Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

“ลูกไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ (พ่อแม่ก็เช่นกัน)”

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
.
เด็กบางคนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ เมื่อพ่อแม่และผู้ใหญ่รอบตัวเขาค้นพบพรสวรรค์นี้ในช่วงแรก พวกเขาอาจจะชื่นชมเด็กน้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไป พรสวรรค์ที่มีอาจจะกลายเป็นกับดักแห่ง “ความคาดหวังที่ไม่มีวันสิ้นสุด”
.
ในขณะที่เด็กบางคนเกิดมาเป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่ง แต่เขาอาจจะเกิดมาท่ามกลางคนในครอบครัวที่มีความสามารถรอบด้านหรือมีความคาดหวังต่อตัวเขาตั้งแต่เกิดมา เมื่อเขาทำไม่ได้หรือปฏิเสธที่จะทำ ความผิดหวังจึงเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองไม่ได้ทำผิดอะไรเลย
.
**********
.
ก่อนที่ “ความคาดหวัง” และ “ความกดดัน” ของเราจะทำร้ายลูก...
สิ่งที่พ่อแม่ควรตระหนักอยู่เสมอ...
.
(1) “พ่อแม่ไม่ควรเปรียบเทียบลูกกับใคร”
.
เด็กทุกคนเกิดมามีความแตกต่างกัน พวกเขาต่างเกิดมาเพื่อเป็นตัวเขาเอง
ดังนั้นพ่อแม่ไม่ควรเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่นๆ เพราะการทำเช่นนั้น นอกจากจะบั่นทอนกำลังใจของพ่อแม่แล้ว ยังเป็นการทำลายความภาคภูมิใจในตัวลูกของเราอีกด้วย
.
สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ คือ “ยอมรับลูกในแบบที่ลูกเป็น” 
.
***
.
(2) “พ่อแม่ไม่ควรยัดเยียดความฝันของเราให้กับลูก ”
.
พ่อแม่บางท่านอาจจะไม่รู้ตัวว่า “เรากำลังเอาความฝันของเราไปยัดเยียดให้ลูกของเราแบกไว้ และให้เขาทำสำเร็จแทนเราในอดีตที่ทำไม่ได้” การทำเช่นนี้ลูกบางคนอาจจะทำได้สำเร็จ แต่สุดท้ายถ้าความฝันนั้นไม่ใช่ฝันของเขา ตัวลูกอาจจะรู้สึกกลวงโบ๋ข้างใน รอวันที่จะต้องเติมเต็มตัวเอง หรือ รอให้ลูกของตัวเองมาเติมเต็มฝันให้ตัวเองต่อไป วงจรแห่งความเศร้านี้ก็จะวนเวียนไม่สิ้นสุด ส่วนลูกบางคนที่ไม่สามารถทำฝันของพ่อแม่ให้เป็นจริงได้ เขาอาจจะรู้สึกผิดต่อพ่อแม่ของเขา และโทษตัวเองที่เป็นลูกที่ไม่ได้เรื่อง บาดแผลนี้อาจจะทำให้เขากลายเป็นผู้ใหญ่ที่กลัวการทำสิ่งต่างๆ ไปเลยก็ได้
.
สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ คือ “การปล่อยให้ลูกได้เดินไปในทางที่เขาเลือกเดิน และอวยพรให้เขาไปถึงฝั่งฝัน"
.
***
.
(3) “ไม่มีความผิดหวังใดน่ากลัวไปกว่าความผิดหวังที่พ่อแม่มีต่อตัวลูก”
.
ลูกเกือบทุกคนมีความกลัวทำให้พ่อแม่ของตัวเองผิดหวัง เพราะความผิดหวังนำไปสู่ความเสียใจ
.
ไม่มีลูกคนไหนอยากทำให้พ่อแม่ของตัวเองเสียใจ ดังนั้นพ่อแม่ควรระวัง เราไม่ควรผิดหวังหากลูกทำคะแนนไม่ได้ดี ไม่ชนะการแข่งขัน หรือ ทำไม่สำเร็จ เพราะสำหรับลูกแล้ว การที่พ่อแม่ผิดหวังในตัวเขา มันน่ากลัวกว่าการไม่ได้ที่หนึ่งหรือการพ่ายแพ้เสียอีก
.
สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ คือ “เชื่อมั่นในตัวลูก แม้ในวันนั้นโลกทั้งใบจะหันหลังให้กับเขา” เพราะในวันที่ลูกล้ม เมื่อเขารับรู้ว่า “พ่อแม่เชื่อมั่นในตัวเขา เขาจะมีแรงกลับมาเชื่อมั่นในตัวเองอีกครั้ง”
.
***
.
(4) “ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ มีพรสวรรค์หรือพรแสวง ทุกคนสามารถทำผิดพลาดกันได้ ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ”
