พี่จะแต่งงานแม่ขอให้ช่วยออกค่าใช้จ่าย (ขอบ่นหาที่ระบาย)
ตั้งกระทู้ใหม่
พี่เรามีเงินนะคะแต่ทำงานเพื่อตัวเองกับแฟนไม่ช่วยรายจ่ายในบ้านเลย น้ำไฟ อาหาร น้ำมันรถ ไม่ออกสักอย่างพาแฟนมาอยู่ด้วยเสียค่าไฟเดือนละ 1000+ งานบ้านไม่ช่วยทำ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ที่ดินแม่ซื้อให้หมด พอจะแต่งงานแม่จะเอาเงินก้อน"สุดท้าย"ไปช่วยค่าสินสอดพี่อีก 3 แสน ทองอีก 3 บาท ทำให้ไม่พอใช้จ่ายประจำวัน แม่บ่นว่าเงินไม่พอใช้ ขอให้เราประหยัดพักเรื่องสร้างบ้านเอาไว้ก่อน (เรากำลังสร้างบ้านจากเงินตัวเอง)
พอมาเมื่อเช้าแม่ขอให้เราช่วยออกค่าใช้จ่ายในบ้านเพิ่ม จะให้ออกค่าน้ำมันรถ เราให้เงินแม่ทุกเดือน 3000 เพื่อใช้จ่ายในบ้าน เก็บไว้จ่ายหนี้การศึกษาอีก 3 แสน เราเลยบอกไปว่า "ทำไมไม่ให้ลูกรักแม่ช่วยล่ะมันมีเงินตั้งหลายแสนเก็บอย่างเดียวไม่เห็นจะช่วยออกอะไร" แม่บอกพี่ภาระเยอะแล้ว (ภาระของแม่คือพี่กำลังเก็บเงินสร้างครอบครัว) เราโกรธเลยสวนไปว่า "หนูก็ต้องมีครอบครัวต้องใช้ชีวิตนะ ไม่ให้หนูมีอะไรในอนาคตเลยหรอ" (อันนี้ยิ่งทำเราโกรธสุดๆเลยเพราะแม่ไม่จ่ายค่าการศึกษาให้จนต้องไปกู้เรียนแต่เอาเงินไปซื้อรถเก๋งให้พี่ 8 แสนกว่า มรดกก็โอนให้พี่ไปแล้วที่ดิน 4 ไร่ เราได้ที่ดิน 1 ไร่ เหลือแต่บ้านที่อยู่ปัจจุบันบอกว่าใครช่วยเลี้ยงพ่อแม่จะยกบ้านให้)
เราอยากรีบออกไปจากบ้านหลังนี้มากมีแม่ลำเอียงแล้วจิตใจติดลบมาก เป็นห่วงแต่พี่ทักหาทุกวัน เราไปเรียนกรุงเทพโทรหาปีละ 2 ครั้งเอง พอโทรไปคุยด้วยก็อยู่กับเราแปปเดียววางสายหนีละ ไลน์ก็ไม่ค่อยอ่าน ไม่ถามว่าทานอะไร เหนื่อยไหม ชีวิตรัก ชีวิตทำงาน ลูกทั้งคนไม่สนใจ แสดงออกว่าเป็นห่วงสักหน่อยเถอะจะได้ไม่รู้สึกขาดความอบอุ่นแบบนี้
2 ความคิดเห็น
พี่จะแต่งงานแม่ขอให้ช่วยออกค่าใช้จ่าย (ขอบ่นหาที่ระบาย)
สวัสดีค่ะ เจ้าของกระทู้
จากคำบอกเล่าที่คุณให้มานะคะ มีหลักฐานดีพอ ที่บอกได้ว่าคุณมีเหตุผล และเป็นหลักฐานได้ดีพอ และคุณเข้าใจในการกระทำที่ไร้ซึ่งความยุติธรรมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีพอ และคำบอกเล่าทั้งหมดนี้บอกได้ว่า เป็นความจริงที่ว่า คุณแม่มีจิตใจที่ไม่ดีนัก
(ดีนะคะ ที่คุณได้ระบายออกมาบ้าง การระบายความอัดอั้นที่กดดันคนเราอยู่นะ เป็นสิ่งที่ดี ไม่เป็นความผิดแต่อย่างใดค่ะ)
จากคำบอกเล่าของคุณนะคะ คุณแม่ของคุณมีจิตใจที่ไม่ดีนัก คือท่านมีอาการลำเอียงนั้นถูกต้องค่ะ
