เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "ลาดกระบัง"
ตั้งกระทู้ใหม่
- สถาบันถูกผ่าออกเป็นสี่ส่วน โดยถนนและรางรถไฟ
- มีผู้หญิงและผู้ชายจำนวนพอๆ กัน ยกเว้นคณะวิศวะอย่าคิดว่าที่นี่มีแต่ผู้ชาย และอย่าเชื่อที่เพื่อนบอกว่าถ้าคุณเข้าไป คุณจะกลายเป็นดาวคณะได้เลย เพราะความจริงคือ มีผู้หญิงสวยๆ เยอะแยะ หุ่นดีอีกต่างหาก (อาจเพราะออกกำลังด้วยการเดินไปเรียนมาก) อย่างที่เราเคยเชื่อมาแล้ว...
- ตอนนี้ลาดกระบังมีรถวิ่งรอบสถาบันแล้วนะ 5 บาทตลอดสาย
- ที่นี่สามารถหาดูตัวเงินตัวทองได้ไม่ยากนัก และคนที่นี่เรียกว่า "พี่เห้"
- พี่วินที่นี่แพงและวิ่งเร็วมาก(เกินไป) ทางที่ดีควรเดินเพื่อออกกำลังกาย หรือนั่งรถสถาบัน
- คณะเทคโนโลยีการเกษตร มีตึกคณะลักษณะคล้ายรวงผึ้ง จึงเรียกกันว่าตึกรวงผึ้ง และว่ากันว่าที่ตึกนี้ นักศึกษาปี4 ก็สามารถหลงได้ เนื่องจากตึกนี้มี 4 ลูป และทุกลูปลักษณะเหมือนกัน
- ที่ลาดกระบังก็มีภาควิชาบริหาร และที่สำคัญอยู่ในคณะเกษตร  และในภาคบริหาร มีสาขาเทคโนโลยีการจัดการ ที่สังกัดคณะเกษตร แต่ไม่เรียนอะไรเกี่ยวกับเกษตรเลยแม้แต่ตัวเดียว
- คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือคณะไอที มีตึกเรียนที่ไฮโซที่สุดแล้ว เพราะติดแอร์ทั้งตึก เนื่องมาจากเมื่อก่อนตึกนี้ไว้เรียน ป.โทไอทีอย่างเดียว แล้วจึงมีการขยายมาเปิดเป็น ป.ตรีทีหลัง
- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นที่ๆ ถูกใช้ถ่ายมิวสิควีดีโอค่อนข้างบ่อย (แต่จำไม่ได้ว่าอะไรบ้าง)
- หอในเคยถูกใช้เป็นที่ถ่ายทำเรื่อง 4x4 ที่ Four เล่นด้วยนะ
-  เด็กวิศวะใส่แตะไปเรียนคณะอื่นได้ แต่เด็กคณะอื่นห้ามใส่แตะมาเรียน
- 7-11 ตรงสถานีรถไฟไม่ได้เปิด 24 ชม
- วิชาที่เริ่มเรียนตอนเช้าเริ่มเรียนตอนที่รถไฟมาพอดีประมาณ 8-9 โมง ถ้ารถไฟมาสาย หรือตกราง ก็เริ่มเรียนสาย
- เคยมีไฟดับช่วงสอบพอดี แต่ไฟส่องถนนกลับไม่ดับ เด็กลาดกระบังต้องมานั่งอ่านหนังสือริมถนน
- เป็นสถาบันที่เสื้อชอปคือเสื้อนักศึกษา กางเกงยีนส์คือกางเกงนักศึกษา
- มีที่ให้อาหารปลาหลายจุด ตึกเจ้าคุณ,ตึกวิดวะ,ตึกพระเทพ
- มีมิสไทยแลนด์ กับเขาด้วย(ซึ่งตอนนี้เธอก้อร่วงโรยไปตามกาลเวลาแล้ว...) อ้อมีอาร์มแชร์อีก (55+)
- คณะเกษตรปี2 ก็ได้ฝึกงานแล้ว(ที่วิดยาเขตชุมพร)
- การจราจรครบ รถไฟ รถเมล์ เรือ(หลังถาปัด) และเครื่องบิน
- บรรยากาศดีเพราะอยู่ชานเมือง
- เคยมี FBI มาตามจับนศ.เก่า(วิดวะคอมฯ)ที่ Hack เวบเขาไว้ (ข่าววงใน)
- ยุงที่นี่สามารถกัดทะลุกางเกงยีนส์ได้ ทดสอบมาแล้ว และกัดได้แม้ขณะที่เราวิ่ง (เจอมาแล้วเช่นกัน)
- เสื้อ shop วิดวะ มีเกลือมากที่สุดในประเทศ เพราะวิดวะที่นี่ไม่นิยมใส่ชุดนศ.และมี shop ตัวเดียวซะส่วนใหญ่บางทีเห็นเอ๊ะ..ช๊อปวิดวะกลายเป็นสีฟ้า จริงๆสีกรมท่า
- มีอินเตอร์เนทที่เร็วที่สุดในประเทศคือ 10GB/s (รึป่าว จำไม่ได้) ที่ต้นเครือข่ายนะ มีอาจารย์เคยบอกตอนปฐมนิเทศ (พอกรูใช้ทีโหลดเป็นชาติอ่ะ)
- หอในใหม่ ใช้แรงงานต่างด้าวทั้งหมด (ซึ่งตอนนี้ถูกจับไปหมดแล้วการก่อสร้างจึงหยุดชะงัก)
- แทงค์น้ำตึก 12 มีไว้เพื่อ(และเป็นเหตุ)ให้สนามบินสุวรรณภูมิถูกเลื่อนให้ไกลจากสถาบันมากขึ้น เสียงจะได้ค่อยลง
- เป็นสถาบันแห่งหนึ่งที่จักรยานหายมากที่สุดเช่นกัน
- ไม่ได้มีแต่ผู้ชายอย่างที่คนภายนอกเขาคิดกัน
- มีโรงหนังขนาดเล็กที่ห้องสมุด ค่าเข้าแค่คนละ 5 บาท
- ส้มตำในซอยของถนนข้างตึก 12 อร่อยสุดแล้ว
- มี FTP ใช้ได้ไม่จำกัด และแน่นอน มีหนังโป๊เยอะมาก
- ห้ามตดใน 7-11 ที่อยู่หน้าตึก 12 เด็ดขาด เพราะเป็น 7-11 ที่แคบที่สุด
- เป็นสถาบันที่ไม่มี summer ให้เรียน ถ้าอยากเรียนต้อง drop หรือ ไม่ลงทะเบียนตั้งแต่ต้น(ใช่ป่ะ?)
