แม่บอกเราใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย แต่เราใช้เงินไปกับครอบครัว
ตั้งกระทู้ใหม่
เรายังเรียนอยู่ค่ะ เวลาได้เงินมาเราก็มักเก็บออมไว้เสมอ เป็นเงินที่เก็บตั้งแต่อนุบาล และเราจะมีเงินสำรองไว้ส่วนเล็กๆ อีกส่วนใหญ่ๆเราใช้สั่งซื้อพวก อาหาร ของขวัญวันเกิดคนในบ้าน เราเป็นคนชอบทำอาหาร ส่วนมากเลยจะหนักทางซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารให้คนในบ้านทาน
9000/14 เดือน ระหว่างนั้นไม่มีรายรับเข้าเพราะเรียนออนไลน์ เราใช้สุรุ่ยสุร่ายจริงไหมคะ หรือไม่ควรจะเอามาใช้จ่ายแบบนี้ตั้งแต่แรก
2 ความคิดเห็น
ส่วนตัวพี่มองว่ามันยังตัดสินไม่ได้ค่ะ สุรุ่ยสุร่ายหรือไม่ต้องดูจากรายรับว่าเงินถูกใช้ไปเกินรายรับหรือไม่ จ่ายไปกับอะไร คุ้มค่าไหม มีเงินเก็บหรือเปล่า
แต่จากที่อ่านหนูเอาเงินเก็บมาจ่ายซื้อของพวกนี้ใช่ไหมคะ งั้นก็อาจจะเรียกว่าสุรุ่ยสุร่ายหน่อยๆก็ได้มั้ง เพราะเงินไม่ได้ถูกใช้ตามจุดประสงค์ (ก็เป็นเงินเก็บ มันควรเก็บไว้ใช้เวลาฉุกเฉินหรือเก็บไว้เผื่ออนาคต)
แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องไปดูอีกแหละว่า ยอดเงินเก็บที่มีมันเท่าไหร่ เพราะ 9000บาท 14 เดือน มันก็ตกเดือนละ หกร้อยกว่าบาท ถ้าเงินเก็บมีเยอะ หลักแสน มันก็ไม่ได้ถือว่าสุรุ่ยสุร่ายมากเกินไป สำหรับพี่คือพอรับได้
นอกจากนี้ค่ะ หนูบอกว่าหนูซื้อของมาทำอาหารให้คนในบ้านทาน เพราะหนูชอบทำอาหาร ซึ่งจากหัวกระทู้หนูมองว่าอันนี้เป็นการทำเพื่อคนในบ้าน ขอพูดตรงนิดนึงนะตรงนี้ อย่าโกรธกันเน้อ....ไม่ใช่ค่ะสิ่งที่ทำไม่ได้ทำเพื่อคนในบ้านค่ะ เป็นการทำเพื่อสนองneed ตัวเองค่ะ หนูชอบทำอาหาร หนูเลยทำเพราะหนูอยากทำ แต่ในความเป็นจริงคนในบ้านอาจไม่ได้อยากกินหรือรู้สึกว่าจำเป็นต้องทำกินก็ได้ค่ะ ถึงไม่กินอาหารที่หนูทำเค้าก็ไม่ได้อดตายถูกไหมคะ เพราะแบบนี้แหละแม่หนูถึงมองว่ามันเป็นการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เพราะเค้ารู้สึกว่ามันไม่จำเป็นต้องทำไง เงินที่เสียไปนี้สำหรับแม่มันเลยดูไม่คุ้มค่าค่ะ
จากนี้เราควรแยกเงินเก็บกับเงินใช้ออกจากกันนะคะเพราะแม้ว่าหนูจะเก็บเงินเก่ง เป็นคนรู้จักเก็บออม ซึ่งดี แต่ถ้าดึงเงินเก็บมาใช้แบบนี้เรื่อยๆ นานวันมันก็จะหมดค่ะ ตอนประถมพี่เคยเก็บเงินค่ะวันละ 5-10 บาท เอาใส่แก้วน้ำใบใหญ่ ไว้จนเต็มแก้วน้ำ เรามองว่าเงินเยอะมากเลย สำหรับเด็กประถม (ราวๆ 500-600 ค่ะ) แล้วต่อมาพี่ติดใจลูกชิ้นปิ้งร้านนึงอร่อยมาก ก็เลยเอาเงินเก็บเนี่ยแหละ มีเยอะนัก เอาไปซื้อทุกวัน วันละ 2 ไม้ ราคา 20 บาท แต่ก็ยังเก็บเพิ่มทุกวันนะ ผลปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไปเงินที่เราเคยมองว่าเรามีเยอะมันก็ค่อยๆร่อยหลอลงจนหมดแก้วในที่สุด สุดท้ายมีของที่เราจำเป็นต้องซื้อขึ้นมากลายเป็นว่าเราซื้อไม่ได้แล้วเพราะเงินไม่มี เพราะงั้นเงินเก็บคือเงินเก็บไม่จำเป็นไม่ควรเอาออกมาใช้
เรื่องทำอาหารในเมื่อชอบก็ทำได้แหละ แต่..ให้แบ่งสัดส่วนเงินให้ชัดเจนค่ะ เงินที่ได้มา เก็บขึ้นส่วนนึง เอาไว้ใช้ซื้อของมาทำอาหารสนองneed ตัวเองส่วนนึง ใช้จ่ายทั่วไปส่วนนึง แบ่งให้บาลานซ์กัน แล้วอย่าใช้มั่ว เงินเก็บคือเก็บ แม้ค่าวัตถุดิบทำอาหารไม่พอ ก็ห้ามเอามาใช้ เก็บส่วนของค่าวัตถุดิบไปจนกว่าจะพอค่อยทำ เพราะต่อให้เราไม่ทำบ้านก็ไม่ได้อดตายค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
ของขวัญวันเกิดเอาออกไปได้เลย เป็นค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง ไม่ได้ของขวัญก็ไม่เป็นตาย
ค่าอาหารถ้าแม่ทำอาหารเองอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องซื้อมาทำ
เข้าใจแล้วค่ะ จะตัดส่วนนี้ทิ้งไป
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?