Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ไปพบจิตแพทย์ครั้งแรก และครั้งสุดท้าย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ความจริงเรื่องนี้เกิดขึ้นหลายปีที่แล้วค่ะ ซึ่งเป็นช่วงที่เราเริ่มฝึกงานพอดี แต่สาเหตุว่าทำไมถึงตัดสินใจไปหาจิตแพทย์ จะเล่าอธิบายให้ฟังค่ะ

เราเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บกดจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ ที่บ้านเราไม่สนับสนุนในสิ่งที่เราอยากจะเป็น ทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่มีความคิดว่าเราเกิดมาทำตามที่แม่ต้องการทั้งชีวิตไปเลยก็ได้ เกิด แก่ แล้วก็ตายโดยที่ไม่แคร์ว่าสิ่งที่เราอยากทำจริง ๆ คืออะไร ชีวิตเรามีแค่นี้ เพราะสมองมันคิดไปแล้วว่าถ้าปฏิเสธตอนไหน แม่จะต้องโทษตัวเองที่เลี้ยงเราไม่ดีแน่(แม่เลี้ยงเดี่ยว) ความจริงเรื่องที่บ้านมีรายละเอียดที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนเยอะกว่านี้แต่ไม่ขอเล่าละกันค่ะ และมีเรื่องอื่นด้วยเช่น เคยโดนบูลลี่อยู่หลายปี หลังจากนั้นก็dead insideไปหลายปีอยู่เหมือนกันจนไม่มีเพื่อนคบ มีแต่เพื่อนทางเน็ตที่คุยกันได้ โดยรวมคือกลายเป็นคนที่เก็บกดมาทั้งชีวิต
เราไม่เคยระบายเรื่องของตัวเองจริงๆเลยสักครั้งเพราะกลัวเพื่อนดิ่งไปด้วย มีแต่บอกว่าเครียด เครียด เครียด ให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกไปหาจิตแพทย์เถอะ แต่ด้วยความที่ในตอนนั้นในหัวมันก็บอกว่าถึงเจอก็ไม่ช่วยอยู่ดี(ความจริงคือกลัว) จนเพื่อนอยากเดินทางมาหาเราแล้วจับพาไปหาจริงๆให้รู้แล้วรู้รอดเพราะเห็นบ่นบ่อยค่ะ5555


ถึงช่วงไปหาจิตแพทย์
เขาถามว่ามาหามีอะไรครับ ด้วยความที่ไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ เลยเผลอระบายเรื่องที่กดดันตัวเองไปซะเยอะเลยค่ะ5555 คือระบายออกไปเหมือนคนสติไม่อยู่กับตัว พูดไปรู้สึกผิดไปเพราะที่พูดคือความกดดันที่มาจากที่บ้านแทบทุกอย่าง เพราะสิ่งที่อยากเป็นดันตรงข้ามกับสิ่งที่ที่บ้านหวัง ทุกคนในบ้านก็เป็นอย่างที่แม่หวังหมด มีแต่เราที่แตกต่างออกไป ตอนเล่าไปก็เก็บอาการไม่อยู่ น้ำตาอาบแก้มค่ะ555
แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มถามในสิ่งที่กระทบจิตใจเรามากค่ะ

หมอ : ตอนนี้อยู่หอพักใช่ไหม?
เรา : ใช่ค่ะ
หมอ : หอที่กำลังอยู่ตอนนี้ ใช้เงินใครจ่าย?
เรา : เงินแม่ค่ะ
หมอ : แล้วค่าอาหารค่าเลี้ยงชีพล่ะ ตอนนี้ใครจ่าย?
เรา : แม่
หมอ : อ่าว ก็ตอนนี้เรายังใช้เงินแม่เลี้ยงชีพตัวเองอยู่หนิ
แล้วเขาก็เหมือนเริ่มบอกประมาณว่าทุกอย่างที่เราอยู่มาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะแม่ทั้งนั้นเลย

คือ... เรื่องพวกนั้นเรารู้ดีเลยค่ะ รู้อยู่แก่ใจว่าเรามาถึงจุดนี้ได้เพราะเงินแม่ทั้งนั้น เพราะงั้นถึงได้รู้สึกผิดทุกครั้งไง แต่ตอนนี้เราอยู่ในวัยกำลังเรียนกำลังศึกษา แสดงว่าอายุเราจำเป็นต้องเน้นหาเงินเลี้ยงตัวเองเลี้ยงชีพแล้วรึป่าว หรือเราไม่กระตือรือร้นที่จะทำเอง ทั้งที่เรากำลังเรียนอยู่?
ตั้งแต่คำพูดเขาเลยทำให้เหมือนว่าตายด้านไปชั่วขณะเลยค่ะ5555 ประมาณว่าอ่อลืมไป ชีวิตเรา=ชีวิตแม่แต่แรกไรงี้ ถ้าไม่มีเงินเลี้ยงตัวเองก็อย่าหาโทษ เขาเลี้ยง=ห้ามโทษห้ามอะไร รู้สึกผิดไปเถอะมุงอะ55555+
เพราะอย่างที่บอกค่ะ เรากลัวว่าแม่จะรู้สึกแย่เพราะเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งชีวิตเราแทบไม่ห่วงใครยกเว้นแม่เลย ทำอะไรที่แม่ไม่ต้องการทีก็แทบอยากตัดมือตัวเองทิ้งอยู่แล้ว555 เราน่าจะพูดตรงเกินไปว่าที่เราเก็บกดเพราะแม่ เขาก็บอกว่าเรื่องนี้หมอก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ
ตอนนั้นทั้งตายแหล่ไม่ตายแหล่ทั้งน้ำตาแตกอยู่อย่างนั้น เขาก็เลยปล่อยให้เราร้องไห้สักพัก แล้วบอกว่า
นี่อะ ที่ห้องนี้ไม่มีทิชชู่เพราะต้องการให้ร้องไห้ออกมาอะไรสักอย่างนี่แหละ ตอนนั้นสติไม่ค่อยมีค่ะ5555
คุยกันไปคุยกันมาเราก็ได้การบ้านค่ะ ให้เขียนความสุขในแต่ละวัน เราเจออะไรเราก็เขียนวันละเท่าไรนี่แหละจำไม่ค่อยได้ แล้วก็ต้องมาเจออีกครั้ง แต่เราก็ไม่ได้ไปค่ะ แต่กินยาที่ได้มาแทน

จะโทษเราก็ได้ค่ะ ที่ไม่ได้ไป เพราะตัวเองก็อยากจะหายจากความเครียดเหมือนกัน แต่เหมือนเราจะชนะความกลัวที่จะต้องไปเจอหมออีกครั้งไม่ได้แล้วจริงๆค่ะ555+

สรุปปัจจุบันเราได้เคลียร์อะไรหลายอย่างกับที่บ้านแล้ว และแม่ก็ยอมให้เราเลือกในสิ่งที่ต้องการค่ะ แต่เหมือนโหวงๆยังไงไม่รู้ รู้สึกไม่ค่อยเต็มที่เท่าไรแต่ก็โอเคค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

rrffg 4 มิ.ย. 65 เวลา 09:32 น. 1

จิตแพทย์คุณดีจังรับฟัง เราเคยไปหาจิตแพทย์ที่มหาลัย ที่มหาลัยมีหมอหมด แต่ตอนไปขอใช้บริการ พูดไม่ค่อยจะดี เพราะเราไม่เสียเงิน แต่มันเป็นสวัสดิการนักศึกษา จากนั้นเราก็ไม่ไปหาจิตแพทย์อีกเลย

0