ปัญหานักเรียน
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากจะรู้ค่ะว่า ถ้าเห็นนักเรียนนั่งข้างหน้าคนเดียวทั้งที่เพื่อนทั้งห้องนั่งกันเป็นคู่บ้างนั่ง3โต๊ะติดกันบ้าง ถามนักเรียนว่ามีเพื่อนมั้ย นักเรียนก็บอกว่ามี
อยากถามรู้ว่าจะทำยังไง ควรปล่อยไปรึเปล่าคะ
3 ความคิดเห็น
เป็นครูประจำชั้นเค้ารึเปล่าคะ บางทีการถามตรงๆเค้าก็ไม่ยอมบอกเราหรอก ลองสังเกตพฤติกรรมอื่น ที่ไม่ใช่ระหว่างเรียนค่ะว่าเค้าอยู่กับเพื่อนมั้ย เวลาสอนอาจวางแผนกิจกรรมกลุ่ม ดึงเค้ามาอยู่กับเพื่อน แล้วสังเกตการทำงานกลุ่ม ถ้าสังเกตจนแน่ใจแล้วค่อยเรียกมาตะลอมถาม อย่าไปถามตรง ๆ บางทีอาจต้องใช้เวลาหน่อย การเปิดใจใครสักคนมันต้องใช้เวลานะคะ
เราเคยเป็นนร.ประเภทนี้ค่ะ ตอนประถมเป็นคนเงียบมากๆ ไม่มีเพื่อนทำงานคู่ ไม่มีเพื่อนกินข้าว พ่อแม่ถามว่ามีเพื่อนมั้ยก็จะตอบว่ามีค่ะ แต่เพื่อนในที่นี้คือนับเพื่อนที่คุยนานๆที รึเพื่อนที่คอยช่วยบางครั้งด้วยค่ะ (ไม่ได้นั่งคนเดียวด้วยค่ะT-Tรร.เอกชน จับนั่งตามที่บอก)
ถ้าถามว่าควรทำไง เหมือนที่คห.1บอกเลยค่ะ ถามตรงๆมันไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนเราโดนถามมันจะรู้สึกค่อนข้างอึดอัดมากเลยค่ะ แต่เราเคยโดนวิธีจับงานกลุ่ม ถามดีเวิร์คมั้ย แล้วแต่คนด้วยแหละค่ะสำหรับเราไม่เวิร์คเลย (แต่เพราะเราเป็นเด็กเครียดตลอดเวลา เลยไม่ค่อยชอบคุยด้วย)
เคยมีครูละลายนิสัยอยู่(แต่เป็นครูต่างชาติค่ะ ได้เรียนด้วยแค่2ปีค่ะ) เขาใช้วิธีชวนเราคุยด้วย เล่นขำๆด้วย บางครั้งมีมานั่งกินข้าวด้วย หรือในห้อง เราจะติดนิสัยวาดรูป ครูเขาก็จะสอนให้เสร็จแล้วมาวาดด้วยค่ะ พอนานๆเข้าเราก็เปิดใจระบายให้เขาฟัง แต่ก็ใช่ว่าจะมีเพื่อนนะคะแต่ผ่านช่วงนั้นมาได้เพราะครูเขาเฉยๆ มาละลายนิสัยจริงๆคือย้ายรร.และเปลี่ยนสังคมแล้วค่ะ
แต่แล้วแต่ช่วงอายุด้วยนะคะ แต่ทางที่ดีพยายามชวนคุยเล่นๆบ่อยๆ น่าจะดีค่ะ^-^
ปัญหานักเรียน
สวัสดีค่ะเจ้าของกระทู้
อยากจะรู้ค่ะว่า ถ้าเห็นนักเรียนนั่งข้างหน้าคนเดียวทั้งที่เพื่อนทั้งห้องนั่งกันเป็นคู่บ้างนั่ง3โต๊ะติดกันบ้าง ถามนักเรียนว่ามีเพื่อนมั้ย นักเรียนก็บอกว่ามี
อยากถามรู้ว่าจะทำยังไง ควรปล่อยไปรึเปล่าคะ
