ผู้ชายเป็นสิวไม่หายสักที
ตั้งกระทู้ใหม่
Jaljayogoodnight
10 เม.ย. 65 เวลา 21:04 น.
3,447
views
13 ความคิดเห็น
บางทีมันก็ไม่ได้มาจากฮอร์โมนล้วน ๆ มันมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต การกิน นอนหลับพักผ่อน ความเครียด ฯลฯ ร่วมด้วย
ผมเลี่ยงของหวาน ของมัน เปลี่ยนปลอกหมอนตลอด ควบคุมทุกอย่าง สุดท้ายก็เหมือนเดิม เห็นคนอื่นหน้าใสโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย เห็นแล้วเศร้าครับTT
เราก็เป็นสิวหลายปีมากๆ เข้าใจความเซ็งเลย ทำทุกทางก็ไม่หาย แต่สุดท้ายเราเลยจบที่กินยารักษา เป็นยา isotretinoic อ่ะ แต่ซื้อกินเองไม่ได้ ต้องให้หมอจ่ายยาให้ แนะนำให้ลองไปเข้าคลินิก ปรึกษาหมอดูนะ พวกคลินิกรักษาสิว เรากินยาตัวนี้แล้วหายเลย
ผมเคยเข้าคลินิกนะ มีทั้งยากิน ยาทา ฉีดสิว แบบเป็นคอร์สเลยอะครับ เสียไปหลายพัน สุดท้ายหายครับหน้าใสเลย แต่พอไม่ไปอีกก็ขึ้นเหมือนเดิม ผมเลยไม่ได้ไปแล้วอะครับ
เราเคยมีปัญหานี้เหมือนกัน สิวขึ้นตลอดทำยังไงก็ไม่หาย แต่พอลองไปหาหมอที่คลินิก ยอมเก็บตังหน่อย ให้หมอเขาช่วย มันก็ดีขึ้นนะ 55555
ถึงจะยังไม่หายสนิท แต่มันช่วยให้เรากล้าออกไปเจอคนอื่นมากขึ้น
ที่จะบอกคือสิวมันเกิดขึ้นจากหลายๆ ปัจจัย ถ้าดูแลตัวเองดีมากๆ แล้วยังไม่หาย ก็ลองไปปรึกษาหมอดูก็ได้ เผื่อว่ามันจะดีขึ้น สู้ๆ น้า
เคยแล้วครับคลินิก หน้าใสเลยครับ แต่พอเลิกไปก็กลับมาเหมือนเดิม ผมเลยไม่ได้ไปแล้วอะ
ได้เคยถามหมอไหมอ่ะว่าสิวเกิดจากอะไร
ผมจำได้ว่า เขาบอกว่าเป็นบริเวณ T zone เยอะ หน้ามัน จำได้แค่นี้อะครับ มัน4-5ปีแล้วอะ ลืม55 (ไม่เคยถามครับ มีแต่หมอบอก ตอนนั้นอึนๆมึนๆไม่รู้ทำไมไม่ถามหมอ งงตัวเอง)
ลองเช็ดโทรเนอร์ ดู ทำความสอาดสามขั้นตอนเลย คลีนซิ่ง คลีนเซอร์ โทรเนอร์ ถ้าเป็นสิวแนะนำของยูเซอลีน พวกกันแดดงี้ เช็กหน้าสามรอบต่อวัน ถ้าหากมันแล้วใส่กันแดดซ้ำ กันแดดอย่าลืมทานะ ต้องทา ย้ำว่าต้องทาทุกวัน หรือไม่ก็ลองปรึกษาหาหมอฮอร์โมนดู
เราทากันแดดไม่เคยเว้นเลย ส่วนการล้างหน้าก็ใช้3ตัวนะครับ
อมก. ล้างขนาดนั้นหน้าแห้งพอดีค่ะ หน้ายิ่งพังกว่าเดิม ควรใช้โฟมล้างหน้าที่ไม่ทำให้หน้าเราแห้งจนเกินไปนะ ถึงหน้าจะมันมากแต่มันคือธรรมชาติของผิว ยิ่งหน้าแห้งผิวก็จะยิ่งสร้างน้ำมันเพื่อมาปกป้องผิวตัวเองเข้าไปอีก พยายามอย่าทำลายเกราะป้องกันผิวตัวเอง แล้วก็ควรทามอยเจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยนะ อย่าประโคมสกินแคร์มากเกินไป เลือกสิ่งที่มาแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ถึงการเอามือจับหน้าบ่อยๆจะทำให้เกิดสิวก็จริง แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่บอกว่าการดูแลผิวให้สะอาดอยู่ตลอดเวลาจะช่วยลดการเกิดสิวได้ กลับกันการดูแลความสะอาดอาจทำให้เกิดสิวเพิ่มมากขึ้นด้วยหากดูแลผิดเช่น ใช้สบู่มีฤทธิ์ในการชำระล้างที่สูงเกินไป หรือใช้มือถูนวดใบหน้ามากเกินไป การล้างหน้าที่มากเกินไปร่วมกับการขัดถูจะทำให้สิวแย่ลง โดยการกระทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดสิวอักเสบหรือรอยดำจากสิวขึ้นมาได้ มันเคยมีการทดลองเปรียบเทียบการรักษาสิวโดยแบ่งเป็นกลุ่มAพยายามรักษาสิวโดยทำให้ผิวแห้งที่สุด กลุ่มBรักษาตามปกติ กลุ่มCรักษาโดยพยายามหลีกเลี่ยงน้ำ ผลที่ได้คือ กลุ่ม BและC ให้ผลที่ดีกว่าการรักษาที่ทำให้ใบหน้าแห้ง
ใช้3 ตัวคือ คลีนซิ่ง คลีนเซอร์ แล้วก็โทนเนอร์นะครับ555 ไม่ใช่ใช้คลีนเซอร์3ตัวนะ ล้างหน้าแค่เช้า-เย็นครับ
ผมจะบอกให้ ถ้าคุณอยากให้มันหาย คุณต้องเลิกหวังผลจากสกินแคร์หรือยาอะไรต่างๆ ยารักษาสิวปัจจุบันใช้เวลานาน และประสิทธิภาพเอาตรงๆก็คือมันก็ไม่ได้ดีอะไร ผลข้างเคียงสูง คือสู้ไปเลเซอร์ต่อมไขมันอะไรพวกนี้ดีกว่าถึงจะต้องทำหลายครั้งแต่มันเอาอยู่กว่าการใช้สกินแคร์อะไรพวกนี้จริงๆ คุณจะเชื่อผมหรือไม่ก็ได้แต่คุณลองหาข้อมูลเปรียบเทียบประสิทธิภาพดูครับ คนที่เป็นหนักๆนะ ถ้าหนักจริงๆแล้วเขาหายถ้าไม่ใช่เพราะ accutane ก็เพราะเลเซอร์ เพราะยาทั่วไปมันเอาไม่อยู่ครับ วิตามินเอแบบทาก็ใช้เวลานานผลข้างเคียงสูง แต่ก็นั่นแหละ accutane มันก็ส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในถ้าใช้ไปนานๆก็มีปัญหา แล้ว accutane ปรกติจะกินให้หายมันก็ต้องกินติดกันหลายเดือน สุดท้ายก็อย่างที่บอกเลเซอร์มันก็ดีกว่าทั้งระยะสั้น-ยาว ยังไงก็ลองศึกษาในเน็ตดูครับเป็นกำลังใจให้
ราคาแรงไหมครับ
ตลาดในไทยมีอยู่ 2 ชนิด 1.Isolaz 2.Smoothbeam (ไม่ขอนับเลเซอร์เก๊อย่าง ipl และเลเซอร์ co2 เจาะสิวเพราะผลข้างเคียงเยอะ) ถ้าสิวเต็มหน้า Smoothbeam งบหมื่นห้าน่าจะเอาอยู่ ส่วน Isolaz คิดว่าประมาณสองหมื่น สองตัวนี้จริงๆผลลัพธ์คล้ายกันแต่ไม่ได้มีทุกคลีนิก&โรงบาล ก็คือเลือกที่สะดวกในการเดินทางครับ ไม่แน่ใจว่าแพงไปมั้ยสำหรับเจ้าของกระทู้ แต่เอาจริงๆถ่ารักษาสิวมานานผมว่าค่ายาค่าอะไรรวมๆ มันก็ประมาณนี้นะสมัยก่อนผมเข้าคลีนิกก็ตกเดือนละพันกว่ายากินยาทาต่างๆ
