เรามีข้อสงสัยอยากให้ทุกคนชี้ทาง หรือแนะนำให้หน่อยค่ะ

เรามีข้อสงสัยอยากให้ทุกคนชี้ทาง หรือแนะนำให้หน่อยค่ะ

สวัสดีค่ะ

เรามีข้อสงสัยอยากให้ทุกคนชี้ทาง หรือแนะนำให้หน่อยค่ะ

เราคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ แล้วมีประโยคหนึ่งที่เขาพูดมาว่า เขาไม่ได้เรียนสูง ทางบ้านเราจะยอมรับเขาหรอ

...

........

ถ้าเราจะบอกทางบ้านว่าเราคุยกับคนๆ นี้อยู่ จะบอกยังไงดีคะ

แนะนำนะคะ

จะนำปัญหา จากเหตุการณ์ ประสบการณ์ที่เคยๆ เห็นๆ เคยพบเจอ(จากคนรอบๆ ตัว) มาแนะนำนะคะ

แนะนำคุณว่า ถ้าที่บ้านของคุณมีฐานะ(คือมีฐานะดีกว่าฝ่ายชายนะคะ) การที่คุณจะคบชายที่อาจจะมีระดับฐานะแตกต่างจากของคุณ(คือที่บ้านของคุณอาจจะดีมากกว่า แบบนั้นนะคะ)

แบบนี้แล้ว คุณควรจะต้องเคลียร์พื้นที่ไว้ล่วงหน้าก่อน เป็นดีที่สุดค่ะ

คือคุณต้องบอกกับทางบ้านเกี่วกับเขา คือเกี่ยวกับชายคนที่คุณจะคบด้วยแบบเปิดเผย เกี่ยวกับสถานะการณ์ที่แท้จริงของเขาให้ทุกคนในบ้านรับรู้ก่อนนะคะ

ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ หรือพี่ๆ น้องๆ ของคุณ น่าที่คุณจะต้องบอกค่ะ

ทั้งนี้เพื่อที่เขาทุกๆ คนจะได้รับรู้ไว้ก่อนค่ะ

คือการได้รับรู้ถึงความแตกต่าง ของใครคนหนึ่ง(ในที่นี้คือความแตกต่างในฐานะ หรือแม้การศึกษาก็ตามทีนะคะ) ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับคุณ จะช่วยให้เขาทั้งหลาย คือคนในบ้านทำใจได้ง่ายที่จะยอมรับค่ะ

การบอกไปตรงๆ คือดีกว่าการที่จะปิดบัง หรือดีกว่า การที่จะไม่บอกไว้หล่วงหน้าค่ะ ทั้งนี้ เพราะเราไม่รู้นะคะว่าในความรู้สึกของคนทางบ้านเขาคิดอย่างไรกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ในที่นี้คือ ความแตกต่างด้วย

ความแตกต่งฐานะ การศึกษา ของใครคนหนึ่งที่จะเข้ามาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวของเขา และที่สำคัญเขาคนนั้นยังจะมีบทบาทสำคัญมากๆ ด้วย ในที่นี้คือเขาจะเข้ามาเป็นเขย หรือเป็นคนสำคัญของคุณด้วยนะคะ

เป็นคนสำคัญของคนที่ทุกๆ คน ในครอบครัวรักด้วยนะคะ

คือเจ้าของเม้นต์นี้เชื่อว่า คุณเป็นที่รักของทุกคนในบ้านนะคะ และเขาคนนั้นจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อคุณ หากคุณ และเขาลงเอยกันนั้น ก็เป็นธรรมดานะคะ

ทั้งนี้ เพื่อทุกคนจะยอมรับเขา เปิดใจรับเขา เขาคนที่อาจจะแตกต่างในทุกด้าน จากการเป็นอยู่ หรืสถานะในครอบครัวของคุณด้วย คุณคงต้องเคลียร์พื้นที่ให้ดีๆ ก่อนค่ะ

การศึกษา ดูจะเป็นอะไรที่สำคัญ(ต่อความคิด ความรู้สึกของพ่อแม่) นั้นเป็นความจริงค่ะ