- ถ้าขึ้นตึกสูงในสถาบันจะเห็นลานบินและหอคอยการบินที่สูงที่สุดในโลก(สำหรับหอคอยการบินนะ)ได้อย่างชัดเจนในวันอากาศสดใส
- สนามกีฬามีสัญญาณ Wifi แต่ไม่มีที่ให้วาง Notebook ให้เล่น
- ศูนย์วิจัยมีเนตให้เล่นฟรี 24 ชม. เนตเร็วมาก แต่ระวังตอนเปิดเครื่อง อาจทำให้ฝาเคสเครื่องหลุดเป็นชิ้นๆได้ (เจอมาแล้ว) แต่เครื่องก็ยังใช้ต่อได้
- ซอยเกกีงาม 2 จะเป็นหายนะ เมื่อฝนตก
- และแน่นอน ยานพาหนะคุณจะดูเก่าขึ้นอีก 35 ปีเมื่อจอดเฉยๆที่ซอยนั้น แม้จะจอดเพียง 2 อาทิตย์ก็ตาม(ฝุ่น) และนั่น จะทำให้จักรยานหายยากขึ้น(แต่ก็ยังหาย)
- หากคุณยืนตากแดดในที่โล่งตั้งแต่วินาทีแรกที่ดวงอาทิตย์ขึ้น จนถึงวินาทีสุดท้ายที่ดวงอาทิตย์ตกดินโดยไม่ขยับไปไหน ในช่วงหน้าร้อน คุณต้องใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 2800 ถึงจะกันแดดได้ "100%"
จากการคำนวนคร่าวๆ (โอ้ว...พระเจ้าจอร์จ!!ถูกต้องนะคร้าบบบบบบ!!!!!!!)
- ซอยเกกีงามเป็นชุมชนหอนอกที่ใหญ่ที่สุด มีคนพักอาศัยมากกว่า 3 พันคน(จากการประเมินเบื้องต้น) มีราคาตั้งแต่ 1700-5200 บาท ยังไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ
- หากคุณไม่เคยพกไฟฉายเข้าห้องสมุด ลองเข้าห้องสมุดวิดวะสิ คุณต้องการมันแน่ๆ
- สนามเปตองเปิดให้เล่นได้ 24 ชม. แต่ไม่เปิดไฟตอนกลางคืน (อะไรฟะ)
- คณะวิทยาศาตร์เป็นคณะเดียวที่ไม่ได้ติด Wifi
- เชื่อมั้ยว่า ตึกวิทย์เก่าเคยมีเด็กทำการทดลอง เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ จนเกิดการสูญเสียมาแล้ว
- คณะวิทยาศาสตร์มีโรงอาหารแห่งเดียว และเป็นโรงอาหารสถาบันซะด้วย แต่ดันไม่มีแอร์
- แต่คณะวิศวกรรมศาสตร์มีโรงอาหารหลายแห่ง และบางแห่งยังติดแอร์ด้วย
- อยากได้หมวกยาม ไปหยิบจากหัวยามได้เลยที่ตึก A ตอนกลางคืน รับรองได้ยามไม่วิ่งตาม ไม่ด่าคุณแน่นอน (หลับ) เคยลองมาแล้ว
- สถิติเวลาเรียนที่เคยโหดที่สุด คือ 19.00-05.30 น.คณะวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ประยุกต์ (ตายดีกว่า!!) และบาง sec ของวิดวะปี 1 เทอม 1 มีเรียน 7 วันต่ออาทิตย์ ตามตารางสอนซะด้วย
- จำตอนเด็กๆ จำได้มั้ยที่โรงเรียนเค้าจะมีนมถุงให้กิน มียี่ห้อ KMITL ด้วย และแน่นอนสถาบันเราผลิตเอง (จิงป่ะเพิ่งรู้นะเนี่ย ?)