อ่านทั้งหมดจากเหตุการณ์แล้ว ก็สามารถบอกได้ว่าคุณเองนะคะ ที่มีอยู่... และเป็น... ซึ่งคุณเองค่ะ คือผู้ที่มีนํ้าใจ ใส่ใจ ห่วงใยผู้อื่น ทั้งนี้คุณยังเป็นคนที่รอบคอบ ชั่งสังเกตุ ซึ่งเป็นอุปนิสัยที่ดียิ่งของคุณเอง เป็นสิ่งที่ดี ๆ ที่คุณมีอยู่ ทั้งหมดนี้ ของคุณจงรักษาไว้ให้ดีนะคะ
เพราะสิ่งดี ๆ นี้นะ ในอนาคต ในเวลาต่อไปคุณเองค่ะ ที่จะได้รับผลดียิ่ง ต่ออุปนิสัยอันดีของคุณนี้ค่ะ
คือ ที่กล่าวมานี้ เพราะด้วยเข้าใจว่า...กระทู้นี้ ซึ่งมีเกิดขึ้น และเป็นประเด็นดังที่คุณถามเข้ามานี้นะคะ ทั้งหมดเป็นมุมมอง เป็นความรู้สึก เป็นความเห็น ความเข้าใจ ด้วยที่ว่า คุณเป็นห่วงใยใครคนหนึ่ง ซึ่งคุณเกรงว่าเขา หรือเพื่อนร่วมห้องคนนี้ อาจจะเหงา หรือเดียวดาย แบบนั้นนะคะ
คือ คุณเป็นคนที่มีนํ้าใจดี และมีเมตตา มีความปรานีอยู่เป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งดี ๆ นะคะ คนเช่นคุณนี้ เป็นคนที่เป็นสุขง่าย ๆ ได้โดยธรรมชาติ คุณเป็นสุข คุณจึงต้องการที่จะให้ผู้อื่นเป็นสุขด้วย เป็นธรรมชาติของผู้ที่มีความสุขเป็นที่พึ่ง ขอแสดงความยินดีด้วยกับคุณ ในธรรมชาติที่คุณมีอยู่ค่ะ
------------------
ข้างบนนั้น เม้นต์ให้เหตุ... ที่เป็นปัจจัย ที่ทำให้ก่อเกิดเป็นกระทู้ของคุณ กระทู้นี้นะคะ
คือ คุณมีความห่วงใย ในเพื่อน(มนุษยชาติ)ด้วยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดียิ่งค่ะ
จึงอยากแนะนำคุณว่า เพื่อน หรือคนในแบบที่คุณบอกล่ามานี้นะคะ แม้คุณจะเห็นเขารักที่จะอยู่เพียงคนเดียว ทำอะไร ๆ คนเดียวบ่อย ๆ จะให้ดี คือดูเค้าเฉย ๆ ไปก่อนค่ะ
คือคนในแบบเขานี้ เจ้าของเม้นต์เข้าใจว่า คนเหล่านี้ ในแบบนี้นะคะ เขาส่วนมากรักความสันโดษ รักความเป็นตัวของตัวเขาเอง มีความมั่นใจสูง รักความเงียบสงบ เป็นธรรมชาติทั้งนี้ ด้วยที่คนเรานะคะมีธรรมชาติต่างกันได้ นั้นเป็นความจริงนะคะ
เช่น คนหลาย ๆ คน อาจจะต้องการเพื่อนมากมายตลอดเวลา ในทุกอย่าง ในทุกกิจกรรมเขาทั้งหลายต้องการเพื่อน ต้องมีเพื่อน ต้องมีผู้คนรายล้อมจึงจะเกิดเป็นพลังที่จะทำทุกอย่างได้ดี
