Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ระบายให้ตัวเอง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ผมเป็นลูกคนเล็กสุดมีพี่อยู่2คน แม่ผมเป็นคนดีชอบช่วยคนอื่น พ่อผมทำงาน ฐานะที่บ้านปลานกลางไม่ได้ยากจน อยู่ดีกินดี มองผ่านๆก็ดูเหมือนครอบครัวที่รักกันดี มันก็แค่เบื้องหน้าให้คนอื่นเห็น ความเป็นจริงทุกครอบครัวมีปัญหากันหมด ละสิ่งนี้ผมแค่อยากจะระบายให้ตัวเองเท่านั้น ผมไม่ต้องการความคิดเห็นต่อครอบครัวผมทั้งสิ้นรวมถึงตัวผมเองด้วย ผมให้ดูแค่นั้น ทุกคนมีสิทธิที่จะระบายมันออกมา เอาละเริ่มเข้าเรื่องดีกว่า



เริ่มจากตอนที่ผมยังเด็กทุกครั้งที่การแข่งขันหรือการสอบต่างๆ พ่อกับแม่ จะชอบบอกว่า“ถ้าลูกได้ที่หนึ่งเดี๋ยวปีาจะซื้อของที่ลูกอยากได้ให้” มันเป็นอย่างงี้ทุกครอบครัวอยู่แล้ว แต่ด้วยความเป็นเด็ก แน่นอนตอนนั้นเรามีความหวังเหมือนมีรางวัลแห่งความสำเร็จของเด็กคนนึง แค่คิดผมก็ยิ้มออกมาแล้ว รางวัลที่ได้จากพ่อและแม่ ผมไม่เคยได้รับมันเลย ใช่ครับตัวผมไม่ได้เก่ง ไม่ได้ดีเด่นกว่าใคร ผมไม่เคยได้รับรางวัล ที่หนึ่งมาก่อนในชีวิต ซึ่งนั้นหมายถึงผมไม่เคยได้รับ รางวัลแห่งความสำเร็จที่พ่อแม่ตั้งเป้าเอาไว้ให้ผม ผมไม่เคยได้รับสิ่งใดนอกจากความรักของพวกท่าน ผมคิดว่าไม่จำเป็นหรอกของพวกนั้น ขอแค่พ่อกับแม่รักเราก้พอแล้ว นั้นคือตัวผมยังเด็กๆ ไม่คิดอะไรมาก



และมาถึงช่วงป.5-ป.6 ช่วงเวลานี้คือช่วงที่มีความสุขน้อยกว่าความเศร้าในจิตใจผม

ผมเป็นคนชอบเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ผมอยากจะฝึกซ้อมกับเพื่อนๆ เลยไปขอแม่เข้าชมรมฟุตบอล

แม่ผมไม่ให้ผมเข้า เพราะว่าไม่มีเวลามารับผมตอนเย็น (ชมรมฟุตบอลที่โรงเรียนผมกลับบ้านได้หลังห้าโมง)

ผมก็เข้าใจแม่ละก็ไม่ได้งอแงอะไร ทุกเที่ยงที่โรงเรียนผมเตะบอลมากขึ้นทุกวัน จนไม่ได้กินข้าวเที่ยง ยังดีที่เพื่อนของผม แนะนำให้ผมกินตอนพักช่วงเช้า (ประมาณ10-11โมง) จึงไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมเล่นบอลทุกพักเที่ยง เล่นกับเพื่อนตลอด ผมไม่ได้เก่งเพราะไม่ได้ฝึกฝนแต่เพื่อนผมก็คอยชี้แนะ ตอนผมเตะบอล จนถึงวันกีฬาสี เป็นวันที่นักกีฬาอย่างพวกผมรอคอยมาตลอดเพื่อนำชัยชนะมาให้สีของตน แน่นอนผมไม่พลาดที่จะลงแข่งบอล เพื่อนผมก็ลงกันหลายคน เมื่อลงรายชื่อเสร็จ ทุกคนต่างพากันซ้อมบอล ผมได้เล่นตำแหน่ง ปีกซ้าย ผมฝึกซ้อมอย่างหนักกับเพื่อนๆ จนถึงวันกีฬาสี มันเป็นวันที่ผมตื่นเต้นที่สุด และเป็นวันที่ผมรู้สึกเสียใจมากที่สุด ใช่ครับผมไม่ได้ไปงานกีฬาสี เนื่องจากเป็นวันเกิดของพี่ผม ทุกคนเลยจะไปต่างจังหวัดกัน ผมพยายามบอกทุกคนว่า มันเป็นวันสำคัญสำหรับผม ผมงอแงร้องไห้ไม่อยากพลาดโอกาศนี้ไป พ่อผมหยิบเข็มขัดหนังมาตีผม ระหว่างที่ตี แม่ผมยืนด่าผม