เรื่องสิวมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะ ร่างกายเรามันซับซ้อน มันไม่ได้เที่ยงตรงอะไรขนาดนั้น ถ้าเรื่องเชื้อโรคคุณลองมองมันใหม่ในมุมของชีวะวิทยา วัฎจักร ความหลากหลายของแบคทีเรียบนผิวหนัง หรือถ้าเรื่องสกินแคร์คุณก็ลองมองถึงหลักการทางธรรมชาติ การวิวัฒนาการการปรับตัวต่างๆ มันไม่ได้ง่าย แล้วก็ไม่ได้ทำได้โดยทั่วไป คุณลองนึกถึงโครงสร้างและความหลากหลายเป็นหลัก มองในมุมธรรมชาติคุณก็จะรู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ
เหมือนโลกเราปัจจุบันถ้าคุณจะหาแต่ผลได้อย่างเดียวสุดท้ายมันก็เสียหาย เสียสมดุล มันไม่ใช่แค่การรักษาแต่มันต้องป้องกัน คือคืนสิ่งที่ควรจะเป็นอะ สุดท้ายทุกสิ่งมันก็หวนคืนสู่ธรรมชาติมันเป็นสมดุล มันเป็กราฟมีขึ้นมีลง มันจะเอาแต่ขึ้นมันไม่ได้ มนุษย์ทุกวันนี้ทำร้ายโลกในขณะที่ชีวิตเราดีขึ้น แต่คุณต้องรู้ว่าถึงจุดนึงกราฟมันจะตก (8ล้ายๆเรื่องการเงินอะไรต่างๆ) ทางที่ดีคือให้มันสมดุล อย่างไปทำอะไรรุนแรงและเน้นวิธีที่มันไม่ส่งผลเสียในภายหลัง
เราเคยคิดนะว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ เดี๋ยวมันก็หาย พยายามปลง แต่พอมองคนอื่นในอายุใกล้กับเราแล้วเขาไม่เป็นสิวเลยอะไรก็ไม่ได้ใช้ ใช้โฟมอย่างเดียว นอนดึก กินแหลก กินเหล้า สิวก็ไม่ขึ้น พอเราเห็นแล้วแบบท้อ เรานี่ทำไรนิดหน่อยสิวก็ขึ้นละ ระวังนู่นนี่ก็ยังขึ้น คือเราอยากเป็นแบบนั้นบ้างแต่มันเป็นไม่ได้ ก็ต้องทำใจ
ผมไม่ได้หมายความว่าให้ปล่อยไปเลยนะ ที่หมายถึงคือพยายามอย่าไปใช้อะไรที่ทำร้ายผิวมากๆ เน้นอะไรที่มันเป็นธรรมชาติ เน้นให้ผิวมันแข็งแรงนะ ธรรมชาติในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสารสกัดธรรมชาติ หรือใช้สมุนไพร แต่หมายถึง อย่าไปทำลายโครงสร้างตามธรรมชาติของผิวหนัง(เช่นกดสิว จะทำให้โครงผิวหนังเสียจะเป็นหลุมสิวต่างๆ) หรือทาครีมมากไปจนไปกระทบระบบประสาทตามธรรมชาติของผิว หรือใช้ยาฆ่าเชื้อมากไปจนไปกระทบระบบนิเวศของแบคทีเรียอะไรแบบนี้ หรือใช้กรดมากไปจนไปกระทบวัฎจักรการสร้างเซลล์ผิวอะไรแบบนี้ ที่ผมจะสื่อ