คือดูจะเป็นอะไรที่ไม่ง่ายที่พ่อแม่หลายๆ คน จะยอมรับ และทำใจรับได้ง่ายๆ หากการศึกษาของคุณ และเขามีความแตกต่างกัน เหตุเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้ เป็นธรรมดาด้วยค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น (ยกมาจากที่เคยเห็นมานะคะ) ลูกสาวของเขาจบการศึกษาในระดับPh.D.(หรือDr) และมีแฟน(คือฝ่ายชาย)ซึ่งมีการศึกษาตํ่ากว่า และยังตํ่ากว่ามากๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่ว่า แน่นอน ไม่ง่ายที่พ่อแม่ หรือทุกคนในบ้านจะรับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ได้ง่ายๆ ค่ะ

(ฐานะหรือ ก็แตกต่างกันมากมายนัก ฝ่ายหญิงมีฐานะกว่า แต่คนทั้งสองก็รักกันดี)

คือเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้เป็นธรรมชาตินะคะ ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็ไม่ง่ายที่หลายๆ คนจะรับความแตกต่างดังกล่าวนี้ได้ง่ายๆ ค่ะ(ทั้งนี้ เพราะสถานการณ์ หรือสถานะภาพ หรือเหตุการณ์ที่แตกต่างกันนี้ จะเกิดเป็นควมเคยชินในคนขึ้นมาค่ะ และด้วยที่พ่อแม่ หรือทุกๆ คนในครอบครัว หรือหลายๆ คนรักลูกของตนเป็นธรรมดา คงจะไม่ง่ายที่เขาทั้งหลายจะยอมรับความแตกต่างได้ง่ายๆ ค่ะ คุณเข้าใจนะคะ)

แต่ ในที่นี้ มิใช่ว่า พ่อแม่ทุกๆ คนจะรับไม่ได้นะคะ บางอาจจะรับได้ง่ายๆ ด้วย เพราะด้วยที่เขาทั้งหลายมีจิตใจที่กว้างขวางเป็นธรรมดา แต่ที่สำคัญ คือคุณต้องบอกความจริงค่ะ

การบอกความจริง เท่ากับการที่คุณนอบน้อม ยอมรับ และให้เกียรติ์พ่อแม่ หากแต่คุณก็อยากให้เขาทั้งหลายยอมรับในสิ่งที่แตกต่าง ซึ่งจะเกิดขึ้นกับคุณ และที่สำคัญที่คุณต้องการ คือเป็นความปรารถนาของคุณด้วยนะคะ

คือทุกคนคงจะต้องใช้เวลาเพื่อการทำใจ ทั้งนี้ หากคุณตัดสินใจจะคบกับเขา คุณต้องรีบเคลียร์ทางให้เรียบร้อยค่ะ หากไม่แล้ว แน่นอน อาจจะเกิดปัญหาได้ค่ะ

(ไม่เสมอไปที่จะต้องเกิดเป็นปัญหา หากแต่การเปิดใจ บอกไปตรงๆ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ)

ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความต่างในเหตุดังกล่าวนี้ หากเกิดขึ้น ไม่ดีแน่ๆ ค่ะ ไม่ดีต่อทุกฝ่ายนะคะ

เราไม่ได้ติดอะไรนะคะ เพราะคิดว่าค่าของคนเราไม่ได้วัดกันที่การศึกษา แต่ในใจเรากังวลค่ะ

กังวลเพราะที่บ้านมากกว่า ว่าที่บ้านจะขัดขวาง จะไม่เห็นด้วยกับการที่เราคุยกับเขาคนนี้

เมื่อคุณคิด และรู้สึกได้แบบนี้ ก็เปิดใจคุย และบอกเล่ากับพ่อแม่ตรงๆ ดีกว่านะคะ

อย่างน้อยคุณพ่อ คุณแม่ได้มีเวลาพอที่จะทำใจ และการที่ท่านจะต้องปรับตัวดัวย ในการเปลี่ยนแปลง ไปกับความแตกต่างครั้งนี้ด้วยค่ะ (คือการบอกตรงๆ เป็นเรื่องดีนะคะ พ่อแม่ท่านรักคุณ หวังดีต่อคุณ แม้ว่าจะมีความแตกต่าง ในคนที่คุณรัก ท่านจะเข้าใจค่ะ และเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณก็รักท่านด้วยเช่นกัน ด้วยการเปิดใจ และบอกเล่าในสิ่งที่คุณต้องการ เป็นเรื่องที่สมควร และดีที่สุด ที่คุณต้องทำค่ะ)

