอเล่าเรื่อง ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในเหตุการณ์นี้ให้ฟังก่อนนะคะ

เหตุการณ์มันเกิดขึ้น เริ่มจากการที่หนูเรียนจบม.3 แล้วต้องศึกษาม.ปลายต่อ ทีนี้เราก็ต้องเลือกว่าจะอยู่สายวิทย์ หรือว่าสายศิลป์ ซึ่งหนูเองได้โควต้าห้องพิเศษ(ห้องคิง)สายวิทย์คณิต แต่ส่วนตัวแล้วหนูชอบสายศิลป์-ภาษามากกว่า แต่ด้วยความที่โรงเรียนของหนู ไม่มีสายศิลป์-ภาษา มีแต่สายศิลป์-คำนวณ ก็เลยตัดสินใจเลือกสายวิทย์-คณิตไป ด้วยความที่เข้าใจว่า “ถ้าเลือกสายวิทย์-คณิต โอกาสการเข้ามหาลัยจะมีมากกว่า” (ซึ่งปัจจุบัน ณ ตอนนี้ หนูคิดว่ามันไม่จริงเลย ถ้าเราไม่ได้อยากจะต่อสายวิทย์ในระดับอุดมศึกษา จริงๆ) นั่นแหละค่ะ คือจุดเริ่มต้น ของการเริ่มต้นของปัญหาในทุกๆอย่างที่รามมาจนถึงทุกๆวันนี้ หนูตัดสินใจเลือกสายวิทย์-คณิต แต่ว่าได้ขอผู้อำนวยการว่า “ถ้าหนูเรียนไม่ไหวจริงๆ และมันไม่ใช่ทางของหนูจริงๆ หนูจะขอเปลี่ยนสานการเรียนตอนม.5นะคะ” และบทสนทนาทั้งหมดนี้ท่านผู้อำนวยการได้รับทราบในทุกๆอย่าง และได้กล่าวตกลงกับหนูเป็นที่เรียบร้อยว่าจะอนุญาต หากหนูไม่ไหวจริงๆ ตลอดเวลาที่เรียนม.4 มีทั้งสุข ทั้งทุกข์ค่ะ คะแนนที่ออกมาเป็นไปตามที่คิดไว้ กลุ่มสาระการเรียนต่างๆ *ที่ยกเว้นวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์* เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคม ฯลฯ หนูทำคะแนนได้ดีมาก และได้เกรด4ทุกตัว แต่วิชาที่เป็นวิทยาศาสตร์ เช่น เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ หนูได้เกรด1 ค่ะ ใช่ค่ะ หนูได้เกรด1 ซึ่งแน่นอนค่ะว่า วิชาพวกนี้ หน่วยกิตเยอะกว่าเห็นๆทำให้หนูได้เกรดเฉลี่ยน้อยลงมากๆ (แต่ยังดีที่พอมีวิชาอื่นๆมาช่วยบ้าง) หนูตัดสินใจกัดฟันสู้ ลองเรียนดูอีกสักเทอม ปรากฏว่า มันก็เหมือนเดิมค่ะ ตั้งใจแล้วก็ยังเหมือนเดิม สอบตกเหมือนเดิม พอปิดเทอมขึ้นม.5 (ด้วยความที่รร.ของหนูบังคับนักเรียนม.ปลายเรียนซัมเมอร์ทุกคน และเก็บคะแนนเหมือนเปิดเรียนปกติ) วันแรกของการเรียน หนุตัดสินใจไปคุยกับผู้อำนวยการ แต่ว่าผู้อำนวยการท่านนี้ ไม่ใช่คนเดิม ที่รับรู้ว่าหนูจะย้ายสายการเรียนตอนม.5 ถ้าหนูไม่ไหว เพราะเหตุผลที่ว่าท่านผู้อำนวยการคนเก่า ต้องย้ายไปประจำตำแหน่งที่รร.อื่น อย่างกะทันหัน จึงมีการเปลี่ยนผู้อำนวยการท่านใหม่เข้ามาแทน หนูก็เข้าไปคุยกับท่านค่ะ บอกถึงปัญหา บอกเหตุผล บอกทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นตลอด1ปีการศึกษาที่ผ่านมาตอนม.4 รวมถึงข้อตกลงต่างๆที่หนูเคยตกลงกับผู้อำนวยการท่านเดิมด้วยค่ะ แต่คำตอบที่หนูได้ ท่านกลับพูดว่า หนูไม่พยายาม หนูไม่เก่ง หนูแย่เอง ทำไมคนอื่นจึงเรียนได้? และใช่ค่ะ หนูไม่สามารถย้ายสายการเรียนค่ะ
ความรู้สึกวันนั้นเหมือนโลกเป็นสีเทาเลยค่ะ ทุกอย่างดูมืดมน
