ระบบการศึกษาควรเปลี่ยนหรือครูที่ต้องเปลี่ยน
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมจะเล่าโรงเรียนหนึ่งให้ฟัง
เริ่มจากครู การสั่งงาน0.5หน่วยกิตสั่งงานเยอะกว่า2.0หน่วยอีก จะไม่บ่นเลยถ้ามันไม่เยอะจริงๆ คือสั่งแต่ละที2-5หน้าต่อครั้ง ครูไม่เคยสนใจด้วยซ้ำว่าเด็กมีวิชาที่สำคัญกว่า เราคือเด็กม.6 คือมันเป็นช่วงที่หมดไฟง่าย งานม.6ที่ควรลดลงแต่ไม่เลย ม.6กลับหนักสุด คุมกีฬา ทำIS อ่านหนังสือเตรียมสอบo-net,gat pat,วิชาสามัญ,และอีกต่างๆมากมาย และครูก็เอาแต่สั่งงานไม่สนใจว่าเราต้องเจออะไร ครูดีๆที่เข้าใขนักเรียนจริงๆก็มี แต่พูดตามจริงคือน้อยที่เห็นใจม.6อย่างเรา แต่นั้นแค่ส่วนน้อย
เรื่องต่อมา เรื่องหลังเข้าแถวห้ามซื้ออะไรกิน โรงเรียนเราเขาห้ามหลังเข้าแถวห้ามไปซื้ออะไรกิน แต่สำหรับเด็กที่มาสายละจะกินอะไร โรงอาหารตอนเช้าเปิดแค่ร้านขายขนมและเครื่องดื่ม เด็กที่มาสายตื่นสาย เขาก็รีบมาโรงเรียนอยู่แล้วแต่โรงเรียนสั่งห้ามให้เข้าโรงอาหาร มื้อเช้าควรเป็นมื้อสำคัญที่สุด
เรื่องต่อมาอีกเรื่องหนึ่ง การตัดผมประเด็นสำคัญถึงแม้ กระทรวงจะออกกฎมาให้ไว้ผมลองทรงได้แต่โรงเรียนเราไม่ทำตามเว้ย บอกกฎกระทรวงก็กฎกระทรวง กฎโรงเรียนก็กฎของโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียนอยากให้เราตัดนักเรียนเพราะมันเรียบร้อย และอ้างว่าถ้าไว้ยาวจะติดหมอกันไหมเรียนเก่งขึ้นไหม(เป็นคำถามเชิงตอบกลับประโยคที่ไว้ตัดผมแล้วจะฉลาดของนักเรียนที่พูดกัน) แน่นอนว่าเราคงไม่ฉลาด แต่การไว้ผมยาวมันคือการเพิ่มความมั่นใจให้นักเรียน ให้นักเรียนมีความมั่นใจ
ปล.ความคิดเห็นส่วนตัวย้ำส่วนตัวผิดพลาดอะไรก็ขออภัยอยากให้ครูเห็นใจนักเรียน
3 ความคิดเห็น
เปลี่ยนที่ระบบ และครูผู้ใหญ่ที่มีอำนาจค่ะ เพราะครูดีๆ ก็มี แต่พออยู่ไปสักหลายปี ก็จะกลายเป็นครูแก่ไร้สติกันไปหมด เพราะระบบเฮงซวยไม่ช่วยให้ครูดี ได้เป็นครูที่ดี ครูดีคนไหนทนระบบได้ ก็ทนจนกลายเป็นครูแปลกๆ ในระบบไป ใครทนไม่ได้ก็ออกไปทำงานอยู่
ระบบไม่สนุบสนับให้มีครูที่ดี ยกเว้นคนนั้น เป็นครูที่มีทุนชีวิตเหลือเฟือ เช่น บ้านรวยมาอยู่แล้ว
นักเรียนมักมองมุมเดียว ที่ครูคนเดียว หรือหลายคนที่ตัวเองเจอแล้วมีปัญหา แต่จริงคือระบบมีปัญหาจนครูดี ไม่มีทางจะดีได้อีกต่อไป
ต้องเปลี่ยนที่โครงสร้างของระบบการศึกษา ครูเป็นกลไกสำคัญก็จริงแต่ถ้าระบบการศึกษาดีครูก็จะดีตามไปด้วย การศึกษาไทยโคตรจะกดดันครู รายได้ก็น้อย ครูกลายเป็นอาชีพพื้นๆแทนที่จะเป็นอาชีพที่คนแย่งกันเป็นแบบในยุโรป ถ้าถามว่าจะให้เริ่มเปลี่ยนที่ไหนก็ต้องเปลี่ยนที่ระบบก่อนเลย
อย่าเอาแต่พูดนะ จะดีสุดให้บังคับตัวเองให้พอโตไปเข้าไปพยายามแสวงหาอำนาจในการแก้ไขสิ่งที่ตัวเองตอนเด็กอยากทำ เชื่อไหมว่าเด็กรุ่นหกสิบปีที่แล้วก็มีคนเคยคิดแบบนี้เยอะแยะ แต่คนส่วนใหญ่พอโตขึ้นก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้ว สนใจแต่เรื่องตัวเองทำมาหากิน บลาๆๆๆ ลองจดบันทึกคำพูดตัวเองเอาไว้แล้วอีกสักสามสิบปีเอามาอ่านใหม่ แล้วดูว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม เรามีส่วนร่วมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไหม
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?