เมื่อคุณคิดว่า คุณตกลงที่จะเลือกเขาคนนี้ คนที่คุณคุยอยู่นี้ คือคนรัก คือแฟน หรือคนที่จะเป็นคู่ชีวิตในอนานคต เจ้าของเม้นต์แนะนำให้คุณบอกพ่อแม่ไปตรงๆ ค่ะ

คงไม่มีวิธีไหนดีกว่านี้

และเจ้าของเม้นต์เชื่อว่าพ่อแม่ของคุณจะรับได้ หากคุณบอกก่อน และชัดเจน ก่อนที่เขาจะปรากฎตัว ในฐานะแฟนของคุณค่ะ

ขอร่วมเป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้ค่ะ

ขอให้เหตุการณ์ผ่านไปได้ด้วยดี และทุกอย่างลงตัวนะคะ

ถ้าคุณโตเป็นผู้ใหญ่ บรรลุนิติภาวะตามกฏหมายแล้ว จะคบใครก็เรื่องของคุณ ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น ความเป็นคนของเราเท่ากัน ไม่เกี่ยวที่การศึกษา ทางบ้าน เช่น พ่อ แม่ สักวันนึงก็ต้องตายจากไป ไม่ได้ใช้ชีวิตกับคุณไปตลอด ฉะนั้น ตัวคุณคือคนที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจมากที่สุด จะยอมรับหรือไม่ นั่นเป็นปัญหาของทางบ้าน ไม่ใช่ปัญหาของคุณ

ก็ต้องดูก่อนครับว่าคุณอายุเท่าไหร่ วัยเรียนหรือวัยทำงาน ถ้าวัยเรียน เวลายังมีครับ ก็ดูกันไปก่อน คนเรียนไม่สูงก็สามารถมีอนาคตที่ดีได้อันนั้นก็จริง แต่นั่นคือต้องมีต้นทุนชีวิตค่อนข้างสูง หรือไม่ก็ต้องค่อนข้างมีหัวคิดพอสมควร+มีความกล้าคิดกล้าทำกล้าลุย(ซึ่งส่วนตัวจากสิ่งที่เค้าบอกคุณ ผมไม่แน่ใจเรื่องความกล้าหรือความใจสู้เค้าเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ที่เจอมาคนที่พูดประโยคพวกนี้มักเป็นพวกยอมรับชะตากรรมโดยไม่ขัดขืนซะมากกว่า) แต่ถ้าคุณเป็นวัยทำงาน จริงๆคือสิทธิการเลือกคู่ชีวิตมันเป็นของคุณ ขนาดตอนจดทะเบียนสมรสมันยังมีชื่อแค่2คนไม่มีพ่อแม่เข้ามาเกี่ยวข้องเลยครับ คนอื่นก็แค่คนนอก แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น และคนนอกอาจออกความคิดเห็นได้ อาจจะเห็นดีเห็นงาม หรืออาจจะคัดค้านไม่เห็นด้วยก็ได้ แต่ท้ายที่สุดคนตัดสินใจก็คือพวกคุณ2คน ว่าจะคล้อยตามคนอื่น หรือจะเพิกเฉยแล้วทำตามที่พวกคุณพอใจ

สวัสดีอีกครั้งค่ะ คุณเจ้าของกระทู้

ภายใต้กระทู้นี้ คุณถามเข้ามาเกี่ยวกับ ความรู้สึกของคุณเอง ซึ่งมีต่อทางบ้าน ว่าด้วยที่คุณกังวล ว่าทางบ้านจะขัดขวางคุณหรือไม่นะคะ

เราคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ แล้วมีประโยคหนึ่งที่เขาพูดมาว่า เขาไม่ได้เรียนสูง ทางบ้านเราจะยอมรับเขาหรอ ส่วนตัวเราเอง เราไม่ได้ติดอะไรนะคะ เพราะคิดว่าค่าของคนเราไม่ได้วัดกันที่การศึกษา แต่ในใจเรากังวลค่ะ กังวลเพราะที่บ้านมากกว่า ว่าที่บ้านจะขัดขวาง จะไม่เห็นด้วยกับการที่เราคุยกับเขาคนนี้