- ถ้าต้องการส่งเกรดอันน้อยนิดให้พ่อแม่ดู World Wide Book ที่คณะวิศวะ มีบริการไปรษณีย์ทุกอย่างด้วย(เคยไปใช้บริการกันป่ะ?) ไม่จำเป็นต้องถ่อเดินทางไปถึงซอยไปรษณีย์
- และ Textbook ที่นั่นราคาถูกกว่าศูนย์หนังสือจุฬาฯ ถ้าไม่มีหนังสือที่ต้องการ สามารถสั่งได้
- เสาโทรฯอันเด่นสง่าใช้การไม่ได้แล้ว
- จะบ่นทำไมว่าห้อง Lab เคมีไม่ติดแอร์ ในเมื่อสารเคมี(หลายตัว)ต้องทดลองที่อุณหภูมิห้อง(ใช่ป่ะ?)
- จะใช้ Flash Drive รุ่นใหม่ๆ ที่คอมฯตึก A ต้องเอาแผ่น Driver ไปด้วย ไม่งั้นใช้ไม่ได้
- คอมพิวเตอร์ที่ชั้น 1 หอสมุดกลางใช้สัญญาณ Wifi ไม่ใช่จากสาย LAN
- คิดจะหาจักรยานที่เก่าเกือบ 10 ปี และมีสนิมเขรอะล่ะสิ มันก็หายได้ (ของเพื่อนผมเอง)
- ตั๋วรถไฟกระดาษแข็ง สีส้มแดง มีเหลือขายเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย คือ สถานีพระจอมเกล้าฯ (เคยถามนายรถไฟมาแล้ว) ในอนาคตจะเป็นของหายาก เก็บไว้ดีๆ (รู้สึกตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นตั๋วบาง 2 ใบแล้วนะ ยืนยันโดยข้าพเจ้านี่แหละ (ขึ้นมาหลายรอบแล้ว)
- สถาบันเรามีอุทยานวิศวกรรมด้วยนะ(คิดว่าเรียกงี้นะ) ชั้น 1 ตึก ECC ไง
- ส้มตำร้านป้าดา ซอยเกกีงาม 2 มีพยาธิตัวจี๊ดดดดด (ถ้ามันขึ้นหน้า อาจทำให้เราเสียชีวิตได้) ที่สำคัญ ระวังตูดด้วย เพราะคนขายไก่ทอดข้างหน้าเป็นเกย์
- ประตูใหญ่ข้างตึก 12 (ทิศตะวันตก)เปิดเพียง 1 วันเท่านั้นในรอบ 1 ปี
- ศูนย์วิจัยฯ ตอนดึก ใส่รองเท้าแตะเข้าก็ได้นะ แต่ต้องเป็นแตะมีสกุลนะ (ตามระเบียบต้องใส่ผ้าใบ)
- ห้อง Lab ที่มีราคาแพงที่สุด อยู่คณะวิทยาศาสตร์ มีมูลค่ามากกว่า 10 กว่าล้านบาท (อยากรู้รายละเอียด ถามรุ่นพี่ที่นั่น)
- สนามโภไคยอยู่ต่ำกว่าระดับทางเดินมาก แต่ไม่มีระบบป้องกันและระบายน้ำจากน้ำท่วม
- อย่าขึ้นลิฟท์กับพวกเด็กวิดวะ เพราะคุณจะสลบก่อนเดินออก(กลิ่น shop)
- แต่พวกวิดวะด้วยกันจะชินกันแล้ว(อาจารย์ฝากบอกมานะอันนี้)
- และกรุณาอย่าขึ้นลิฟต์กับเด็กถาปัดเหมียนกัน เพราะคุณอาจได้กลิ่นปลาหมึก หรือรองเท้าของพวกตีนเหม็นทั้งหลายขอบอกว่าเหม็นจิงๆ เหม็นเห้ๆ (กรี๊ดดด..ชั้นไม่เหม็นนะยะ)
- ถ้านั่งวินมอไซต์ไปตึก L อธิบายให้ดีๆ เพราะมีตึก L สองแห่ง (เคยส่งผิดทีนึง)
- sheetสำเร็จรูปร้านถ่ายเอกสารแตงกวาหน้าตึก 12 ขายแพงกว่าปกติอย่างน้อย 35 เท่า ซื้อของคณะหรือภาคดีกว่า
- ท่านอาจจะพบตัวเงินตัวทอง(ตัวเชี้ย) ได้ในเขต วิดวะและถาปัด (เป็นมาสคอตของที่นี่นี่เอง)
- มีสะพานลอยคนเดินข้ามแต่ส่วนมาจะเป็นสุนัขที่ใช้(ไม่ได้ว่าใครนะครับ สุนัขจริงๆ ใช้บ่อยกว่าคนอีก)
- หลีกเลี่ยงสถานีพระจอมตอนกลางคืนให้ดีดี ได้ข่าวมาว่าถ้าไปยืนร้องเพลงเชียร์คนเดียวสักพักจะมีคนมาร้องต่อให้ (เฮ้ย!!!จิงดิ!!! กรี๊ดดดดดด!!!!)