หากแต่มีคนบางส่วน ซึ่งมีธรรมชาติที่ทำอะไร ๆ ได้ดีเมื่อเขาทำคนเดียว หรือในยามที่เขาบินเดี่ยว หากแต่เขาอาจจะทำอะไร ๆ ได้ไม่ดีนัก หากต้องเข้าร่วมกับคนหมู่มาก ทั้งนี้อาจจะเพราะธรรมชาติของเขา ที่เขาเป็นเช่นนั้น ก็เป็นได้ค่ะ
คือคนในแบบนี้ เรา ๆจะเห็นได้บ่อย ๆ ว่าเขาอยู่ของเค้าได้ และ ทำทุกอย่างได้ดี บางครั้งทำเรื่องที่ดี ๆ คล้ายซุ่มทำ ยกตัวอย่าง เช่น การเรียนนะคะ ที่เคยเห็นมา คนแบบนี้ ไม่พูดมาก ไม่แสดงออก แต่การเรียนดีเยี่ยม
เมื่อมีการแข่งขันวิชาต่าง ๆ เมื่อไร เขากลับเป็นผู้ที่ทำได้ดี ให้แก่ชื่อเสียงของห้อง ของโรงเรียน
หรือ ในยามที่มีชั่วโมงพละ การละเล่นกีฬา หรือกิจกรรมต่าง ๆ ก็ตามที ภายใต้การเรียน การสอน กีฬา หรือกิจกรรมต่าง ๆ ก็ทำออกมาดี เป็นคนที่มีทักษะดีอีกด้วย
คือทั้งนี้ เขาอาจจะต้องใช้พลังจดจ่อไปในสิ่งที่เขาทำ และรักการที่จักทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เขาต้องใช้พลัง ใช้ความสงบ เพื่อความคิด เพื่อการจดจ่อ จนเกิดเป็นเขา หรือเกิดเป็นผู้ที่มีนิสัยที่รักการออมกำลัง เพื่อทุกอย่าง ที่เขาต้องทำ หรือรักที่จะทำ แบบนั้นค่ะ
ออมกำลัง ด้วยการอยู่ของเขาเงียบ ๆ เป็นส่วนตัว เพื่อนำพลังไปใช้ในยามที่ต้องทำ ต้องเป็น เช่น เขาอาจจะเป็นคนที่มีความตั้งใจ จดจ่อ ในการเรียน การกีฬา หรืออื่น ๆ และเมื่อต้องทำ ทุกอย่าง ก็ออกมาดี ทั้งหมดนี้ คืออาการของคนที่รักสันโดษค่ะ
ซึ่งคนเหล่านี้ เขามีธรรมชาติเป็นเช่่นนี้ และส่วนมากนะคะ คนเหล่านี้ ไม่มีความเหงาหงอยในจิตใจบ่อย ๆ ด้วย เพราะด้วยเขาเกิดมารักความเป็นส่วนตัว หรือชอบความสงบเป็นธรรมชาติค่ะ
คือ คนเหล่านี้ มีความคิด มีความสนุกสนาน เป็นที่พึ่ง เป็นความท้าทายอยู่ภายในตลอดเวลา คือ แม้เขาอาจจะเงียบ ๆ ชอบอยู่โดดเดี่ยว แต่ภายในของเขา อาจจจะมีพลังบวก ๆ มากมาย ตลอดเวลา ทั้งนี้ เพราะด้วยธรรมชาติ สร้างความบาล้านซ์มาให้กับคนเรา นั้นเองค่ะ
คนเหล่านี้ ที่เงียบ เพราะเขาต้องการออมกำลัง หากแต่ จิตใจ ภายในของเขาทำงาน จดจ่อ หรือแอ็คทิวฟ์ตลอดเวลา