ถ้าเราจะบอกทางบ้านว่าเราคุยกับคนๆ นี้อยู่ จะบอกยังไงดีคะ

ด้วยที่ว่า เม้นต์ก่อนหน้านี้ อาจจะวกวนไปมา หรือไม่ชัดเจนนัก และด้วยที่เห็นมีเม้นต์ต่างๆ จากของเพื่อนร่วมเว็บ ได้ส่งเข้ามาให้คำแนะนำแก่คุณด้วยเช่นกัน

ซึ่งแน่นอนว่า ทุกเม้นต์อาจจะมีความหมาย ซึ่งมีแบ็คกราวน์ และแก่นสาร เป็นปัจจัยที่แตกต่างกันไปนั้น เกิดเป็นคำแนะนำที่แตกต่างกันขึ้นมาได้

(ความคิด มุมมอง แง่คิด ที่แตกต่าง แน่นอนเกิดเป็นการกระทำที่แตกต่าง เกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา ที่เราๆ ก็ต้องยอมรับด้วยเช่นกันนะคะ)

ด้วยสาเหตุที่ว่า กระทู้ของคุณนี้ เป็นกระทู้ที่มีสาระดี เป็นหัวข้อที่ดียิ่งที่เราๆ จะหยิบยกมาสนทนา แบ่งปัน แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นเกี่ยวกับความคิด การกระทำ หรือวิธี ทางออก เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ค่ะ

เพราะด้วยที่เจ้าของเม้นต์เข้าใจว่า... ชีวิตของคนเรานะคะ ไม่ใช่ละคร ไม่ใช่นิยายนะคะ ชีวิตจริงนะ มีความรู้สึก มีผลจริงในทุกการกระทำ ซึ่งทั้งนี้มันมีผลจากการกระทำต่างๆ มากมาย ของเราเองเป็นผลลัพธ์ไป ตลอด...ทั้งชีวิตนะคะ

มีความเข้าใจด้วยค่ะว่า การทำในสิ่งซึ่งเป็นความเชื่อที่ว่าดี เช่น การทำตามกรอบ ประเพณี หรือขนบธรรมเนียมที่ดี เป็นครรลองของชีวิต ทุกอย่างจะง่าย...ทั้งตัวคุณเอง และผู้ที่มีส่วนร่วม ในที่นี้ คือครอบครัว พ่อแม่ เป็นสำคัญยิ่ง ด้วยอย่างแน่นอนค่ะ

การที่จะมีคู่ครอง หรือการมีแฟนนะคะ ส่วนตัวเจ้่าของเม้นต์นี้ อยากแนะนำว่า การที่คนเราจะนับเอาคุณพ่อ คุณแม่รวมไปด้วย ในการที่ท่านจะมีโอกาสในการรับรู้ เห็นนะคะ เป็นการดี และเป็นการสมควรอย่างยิ่งค่ะ

เพราะอย่างน้อยท่านก็เลี้ยงคุณมาค่ะ

(เราตอบแทนพระคุณท่าน ด้วยการนับท่าน หรือรวมท่านด้วยในเคสนี้ เป็นการดี และสมควรเป็นอย่างยิ่งค่ะ)

ในขณะนี้ ในยามที่คุณโตแล้ว และคุณได้รักใครเข้าสักคน ด้วยว่า แม้คุณจะรักใครสักคน ไม่ว่าคนที่คุณรักคนนั้นจะเป็นใคร อยู่ในสถานะใด เขาก็จะเป็นคนที่คุณรักอย่างแน่นอน และจะดีมากๆ หากคุณพ่อ คุณแม่รัก และยอมรับเขาคนนั้นด้วย เพราะท่านโตพอ ที่จะเข้าใจในสาเหตุดังกล่าวนี้ อย่างแน่นอนค่ะ และ ในโอกาสนี้ คือคุณทำในสิ่งที่ถูก ที่ควร แก่ตัวคุณเองด้วย คุณได้บอกแล้ว เล่าแล้ว ว่าเหตุการณ์ของคุณเป็นเช่นนี้...