- มีสถานีรถไฟเป็นของตัวเอง 2 สถานีเลยก็ว่าได้(หัวตะเข้ลาดกระบัง) และ 2 สถานีนี้เป็นสถานนีรถไฟที่ติดกันมากที่สุดแล้วมั้ง(เดินไปอีกสถานีก็ประมาณ 200 เมตร)
- ตอนกลางคืนที่อนุเสาวรีย์ ร.4 จะมีคนมาวิ่งบ่อยๆ (ไม่ใช่ผีนะ..มาแก้บน)
- อยากได้อะไรที่ลาดกระบังมีทุกอย่าง ของกินของใช้ ร้ายเกม ร้านหนังสือ ร้านเช่าหนัง ร้านซ่อมขายจักรยาน หอพักมากมาย ห้างก็มี(TOP ตรงหัวตะเข้) ฯลฯ สบายจิงๆ
- มาเรื่องลี้ลับบ้าง ห้องน้ำหญิง ตึก A ชั้น 5 ของคณะวิดวะ เป็นแหล่งลองของชั้นดีของผู้ที่ต้องการ เพราะมีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมาย แล้วในห้องน้ำนั้นมีแม้กระทั่งศาล (เคยขึ้นไปด้วย จะบอกว่า ตามตำนานคือ สาวถาปัด อกหักจากหนุ่มวิดวะเลยไปผูกคอตาย ที่ว่าสาวถาปัด เพราะจะมีงานวูดคัท ซึ่งเด็กถาปัดต้องได้ทำ อยู่บนหิ้งด้วย ใครอยู่รุ่นแรกๆ แล้วขึ้นไปก็จะได้เห็นรูปเล็กๆของชีด้วย ตอนนี้ไม่มีแล้วแต่ศาลยังคงมีอยู่ ที่สำคัญห้องน้ำตรงนั้นยังเปิดใช้อยู่ แต่บางตำราบอกว่าเป็นสาวคนงานก่อสร้างต่างหาก)
- โรงอาหารที่แมวเยอะที่สุดคือโรงอาหารคณะถาปัด (และมีหมาที่อ้วนที่สุด 1 ตัว น้ำลายยืดอีก 1 ตัว และอีกหลายๆตัวที่ไม่ได้กล่าวถึงและหมาอ้วนมันกลัวเสียงพลุมากที่สุด)
- โรงอาหารที่หมาเยอะที่สุดคือโรงอาหารคณะวิดยา
- โรงอาหารวิดยาเป็นโรงอาหารที่มีเด็กต่างคณะใช้มากที่สุด
- คณะวิดยามีการแจกสติกเกอร์ให้นักศึกษาเข้ามาจอดรถในคณะได้ซึ่งในการแจกจะใช้ระบบจับฉลากในหอประชุม เด็กที่ยื่นเรื่องขอไปได้ลุ้นกันตัวโก่งยังกะหวยออก
- ชั้น 4 ตึกจุฯที่เป็นชั้นภาคชีวะ ต่อให้ไม่ได้ดูเลขชั้นก็ยังรู้เพราะจะมีกลิ่นอาหารเลี้ยงเชื้ออยู่เสมอ
- ลาดกระบังช่วงใกล้ๆ 9 โมงเช้าและ 4 โมงเย็นจะเหมือนเมืองจีนมากเพราะมีจักรยานเยอะว่ารถยนต์ซะอีก
- อยู่ลาดกระบังจะทำให้มีความรู้สึกว่าแสงโสมนี่มันช่างลื่นคอกว่า แบล็กหรือชีวาสไปแล้ว พอกลับไปกินเหล้าแพงๆกลับรู้สึกคันๆคอ 555 ++
- ตึกที่บรรดาเด็กลาดกระบังเคยบอกว่า ไฮโซไซตี้ที่สุดนั้นคือตึกไอที
- ส่วนตึกที่ดังที่สุด ก้อตึกจานบิน ที่ถาปัดเรานั่นเอง มีทั้งถ่ายโฆษณาหนัง MV และอื่นๆๆๆๆ (แต่ยังไง้ ยังไง มันก้อยังไม่ค่อยมีคนรู้จักซะที ไหงเป็นงี้ฟะ!!)
- ตึกภาคอิเล็กทรอนิกส์(ตึก B, ภาคผมเองครับ อิอิ) เป็นตึกที่บันไดในตึกชวนงงมากๆ เดินแล้วจะลืมว่าเราจะไปชั้นอะไรหว่า หลายๆ คนเรียกบันไดหลอกผี เราว่าเป็นบันไดหลอกตัวเราเองมากกว่า เหอๆๆๆๆ
- ตึกภาคโทร  เป็นตึกที่ดูเหมือนโรงพยาบาลมากที่สุดทำโปรเจ็คตอนกลางคืน เดินไปเข้าห้องน้ำ กลัวเป็นบ้าเลย ฮือๆๆๆๆ
- ส่วนห้องน้ำหญิงตึก A ชั้น 5 ไม่เคยเข้าเลย เนื่องด้วยได้ยินกิตติศัพท์มายาวนาน จะเข้าห้องน้ำ ต้องลงมาชั้นล่างตลอดเลย (เพื่อความปลอดภัย)
- ตอนเรียนใส่ชุดนักศึกษาเฉพาะวันสอบเท่านั้นเหอๆๆๆ เคยลืมด้วย ใส่ชอปไป ต้องวิ่งกลับมาเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษา
- ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมชอบบนวิ่งรอบพระจอมฯ กัน (เราก็เป็น) แล้วต้องไปวิ่งดึกๆ ดื่นๆ ด้วยนะ เหอๆๆๆๆ