(ธรรมชาติ ในที่นี้ ก็ไม่ต่างจากธรรมชาติของนกที่สามารถบินได้ และธรรมชาติของปลา ที่สามารถว่ายนํ้า ดำนํ้าได้ และธรรมชาติของคนที่มีความรักในสันโดษ เขาก็จะเป็นของเค้า ดังที่กล่าวมา หากเขาไม่ติดสันโดษมากไปจนคิดหาวิธีปลีกวิเวก ด้วยการออกไปอยู่ป่า คือแม้ไปอยู่ป่า เขาก็เป็นสุข สนุกสนานไปกับธรรมชาติที่โดษเดี่ยวนั้นได้ดีด้วยเช่นกันค่ะ คือคนรักสันโดษบางรายอาจจะละทิ้งสังคม หรือทุกอย่างด้วยการปลีกวิเวก คนแบบนี้ก็มีอยู่จริง และนั้น เพราะเป็นธรรมชาติของเขาเท่านั้นนะคะ คือ เขาเป็นของเขาแบบนั้นโดยธรรมชาติ ไม่มีผลมาจากสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ)
คือ จริงแล้วนะ คนเหล่านี้ ส่วนมาก มีพลังดี พลังบวก มีความคิดติดบวก ๆ มีจิตใจที่มีไมตรีจิตดี มีความเป็นกัลยาณมิตรที่ดี เป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ หากคุณจะสังเกตุนะคะ คุณลองทักทายเขาดู คุณจะเห็นแววตาที่สดใส สว่างไสว และเห็นสีหน้าที่เป็นมิตร ในคนเหล่านี้ค่ะ คือ ภายในจิตใจเขาคงไม่มีความหงอยเหงา หากแต่ ที่เขาเป็นเช่นนั้น เพราะเป็นธรรมชาติของเขา เท่านั้นเองค่ะ
ทั้งนี้ เขา คนในแบบนี้ เขาคงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด หรือ เขาอาจจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ในการที่เขาจะรักการอยู่แบบโดดเดี่ยวท่ามกลางสังคม ในทุก ๆ วัน ของเขา ซึ่งทั้งนี้ ด้วยที่เขามีธรรมชาติดังที่กล่าวมานี้ค่ะ
หากคุณอยากลองผูกมิตรกับคนเช่นนี้ คุณก็ลองทักทายเขาดูนะคะ และจะให้ดี คุณต้องพยายามอย่าหวังอะไรมากกับคนเช่นนี้ ในเรื่องของสังคม คือ หากคุณอยากที่จะชักชวนเขาเข้าสังคมของคุณเพราะกลัวเขาเหงา เหตุเช่นนี้อาจจะทำใหคุณหมดโอกาสเป็นเพื่อนกับเขาก็เป็นได้ค่ะ เพราะคนที่รักสันโดษนะคะ มีความเป็นตัวตนของเขาเองสูงมาก ๆ ส่วนมากหากเขารู้สึกว่าไม่ชอบในสิ่งที่ถูกนำมาเสนอ หรือที่ถูกมอบหมายให้ เขาเองไม่ต้องการ เขาจะทิ้งห่างคุณไปค่ะ
และจะทิ้งห่างไปเงียบ ๆ ด้วยค่ะ
ทั้งหมดนี้ เป็นธรรมชาติของคนที่รักสันโดษ หรือ คนที่อาจจะดูเงียบ ๆ อยู่ได้ในแบบโดดเดี่ยวได้ดีท่ามกลางสังคม ทุกสังคมค่ะ
(แม้กับพ่อแม่ พี่น้อง กับญาติ ๆ ของเขาเอง เขาก็เป็นเช่นนี้ คือทั้งหมดนี้ เป็นธรรมชาติ ธรรมชาติหนึ่ง ในคนบางส่วน หรือในคนบางกลุ่มนั้นเองค่ะ)
และที่คุณถามเข้ามาว่า...อยากถามรู้ว่าจะทำยังไง ควรปล่อยไปรึเปล่าคะ...