จากคำบอกเล่าของคุณนี้ เป็นหลักฐานได้ดีพอ ที่น่าจะถึงเวลาแล้วที่คุณต้องดูแลตัวคุณเองค่ะ
คือคุณมีหนี้การศึกษา คุณมีครอบครัวแล้วด้วยเช่นกัน คุณยังมีความรับผิดชอบในการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนกับทางบ้านด้วย มรดกที่ได้หรือ คุณก็ได้น้อยกว่าพี่ คุณก็ยอม ทั้งหมดนี้นะคะ(หากเป็นความจริง)
คือคุณได้ทำดีที่สุด ๆ แล้วนะคะ หากแต่ความดีที่สุด ๆ นี้ ยังไม่ดีพอ และผู้ที่เป็นบุพการีแท้ ๆ ยังคงมีความลำเอียง กดขี่ ข่มเหงนํ้าใจด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น และไม่เป็นธรรม คือเหตุการณ์ ตามเหตุการณ์ที่คุณเล่าเข้ามานี้นะคะ
เราเลยบอกไปว่า "ทำไมไม่ให้ลูกรักแม่ช่วยล่ะมันมีเงินตั้งหลายแสนเก็บอย่างเดียวไม่เห็นจะช่วยออกอะไร" แม่บอกพี่ภาระเยอะแล้ว (ภาระของแม่คือพี่กำลังเก็บเงินสร้างครอบครัว) เราโกรธ...
คือเพียงอ่านก็เห็นได้ เข้าใจได้ดีค่ะว่า น่าจะถึงเวลาแล้วที่คุณต้องหยุด ที่จะกดดันตัวคุณเองเพื่อเขาเหล่านี้ค่ะ
เพราะทั้งคุณแม่ และพี่ของคุณนะคะ เขาก็โตพอ โตพอที่จะมีความคิดที่ดี ที่ถูกต้อง มีความยุติธรรม ในการดำรงไปในทุกวันแก่คุณบ้าง หากแต่เขาทั้งสองไม่มีให้คุณ และคุณเองก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าอาการความรู้สึก และจิตใจของคุณเริ่มจะแย่แล้ว
(คือจากที่อ่านผ่านคำบอกเล่าของคุณนะคะ ก็สามารถรู้สึกได้ว่าผู้ที่ตกอยู่ในเหตุการณ์มีอาการกดดันค่ะ)
เพื่อตัวคุณเองนะคะ เมื่อคุณมีเหตุผล และคุณเองรู้ตัวว่าคุณได้ทำดีที่สุดแล้ว และไม่สามารถทำได้ดีกว่านี้ คุณก็ต้องหยุดค่ะ
หยุด ทั้งนี้ เพียงเพื่อให้เหลือ...เพื่อตัวคุณเองบ้าง เพื่อชีวิตของคุณเองบ้าง เพื่อครอบครัวของคุณเองบ้างค่ะ
คือคุณโตพอ โตแล้ว และคุณมีภาระแล้วด้วยเช่นกันนะคะ และไม่เป็นการผิดคุณธรรม ไม่ผิดศีลธรรมแต่อย่างใด ที่คุณจักตัดขาด หรือทำการปลดปล่อยตัวคุณเองให้หลุดพ้นจากการกดขี่ข่มเหงจิตใจ แม้ว่าผู้ที่เขากระทำต่อคุณนั้นเป็นบุพการีก็ตามที่ค่ะ
คือการที่คุณจักไม่ตอบรับ ไม่ตอบรับภาระเกี่ยวกับการเงิน ในการที่คุณจักต้องเข้าไปรับผิดชอบในทุกเรื่องของพี่ของคุณแต่อย่างใด คือคุณเงียบไปเลย นั้นน่าจะเป็นวิธีที่คุณจักแสดงให้คุณแม่ของคุณเห็นได้ว่า ทุกอย่างถึงเวลาแล้วที่ต้องจบลงเพียงแค่นี้