หนูรักภาษามากๆ และการเรียนสายวิทย์-คณิต มันทำให้หนูรู้สึกว่าเหมือนหนูไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ หนูรักภาษามาก ชอบที่จะเรียน ชอบที่จะพูด ชอบที่จะคุยกับชาวต่างชาติ แต่ทำยังไงได้ล่ะ เราไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว มันมีแต่เดินหน้า หนูเลยตัดสินใจ เอาวะ!! สู้อีกครั้งหนึ่งก็แล้วกัน แต่ขอบอกก่อนนะคะว่า ม.5เปลี่ยนคุณครูสอนบางรายวิชา ซึ่งรายวิชานี้ งานแก้เยอะมากๆถ้าสอบตก ตัวอย่างเช่น สอบตก1ครั้ง มี10ข้อ วิธีทำล้วน ถ้าสอบตกต้องแสดงวิธีทำ2ชุด เพื่อแลกกับ1คะแนน และเกณฑ์ผ่านคือ60%ค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าหนูตกค่ะ เพราะเป็นวิชาที่หนูไม่ถนัดเลย ตัวหนูไม่เก่งคำนวณเลย อาศัยการจำสูตรเอา แล้วก็แทนค่า และคำนวณดู ผิดถูกก็คำนวณตอบไป เพราะมันมืดแปดด้าน อ่านอะไรไปก็ไม่เข้าหัว แล้วพอหนูตกงานแก้ก็เยอะขึ้นๆๆค่ะ พอเทอม2ติด0วิชานี้ค่ะ เพราะคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ที่เขากำหนดไว้ (แต่เดิมแล้วตอนเทอม1 จะมีรายงาย ที่อารมณ์แบบว่าลอกโจทย์ แสดงวิธีทำหาค่าออกมา ทำเป็นรูปเล่ม ใส่สันส่งเป็นคะแนนช่วย 10 คะแนนค่ะ แต่เทอม2 ยกเลิกรายงานไปแล้วค่ะ จึงเอาคะแนนสอบล้วนๆเลยค่ะ ตกคือตก ได้เท่าไหร่ก็เอาคะแนนเท่านั้น ) นั่นแหละค่ะ จำได้เลยค่ะว่าเรานั่งทำงานแก้เป็นพันๆข้อ ซึ่งนั่นก็คือลอกโจทย์แสดงวิธีทำล้วนๆค่ะ นั่งทำตั้งแต่6โมงเย็นยัน9โมงเช้าของวันถัดไปค่ะ ใช่ค่ะ หนูไม่ได้นอนค่ะ นั่งปั่นงานจนเสร็จค่ะ นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ยิ่งทำให้เกลียดวิชานี้ขึ้นไปอีกค่ะ ตอนนี้ขึ้นม.6แล้ว (ตอนม.5หนูไปสอบทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนค่ะ ปรากฏว่าติดตัวจริง และได้ตัดสินใจไปต่างประเทศ และคิดว่าจะกลับมาซ้ำม.6 เพื่อเอาวุฒิจบม.6 ของประเทศไทย และส่วนตัวแล้ว ตัวหนูเองอยากเข้าอักษร จุฬาฯ ภาคปกติมากๆค่ะ ไม่อยากเข้าอินเตอร์ เพราะว่ามันแพงเกินไป ) ขึ้นม.6 มาพร้อมความกดดันค่ะ ทุกคนคาดหวังกับห้องพิเศษมากๆ รวมถึงบางวิชาก็เข้มข้นมากๆ ถึงขั้นที่ว่าให้ไปหาโจทย์ข้อสอบ PAT มาแสดงวิธีทำหน้าห้อง และสอนเพื่อนๆ และเนื้อหาที่เรียนอยู่ ซึ่งก็ยากมากๆ ทำให้มันยิ่งยากมากๆสำหรับตัวหนูไปอีก จนการสอบเก็บคะแนนย่อยหรือเรียกสั้นๆว่าเทสย่อย ได้เริ่มขึ้น แน่นอนค่ะว่าครุออกสอบ ออกข้อสอบห้องพิเศษยากกว่าห้องปกติ และเป็นข้อสอบเขียนหมดเลยค่ะ วิธีทำล้วนๆ และยังแจกกระดาษทดเป็นกระดาษ A4 โล่งๆ ซึ่งหัวมุมด้านบนมีเลขที่ติดไว้อยู่ค่ะ วันนั้นเป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุดมันถาโถมเข้ามา มีการนัดสอบ หนูอ่านหนังสือไม่ทัน มีประจำเดือน และก่อนมารร.มีปัญหากับคุณแม่นิดหน่อยเรื่องเอกสารประกอบการไปแลกเปลี่ยน จึงทำให้หนูรู้สึกแย่ ตอนสอบ หนูจำได้ว่าหนุเผลอเขียนคำหยาบลงไปด้วยดินสอใส่กระดาษคำตอบ(แต่มันเป็นภาษาที่เป็นภาษาแสลง ใช้กันในหมู่คนกลุ่มน้อย อารมณ์เหมือนคำผวนค่ะ) และบังเอิญอยู่ใต้เลขที่ ด้วยความที่สับเพร่าและลืมลบ หนูเดินไปส่งข้อสอบ ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ไม่ได้รู้สึกว่าเราทำอะไรลงไป