- มีคนล่ำลือกันเกี่ยวกับเสียงดนตรีไทยที่ตึกพระเทพ.... ชมรมเรา (ดนตรีไทยและนาฏศิลป์) เดิมทีตั้งอยู่ที่ตึกพระเทพ ใกล้ๆ สระว่ายน้ำ สมาชิกบางคน ชื่นชอบการเล่นดนตรีไทยโดยที่ปิดห้อง ปิดไฟ และเอารองเท้าเข้ามาให้ห้องให้เรียบร้อย... เหอๆๆๆ ถามเพื่อนๆ หลายคน ไม่เคยมีใครรู้ว่ามีชมรมดนตรีไทยตั้งอยู่ที่นั้น จากนั้นก็ย้ายมาอยู่ชั้น 2 โรงอาหารสถาปัตย์ (ย้ายมา 7-8 ปีแล้ว...) ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่า?? ไม่ได้แวะกลับไปนานแล้ว
- ตึกคณะ IT นอกจากติดแอร์ทั้งหลังแล้ว ตึกนี้สร้างโดยไม่ใช้เสาเข็ม แต่ใช้ลวดสลิงยึดแทนทั้งหลัง ซึ่งมีข้อห้ามอย่างเข้มงวดที่สุดคือ ห้ามเกิดไฟไหม้เด็ดขาด เพราะจะพังทั้งตึกในพริบตา
- เรื่องน่าแปลกอย่างหนึ่งในตึก IT คือ หมา และ แมว ในช่วงหัวค่ำ มันจะชอบแอบเข้ามาในตึกเพื่อเข้ามานอน แน่หละเพราะตึกเย็นสบาย แถมชอบขึ้นไปนอนชั้นสูงบนด้วย เช่น ชั้น 3 ชั้น 5 อันนี้พี่ยามหน้าตึกก็ช่วยยืนยัน
- ตลาดหัวตะเข้ มีร้านขายนขมจีนที่อร่อยมากเจ้าหนึ่งเป็นคุณป้าแก่ๆ คนหนึ่ง มาขาย จะเริ่มขายราวๆ 5-6 โมงเย็น ไปถึงตอนเช้า ซึ่งช่วงดึกๆ เที่ยงคืนเป็นต้นไป คุณป้าก็จะขายอยู่คนเดียวในตลาด
- ตึกเรียนถาปัดลาดกระบัง เวลาเรียนนี่ เงียบฉี่ แต่เวลาสอบ คนมาจากไหนกันเยอะแยะก็ไม่รู้
- ถาปัดลาดกระบัง ห้องน้ำชั้น 2 ถูกออกแบบมาเพื่อให้มองเห็นคนฉี่ได้
- ไก่ย่างหน้าประตู ที่เข็นมาขายมีสีแดงเถือกจนน่ากลัว แต่ก็ยังซื้อกินทุกวัน
- ถ้ามีคนเตะบอลตกสระน้ำแล้วไม่มีไม้เก็บ ก็เอาก้อนหินที่อยู่แถวนั้นแหล่ะ ขว้างเอา บางที อิฐบล็อคปูถนนก็ยังถูกขุดขึ้นมาขว้าง
- แมวในศ.อ. ห้องที่ปั้นเซรามิค เป็นแมวมีวิชาตัวเบา ไม่เคยเหยียบงานแตกเลย
- หมาหิมะ จ้องคุณทุกเมื่อ ถ้าหากมีของกินอยู่ในมือ
- มีคนบอก ห้ามตกปลาในสระ แต่ยังเห็นมีคนตกมาย่างกินกันอยู่เลย
- หอ FBT เป็นแหล่งรวมของเด็กถาปัด ใครอยู่หอในตอนปี 1 พอขึ้นปี 2 จะออกมา(ก็มันไม่สะดวกในการทำงานนี่นา)
- ร้านป้าแอ๊ะ ชอบโก่งราคาของเวลาใกล้ส่งงาน สอบวันไหน ส่งงานอะไร ป้าแกรู้หมด(สงสัยจะมีสายในคณะ)
- ผู้หญิงวิทยา น่ารักเยอะ
- มีคนในคณะถาปัดลาดกระบังว่า ตัวเงินตัวทอง รสชาติเหมือนไก่
- ผู้ปกครองที่มาเยี่ยมเยือนลูกๆที่คณะ เห็นนักศึกษาบางคนแล้วนึกว่าเป็นแรงงานพม่าที่มาทำการก่อสร้างตึก(เขาฝากบอกมาว่า "กูเป็นแค่นักศึกษาเฉยๆ")
- ถาปัดลาดกระบังปี 1 เข้าไปนี่ถ่อยมาก แต่พอขึ้นปี 5 เรียบร้อยหยั่งก๊ะนักเรียนแพทย์
- เด็กคณะวิทย์ลาดกระบัง น่ารักที่สุดครับ
- สถานีรถไฟที่ห่างกันแค่ 800 เมตร แต่ราคาต่างกัน 1 บาท เท่าๆ กับสถานีที่ห่างกัน 6 กิโล
- สะพานลอยหน้าคณะวิทย์แทบจะไม่มีเด็กข้าม
- ยี่สิบปีที่แล้ว คณะวิศวะกับเกษตรตีกันแทบทุกวัน
- ร้านบางกอกเป็นร้านเหล้าที่อยู่นานที่สุด
- ทุกคนจะรู้จักc2
- รุ่นพี่ชอบพาน้องรหัสไปเลี้ยงที่ร้านพันช์
- คณะถาปัดลาดกระบังมีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2497 มีทั้งหมด 5 ภาควิชา ซึ่ง5ภาควิชานี้จะมีบุคลิคลักษณะเป็นเอกลักษณ์
- เริ่มจากชาววิจิตรศิลป์จะแต่งตัวคล้ายกันในช่วงปี 1
- ส่วนชาวนิเทศน์จะไม่ค่อยใส่ชุดนักศึกษา
- พวกศอ.จะส่วมชุดชอปเข้าใกล้ห้องพักอาจารย์(ท่านนึง)ไม่ได้
- ส่วนสาวสน.ต้องดูให้ดีว่าของจริงรึเปล่า
- สถ.ไม่น้อยหน้าจะมีรุ่นพี่ท่านนึงที่ชื่อเข้ากับภาควิชาสถ.มาก ๆ
