Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตำนานกระสือ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
กระสือ เป็นผีตามตำนานพื้นบ้านของไทย


[แก้] ลักษณะ
ผีชนิดนี้จะสิงเด็ดขาดในผู้หญิง กลางวันจะมีร่างเหมือนหญิงทั่วไป มีพฤติกรรมแปลกๆคล้ายคนป่วย แต่ตกกลางคืนดึกๆ วิญญาณร้ายที่สิงอยู่ในส่วนลึกของจิตใจจะบีบเค้นให้ศีรษะและอวัยวะภายในหลุดออกจากร่าง ลอยออกไปล่าเหยื่อกินวัวควายและสัตว์เล็กๆประเภทกบเขียดแต่มักจะหลบคนและไม่ทำร้ายคนนอกจากจะจนมุมแล้ว ชอบกินเครื่องในโดยเฉพาะไส้ แบบสดๆ แต่กระสือบางตนที่ดุๆก็มักจะชอบอาละวาดกินเป็ดไก่เมื่อกินเสร็จก็จะไปเช็ดปากตามผ้าที่ตากไว้ตามบ้านต่างๆ และคนโบราณยังมีความเชื่อว่าถ้านำไปต้มจะรู้ว่าใครคือผีกระสือที่มาเช็ดปาก เมื่อนำผ้าไปต้มคนที่เป็นผีกระสือก็จะโผล่ออกมาเพราะเจ็บปาก ผีกระสือชอบกินอีกอย่างคือ อุจจาระ คนสมัยก่อนจะไม่มีส้วม แต่จะขุดเว็ดเอาเว็ดที่ว่านี้คือหลุมที่ใช้เป็นส้วมชั่วคราวสามารถขุดขึ้นมาใหม่ได้ชาวบ้านทนไม่ไหวต้องให้หมอผีมาปราบ แต่การปราบกระสือนั้นไม่สามารถไล่ออกจากร่างของเหยื่อเคราะห์ร้ายได้ เพราะวิญญาณนั้นได้หยั่งลึกลงในใจของคนๆนั้นแล้ว ฉะนั้น การปราบกระสือก็เท่ากับต้องฆ่าคนๆนั้นไปเลย กระสือนั้นจะชอบท้องไร่มืดๆที่จะหาอาหาร ลักษณะพิเศษอีกอย่างของกระสือคือจะมีดวงไฟวูบวาบอยู่ที่หัวใจ เชื่อกันว่านั่นคือวิญญาณที่สิงอยู่ในตัวของคนเคราะห์ร้าย เมื่อมองจากที่ไกลๆจะเห็นเป็นดวงไฟเขียวๆส่องแสงสลัวๆในความมืด ผีกระสือนั้นมีความรอบคอบพอดู เพราะเมื่อออกจากร่างไปหากิน เขาจะคาบผ้าห่มมาคลุมร่างไร้หัวของเขาไว้ก่อนไป ร่างของเขานั้นจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ พูดตรงๆก็คือจะกลายเป็นศพอยู่ขณะหนึ่ง ไม่มีความรู้สึกนึกคิดเพราะอวัยวะภายในหลุดออกไปหมดแล้ว ร่างนั้นจะสงบนิ่งอยู่จนกว่าเขาจะกลับมาเข้าร่างเดิม

นอกจากนี้ ในแถบมาเลเซียยังมีเรื่องของผีที่มีลักษณะคล้ายกระสือของไทยด้วย ผีกระสือของมาเลย์มีชื่อเรียกว่า "ฮันตูปินังกาลัน"

มีเรื่องเล่าว่า ครอบครัวหนึ่งประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก วันหนึ่งในตอนกลางคืน ผู้เป็นพ่อได้ออกไปธุระข้างนอกบ้าน ผู้เป็นแม่ปิดประตูอยู่ในห้อง แล้วนางก็หยิบเอาขวดน้ำมันมนต์มาทารอบคอ สักพัก หัวกับตัวของนางก็แยกออกจากกันโดยมีตับไตไส้พุงห้อยติดออกมาด้วย เวลาที่ออกหากินจะเห็นเป็นแสงสีเหลือง และมีเสียงชู่วๆ ดังอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะขับไล่สัตว์เล็กสัตว์น้อยที่จะเข้ามายุ่งกับพวงไส้ของนาง ผู้เป็นลูกได้แอบเห็นดังนั้นจึงลองเอาน้ำมันมนต์ของแม่มาลองทาดูบ้าง ขณะที่หัวกำลังจะแยกออกจากตัว เด็กน้อยเกิดกลัวจนร้องโวยวายออกมาว่า "ช่วยด้วย หัวของฉันกำลังจะหลุดออกจากตัวแล้ว" จนชาวบ้านละแวกนั้นได้ยินกันทั่ว แต่ไม่มีใครกล้าเยี่ยมหน้าเข้ามาให้ความช่วยเหลือ จนกระทั่งหัวของผู้เป็นแม่ลอยกลับมา เสียงร้องโวยวายก็เงียบลง หลังจากวันนั้น ครอบครัวนั้นก็ย้ายหนีไปจากที่นั่น และไม่มีใครได้พบเห็นอีกเลย

เป็นที่น่าสังเกตว่าแสงของผีกระสือในแต่ละที่จะแตกต่างกัน อย่างฮันตูปินังกาลันของมาเลย์ว่าเป็นแสงสีเหลือง แต่ของไทยเรากลับว่าเป็นแสงสีเขียว เป็นต้น

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

-lucky- 24 ก.ค. 51 เวลา 22:16 น. 3

นี้ดูแล้วนะ คงรู้ว่าเราเป็นใคร 555 โชคดีนะ โหวดใก้1คะแนน เราเลขที่2 จำได้มะ

0