ศิลป์ทั่วไป มีโอกาสติด แพทย์ กสพท มั้ยคะ
คือการที่หนูได้มาเรียนศิลป์ภาษาไมาได้เกิดจากการตั้งใจเลยแต่เกิดจากข้อผิดพลาดของสถานการณ์ในตอนนี้และรร. ไม่ได้จัดสอบ รร. ที่หนูต่อเป็นรร. เดิมที่หนูได้ย้ายเเละเริ่มเข้าเรียนตอนม. 3แล้วเกรดเฉลี่ยหนูตอนม. 1-2เนี่ยมันเป็นเกรดมั่วมากเพราะรร. เก่าไม่ได้มาตรฐาน มีวิชาที่ไม่ได้เรียนเยอะมากแต่ให้เกรดโดยการวัดจากอะไรก็ไม่รู้ พอมาเฉลี่ยเลยน้อยมากถ้าไม่มีม. 3ที่นี่คงได้ไม่ถึง3จริงๆ ตอนมาเรียนที่นี้เกรดเทอมแรกหนูได้3.93เทอม2 3.96 เเล้วเฉลี่ย6เทอมได้3.17 มันเป็นจุดเริ่ม ที่ทำให้ตกมาอยู่ห้องศิลป์ทั่วไป เพราะว่าทางรร. จัดห้องจากเกรดสะสมม. ต้นคือหนูตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบมากเพราะอยากเข้าวค. แต่ทุกอย่างความฝันสิ่งที่เตรียมตัวอ่านหนังสือเพื่อคณะที่สอบคณะที่อยากเข้ากับต้องจบลง หนูอยากเข้าเภสัชมากๆค่ะพวกสาธาหนูอยากไปทางนี้มากๆแต่เหมือนฝันหนูดับเพราะการจัดเรียงห้องของรร. และสถานการณ์ต่างๆ มันเครียดมากจริงๆค่ะคือคิดทุกวันร้องไห้ทุกวันว่าควรจะทำยังไงมีทางเดียวคือแพทย์ กสพท. แต่ก็ต้องเรียนพิเศษวิชาเพิ่มด้วยแน่ๆ แต่หลายๆคนบอกว่าโอกาสเข้าน้อยถ้าไม่เก่งจริงก้ไม่ได้เลยยิ่งทำให้คิดมากเราพยายามหาสิ่งใหม่ๆให้ตอบกับสายที่ได้เรียนแต่เอาจริงๆเราทรมานมากเราไม่ถนัดเลยวิชาในสายนี้ คือเล่าให้เพื่อนให้ครูรายวิชาคณิตฟัง คือเสียดายนะตัวเรามาก หนูไม่ได้เก่งเว่อแต่หนูถนัดวค. มากกว่าสายที่ได้เรียนมากๆ ครูคณิตพยายามช่วยหนูแต่ก้ทำอะไรไม่ได้เลย มันเลยยิ่งคิดเรื่องอนาคตมากขึ้นเลยอยากรุ้ว่า มีโอกรสที่จะติดบ้างมั้ย หรือควรหาทางใหม่แต่หนุก้ไม่รุ้ว่าควรจะไปทางไหนนอกจากอันนี้หนุก้นึกไม่ออกเลย อันดับที่หนุคิดว่าอยากจะเข้าคือ เภสัช พยาบาล เทคนิคการแพทย์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ แต่สายที่หนูได้มันเข้าไม่ได้เลย (ขออภัยในควรมพิมพ์ตกนะคะ) ขอบคุณทุกคนค่ะ
8 ความคิดเห็น
มีประโยคที่ครูบอกว่า “บางคนเกรดน้อยก็เพราะไม่ต้องใจเรียน” มันยิ่งเสียใจที่หนูพยายามและตั้งใจมาตลอด ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลย แต่รร. ควรจะจัดสอบรึป่าวอะแต่ก็ไม่สอบ ทั้งๆที่รร. อื่นก็มีการสอบหมดเลย