อาจจะเว่นเว้อนิดนึง แต่ถ้าคุณว่างก็อ่านเล่นๆก็ได้นะมนุษย์เรากำเนิดมาหมื่นกว่าปีก่อน (โดยประมาณผมไม่แน่ใจ) ผ่านเรื่องต่างๆมา วิวัฒนาการมาเรื่อยๆ แต่สกินแคร์ต่างๆพึ่งมีมาร้อยสองร้อยปีนี้เอง สมัยก่อนมนุษย์ปรับตัวอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ปัญหาที่มนุษย์มีสุุดท้ายมันจะเกิดการปรับตัวตามธรรมชาติ คือมันเป็นกระบวนการของร่างกาย สกินแคร์เนี่ยเป็นสิ่งใหม่ คนสมัยก่อนโบราณเขาหน้าเลอะก็มีแค่เอาน้ำล้าง สมัยนี้มันมีการประดิษฐ์สร้างต่างๆ ครีมต่างๆคนก็พึ่งมานิยมใช้กันมากในยุคนี้ การเกิดของพวกนี้มามองอีกแง่มันก็คือการฝืนธรรมชาติ อย่างที่เขียนไปข้างบน อย่างการผลัดตัวเนี่ยผิวมนุษย์มันจะมีการผลัดเซลล์สร้างเซลล์ใหม่ทุกวัน แล้วเซลล์พวกนี้มันไปอุดตันในรูขุมขนเกิดเป็นสิวเกิดอักเสบอะไรต่างๆ เราก็ไปสรรหาใช้กรดอะไร aha bha มาใช้ เพิ่มการลอกของผิว มันลอกให้ไอที่อุดตันหลุดไปก็จริง แต่มัันก็เหมือนการฝืนธรรมชาติ เป็นการแทรกแทรงวัฎจักร (ถ้ามองในมุมเศรษฐศาสตร์ก็เหมือนเคนเชี่ยนที่ให้รัฐมาแทรกแซงกลไกธรรมชาติ หรืออย่างเวเนซุเอลาที่มีการพิมพ์เงินมากเกินไปจนเกิดเงินเฟ้อขนาดหนักจนประเทศพัง) ผิวทุกวันมันก็มีการผลัดเซลล์อยู่แล้ว ทีงี้ี้พอโดนแทรกแซงโดยใช้กรด สุดท้ายมันก็พังเจอปัญหาอะไรต่างๆตามมาผิวแห้งขาดน้ำ ผิวบาง ถ้ามองตามมุมมองธรรมชาตินะคุณไม่จำเป็นต้องใช้กรดคุณแค่ล้างหน้าให้ถูกวิธีมันก็ช่วยได้เยอะแล้ว หรืออย่างสิวอักเสบเนี่ยนะคุณรู้มั้ยร่างกายเรา เรามีเม็ดเลือดขาวเป็นระบบภูมิคุ้มกัน มีระบบริเวศแบคทีเรียเป็นภูมิคุ้มกัน สิวอักเสบเป็นหนองต่างๆลองปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำอะไรอย่างมากไม่เกิดสองอาทิตย์มันก็หายของมันเอง แต่บางคนไม่สนใจความจริงข้อนี้ ดันไปใช้ยาปฎิชีวนะรักษาสิวอักเสบสุดท้าย ระบบนิเวศแบคทีเรียพัง พอเป็นสิว สิวก็ดื้อยา สิวเม็ดใหม่ก็รักษายากขึ้น แถมใช้ไปนานๆผลระยะยาวพออายุมากก็โอกาสเกิดภูมิแพ้ผิวหนังมากขึ้นอย่างเซบเดิม ผื่นแพ้ อะไรพวกนี้ก็จะตามมา
เราก็เป็นสิวเหมือนกันและเยอะมากตอนนี้ก็ยังไม่หาย แม่เราอายุ50ก็ยังเป็นอยุ่ อยากหน้าใสเหมือนเพื่อนแต่ตอนนี้หน้าก็พังไปแล้ว ผมกำลังก็วางแผนไว้ว่าจะไปเลเซอร์รักษาผิวหน้า เพราะใช้มาทุกทางจริงๆ ไม่รอดสักทาง จับมือให้กำลังใจครับ //ปาดน้ำตา
จริงTT แต่เรายังมีหวังอยู่เพราะพี่กับแม่เราเป็นเยอะมากช่วงอายุผม แต่เขาเริ่มหายประมาณอายุ 20 ปลายๆ แต่เป็นหลุมทั้งแก้มเลย เราก็อาจจะต้องรอแก่อะนะTT ไม่แน่เราอาจจะเป็นนานกว่าอีก