.
เด็กบางคนอาจจะมีพรสวรรค์ทางด้านวิชาการ แต่ก็มีวันที่เขาทำผิดพลาดได้เสมอ หรือ มีบางด้านที่เขาไม่ถนัดเช่นกัน เช่น การสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจเขา และการเข้าสังคม 
.
แต่พ่อแม่ของเขายอมรับไม่ได้ เพราะความเชื่อผิดๆ ที่ว่า “เป็นถึงอัจฉริยะ ทำไมแค่พูดนำเสนอหรือสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจเขากลับทำไม่ได้ เพราะสิ่งที่พ่อแม่คาดหวัง คือ  "ลูกต้องสมบูรณ์แบบ”  ซึ่งในความเป็นจริงนั้นเป็นไปไม่ได้
.
พ่อแม่ควรตระหนักอยู่เสมอว่า "ทุกคนเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เราทำผิดพลาดได้เสมอ ขอเพียงแค่เรียนรู้ และพัฒนาต่อไป”
.
นอกจากนี้ พ่อแม่ต้องยอมรับว่า “ไม่ใช่ทุกๆ คนจะเกิดมาเพื่อทำทำอย่างได้ดีเลิศ เราทุกคนย่อมมีด้านที่ไม่ถนัดด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่า จะไม่ถนัดด้านใด และไม่ถนัดมากหรือน้อยแค่ไหน เท่านั้นเอง” ด้วยเหตุนี้ เมื่อลูกพยายามเต็มที่แล้ว เขาอาจจะทำมันไม่ได้ พ่อแม่ควรเข้าใจ และยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น และมองให้เห็นด้านดีอื่นๆ ของลูก มากกว่าจะมาตำหนิและเคี่ยวเข็ญเขาเพียงด้านเดียว
.
***
.
(5) “แม้เด็กจะมีพรสวรรค์มากมายแค่ไหนก็ตาม เด็กควรได้เป็นเด็ก และได้รับการส่งเสริมในทุกๆ ด้านตามวัยของเขาที่ควรจะเป็น"
.
เด็กทุกคนควรจะได้มีโอกาสเป็นเด็ก ได้เล่นกับเพื่อน ได้อ่านการ์ตูน  ได้เรียนรู้ ได้ทำในสิ่งที่เด็กทุกคนควรจะทำ แม้ว่าความสามารถของเด็กบางคนอาจจะโตเกินวัย แต่ใช่ว่า ทุกๆ ด้านของเด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบก้าวกระโดด
.
พ่อแม่ควรตระหนึกถึงข้อนี้ แต่ให้การส่งเสริมในทุกๆ ด้านของชีวิต ไม่ใช่แค่เพียงด้านที่เด็กมีพรสวรรค์
.
ที่สำคัญ คือ การสอน “ความใจดี (Kindness)” ให้กับลูกด้วย ยิ่งเขาเก่ง เขาอาจจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นดีกว่าใครๆ ดังนั้นการสอนให้เขารู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เขาจะเติบโตมาเป็นคนเก่งที่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
.
นอกจากนี้ เด็กที่มีพรสวรรค์ด้านใด เขาอาจจะไม่ได้ชอบด้านนั้นก็ได้ อย่าคิดแทนเขาด้วยการคิดว่า “ลูกเก่งด้านนี้ แสดงว่า ลูกต้องชอบด้านนี้แน่ๆ" เพราะเด็กบางคนอาจจะชอบด้านอื่นที่เขาอาจจะไม่ถนัด หรือ ถนัดแต่ไม่ที่สุดก็ได้ ให้โอกาสลูกได้เลือก และทำในสิ่งที่เขารัก
.
***
.
สุดท้าย “ทุกครั้งที่พ่อแม่ผิดหวังในตัวลูก ไม่มีลูกคนไหนที่จะรับพ่อแม่ของเขาน้อยลง จะมีก็เพียงแต่ลูกที่รักและมองเห็นคุณค่าในตัวเองน้อยลง"
.
ลูกทุกคนแค่ต้องการให้พ่อแม่รักและอย่าหมดหวังในตัวเขา พลังแห่งความเชื่อมั่นที่พ่อแม่มีให้กับลูกสามารถแปรเปลี่ยนเป็นแรงใจท่ีมากมายมหาศาลให้กับเขา ทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อได้อีกมากมาย
.
เช่นเดียวกันลูกไม่ได้ต้องการพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบหรอก เพราะเขาต้องการพ่อแม่ที่มีความสุขมากกว่า เมื่อดูแลทุกคนในบ้านแล้ว อย่าลืมกลับมาดูแลตัวเองด้วย
.
ด้วยรักจากใจ
เม
เพจตามใจนักจิตวิทยา

Cr. https://www.facebook.com/199345480858214/posts/pfbid021Qz7xtXfrf4oACT71MSradbWeu3fVKmYh5v6PR9XgB6W2QwWBSaH7UoHg1dnZUd5l/?d=n

แสดงความคิดเห็น

>