ก็ถ้ามีพื้นฐานมากพอ ตั้งใจเรียนเพิ่มเติม แบ่งเวลาได้ ขยันเพิ่ม สม่ำเสมอ หัวสมองได้ เรียนถูกวิธี
กสพท ไม่กำหนดสายการเรียน คนเรียน ปวช ยังสอบติดเลย
ไม่ใช่ว่าศิลป์ไม่เก่งนะคะทุกคนทุกห้องมีความเก่งความชอบความสามารถความถนัดที่ต่างกัน บางคนอยากเป็นหมอ อยากเป็นคุณครูอยากเป็นพยาบาลทุกๆคนมีความเก่งความชอบต่างกัน ส่วนตัวหนู ก็คืออยากเป็นหมอ และชอบที่จะอยากทำงานในโรงพยาบาลมากๆ หมอไม่ได้แปลว่าเก่งที่สุด วิทย์คณิตไม่ได้แปลว่าเก่งที่สุด หรือศิลป์ไม่ได้แปลว่าไม่เก่ง รร. ควรเลิปเอาตรรกะ วิทย์คณิตคือคนเก่งศิลป์ภาษาคือคนไม่เก่งเข้าวิทย์คณิตไม่ได้มาตัดสินเถอะนะคะ และรร. และหารจัดระบบตอนนี้กำลังทำลายอนาคตของเด็กหลายคนที่ควรจะไปได้ดีกว่านี้ รร. ควรจัดการสอบ มาทางระบายมากกว่าขอความรู้เฉยเลย:(แต่หนุไม่รุ้จะคุยกับใครเรื่องนี้จริงๆ พ่อแม่ก็พยายามมากๆแลัวแต่ทุกอย่างขึ้นอยุ่กับรร. เลย หนุควรทำยังไงดีคะ
ถ้าฝันคือสายสุขภาพ ยอมเสียเวลาสักปี ไปสอบเข้าวิทย์คณิตใหม่ในปีหน้า คิดว่ามันก็คุ้มนะคะ
เออ ลืม ไป เห็นด้วยกับ คห สี่ ค่ะ ถ้าฝันคือสายวิทย์สุขภาพ ไม่ใช่ว่าต้องหมอ ยังไวก็ต้องเอาสายการเรียน ตาม คห สี่ เป็นทางเลือกที่ดีมาก
เห็นด้วยกับความเห็นข้างบนที่บอกให้ยอมอีก1ปีเพื่อเข้าสายวิทย์ค่ะ
ถ้าไปสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ยังไงก็ต้องเรียนสายนี้
บางคนต่อให้เรียนตรงสาย แต่สอบไม่ติด ก็ยอมซิ่ว อยู่บ้านเฉยๆ อ่านหนังสือเตรียมสอบหมอ1ปีเลย น้องก็ถือว่าปีนี้ อ่านหนังสือเตรียมเลยก็ได้ค่ะ จะได้มีต้นทุนล่วงหน้า1ปี ลองอ่านหลักสูตรล่วงหน้า หรือเรียนพิเศษล่วงหน้า จะได้รู้ว่าตัวเองไปไหวไหมด้วย
ตอนพี่ปีหนึ่ง มีตั้งแต่คนอายุ 16 - 19 เลย ไม่ต้องห่วงเรื่องอายุจะมากกว่า มันปรกติ
(16 คือพวกเรียนม.ปลายหลักสูตร2ปี, 19 คือพวกซิ่ว)
นี้คือจะบอกอะไร?
เป็นไปได้ค่ะเพราะเขารับทุกสายการเรียน ถ้าไม่อยากเสียขวัญกำลังใจพี่แนะนำว่าอย่ามาตั้งกระทู้ในนี้ค่ะ กูรูบางคนก็ไม่ได้ผ่านการสอบหมอมาด้วยซ้ำ ชุดข้อมูลที่ได้ก็.... อยากจะเปลี่ยนความคิดเขาต้องลองสอบให้ได้ เชื่อว่าเขาจะเลิกพูดสักทีว่าต้องจบสายวิทย์คณิตเท่านั้นถึงจะสอบหมอได้ ทุกอย่างต้องมีคนแรกเสมอและน้องอาจจะเป็นคนนั้นค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?