คือไม่ต้องถกเถียง ไม่ต้องด่าทอ ไม่ต้องอธิบายใด ๆ หรือไม่ต้องตอบรับท่านด้วยคำใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ คือไม่ต้องพูด ไม่ต้องตอบรับ หรือไม่ต้องต่อล้อต่อเถียงอะไรกับท่านอีกต่อไปค่ะ เพราะการพูด การเถียง หรือการอธิบายอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ เพราะจากที่คุณเล่ามานี้ ท่านเห็นเหรียญด้านเดียวนะคะ คือท่านเห็นเพียงพี่ของคุณเท่านั้น ท่านจึงกระทำกับคุณเช่นที่คุณเล่ามา
แม้คุณจะอธิบายอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ หากแต่การอธิบายจะเป็นสาเหตุให้เกิดเป็นความกดดันคุณเองมากขึ้นเท่านั้น เพราะท่านไม่เข้าใจ ไม่รับฟังสาเหตุที่คุณนำมาเสนอตลอดเวลาที่ผ่านมาอยู่แล้ว เพราะทั้งหมดนี้เป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้จริงในผู้ที่เป็นพ่อแม่หลาย ๆ คน นั้นเป็นความจริงนะคะ ซึ่งเป็นอาการที่ยํ่าแย่ของท่าน ๆ ขอให้คุณรู้ไว้ว่าเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นได้ในหลาย ๆ คนของผู้ที่เป็นพ่อแม่ นั้นเป็นความจริงนะคะ
คือไม่ใช่ความผิดของคุณ ซึ่งคุณเองสว่าง ไสว ชัดเจนดีพอตลอดเวลา ซึ่งคุณเองก็ได้ทำเต็มความสามารถแล้ว และคุณเห็นว่าความยุติธรรมหาไม่ได้
ในยามที่พ่อแม่ตกตํ่ามืดมนนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงนะคะ(เพราะผู้ที่เป็นพ่อแม่ ท่านก็เป็นคนนะ คนเรานะสามารถมีอาการตกตํ่ามืดมนได้เป็นธรรมดาจริงนะคะ) และจะให้ดีสุด ๆ นะคะ คุณเพียงแยกย้ายออกจากบ้านไปนะคะ เงินที่คุณพอมีบ้างคุณก็ปรึกษากับครอบครัวของคุณเอง และทำการแยกย้ายออกไปเงียบ ๆ คุณบอกเข้ามาด้วยว่าคุณมีหนี้การศึกษา นั้นเท่ากับคุณมีอาชีพ คุณมีงานทำนะคะ
คนเรานะคะ โดยธรรมชาติเมื่อโต ๆ แล้วก็แยกย้ายออกไปเป็นตัวของตัวเองนะคะ การที่ต้องรับภาระ หน้าที่ในชีวิตของตนเองก็มากมายเพียงพอแล้ว หากคุณจะอยู่ให้ถูกกดดัน ดังที่คุณเล่ามานี้ ไม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนัก เพราะฉะนั้นแยกย้ายออกไปเงียบ ๆ และมีชีวิตอยู่ของคุณเองในแบบที่คุณทำได้ และพอใจน่าจะดีกว่าค่ะ
การที่ลูก ๆ สามารถดูแลตนเองได้ดี นั้นพ่อแม่ที่มีสติสัมปชัญญะดี ท่านจะยินดี และส่งเสริมเป็นธรรมดานะคะ
ส่วนทางด้านของคุณแม่นะคะ แนะนำคุณว่าในจิตใจของคุณจงอย่าโกรธ จงอย่าเคีืองท่าน แม้คุณจะน้อยใจ ที่ท่านหลงผิด ขาดความยุติธรรมที่มีให้ลูกไม่เท่ากัน เพราะในขณะปัจจุบันเพียงท่านตกตํ่ามืดมนนั้น คุณอย่าได้นำมาติดที่ใจว่าเป็นสาเหตุที่จงเกลียดจงชังท่าน นั้นคุณไม่ควรให้เกิดแก่ใจคุณนะคะ
เพราะจะอย่างไรก็ตามที บุพการี ก็คือบุพการีของบุตรที่ดีเสมอค่ะ