คือคุณเลือกที่จะรักคนที่อาจจะด้อยกว่า จากวาระที่เป็นธรรมชาติในครอบครัวของคุณ แบบนั้นนะคะ

พ่อแม่ของคุณได้รู้ เห็น และมีเวลาที่จะปรับตัว ทำใจ แม้ว่าพ่อแม่หลายๆ ท่านอาจจะยอมรับไม่ได้ แต่อย่างน้อยในจิตสำนึกท่านก็จะรู้สึกดีว่าคุณบอกแล้ว เล่าแล้ว อธิบายแล้ว ท่านจะภูมิใจ และยอมรับในตัวคุณ ในความปรารถนาของคุณ ในระดับหนึ่งอย่างแน่นอนค่ะ

และที่สำคัญ คุณเองค่ะ ที่จะรู้สึกสบายใจ และไม่รู้สึกผิด หากเกิดเหตุใดๆ ขึ้นด้วยค่ะ

หากเกิดเหตุใดขึ้น ในที่นี้ คือพ่อแม่บางคน ก็มืดมน เห็นแก่ตัว ไม่ให้โอกาสลูกในเหตุที่ชีวิตของลูกๆ อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยเป็น คือพ่อแม่ซึ่งมีฐานะดีกว่า ในบางรายไม่ยอมรับ นั้นหรือก็สามารถเกิดขึ้นได้จริง

ซึ่งเหตุเช่นนี้มีเกิดขึ้นมากมาย ความรักของคนทั้งคู่เกิดเป็นความขมขื่น ดราม่า ทุกข์ระทม นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ เป็นธรรมดา(ในบางราย)

คือแม้เหตุดังกล่าวนี้จะเกิดขึ้นกับคุณ และเมื่อคุณบอกความจำนงแล้ว พ่อแม่ ก็ไม่ยอมรับ กลับสร้างดราม่าให้ลูกของตน และลูกเขย เกิดเป็นความทรมานขมขื่นมากมาย ในวันนั้นคุณจะปลีกตัว แยกตัว ไปใช้ชีวิตกับคนที่คุณเลือกแล้ว นั้นก็อีกเรื่องนะคะ

คือ เมื่อคุณทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว พ่อแม่ยังไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับได้ นั้นเป็นอีกเรื่อง ที่ต้องตามแก้ไขไปเป็นเปราะๆ นะคะ

ตอนนี้ ขอเพียงคุณบอกไปก่อนค่ะ

ในกรณีที่ว่า พ่อแม่หลายๆ คนนะคะ เข้าถึงสัจธรรม เป็นผู้ที่มีความเข้าใจในแก่นสารของชีวิต พ่อแม่เหล่านี้ื มีความรัก เมตตา ปรานี เป็นที่ตั้ง และเขายังมีฐานะ ชื่อเสียงที่ดีในสังคมอีกด้วย(แน่นอนมีทรัพย์สมบัติมากมายด้วย)

พ่อแม่เหล่านี้จะเข้าใจ และเชื่อว่าสิ่งใดที่เป็นความสุขของลูก เขาทั้งหลายจะส่งเสริมค่ะ

ในบางรายลูกเขยจนกว่า มีความรู้ด้อยกว่า พ่อแม่ฝ่ายหญิงกลับรักมากอีกด้วย(เพราะท่านมีความเมตตา ปรานีเป็นที่ตัั้ง เคสเช่นนี้ ก็มีมากมายในวันนี้ค่ะ)ให้ทุกอย่างที่เขาต้องการ คือให้โอกาส ให้ทรัพย์สินเงินทอง เพื่อช่วยพยุง หรือช่วยเขาสร้างเนื้อสร้างตัว เพื่อสร้างครอบครัวให้แก่ลูกสาวของเขาด้วย

ให้เกียรติ์ ให้โอกาส สนับนุน ให้ความเชื่อมั่นศรัทธา และภาคภูมิใจในตัวเขา

คือ พ่อแม่แบบนี้ก็มีอยู่จริงนะคะ

เพราะฉะนั้น คุณเองค่ะ ที่จะต้องตัดสินใจว่คุณควรจะบอกหรือไม่?