จนมาถึงวันบอกคะแนนสอบ ครูบอกคะแนนทุกคนและบอกเราเป็นคนสุดท้าย แน่นอนค่ะ เราได้0 หลังจากนั้นครูท่านนี้จึงแจกข้อสอบให้เพื่อนๆได้เช็คดูอีกทีว่าเหตุใดถึงได้คะแนนเท่านี้ แต่ครูไม่แจกกระดาษของเราค่ะ เราจึงตัดสินใจเดินไปถามครูว่าทำไมไม่แจกให้เรา เขาพูดกลับมาว่า แจกไปทำไมครับ ผมให้คุณติด0 ทั้ง2 เทอม แจกไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
(ก็คือว่า พอบอกคะแนนเสร็จ เขาก็พูดว่าเรา ขึ้น-กู ใส่ไมโครโฟน และต่อหน้าเพื่อนทั้งห้องของเรา และบอกว่า สอบครั้งนี้ให้เรา0 ถึงเราจะแก้เหมือนเพื่อนที่สอบตก เราก็จะได้0เหมือนเดิม และถ้าเราไม่ส่งงาน เราจะติด ร. แต่ถึงยังไงเราก็ได้0 เขาด่าเราว่า “-ทำไม่ได้ -ไม่มีสิทธิ์มาเขียนอะไรแบบนี้ใส่วิชากู แล้วก็อะไรอีกนี่แหละค่ะ เราไม่ได้ตั้งใจฟัง คือในข้อความที่เผลอเขียนไป เราไม่ได้ด่าเขา และเราทำไม่ได้เราเลยหัวร้อน ด่าแค่ตัววิชา ไม่ได้ตั้งใจจะด่าเขา เหตุมันมาจากเราเองที่ลืมลบ จากนั้นเราจึงไปขอโทษเขา เขาก็ไม่รู้ว่ารับคำขอโทษเรารึเปล่า แต่ทำหน้ายิ้มอ่อนใส่เรา เขาพูดให้ว่าเราตั้งใจเขียนให้เขาเห็น และเขาไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย มีแต่บอกให้เราติด0 อย่างเดียวเลย ) กลับมาบ้านเราก็ปรึกษาพ่อแม่ เราได้ขอโทษท่าน ตอนแรกเราคิดว่าท่านต้องว่าเราแน่ๆเลย แต่ความเป็นจริงแล้วท่านเข้าใจเรามากๆ เราอยู่รร.ทำเป็นเหมือนคนเข้มแข็ง หัวเราะทั้งที่ข้างในมันกระวนกระวายใจไปหมด พอกลับมาบ้านจึงตัดสินใจพูดความจริงไปทั้งหมดให้พ่อและแม่ได้ฟัง เราร้องไห้ออกมาแบบสุดๆ ชีวิตนี้ไม่เคยร้องหนักขนาดนี้ รู้สึกขอโทษที่เป็นลูกที่ไม่ดีเลย เป็นลูกที่ไม่เอาไหน ตลอดเวลาที่เรียนม.ปลายมา พ่อและแม่เรารับรู้ทุกๆอย่าง ท่านพูดเสมอว่าไม่ไหวก็เปลี่ยนสายมั้ย ไม่ไหวย้ายไปรร.อื่นมั้ย ไปต่างประเทศมั้ย และตอนที่เราร้องไห้ ท่านกอดเราไว้แน่นที่สุด เราเหมือนได้ถ่ายทอดความรู้สึกและความกดดันต่างๆที่เรามีในใจให้ท่านโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร และเราเชื่อว่าท่านก็รับรู้ความรู้สึกทั้งหมดที่เรามีในใจตอนนี้ได้เหมือนกัน เราไม่รู้ว่าเราจะทำอย่างไรต่อไป อีกไม่กี่เดือนเราจะไปเรียนต่างประเทศแล้ว และคงกลับมาปีหน้าถ้าจะซ้ำชั้นเอาวุฒิจบ แต่เราแพลนไว้ว่าจะลองขอผู้อำนวยการอีกครั้งหนึ่งว่าจะขอย้ายสาย ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ แต่ถ้าเราย้ายไม่ได้จริงๆเราคงต้องลาออกไปเลย และสอบเทียบเอา ยอมเรียนอินเตอร์ ไม่ก็ไปเรียนต่อต่างประเทศเลย
เราคงไม่อยากกลับมาเจอครูแบบนี้ ไม่อยากกลับมาทนเรียนสายวิทย์-คณิตอีกต่อไปแล้ว