ละบอกว่า ”วันเกิดพี่ชาย-ทั้งคน -ยังไม่ไปเลย อย่างงี้ใครจะมาเมื่อถึงวันเกิด-ละ“ (ผมจำไม่ได้แล้วว่าพ่อหรือแม่ที่เป็นคนพูด) ตอนนั้นผมเสียใจ ผมร้องไห้ พ่อแม่ไม่สนใจ บอกให้เตรียมตัวเดินทาง ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งร้องไห้กอดเขาอยู่ข้างตู้เสื้อผ้า ร้องไห้สักพักแม่บ้านเดินเข้ามาในห้องละเข้ามากอดผม ละบอกผมว่าไม่เป็นไรนะ

ลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งนะไม่ร้องไห้นะ เมื่อเจอแบบนี้ผมก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมแต่ร้องแค่แปปเดียว ผมรู้สึกเศร้ามากๆ

ผมได้ยินเสียงพ่อเรียกให้ลงมาจากชั้นบน ผมก็รีบจัดของเอง ใส่ของไปมั่วๆ พอลงไปพ่อกับแม่ละคนอื่นๆยืนรอผมอยู่คนเดียว ผมรู้สึกผิดรีบเข้าไปในรถแล้วเดินทาง ระกว่างการเดินทางผมไม่พูดอะไร พยายามนอนให้หลับ ผมนั่งเบาะหลังสุดของรถตู้ที่ไม่มีใครนั่ง ระหว่างนอนมันก็อดคิดไม่ได้เรื่องที่โดนด่า เลยแอบร้องไห้ออกมา พ่อผมได้ยินเสียงผมร้องไห้ เลยพูดออกมาว่า ถ้ายังไม่หยุดร้องจะปล่อยให้ลงกลางทาง ในตอนนั้นผมกลัวมาก ผมพยายามไม่ร้องไห้ แต่ด้วยความเป็นเด็ก มันกลับร้องหนักกว่าเดิมร้องมากกว่าเดิมละผมเอาผ้าห่มปิดปากตัวเองไว้

ผมโครตจะเซ็ง ช่วงเวลานั้นผมจำมันได้ไม่เคยลืม ช่วงเวลาที่ผมพลาดงานกีฬาสีกับเพื่อนๆ ครั้งสุดท้ายของป.6

ช่วงเวลาที่อับอายที่ต้องโดนพ่อตี แม่ด่า และช่วงเวลาที่ซาบซึ่งที่มีคนมาโอบกอดตอนเราเสียใจ ผมจำมันได้ดี

มันทำให้ชีวิตมัธยมต้นของผมเปลี่ยนไปโดยปริยาย พ่อ แม่ ผมไม่อยากได้ความรักแบบนั้นแล้ว ทุกคนไม่ต้องมาบอกว่า มันคือการสั่งสอนลูกคนๆนึง แบบนั้นนะไม่ต้องเลย คนเจอไม่ใช่คุณเอง



ตอนเด็กผมร่าเริง มีกิจกรรมก็เข้าร่วม ม.ต้น ผมก้าวร้าวทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ อ๋อละก็มัธยม.ต้น ผมย้ายมาอยู่กับปู่ย่าแล้ว เรื่องนึงที่ผมเสียใจที่ทำมันก็คือ ไปทำร้ายเพื่อน ไปต่อย ไปตี เพื่อน ผมไม่เข้าใจว่าผมทำไปทำไมแต่เหมือนกับว่า ผมกลายเป็นเด็กเก็บกดไปสะแล้ว ผมจึงกลายเป็นคนที่เพื่อนไม่ค่อยเข้าหา ไม่ค่อยคุยด้วย ผมขอโทษเพื่อนที่ผมต่อยไปเขาก็ให้อภัยแล้ว แต่ว่าทุกคนก็มองผมไปอีกแบบนึงเลย ผมกลับบ้านมานั่งคิดว่าทำไม ผมถึงเป็นแบบนี้ เพราะผมควบคุมตัวเองไม่ได้หรอ ผมช่วยปู่ทำงานสวนลำไย เริ่มจากการใส่น้ำ ละ พ่นยา ผมไม่ได้ค่าจ้างหรืออะไรหรอก เงินพวกนั้นพ่อผมเป็นคนได้ ผ่านมาอีกปีคือช่วงม.2ผมเริ่มดีขึ้นมาก เป็นช่วงเวลาที่อยู่โรงเรียนแล้วมีความสุขมากที่สุดในช่วงมัธยม แต่พ่อกับแม่ผมย้ายมาอยู่กับผม ละเปิดเช่าบ้านที่ผมเคยอยู่มาก่อน