- จะเห็นเขาท่านนี้อยู่วนเวียนเรื่อยไปตามงานกินเหล้าต่าง ๆ
- นักศึกษามักจะใส่กางเกงยีนส์=กางเกงนักศึกษา
- ส่วมรองเท้าผ้าใบ=รองเท้านักศึกษาและมักจะแอบใส่แตะเข้าห้องสมุด
- มีกิจกรรม 2-5หรืออาจจะ6รับ 1ซึ่งมีตลอดปี
- บางคนอาจจะคิดว่าเป็นกิจกรรมไม่สร้างสรรค์(มันสร้างสรรค์ให้น้องเราคอแข็ง)
- มีโรงอาหารติดริมน้ำ ทั้งใหญ่และร้านอาหารเยอะ (ประชดหน่ะ ขำ ๆนะ)
- หากแต่โรงอาหารจะมีคุณลุงท่านนึงที่สวมชุดคล้าย 2005 ทิวิ ฮูลา ฮูล่า คอยเก็บจาน
- และยังมีสุนัข2ตัว ตัวหนึ่งมันอ้วนคล้ายหมู ฉลาดเฉพาะตอนเวลาอยากกิน และอีกตัวที่ทำปากสั่นน้ำลายฟูมปากเวลามาเสนอหน้าขอกิน
- มีสนามฟุตบอลที่(เคย)ปราศจากหญ้า (ตอนนี้มีหญ้าแล้ว)
- มีสนามบาสที่ใช้ร่วมกับที่จอดรถ
- นักศึกษานิยมเดินกลับหอ แต่ต้องนั่งมอร์ไซด์มาเรียน(ไม่ทันแล้ว!!!!)
- เป็นคณะเดียวของลาดกระบังที่โดยสารด้วยเรือได้
- ที่มีเป็นคณะที่พบเจอตัวเงินตัวทองเป็นเรื่องปกติเลย
- ระหว่างการเดินจากตึกไปโรงอาหารต้องอาศัยครีมกันแดดแบบ100เปอร์เซ็นต์ถึงจะไม่ดำนะ (ยิ่งเดินไปวิจิตนะอย่าให้บอกว่าแสบตัวแค่ไหน)
- ภาควิชาวิจิตรศิลป์มีร้านขายข้าวและลานฟุตบอลส่วน
- ประตูหลังคณะสร้างมาเพื่อปิด...(อย่างนี้ไม่ต้องสร้างดีกว่า)
- นักศึกษาปี 1 แรกๆจะเห่อไปกินข้าวที่วิศวะเพราะว่า "ติดแอร์"
- หลังจากนั้นซักพักนึง ต่อให้มีคนชวนไปกินที่วิศวะก็ไม่มีใครไป ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน (เป็นอย่างนี้จริงๆนะไม่เชื่อน้องๆลองดูเพื่อนๆตัวเอง)
- Shop พลาสติคมีลุงคนนึงหน้าเหมือนแมวเปิด shop ไม่ตรงเวลา แต่ปิดก่อนเวลาประจำ เวลาจะขอแวคพลาสติคก็ต้องแล้วแต่อารมณ์ลุงแมว
- หมาที่โรงอาหารมีท่าไม้ตายเวลาขอข้าวคือ เอาปากที่น้ำลายฟูมๆ มาวางไว้ที่หน้าตักคนนั่งริม
- ร้านข้าวที่ชื่อครัวยายสม มีชื่อร้านอีกชื่อนึงคือ "ร้านป้าผี"
- ป้าแอ๊ะที่ขายเครื่องเขียน มีอีกชื่อนึงว่า "ร้านหลอก"
- ร้านป้าแอ๊ะจะมีช่วงเวลาปรับขึ้นราคาของบางชิ้นที่เกี่ยวข้องกับงานของนักศึกษาที่ต้องซื้อกันครั้งละเยอะๆ
- เวลาที่ร้านป้าแอ๊ะขึ้นราคาก็คือเวลา "ส่ง Project"
- ป้าแอ๊ะจะรู้ทันตลอดว่าเมื่อไหร่ภาคไหนจะต้องส่งงานอะไร ป้าแอ๊ะจะรู้หมดและปรับราคาของขึ้น เช่น โฟมปกติราคา 15 บาทเวลาส่ง project ขึ้นเป็น 20 ทำนองนี้
- ในโรงอาหารจะมีสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์อยู่ 2 สิ่ง คือ ลุงสามตา กับ ป้าปลอม
- ลุงสามตาจะคอยเก็บทุกอย่างที่เรายังกินไม่เสร็จ
- ป้าปลอมจะดูละม้ายคล้ายป๊อป อารียา เวลาอายุ 184
- ผู้หญิงคณะเราจะมีทั้งหน้าตาแย่ที่สุดและสวยมากที่สุดในมหาลัย
- แต่เปอร์เซนจะเป็น 99 : 1
- ใครที่เพิ่งมากินข้าวในโรงอาหารใหม่ๆจะสะดุ้งกับเสียง ปึ๊ง!!!! เป็นระยะๆ แต่อีกหน่อยจะชินเอง
- ครัวยายสมอาหารอร่อย แต่เคยมีคนเจอขน.....ในจาน(คำคล้องจอง)
- มีชอปที่เจ๋งที่สุดในประเทศไทย (ขอเน้นที่ชอปไม้ อัพเกรดสุดๆตอนนี้)
- แต่คนคุมชอป...(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ โดยเฉพาะชอปพลาสติก)
- ผู้หญิงที่ฉลาดๆและน่ารักๆปี1 จะรู้สึกเหมือนเรียนสบายกว่าคนอื่น ^^
- อีกครึ่งนึงของโรงอาหารจะมีเด็กนิเทศน์นั่งกันตรึมมมม(ไม่กล้าเข้าไปอ่ะ...)
