ตอนมีแฟนช่วยผ่อนผันจ่ายค่าจัดฟันให้แต่พอเลิกกันไปแล้วควรจะช่วยต่อหรือไม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนผมมีแฟน ผมรับปาก คำพูดว่า จะช่วย ผ่อนจ่าย ค่าจัดฟัน ทำฟัน ให้แฟน ทุกเดือน แต่พอเลิกกันไปแล้ว ฝ่ายหญิง มีแฟนใหม่แล้ว ชื่อคนทำฟัน ก็เป็นฝ่ายหญิง ถ้าผมไม่ช่วยไม่สนใจแล้ว จะผิดมั้ย ฝ่ายหญิงแฟนเก่าอ้างว่าจะแจ้งความตำรวจ ถ้าไม่ช่วยจ่ายค่ำทำฟัน จัดฟันต่อ ช่วยแสดงความคิดเห็นให้ได้ทราบด้วยครับ ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ชีวิตคล้ายแบบหัวข้อเรื่องนี้
7 ความคิดเห็น
มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรไหม ถ้าปากเปล่า อยากไปฟ้องตำรวจก็ไปเลย เลิกก็เลิกกันแล้ว ยังจะเห็นแก่ตัวอีกทำไม ไม่ขอเงินคืนก็ดีแค่ไหนแล้ว
แจ้งข้อหาอะไร ลองถามเธอสิ
ข้อหาผิดสัญญาว่าจะให้ แต่ถ้าไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรก็โกหกศาลได้ ถ้าไม่สามารถพิสูจน์ว่าจำเลยโกหกได้ศาลก็ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย
สมมติว่าฝ่ายหญิงสัญญาว่าจะให้มีเพศสัมพันธ์ทุกวัน ต่อมาฝ่ายหญิงเลิกไปมีแฟนใหม่ แบบนี้ผิดข้อเดียวกันไหม
สัญญาว่าจะให้เกี่ยวกับการจะให้ทรัพย์สิน ศึกษากฎหมายดูนะ
ก็ฟ้องร้องไปสิ
ความคิดเห็นคือถ้าคุณรับปากใครไว้ว่าคุณจะทำอะไรคุณควรจะรักษาคำพูดถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ที่คุณมีกับคนที่คุณรับปากจะเปลี่ยนไป คนไม่รักษาคำพูดก็คือคนโกหก แต่ในทางกฎหมายถ้าไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรถ้าคุณโดนดำเนินคดีโอกาสที่คนที่ฟ้องคุณจะแพ้คดีก็มีสูง แต่คุณก็ต้องโกหกศาลกลายเป็นคนโกหกซ้ำซ้อน
ยกตัวอย่างถ้าคุณมีเพื่อนที่ป่วยแต่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้วคุณรับปากสัญญาเพื่อนคุณว่าคุณจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เพื่อนคุณทุกเดือนจนกว่าเพื่อนคุณจะหาย หลังจากนั้นคุณทะเลาะกับเพื่อนและเลิกคบกันไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้วคุณจะเลิกช่วยเขาไหม
เปลี่ยนเบอร์ไม่ต้องติดต่อฝ่ายหญิง ถ้าผู้หญิงมาหาถึงบ้านบอกให้ไปฟ้องร้องเอา อย่าพุดอะไรมากกว่านี้อีก
เรื่องฟังเป็นเรื่องส่วนตัว ตามจริงผู้หญิงควรออกเงินเอง ไม่ใช่ให้ฝ่ายชายมาออกให้ เรามองว่าเป็นคนเห็นแก่ได้มาก
ถ้าเขาฟ้องจริงจะเดือดร้อน ถ้าจะเอาตัวรอดก็ต้องโกหกศาล ถ้าไปยอมรับกับศาลว่าสัญญาอย่างนั้นจริงศาลก็คงจะตัดสินให้จ่ายเงินให้ผู้ฟ้อง เห็นแก่ได้หรือไม่เป็นคนละประเด็นกับการไม่รักษาคำพูดนะ
ไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรต่อให้เป็นศาลก็เอาผิดไม่ได้หรอก ไม่มีใครเอาผิดจากคำพูดปากเปล่าได้หรอก
ถ้าไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร = ไม่ต้องสนใจคับ ปากเปล่าใครจะโม้ไงก็ได้ แจ้งตำรวจก็แจ้งไปคับ เอาผิดคุณไม่ได้อยู่ดี เผลอๆ ตำรวจจะอยู่ข้างคุณด้วย ใจแลกใจใช้ไม่ได้กับทุกคน