สิวมันหลายอย่างนะครับ แล้วก็ปัญหาของการเกิดสิวก็มีหลายอย่างเช่นกัน อาจต้องปรับพฤติกรรมตัวเองด้วยครับว่า นอนดึกไหม ขับถ่ายเป็นประจำหรือเปล่า กินผักผลไม้มากพอไหม กินของแสลงไหม แพ้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า อย่างสกินแคร์มันก็ไม่ใช่ว่าดีทุกตัวนะครับตัวไหนใช้แล้วไม่ดีขึ้นก็ควรหยุดใช้หรือหยุดใช้ไปให้หมดเลย เพราะอาจจะแพ้สารที่อยู่ในสกินแคร์ก็ได้ พฤติกรรมการล้างหน้าเป็นยังไง ล้างหน้าเป็นขั้นตอนไหนในระหว่างการชำระร่างกายก็มีผล ควรล้างหน้าเป็นลำดับสุดท้าย พอล้างหน้าเสร็จแล้วก็ควรใช้โทนเนอร์เช็ดอีกทีเพื่อเอาสิ่งสกปรกออกให้หมด ถ้าคิดว่าเป็นสิวฮอร์โมนก็ควรปรึกษาหมอผิวหนังโดยตรงครับที่ไม่ใช่พวกคลีนิกเสริมความงามเพราะส่วนใหญ่แพงและยาแรงหยุดใช้แล้วกลับมาเป็นอีก สู้ๆครับเดียวก็หายอย่างผมเป็นหนักมากๆตั้งแต่ ป.4 จนถึงช่วง ม.4 ก็รักษาตามอาการมาเรื่อยๆปรับพฤติกรรมก็เยอะ
ขับถ่ายไม่ค่อยออกน่าจะเป็นเพราะเป็นคนไม่กินผัก จะพยายามครับ
เราก็เป็นนะคะเป็นตั้งแต่มัธยมแล้วค่ะ แนะนำว่าเข้าคลินิคหาหมอค่ะ จะมีพวกเลเซอร์/ทรีตเม้น ในความคิดเรา แพงแต่ดีกว่าสุ่มๆใช้สกินแคร์แล้วไม่ถูกกับผิวหน้าเราค่ะ (ลองหาคลินิกแถวบ้านที่รับราคาไหวดูค่ะ) ของเรารักษาจริงจังตอนทำงานค่ะ ตอนมัธยมมีหาบ้างค่ะ พอสิวหายเดียวก็จะกลุ่มใจกับหลุ่มสิวแทนค่ะ หลุมสิวรักษายากกว่าค่ะ
สิวส่วนใหญ่ที่หมอเคยบอกสาเหตุ จะประมานนี้นะ
1. การกิน : หมอจะให้งด/ลดพวกช็อกโกแลต ของทอด ของหวาน เพราะเป็นอาหารของสิว หมอก็จะแนะนำให้กินอาหารที่มีประโยชน์ออกกำลังกาย (ออกกำลังกายเสร็จก็ทำความสะอาาดร่างกายด้วยนะ เดียวกายเป็นหมักหมดสิ่งสกปรก แล้วสิวจะขึ้น)
2. ความเครียด
3. การนอนดึก/พักผ่อนไม่เพียงพอ
4. ฮอร์โมน
5. การแพ้ : แพ้อาหาร, แพ้พวกฝุ่น รวมถึงแพ้สกินแคร์ที่ใช้อยู่ (ของที่คนอื่นใช้ อาจจะไม่ได้เหมาะกับเราทุกตัวค่ะ)
6. ติดสารเสตียรอยด์ => พวกนี้เกิดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอย
อีกอย่างนึงก็พวกเอามือจับหน้า แคะ/แกะสิวค่ะ(อันนี้เราแต่ก่อนเราทำบ่อยค่ะ) อันนี้เพราะมือเราสกปรก จับอะไรหลายอย่างและมาจับ ทำให้เชื้อสิวลามได้ง่ายค่ะ ถ้ากดสิวไม่ถูกวิธีก็เป็นหลุมสิวค่ะ
สู้ๆนะคะ ของเราก็เป็นง่ายค่ะ แต่ก็รักษานานเหมือนกันค่ะ กว่าจะอยู่ตัว
เราไม่เคยกดสิวเลย ปล่อยให้มันแห้งแล้วหลุดไปเอง ได้แต่ใช้ยาแต้ม ส่วนเข้าคลินิกอยากเข้าอยู่นะ แต่ราคามันครึ่งหมื่นได้3ครั้ง ก็คิดหนักอยู่55
เข้าใจค่ะ เป็นเหมือนกันกับเรื่องค่ารักษา แพงจริง555