- เป็นคณะที่มีที่จอดรถเหลือ
- ในวันแรกคุณอาจเดินวนอยู่ 2 รอบกว่าจะเจอห้องเรียน บนชั้น3ของตึกเรียนรวม
- เอาล่ะ... ให้เด็กถาปัดพูดแล้ว ขอวิศวะคอมพูดบ้าง
- ห้องสโมสรนักศึกษา (ซึ่งถูกเรียกว่า สโมฯ) เป็นสถานที่ที่จะมีเด็กปี 1 ใช้บริการมากที่สุด เพราะตอนทำกิจกรรมเชียร์ต้องมาลาป่วยที่นี่
- อ้อเกือบลืม ซื้อเข็มกลัดปกเสื้อกะเข็มขัดที่นี่ก็ได้
- สโมฯ มีแมวลายเสือที่โคตรซุปเปอร์น่ารักมากๆ อยู่สี่ตัว ปัจจุบันโตหมดแล้ว และกำลังขยายเผ่าพันธ์ความน่ารักไปเรื่อยๆ จนกว่าจะกลืนกินคณะวิศวะจนหมด
- ตึกกิจกรรมนักศึกษา (ถูกเรียกว่า ตึกกิจฯ) ก็มีแมว แต่ไม่น่ารักเท่า
- ตึกกิจกรรมนักศึกษา มักถูกใช้เกี่ยวกับกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษาซักเท่าไหร่
- ห้องน้ำตึกกิจฯ มีที่อาบน้ำ สบู่ ยาสีฟัน และแปรงที่ใช้กันยกตึกกิจอยู่ด้วย
- ไม่สามารถใช้ห้องน้ำตึกกิจทำธุระหนักได้ เพราะจะเกิดปฎิกิริยาย้อนกลับ และ... ขอไม่พูดดีกว่า
- โรงอาหารวิศวะจะไม่เปิดขายเมื่อเราอยากกินมัน
- เป็นสถาบันเดียวที่สามารถใส่ยีนส์เข้าไปสอบได้ (โดยส่วนใหญ่น่ะนะ)
- ตึก ECC เป็นที่รู้จักกันว่าคือตึกภาคคอม แต่จริงๆแล้ว มี 3 ภาคอยู่ในตึกนี้นะ
- ห้องโปรเจคภาคคอม มักใช้เล่นเกม เพราะเนทแรงชิบ (แต่เปิด BIT ไม่ได้ โดนแบน)
- ตกดึก เนทที่ศูนย์คอมพิวเตอร์สามารถแรงได้ถึง 100 Mb/s (ฟังไม่ผิดหรอก จริงๆ นะ)
- หอทิพย์วารี เป็นหอที่ต่อให้หมาเห่าเสาไฟฟ้า ไฟก็ดับได้
- ถ้าเราเอาระเบิดอิเล็กทรอนิกส์ (EMP) ไปยิงใส่ตึกศูนย์คอมฯ เค้าบอกว่าเซิร์ฟเวอร์เค้ายังปลอดภัยล่ะ !!
- วิศวะมีสาวสวย จริงครับ... แต่มักถูกจับจองจนหมดเกลี้ยงภายใน 3 วันแรกของการเปิดเทอมแล้วล่ะ
- ตอนเราจะส่งโปรเจค อาจารย์ภาคคอมวิศวะจะอยู่ต่างประเทศเสมอ
- หอพักซอยเกกี ทั้งหลาย หลังๆมาผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเลยแต่ก็เต็มทุกที่นะ มีช่วงหลังๆที่เค้ารณรงค์ให้รักนวบสงวนตัวไรนั้นนะ ตอนแรกแต่ละหอพักจัดการซะยกใหญ่เลย ว่าต้องแบ่งหอนี้เป็น ชาย หรือ หญิง แยกไปเลย จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นแยกเลยนะ ...เหอๆ
- ผู้ชายวิศวะ จะหน้าตาดีทุกคน
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
การเดินทางโดยรถไฟ
1. เผื่อเวลาไว้ 2 ชม. เหมือนไปขึ้นเครื่องบิน เช่น จะขึ้นรถรอบ 8.00 ที่หัวลำโพง รถอาจจะมา ถึงตามตาราง 9 โมงหรือนอกตารางเช่น 10 โมง 10 โมงครึ่ง ก็ได้ ใครจะไปรู้
2. ลงที่สถานี "พระจอมเกล้า" ไม่ใช่ สถานี "ลาดกระบัง" เคยมีคนลงผิดมาแล้ว ไปต่อไม่ถูกเลย
3. จำไว้ว่าคนขับรถไฟจะยึดคติ "มาตรงเวลา เราไม่ มาสายๆ เราชอบ" นี้อย่างเคร่งครัด 10 ขบวน แหกกฎแค่ 1 ฉะนั้นต้องเข้าใจเวลารถไฟมาเลทไป 1 ชม. 38 นาที
