พี่สาวเป็นโรคซึมเศร้า ทำยังไงดีคะ!?

ขอล่ะค่ะช่วยหน่อยนะคะ

ได้ถามไหมคะว่าทำไมถึงไม่อยากไปหาหมอ

พี่เรียนจิตวิทยานะคะ อย่าคิดไปเองว่าเป็นโรคซึมเศร้า อาการซึมเศร้ากับโรคซึมเศร้าไม่เหมือนกัน ทุกคนมีอาการซึมเศร้าได้ทั้งนั้น เช่น สอบตกแล้วซึมเศร้า อกหักแล้วซึมเศร้า แต่พอเวลาผ่านไปก็จะกลับมาปกติ ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคซึมเศร้าเสมอไป บางคนแค่มองโลกในแง่ร้ายเฉย ๆ บางกรณีมาตรวจโรคหนึ่งแล้วไม่ได้เป็น แต่อาจพบว่าเป็นโรคอื่นที่คล้ายกันแทนก็ได้ การวินิจฉัยโรคต้องให้ผู้เชี่ยวชาญทำให้ค่ะ อย่าคิดไปเองว่าเป็นโรค

ถ้าจะแก้ไขก็ต้องพาไปพบนักจิตวิทยาปรึกษาหรือจิตแพทย์ค่ะ การโพสต์เรื่องราวทางออน์ไลน์ไม่สามารถช่วยได้เต็มที่ เพราะมีข้อมูลน้อยและไม่สามารถโต้ตอบกันได้ ลองถามพี่ว่าทำไมไม่อยากไปหาจิตแพทย์ ถ้ากลัวว่าถูกหาว่าบ้าก็ปรับความเข้าใจใหม่ อธิบายให้พี่ฟังว่าการพบจิตแพทย์ไม่จำเป็นต้องเป็นบ้า ทุกคนสามารถพบจิตแพทย์ได้ แต่ถ้าไม่อยากไปเพราะไม่อยากเปิดเผยเรื่องส่วนตัว อันนี้ยากหน่อย ต้องค่อย ๆ โน้มน้าวใจ

ดึงความมั่นใจเขากลับมาก่อนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความรัก ชื่นชม หรือให้คำปรึกษา เป็นที่ระบายและให้กำลังใจอยู่ข้างๆให้เขารู้ว่ายังมีคนที่รักและยืนข้างเขาเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางทีถ้าเขาเข้มแข็งขึ้นได้แล้วก็อาจจะแก้ปัญหาที่กำลังเจอได้เองก็ได้ค่ะ เหมือนที่คอมเม้นท์ก่อนหน้าบอก อาการซึมเศร้ากับโรคซึมเศร้าไม่เหมือนกันค่ะ ไม่แน่ว่าถ้าผ่านเรื่องนี้ไปได้พี่สาวคุณอาจจะกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมก็ได้นะคะ

สวัสดีจ้ะ

เราว่าเรื่องโรคซึมเศร้านี่ควรได้รับการรับรองจากแพทย์คืออย่างน้อยไม่คิดไปเองจะดีที่สุดค่ะโรคนี้ ค่อนข้างละเอียดอ่อนมากๆ ถ้าหากบอกเองว่าเป็นเราฟังดูแล้วเหมือนยังไม่เข้าใจโรคนี้อย่างที่มันเป็นจริงๆอยู่บ้าง อาจจะต้องค่อยเป็นค่อยไปค่ะ บางคนก็สร้างความเข้าใจไปแล้วว่าตัวเองเป็น หลายครั้งนำพาไปสู่พฤติกรรมเลียนแบบคนที่เป็นโรคนี้ต่างๆนาๆได้

.

การมีปัญหากับกลุ่มคนหรือปัญหาในชีวิตวัยรุ่น จากข้างต้นดูแล้วต้นตอมาจากเรื่องของงานกลุ่ม การจะทำงานผ่านหรือไม่ผ่านย่อมมีเหตุผลของมัน หากงานไม่ผ่าน ลองถามอาจารย์ดูไหมว่า ไม่ผ่านเพราะอะไร จะได้รู้จุดบกพร่อง ว่ามาจากจุดไหนยังไง มันจะดีกว่าโทษกันไปมากว่ามากและอาจจะช่วยให้พี่สาวของทางนั้นพอจะหลุดพ้นจากคำกล่าวหาที่ว่าเป็นเพราะเขาได้บ้าง หรือถ้าหากพี่สาวคุณไม่ได้ช่วยทำงานจริงเพียงเพราะแนวที่เสนอไม่ได้ถูกตอบสนอง กลายเป็นว่าปล่อยเพื่อนทำงานกันเอง หากเป็นเช่นนี้จริง ข้อนี้จึงจำเป็นที่ต้องยอมรับให้ได้ด้วยตัวเองเสียก่อน

.

อย่างไรก็ตาม หากพี่สาวมีพฤติกรรมอยากฆ่าตัวตาย

ลองหาเรื่องดีๆในวันเก่าๆมาเล่าให้พี่เขาฟัง เว้นระยะห่างสักนิดแล้วชวนคุยถึงอดีตดีๆที่มีร่วมกันกับอีกฝ่าย ชื่นชมอีกฝ่ายในสิ่งที่ทำได้ดีบ้าง หรืออาจจะนั่งฟังเขาระบายดูบ้างแบบไม่ตัดสิน กอดเขาแน่นๆสักนิดทุกๆวัน น่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้ในเบื้องต้น

หวังว่าพี่สาวจะกลับมาดีขึ้นในเร็ววันนะคะ