จากประสบการณ์ที่เคยเห็นมา ถ้าเลิกกันแล้วอีกคนไปมีแฟนใหม่ทันที แปลว่าเค้าคบกันมานานแล้วคับ เพราะงั้นอย่าไปสนใจ กรรมใครกรรมมันคับ
ที่บอกว่าใครจะโม้ยังไงก็ได้เขาพูดเองว่าเขารับปาก ถ้าโดนฟ้องแล้วจะเอาตัวรอดคนที่ต้องโม้โกหกคือเขานะ
ในระหว่างทำงาน ตำรวจไม่เข้าข้างใคร แต่ในโลกความเป็นจริง มันมีใครไม่เลือกข้างมั้งคับ ตำรวจก็คน หน้างานก็เรื่องนึง แต่หลังบ้านมันคุยกันได้ คนที่บอกว่าโลกนี้มันมีคนที่อยู่ตรงกลางเป๊ะๆ มีแค่คนที่ไม่เคยเห็นโลกความจริงแค่นั้น
อีกอย่างคือคดีหยุ่มหยิมแถมไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันแบบนี้ ถ้าจะไปถึงหน้าบัลลังก์ก็ลองดูคับ ให้คุณผู้ชายบอกไปเลยว่าไม่ได้สัญญาอะไรทั้งนั้น ดูซิคับว่าจะเอาผิดยังไง จะมีหลักฐานอะไรไหมที่บอกว่าเคยมีการทำสัญญากันจริงๆ นอกจากคำพูดลอยๆ ในเว็ปไซต์นี้ (ซึ่งก็พิสูจน์ไม่ได้ 100% เหมือนกันว่าเค้าพูดจริงไหม) ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะไปจบยังไง เลิกกับเค้าก็แล้ว ยังจะไปรีดเลือดอะไรกับเค้าอีก ดีเหมือนกันคับให้โลกรู้ไปเลยว่าใครเป็นคนยังไง
คงอ่านไม่เข้าใจหรือไม่เข้าใจว่าการแจ้งความเป็นหลักฐานเป็นยังไง ถ้าแจ้งความเป็นหลักฐานพอตำรวจลงบันทึกประจำวันและให้ใบแจ้งความก็หมดหน้าที่ของตำรวจแล้ว จะคุยกันหลังบ้านอะไรอีก โจทก์ฟ้องศาลได้เลย คดีเล็กน้อยเขาฟ้องกันเยอะแยะ กฎหมายไทยเรียกว่าคดีมโนสาเร่ ค่าธรรมเนียมศาลระดับศาลชั้นต้นร้อยละ 2 ของทุนทรัพย์แต่ไม่เกิน 1 พันบาท เช่น ถ้าเรียกร้องเงิน 30,000 บาทโจทก์ก็จ่ายค่าธรรมเนียม 600 บาท แล้วคุณเป็นเอามากนะให้โลกรู้อะไร คดีเล็กน้อยอย่างนี้คนไม่สนใจหรอก
มันก็แค่หลักฐานเพื่อเดินเรื่อง แต่มันเอาผิดไม่ได้ถ้าไม่มีการเซ็นสัญญาว่าจะจ่าย ไม่รู้เรื่องแต่มั่วเก่งจริง
คนเก่งกฏหมายคงไม่มานั่งเห่าในกระทู้แบบนี้
เรื่องของเรื่องก็คือ เรื่องแค่นี้จะไปฟ้องศาล ฟ้องตำรวจ ดีไม่ดีเสียทั้งเวลาเสียเงิน มากกว่าค่าจัดฟันอีกมั้ง ฟันคงยังจัดไม่เสร็จด้วยซ้ำ เสียเวลาทำมาหากินทั้งสองฝ่าย แนะนำให้ทั้งสองฝ่าย กรกรวดน้ำตัดขาดกัน แผ่เมตตา ไปที่ชอบที่ชอบของแต่ละฝ่ายเถอะ แต่ถ้าไม่ได้นับถือพุทธ ก็เรียนเชิญตัดกันเองตามแนวทางศาสนาของคุณค่ะ
บอกให้เป็นความรู้ว่าค่าธรรมเนียมศาลระดับศาลชั้นต้นของคดีมโนสาเร่คือร้อยละ 2 ของทุนทรัพย์แต่ไม่เกิน 1 พันบาท
ถ้าเสียก็เสียกันทั้งคู่ มันอยากเสียเงินแล้วไม่ได้อะไรเลยก็เรื่องของมัน ประเด็นคือเสียเงินให้ศาลดีกว่าเสียค่าจัดฟันให้อิฟันเหยินนั่นน่ะ
ก็ต้องดูว่ามีเซ็นสัญญากันมั้ย ถ้าไม่มีมันก็แค่ปากเปล่า เอาผิดไม่ได้หรอก ช่วยเพราะมีน้ำใจ เลิกกันแล้วทำไมต้องช่วย แค่ปรนเปรอตัวเอง ความงามของตัวเอง ประกันสังคมเค้ายังไม่ให้เบิกเลยด้วยซ้ำ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?