4. ฟิตซ้อมร่างกายอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถวิ่งขึ้นรถไฟ ได้อย่างทันท่วงที เพราะบางทีรอบที่คุณคิดว่าจะเลท กลับมาตรงซะงั้น ทำให้คุณต้องวิ่งจากซอยเกกี มาที่สถานี ข้ามฟากไปซื้อตั๋ว แล้วกลับมาขึ้นรถไฟ ไม่ฟิตจิงอาจสลบคา บันไดรถได้
* หากคุณคิดว่านี่เว่อร์เกินไป ดูของจริงได้ที่สถานีรถไฟ รอบประมาณ 4 โมง แล้วคุณจะเห็นด้วยตาคุณเอง
5. ถ้าคุณเพิ่งมาเรียนที่นี่เป็นปีแรก อย่าเพิ่งนั่งขบวนที่มาจาก อรัญฯ รอบนี้สงวนไว้ให้กับผู้ที่มีประสบการณ์มาแล้วอย่างน้อย 1 ปี (ขนาดอยู่ปี 4 บางทียังไม่อยากจะนั่งเลย)
แต่ถ้าอยากพบกับประสบการณ์อันเลวร้ายตั้งแต่วันแรกๆ คุณจะไม่ผิดหวังเพราะคุณจะได้เจอ
- คนกินเหล้าโวยวายเสียงดัง
- กลิ่นเหงื่อ อันตลบอบอวลไปทั้งขบวน
- ไม่มีที่นั่งให้คุณนั่ง จนกว่าจะถึงหัวหมาก
สำหรับผู้โชคดี 12 ท่านแรก ท่านอาจจะได้เจอ
- แมลงสาบวิ่งตามขอบประตูหน้าห้องน้ำ
- มดไต่ตามขอบหน้าต่าง
* หากคุณคิดว่านี่เว่อร์เกินไป ดูของจริงได้ที่สถานีรถไฟ รอบประมาณ 6 โมง แล้วคุณจะเห็นด้วยตาคุณเอง
6. ซื้อตั๋วให้เรียบร้อยก่อนขึ้นรถ ถ้าไม่ได้ซื้อ หรือ วิ่งไปซื้อไม่ทัน (เนื่องจากไม่ฟิตร่างกายตามข้อ 4) ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- แกล้งหลับ ในกรณีที่ได้นั่ง แต่ถ้านั่งไปกับเพื่อน แล้วเพื่อนไม่หลับ ยื่นตั๋วให้เค้าตรวจ แถมบอกว่ารู้จักกัน อันนี้ก็ควรที่จะสรรเสริญเพื่อนด้วย หลังจากจ่ายค่าปรับไปแล้ว
- เข้าห้องน้ำ กะจังหวะว่าได้ยินเสียง แก็บๆ มาเมื่อไหร่ ก็เข้าห้องน้ำไปเลย ฟังเสียงว่าเสียงผ่านไปไกลแล้วค่อย ออกมา วิธีนี้ต้องมั่นใจว่าจมูกจะทนกลิ่นในห้องน้ำได้ และหูคุณต้องดีเหมือนหมา
- เดินผ่านคนตรวจไปเลย บอกว่าตั๋วอยู่กับเพื่อนจะไปเอาอยู่เนี่ย ตามมาปะหละ ร้อยละ 90 นายตรวจจะขี้เกียดเดินตามถ้าทำตามแล้ว ยังไม่รอด ก็ถือว่าชาติที่แล้วทำบุญมาน้อย ชาตินี้เลยต้องมาจ่ายค่าปรับ ทำหน้าตาน่าสงสารเข้าไว้แล้วบอกว่า 20 ได้มั้ยคร้าบบ (ปกติค่าปรับ 100) ถ้าบุญเก่ายังเหลืออยู่บ้าง นาจตรวจก็อาจจะบอกว่าเอามา 50
7. ไร้สาระมาหลายข้อและ เอามีสาระบ้างละกัน
- จะไปพันทิบ นั่งรถไฟไปลง ป้ายหยุดรถพญาไท แล้วข้ามฟาก นั่งสาย 38 ต่อ
- จะไปสยาม นั่งรถไฟไปลง ป้ายหยุดรถพญาไท แล้วต่อรถไฟฟ้า หรือ รถเมลล์สายอะไรก็ได้ที่ไปสยาม
- จะไป 0 ประชุม นั่งรถไฟไปลง ป้ายหยุดรถ อโศก แล้วนั่งรถใต้ดินต่อไปได้เลย
- จะไป RCA นั่งรถไฟไปลง สถานีคลองตัน แล้วนั่งรถเมลล์ต่อไปอีก 4 ป้าย
(แต่จะไปวิธีนี้จิงเหรอ แต่งตัวมาสวยๆไปถึง เหมือนคุณป้าเข้า route เนี่ยนะ)
- จะไป เยาวราช นั่งรถไฟไปลงหัวลำโพงแล้ว ขึ้นสายอะไรก้ได้ที่ไปเยาวราช เยอะแยะ แต่ขึ้นให้ถูกป้ายหละ
- จะไป ไหนก้ไปเหอะ
8. รักการรถไฟไทยที่สุดเลย รักนะจุ๊บๆ
14 ความคิดเห็น
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?