เมื่อยังไม่บอก ก็ไม่รู้ได้นะคะ ว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นไร จะทำให้คุณกังวลด้วยค่ะ

กังวลมากๆ ในทุกๆ วัน ตราบที่คุณมีรักกับใครสักคน นั้นไม่ดีแน่นอนค่ะ

จะให้ดี บอกพ่อแม่ไปนะคะ

ส่วนตัว ซึ่งเป็นแง่คิด และมุมมองของเจ้าของเม้นต์นี้ แนะนำเป็นคำเดิมค่ะ คือบอกนะคะ บอกค่ะ บอกพ่อแม่ไปนะคะ คือการที่ยึดถือ นำพา นำเอาบุพการีของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่สูงสุดส่งกว่าสิ่งอื่นใดในชีวิตของเราไปด้วยนะคะ

นำพา นำเอาท่าน คือพ่อแม่ไปด้วย...ในชีวิต ในจิตใจของเรา ในที่นี้คือ แม้เราจะมีแฟน หรือถึงเวลาที่เราจะต้องออกเรือนไป ซึ่งเราจะจากท่านไปเป็นก้าวแรก..ในชีวิตนี้ ก็ขอให้คุณนำท่านไปด้วยในจิตใจของคุณนะคะ

การบอกให้ท่านรู้ คือการที่คุณมีท่านในจิตใจของคุณค่ะ

อีกไม่นานเมื่อคุณต้องแต่งงานไปแล้ว คือการที่คุณออกจากท่านไปหนึ่งก้าว...และจะอีกหลายๆ ก้าว...แล้วนะคะ

จงอย่าทำคล้ายคุณได้ทอดทิ้งท่านไว้เบื้องหลัง ให้ท่านต้องทุกข์ทรมาน เพราะความห่วงใยในตัวคุณเลยนะคะ

(การทอดทิ้งพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด จะไม่เกิดเป็นผลดีใดๆ ทั้งสิ้น หากแต่ อาจจะเกิดเป็นผลเสียต่อตัวคุณเองในภายภาคหน้า ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น อย่าเสี่ยงที่จะทอดทิ้งท่านดีกว่านะคะ)

พ่อแม่ รัก หวังดีต่อลูกๆ ทุกๆ คนอย่างแน่นอน

(หากท่านเองไม่ตกตํ่า มืดมน ทั้งนี้ เพราะเป็นธรรมชาติของท่าน ในบางรายค่ะ)

พ่อแม่ เป็นอะไรที่เราๆ ควรนำไปด้วยในจิตใจ ในจิตสำนึกของเรา ไม่ว่าเหตุการณ์ใดๆ จะเกิดขึ้น นั้นเป็นความสำคัญ และมีผลในระยะยาว แต่จิตใจของเราเองนะคะ

การบอก ในเหตุดังกล่าวนี้ เท่ากับคุณมีพ่อแม่อยูที่จิตใจ จิตสำนึก เรามีอีกชื่อ คือเราจะเป็นลูกที่มีกตัญญูค่ะ ลูกกตัญญู คือเป็นผู้ที่เป็นสุขนะคะ

คือเจ้าของเม้นต์นี้ อยากให้คุณมีความสุขค่ะ

จะช่วยแนบบทเพลง ของไทยซึ่งถูกแต่งขึ้นมาจากการที่ไทยมีวัฒนธรรมที่ดียิ่ง ในเหตุแห่งความเป็นกตัญญู ฟัง และดูรีวิวแล้วนะคะ รู้สึกปริ่ม อิ่มเอม เป็นสุขได้ ทั้งที่ขณะที่ฟัง และดูนะ นํ้าตาหลั่งไหลนองหน้า(แปลกมากๆ เลยด้วยค่ะ)

วัฒนธรรมในความเชื่อดังที่ว่า อันความมีกตัญญู ต่อบุพการี ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด หรือในเคสใด

แม้ในวาระที่คุณต้องการที่จะมีแฟน ซึ่งแตกต่างวาระ

หากแต่การที่จะบอกเล่าพ่อแม่(เป็นความกตัญญู)จากคุณ ในเคสของคุณนี้ คุณก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกันค่ะ

ข้างล่างนี้

นี่เลยค่ะ

แรงบันดาลใจ

เยี่ยมมากๆ

เพียงแค่ฟัง และดู ก็เป็นสุขได้

(เป็นผลงานที่สร้างจากวัฒนธรรมที่ดี ได้เยี่ยมมากๆเนาะ )

ขอร่วมเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