ผมรู้ได้เลยทันทีว่าพ่อกับแม่ ไม่มีเงินเลยต้องเปิดเช่าบ้าน ที่ไหนได้ สาเหตุที่บ้านเปิดเช่าเพราะพี่ผมที่ได้รับมรดกจากพ่อ พ่อผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย แม่ผมก็เฉยๆ ช่วงนั้นผมมีความสุขจากที่โรงเรียนเลยไม่ค่อยได้มีปัญหากับที่บ้าน พอพ่อเห็นแบบนั้นเลยตั้งเป้าหมายให้ผมได้เกรดเฉลี่ย3.75 up ละพ่อจะซื้อโทรศัพให้ ใช่ครับตั้งแต่เด็กยันตอนนี้ผมยังไม่มีมือถือเป็นของตัวเองเลยสักเครื่อง ที่ผมใช้อยู่คือ ipad gen7 32gbจากคุณอา มันไม่ค่อยสะดวกต่อกาพกพาละเป็นipadรุ่นเก่า เลยไม่สามารถใส่ซิมการ์ดได้ เมื่อต้องการใช้เน็ตต้องไปเปิดสัญญาณฮอตสปอตเอา เมื่อพ่อตั้งเป้าหมายให้ผมแบบนี้ผมก็ตั้งใจสุดชีวิตเลย ละผลที่ได้มันออกมาดีเกินคาดถึงจะไม่ได้4.00 แต่ผมได้3.98 เป็นเกรดเฉลี่ยที่ผมทำมาดีที่สุดแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นผมไปกล้าที่จะทวงสัญญาณ พ่อผมก็บอกว่าวันเกิดจะซื้อให้ (ตั้งแต่เด็กผมไม่เคยจัดงานวันเกิดในห้องเรียนเลยแม้แต่ที่บ้านผมก็ไม่ได้จัด) ผมรอจนถึงวันเกิด พ่อผมยังไม่ซื้อให้ ถึงตอนนั้นผมคิดว่าพ่อจะลืมเลยทวงไป พ่อผมบอกว่ารออีกสักเดือนก็จะคริสมาสตร์แล้ว รอไปก่อนนะ

ผมรอจนถึงวันคริสมาสตร์ พ่อผมก็ยังไม่ซื้อให้ ละบอกว่าวันปีใหม่เดียวซื้อให้เลย ตอนนั้นผมรู้ได้เลยว่าพ่อไม่ซื้อให้หรอก สัญญาณที่พ่อให้ผมในตอนนั้นมันเป็นตราบาปติดใจผมไปตลอดชีวิต ผมเลือกที่จะไม่เชื่อใจพ่ออีก รู้ว่าเป็นพ่อ แต่พ่อรู้รึเปล่าว่าผมก็เป็นคน ผมง่วงแล้วไปนอนดีกว่า

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

เรียนดีแต่ไม่มีสุข 15 ก.พ. 67 เวลา 15:09 น. 2

เป็นนิยายเรื่องเด็กที่เจอความรุนแรงในครอบครัวและคิดเอาเองว่าทุกบ้านจะถูกพ่อแม่ล่อด้วยของรางวัลแบบเค้า เเละเค้าเก็บกดจนเป็นซึมเศร้าและไม่เข้ารับการรักษา และพฤติกรรมความรุนแรงเริ่มส่งผลกับเค้าโดยที่เค้าไม่รู้ตัว เค้าจึงไปกระทำกับผู้อื่นในสังคมจนถูกสังคมรังเกียจแต่ดูเหมือนเค้ายังไม่เข้าใจ แต่ชีวิตเค้าโดนพ่อบงการโดยไม่รู้ตัวเพราะมันเป็นความเคยชินในชีวิตเค้า แค่ได้รางวัล ก็มีความสุข แล้วพ่อก็เป็นคนไม่รักษาคำพูด ส่งผลให้ลูกกลายเป็นคนหวาดระแวงไปอีก อนาคตก็คงไม่พ้นกลายเป็นปัญหาสังคม หากวันไหนไม่มีรางวัลในชีวิตให้ตัวเอง คงเที่ยวระแวงและไล่ทำร้ายคนไปทั่ว


เป็นนิยายที่โคตรจะไม่น่าสนใจเลย

0