สังเวชนียสถาน
สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
พุทธสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ตำบล นั้น ชาวพุทธถือว่าเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา
และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
คือ สถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้
สถานที่แสดงปฐมเทศนา
และสถานที่ พระองค์เสด็จปรินิพพาน
พุทธสังเวชนียสถาน ทั้ง ๔ ตำบลนี้
ตามตำนานมหาปรินิพพานสูตรแล้ว
ตั้งแต่พระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ กล่าวคือ
ก่อนที่พระพุทธองค์จะปรินิพพาน
ที่ กุสินารานคร แห่งประเทศอินเดีย
พระอานนท์ผู้เป็นพุทธอุปฐาก ได้กราบทูลพระองค์ว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงเจริญแต่กาลก่อนมา
เมื่อออกพรรษาแล้ว มีภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
หลั่งไหลมากราบไหว้บูชาพระพุทธองค์อย่างเนืองแน่น
และบัดนี้ พระพุทธองค์ได้ปรินิพพานจากไปแล้ว
จะให้ข้าพระองค์ทั้งหลาย รำลึกคิดถึง
กราบไหว้บูชาอะไรเล่า พระเจ้าข้า”
พระพุทธองค์ทรงตอบพระอานนท์ว่า “ดูก่อนพระอานนท์หลังจากเราตถาคตปรินิพพานจากไปแล้ว
จงพากันกราบไหว้บูชา สังเวชนียสถานทั้ง ๔ ของเรา
คือ สถานที่เราประสูติ
สถานที่เราตรัสรู้
สถานที่เราแสดงปฐมเทศนา
และสถานที่เราจะปรินิพพาน
ที่ป่าสาละกุสินารานี่ล่ะ อานนท์”
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๑ คือสถานที่ประสูติ
สวนลุมพินี สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ
อยู่ระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์ และ เมืองเทวทหะ
ปัจจุบันนี้อยู่ในเขตประเทศเนปาล
ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศอินเดีย
และสถานที่ประสูตินี้ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนอินเดีย-เนปาล
ประมาณ ๓๒ กิโลเมตร ปัจจุบันสังเวชนียสถานแห่งนี้
ภาษาทางราชการเรียกว่า "ลุมมินเด"
แต่ชาวบ้านทั่วไปก็ยังเรียกว่า "ลุมพินี"
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๒ คือสถานที่ตรัสรู้
มหาโพธิวิหาร พุทธคยา
สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๒ คือสถานที่ตรัสรู้นี้
แต่เดิมทีเดียวในสมัยพุทธกาลนั้น
คือตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เมืองคยา แคว้นมคธ
ซึ่งมีเมืองราชคฤห์ เป็นเมืองหลวง
ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้นี้เรียก ตำบลพุทธคยา
ขึ้นอยู่กับจังหวัดคยา (ห่างจากจังหวัดคยา ๑๒ กิโลเมตร)
รัฐพิหาร มีเมืองหลวงชื่อ ปัฎนะ
หรือ ปัฎนา (หรือชื่อเดิมว่า ปาฎลีบุตร)
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๓ คือ สถานที่แสดงปฐมเทศนา
ธัมเมกขสถูป ในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
สถานที่ปฐมเทศนา ตั้งอยู่ที่เมืองสาระนาถ
ธัมเมกขสถูป สถานที่ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถให้พระอรหันต์ ๖๐ รูป
ออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก
สถานที่นี้อยู่ในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้เมืองพาราณสี
ปัจจุบันเรียกสารนาถ ห่างจากเมืองประมาณ ๘ กิโลเมตร
ซึ่งเมืองพาราณสีนี้อยู่ห่างจากเมืองพุทธคยา
สถานที่พระพุทธองค์ตรัสรู้
ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ ๒๐๐ กิโลเมตร
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๔ คือ สถานที่ปรินิพพาน
สถูปและวิหารปรินิพพานที่เมืองกุสินารา
สถานที่ดับขันธปรินิพพาน
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๔
คือ สถานที่ดับขันธปรินิพพาน
ด้วยอนุาทิเสสนิพพานธาตุดับไม่มีส่วนเหลือ
คือทั้งกิเลส ทั้งเบญจขันธ์ดับหมด
ตามปกติพระอรหันต์ทั่วไปๆไปจะนิพพาน ๒ ครั้ง
คือ ครั้งแรกนั้นเป็นการดับกิเลส ส่วนเบญจขันธ์ยังอยู่
เรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพาน หรือนิพพาน เมื่อยังมีชีวิตอยู่
เพียงแต่จิตเข้าสู่แดนพระนิพพานเท่านั้น
เป็นจิตที่สะอาด ไม่มีกิเลส ไม่มีทุกข์แล้ว
สถานที่นิพพานที่พุทธประวัติระบุว่า สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา
ปัจจุบันมีสถูปและวิหารเป็นสัญลักษณ์
เป็นอุทยานที่ได้รับการรักษาจากทางการอินเดียเป็นอย่างดี
มีต้นสาละและไม้อื่นปลูกอยู่ทั่วไป ให้ความร่มรื่นพอสมควร
อนึ่ง สังเวชนียสถาน มีความหมายถึง
สถานเป็นที่ตั้งแห่งความสังเวช
แต่คำว่าสังเวชในทางธรรมนั้น มีความหมายลึกซึ้ง
กว่าความหมายของคำว่าสังเวชที่พบเห็นกันทั่ว ๆ ไป
กล่าวคือ ในทางธรรมหมายถึง
ความรู้สึกสลดใจที่ทำให้คิดได้
ทำให้จิตใจหันมานึกถึงสิ่งที่ดีงามเกิดความไม่ประมาท
เพียรพยายามทำสิ่งที่เป็นกุศลต่อไป
จึงจะเรียกว่า สังเวช
ความสลดใจและหงอยหรือหดหู่
ไม่เรียกว่าเป็นความสังเวช
จากหนังสือ สู่พุทธภูมิสมเด็จพ่อ และ หนังสือ ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า
PS. Home is where the heart is
3 ความคิดเห็น
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?