ถ้าอยู่กทม. ไม่มีปัญหาเรื่องเดินทาง และเรื่องรอคิว ราคาไม่แรง ที่พอนึกออกนะ
1.สถาบันโรคผิวหนัง, รพ.ศิริราช หรือ รพ. จุฬาดูนะ
2. คลินิควังแก้ว แถวบางประกอกจ้า (อันนี้เน้นยา) แต่คิวนานมากจ้า
ไม่ก็ลองหาคลินิคแถวบ้านดูจ้า ต้องมีบ้างแหละที่ราคาไม่แรง ของเราก็จบที่คลินิคแถวบ้านที่ราคาไม่แรงจ้า เพราะเดินทางเหนื่อย
แต่หลักๆก็เปลี่ยนพฤติกรรมเอานะ พวกเรื่องจับหน้า การกิน การนอน และความเครียด อันนี้มีผลมากๆเลย ถ้ารักษาไป แต่ยังทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็กลับมาสิวเห่อได้ง่ายจ้า (รักษาก็มีสิวขึ้นได้นะ แต่แค่น้อยลง)
มีคลินิกแถวบ้านชื่อดัง คอร์สนึง5000 บาท 3 ครั้ง TT พฤติกรรมการกินเปลี่ยนอยู่ แต่บางทีมันอยากของหวาน หมูทะงี้555 แต่กินน้อยลงละ แต่เลิกไม่ได้55 ลดปริมาณเอา
เราเป็นแบบคุณเป๊ะเลย คนไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจนั่นแหละค่ะ เหมือนเกิดมาเพื่อเป็นสิว เราก็เป็นตั้งแต่ม.ต้นยันมหาลัย เคยหน้าเนียนแค่ครั้งเดียวช่วงที่ใช้เบนเซค พอเลิกใช้ก็ขึ้นอีก ขึ้นมากขึ้นน้อยแล้วแต่ว่าช่วงนั้นมีพฤติกรรมแย่ลงยังไง เช่น แกะสิว นอนดึก ตรงแก้มเราไม่มีที่ให้ขึ้นละค่ะ ไปขึ้นแถวคางแทน อย่างเซ็งเลย 555555555 แต่โชคดีที่คนรอบข้างไม่ทัก เราเลยสบายใจขึ้นมากๆ
คนชอบทัก โมโหมาก55 ทำให้ยิ่งไม่มั่นใจ จากที่น้อยๆอยู่แล้ว
ใช่เลยค่ะ แต่ก่อนเราไม่กล้าสบตาคนตอนพูดเลยค่ะ กลัวว่าเขาจะมองสิวเรา เราเคยโดนเรียกว่าคางคกด้วยค่ะ รู้สึกแย่มากกก โดนทักเรื่องสิวนี่แย่จริงๆ คนเป็นสิวพากันมองข้ามเรื่องนี้ พอมีคนพูดถึงเหมือนย้ำเราให้นึกถึงสิวบนหน้าเลย 5555
ตอนนี้ยังเป็นอยู่ไหมครับ
พฤติกรรมการกิน-อาหารสำคัญมาก โดยเฉพาะนมวัว เลิกเด็ดขาด
นมวัว เมื่อก่อนผมกินทุกวันเลยครับช่วงมัธยมเพราะอยากสูง แต่เลิกกินมาเป็นปีๆแล้วครับ มีนานๆทีกินทีนึง เพราะมันอยากกินอะTT
ต้องเข้าใจนะคะว่าสิวคือ "โรค" ทางผิวหนังชนิดหนึ่งดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือไปหาหมอเฉพาะทางผิวหนังที่โรงพยาบาลค่ะ คุณจะได้พบกับแพทย์เฉพาะทางผิวหนังโดยตรงค่ะ
หาหมอที่ว่าไม่ใช่หมอตามคลินิคนะให้ไปหาหมอเฉพาะทางผิวหนังที่โรงพยาบาลเลย
ผมไม่น่าไปได้อะ แค่จะไปคลินิกแม่ยังบ่นขนาดนี้55
คลินิกก็ไปได้ แต่ให้ไปคลีนิคแพทย์ผิวหนัง ที่ไม่ควรไปคือคลีนิคเสริมความงาม เพราะมันแพง ต้องแยกกันนะมันมีหลายแบบอยู่ครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?