เราขอบคุณพ่อแม่ที่คอยอยู่ข้างเรามาตลอด ขอบคุณเพื่อนๆที่เป็นกำลังใจคอยอยู่ข้างๆเรา ขอบคุณคนนั้นที่ทำให้หนูมีกำลังใจในการไปรร.ทุกๆวันถึงมันจะกลายเป็นความรู้สึกที่แย่ แต่ยังมีคุณที่คอยเป็นนางฟ้าในรร.ของหนู :) (ถ้าไม่มีคุณและเพื่อนๆหนูคงไม่อยากมารร.อีกแล้ว)

สุดท้ายนี้เราขอขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านเรื่องของเรา แบ่งเบาความรู้สึกและความเจ็บปวดของเรา และอยากจะขอโทษหากใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม หรือสะกดผิดเพี้ยนไป

หนูจะคอยอ่านคอมเมนท์และคำปรึกษาต่างๆที่พิมพ์เข้ามานะคะ


ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

เชยสะบัด 14 มิ.ย. 62 เวลา 20:09 น. 1

ไม่เป็นไรนะคะ เราก็ไม่มีอะไรจะให้คำปรึกษา เพราะเรื่องอะไรแบบนี้ก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นความถนัด ความรู้สึกของคนคนหนึ่ง แต่เราเชื่อว่าคำตอบของการตัดสินใจที่ดีที่สุดมันขึ้นอยู่กับตัวเองหมดแล้วล่ะค่ะ ตัดสินใจไปในเส้นทางที่ใช่นั่นแหละค่ะดีที่สุด ไปในที่ที่ใช่ ที่นั่นเราจะมีตัวตนค่ะ สู้ๆนะคะ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-13.png

0
เร - Rae 16 มิ.ย. 62 เวลา 00:08 น. 3

พอรู้ชื่อผอ.คนเก่ามั้ยครับ เผื่อติดต่อท่านมาช่วยกล่อมคนปัจจุบันให้อนุญาตย้ายสายได้ หรือถ้าท่านผอ.ไม่สะดวก เราลองปรึกษาดูว่าทำไมผอ.คนนี้ดูหัวรั้นกับเรื่องนี้ คำพูดของผอ.คนปัจจุบัน อย่าเก็บมาคิดนะครับ เขาไม่เข้าใจว่าทุกคนล้วนมีสิ่งที่ตนเองทำได้ดีที่สุดแตกต่างกันไป ตัวคุณก็รู็ชัดเจนว่าสิ่งไหนใช่และไม่ใช่ทางของคุณ พยายามไปตามฝันของตัวเองนะครับ ในฐานะคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ผมคงช่วยได้เท่านี้ ตัวผมผ่านมารับฟังคุณอาจจะแบ่งเบาความรู้สึกและความเจ็บปวดได้เล็กน้อย แต่ไม่ได้มีแค่ผมที่มาคนเดียว ยังมีคนอื่นๆมาให้คำปรึกษา เพราะพวกยินดีที่จะช่วยคุณครับ

0
y_prodin 17 มิ.ย. 62 เวลา 10:53 น. 4

สมัยนี้ครูที่มีจริงใจดี มีคุณธรรมที่เพียบพร้อม ครูที่ใส่ใจเด็กจริงๆหายาก ครูที่ชอบพูดกระแทกเด็กแบบนี้มันต้องเจอของแข็งบ้าง ครูต้องใส่ใจผลการเรียนของเด็ก ครูไม่ใช่มีหน้าที่สอนจบในแต่ละวันแล้วก็กลับบ้านนะ เด็กสอบตกก็ต้องมาวิเคราะห์ดูด้วยว่าเป็นเพราะสาเหตุใด อยากรู้จังว่าที่เล่ามานี้โรงเรียนอะไร

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-big-03.png

0
Onsinee0089 15 ก.ค. 62 เวลา 19:59 น. 5

สู้ๆนะคะพี่ พ่อแม่รักเรากว่าใครจริงๆใครจะเป็นยังไงทำตัวยังไงก็เรื่องของเขาเถอะค่ะทำตัวเราให้ดีที่สุดก็พอ ไม่ไหวก็อย่าไปฝืน การที่อยู่กับอะไรที่ไม่ใช่ตัวเรานี่ทรมานมากเลยนะคะ ขอให้พี่เดินไปทางที่พี่ชอบและทำให้สำเร็จนะคะ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-01.png

0