ตอบคุณว่า คุณก็ลอง ๆ ทักดูค่ะ ทักทายด้วยคำสั้น ๆ หรือเริ่มต้นด้วยการเพียงยิ้มให้เขาก่อน เท่านั้นพอค่ะ เพราะคนแบบนี้เขาระวังตัวเองมาก ๆ เมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกว่ามีผู้ล่วงลํ้าเข้ามาในโซนที่เขาต้องการเป็น อยู่ คือความเงียบ สงบ ความเป็นส่วนตัวของเขา เขาจะพินิจพิจารณา และเขาจะห่างหายไป พยายามทิ้งระยะห่างจากคุณ หรืออาจจะแย่กว่านั้น คือเขาจะทำกำแพงขึ้นมาปิดกั้นคุณในทันที
หรือ อาจจะเป็นความโชคดี ของคุณทั้งสอง ด้วยที่ว่า เขาเปิดใจ เขาถูกชะตากับคุณ เกิดเป็นเพื่อนสนิท มิตรสหายกันขึ้นมา ระหว่างคุณ และเขา ก็เป็นได้ค่ะ คือ คนที่รักสันโดษนะคะ เขาก็สามารถมีเพื่อนสนิท เพื่อนรักได้ ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ เพียงแต่ ในคนเหล่านี้ เขาเองที่จะเป็นผู้เลือกเพื่อนของเขา เท่านั้นค่ะ
หากเขารู้สึกว่าการทักทายนั้น ๆ อาจจะมากเกินไปสำหรับเขา ทั้งนี้ เพราะเขามีธรรมชาติเป็นเช่นที่กล่าวมายาว ๆ นี้ เท่านั้นเองค่ะ หากแต่ ไม่ลองก็ไม่รู้ จริงนะคะ
คือ คนเช่่นนี้ มีธรรมชาติเป็นเช่นนี้ เป็นตัวตน เป็นนิสัยใจคอของเขา มิใช่เหตุที่นอกเหนือกว่านี้ แต่ประการใดนะคะ ทั้งนี้ ด้วยที่ว่าในธรรมชาติต่าง ๆ นี้นะคะ มีความแตกต่างอยู่เป็นแก่นสาร เป็นความจริง
ทั้งนี้ ผู้คนที่เขามีธรรมชาติที่อาจจะแตกต่างจากคนส่วนมาก หรือคนอื่น ๆ อยู่ นั้นก็เป็นความจริงค่ะ
การเป็นเพื่อน เป็นมิตร เป็นสิ่งที่ดียิ่งในสังคมคน ไม่ว่าคนเราทั้งหลายจะมีอุปนิสัย มีธรรมชาติในแบบไหน หรือรูปแบบใด การเป็นมิตร เป็นเพื่อนของคนเรานั้น เป็นสิ่งดี ๆ ยิ่งค่ะ
ทั้งนี้ คุณคงไม่ใช่คุณครูของนักเรียนของคนที่คุณเล่ามานี้นะคะ ?
(เข้าใจว่า หากคุณเป็นคุณครู คุณคงจะมีโอกาสพบเจอเด็ก ๆ มามากมาย ซึ่งแตกต่างกันไป และจากประสบการณ์ของคุณ คุณน่าจะเข้าใจเด็กนักเรียนได้ดี ด้วยที่ว่าเด็กนักเรียนทุก ๆ คน เขาทั้งหลายก็มีธรรมชาติที่แตกต่างกันไป และเขานักเรียนคนนี้ ซึ่งเขาอาจจะดูแตกต่างไป...จากคนอื่น ๆ ได้ ตามที่คุณเล่ามานี้ และคงไม่ทำให้คุณต้องเกิดเป็นความห่วงใย จนคุณเองต้องเครียด เพราะห่วงใยเขานะคะ)
เป็นกระทู้ที่ดี ๆ จากนักเรียน(หรืออาจจะเป็นคุณครู? ก็ดีนะคะ) คุณเป็นผู้ที่มีจิตใจดี ใส่ใจ เห็น รู้ ช่างสังเกตุ สิ่งแวดล้อม และใส่ใจในเพื่อนร่วมสังคมของคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ
ยินดีมากมายกับการที่ได้ตอบรับกระทู้ที่มีสาระดี ๆ เช่นนี้ค่ะ
---------------
ว๊าาาา
กลับมาเช็คกระทู้อีกครั้ง
เห็นแท็กของคุณค่ะ
คุณเป็นคุณครูนะคะ?
คุณครูมาเองแบบนี้
แบบนี้แล้วนะ หากเม้นต์นี้ คุณรู้สึกว่า มีเหตุการอธิบายที่ผิดพลาดแต่อย่างใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ
(เรานัก เด็กนักเรียนหัดเขียน ที่แก่แดด เอ่ยไม่ใช่ ดูจะรู้ดีกว่าครู ก็ไม่รู้ด้วยยยเน๊อออ )
ปล่อยโง่อีกแน่ ๆ เลยด้วยเรา อื้ออ ฮื้อออ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?