ขอให้คุณเองที่มีจิตติดที่จะยึดมั่นในการเป็นลูกที่ดีไว้ ทั้งนี้ เพื่อตัวคุณเอง และผลที่ได้คือ เพื่อบุพการีของคุณด้วยค่ะ คือความดีที่คุณทำนะคะ จะมีผลสู่พ่อแม่ด้วยเป็นธรรมชาติค่ะ
ขอให้คุณจงยึดมั่นในความดีไว้นะคะ ความดีมีพลังอำนาจเผื่อแผ่แก่ทุกคนที่มีส่วนร่วมเสมอนะ เป็นธรรมชาติของความดีนะคะ
ขอให้ระลึกถึงความจริงเสมอว่าคุณพ่อ คุณแม่ ก็คือคุณพ่อคุณแม่อยู่ดี ไม่ว่าขณะนี้ท่าน ๆ จะกระทำสิ่งที่ไม่สมควร แต่ท่านมีส่วนร่วมในการให้โอกาสคุณได้มาเกิด ท่านได้เลี้ยงดูคุณในยามที่คุณเป็นทารก เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ จนเติบใหญ่ นั้นท่านทำดีที่สุด ขอให้คุณระลึกตรงนี้ไว้นะคะ
คือการที่ระลึกถึงสิ่งที่ดี ๆ นะคะ จะช่วยเป็นตัวบาลานซ์ เป็นภูมิต้านทานได้ดี หรือช่วยลบล้างความขมขื่นในจิตใจของคุณได้ในเหตุการณ์อาจจะยํ่าแย่ ในปัจจุบันได้บ้าง คือวิธีนี้เป็นวิธีเยียวยาที่ดียิ่งค่ะ
แนะนำให้แยกย้ายออกไปหาวิธีอยู่...ตามที่จิตใจคุณต้องการ กับครอบครัวของคุณเอง ด้วยความยินดีด้วยตัวคุณเองนะคะ (ซึ่งเหตุการณ์ที่แย่ ๆ นี้ ทั้งหมดนี้ คุณได้เก็บไว้เป็นครูสอนตน ในเวลา ในโอกาสที่คุณจักเป็นบุพการีที่ดีด้วยค่ะ เหตุการณ์ที่ยํ่าแย่นี้ อย่างน้อยก็เก็บไว้เป็นครูนะคะ)
ทั้งหมดนี้นะคะ ถ้าคุณทำได้ คุณจะมีความสงบร่มเย็นได้ในทุกวันค่ะ
เจ้าของเม้นต์เชื่อว่า เมื่อเวลาผ่านไป คุณแม่ของคุณแก่ชรามากขึ้น ท่านจะรู้ได้ว่าผิด ถูก ได้ชัดเจนขึ้น ท่านจะปรับเปลี่ยนความคิด และการกระทำอย่างแน่นอน เพราะเป็นธรรมชาติ และเป็นธรรมชาที่ดีด้วยเช่นกัน และวันนั้นทุกอย่างจะดีขึ้นระหว่างท่าน กับคุณอย่างแน่นอนค่ะ
ร่วมเป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้ค่ะ
กลับเข้ามาอ่านเม้นต์ของตนอีกครั้ง เห็นว่ามีคำผิดมากมาย พยายามจะกลับเข้าไปแก้ไขนะคะ
แต่เข้าเม้นต์ของตนเองไม่ได้ ฮื้อออ
ทำไงดี๊นี่(เดี๋ยวนะ เด็ก ๆ เขาติดคำผิดแน่ๆ)
อื้อออ
----------------------
ราวกับปาฎิหารย์ เขียนเม้นต์โอดโอย ว่าด้วยเข้าเม้นต์ตนเองไม่ได้ กดโพสต์เสร็จนะ
สามารถเข้าเม้นต์แก้ไขคำผิดได้ในเสี้ยววินาทีเลยด้วย ซึ่งก่อนนี้พยายามอยู่ตั้งน๊านนนนๆๆๆ ก็เข้าไม่ได้
ปาฏิหารย์นะ มีจริงหรือเปล่าเน๊อออ
ได้อ่านครบทุกบรรทัดแล้ว ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจนะคะ แค่นี้ก็ทำให้จิตใจรู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?