Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[การเข้าโบสถ์คริสต์] ต้องทำอย่างไรบ้างอ่า... รบกวนท่านผู้รู้กรุณาแถลงไขให้ข้าน้อยทราบหน่อยนะคะ T^T

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

พยามเสาะหาในกูเกิ้ลมานานแสนนานแต่ก็มิพบ T______________T

รบกวนท่านผู้รู้กรุณาด้วยค่ะ TT^TT

อยากทราบว่าการเข้าโบสถ์คริสต์เมื่อเข้าไปจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

มีกฎอะไรบ้าง

และทำอะไรบ้าง

+ เข้าวันไหน บ่อยเท่าไร

รบกวนด้วยนะคะ ^^;

ขอบพระคุณค่ะ ^^

PS.  You may feel you're alone ... But I'm here still with you...

แสดงความคิดเห็น

>

47 ความคิดเห็น

เสือน้ำ 29 ส.ค. 51 เวลา 17:42 น. 1

เป็นโบสถ์อะไรล่ะค่ะ
ถ้าเป็นโบสถ์คาทอลิก
ก็แค่เข้าไปนั่งฟังได้เลยค่ะไม่ต้องอาย

ถ้าเขาบอกให้ยืนก็ยืน บอกให้นั่งก็นั่ง บอกให้คุกเข่าก็ทำตามไปเลยค่ะ
อยากร้องเพลงตามไปด้วยก็ได้ค่ะ ไม่มีใครว่าอะไร

แต่มีอยู่ข้อหนึ่งที่ชาวคริสต์ถือห้ามเด็ดขาด

ผู้ใดที่ยังไม่ได้รับศีลล้างบาป ห้ามเดินเข้าแถวไปรับศีล หรือที่เรียกกันว่าแผ่นปังน่ะค่ะ

สงสัยอะไรแอดมาได้นะค่ะ www.n.a.r.m.com@hotmail.com

0
Primmy Primmy ;)) 29 ส.ค. 51 เวลา 18:53 น. 3

ความคิดเห็นที่ 1
เป็นโบสถ์อะไรล่ะค่ะ
ถ้าเป็นโบสถ์คาทอลิก
ก็แค่เข้าไปนั่งฟังได้เลยค่ะไม่ต้องอาย

ถ้าเขาบอกให้ยืนก็ยืน บอกให้นั่งก็นั่ง บอกให้คุกเข่าก็ทำตามไปเลยค่ะ
อยากร้องเพลงตามไปด้วยก็ได้ค่ะ ไม่มีใครว่าอะไร

แต่มีอยู่ข้อหนึ่งที่ชาวคริสต์ถือห้ามเด็ดขาด

ผู้ใดที่ยังไม่ได้รับศีลล้างบาป ห้ามเดินเข้าแถวไปรับศีล หรือที่เรียกกันว่าแผ่นปังน่ะค่ะ

สงสัยอะไรแอดมาได้นะค่ะ www.n.a.r.m.com@hotmail.com
Name : เสือน้ำ [ IP : 58.8.112.98 ]
Email / Msn:
วันที่: 29 สิงหาคม 2551 / 17:42

โบสถ์คาทอลิกค่ะ ^0^

อยากไปซักครั้งในชีวิตงิ >w<

แต่มิรู้ว่าต้องทำตัวยังไงอ่าค่ะ T_________T

แหะๆ

ขอบคุณมากๆนะคะ ^________________^

เดี๋ยวลงไปทานข้าวแว้วขออนุญาตแอดไปนะคะ ^^

ขอบคุณค่า ^_________________^

ความคิดเห็นที่ 2

ศีลมหาสนิทอ่ะหรอค่ะ?

Name : E-DOK < My.iD > [ IP : 58.8.147.219 ]
Email / Msn:
วันที่: 29 สิงหาคม 2551 / 18:34

ศีลมหาสนิท...

พิธีมิซซาวันอาทิตย์ชิมิคะ ><

ถ้ามิใช่ต้องขออภัยด้วยค่ะ T_____________T

PS.  You may feel you're alone ... But I'm here still with you...
0
Across the Ocean 29 ส.ค. 51 เวลา 19:04 น. 4

ปกติชาวคริสต์เข้าโบสถ์กันวันอาทิตย์ค่ะ เพื่อเข้าร่วมพิธีบูชามิสซาขอบพระคุณ (ชื่อเต็มๆ ของพิธีมิสซา) 
จริงๆ แล้วพิธีนี้มีทุกวัน เป็นรอบเช้ากับรอบค่ำ 
ถ้าวันอาทิตย์ส่วนมากจะมีสามรอบ คือรอบเช้า รอบสาย และรอบค่ำ แต่บางทีเป็นแค่วัดน้อย ก็จะมีแค่วันอาทิตย์เท่านั้นเท่านั้นค่ะ

แผ่นปังศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกกันว่าศีลมหาสนิทนั้นเป็นเครื่องหมายของพระกายและพระโลหิตของพระเยซู ซึ่งพลีพระชนม์ไถ่บาปของมวลมนุษย์ การรับศีลนี้ถือเป็นการรับพระองค์มาประทับอยู่ในใจของเราผู้ศรัทธา เป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ

โบสถ์คาทอลิกทุกแห่งยินดีต้อนรับผู้ที่สนใจเสมอค่ะ ไม่ได้มีข้อบังคับว่าต้องนับถือศาสนาคริสต์เท่านั้นจึงจะเข้าร่วมได้ เพียงแต่ควรจะต้องแต่งกายให้สุภาพ และให้ความเคารพต่อสถานที่และพิธีกรรมอย่างสมควรด้วยค่ะ


PS.  I am the bearer of the Darkness Sky...Queen of the Shadow...I shall rule this world in the darkest fear you have never felt before!
1
บุตรของพระเจ้า 29 ส.ค. 51 เวลา 19:06 น. 5

เข้าวันอาทิตค่ะ ไปนมัสการพระเจ้า ไม่ใช่เค้าไห้ทำไรก้ทำไปงั้นๆนะค่ะ ต้องทำด้วยใจอ่ะค่ะ ลองไปดู แล้วจะได้สิ่งดีๆกลับมาค่ะ ^^

0
ด้วยความหวังดี 29 ส.ค. 51 เวลา 20:52 น. 7

เราเปนโปรแตสแตนท์นะ...

ลองไปโบสถ์โปรแตสแตนท์ก็ได้นะ....เราก็ไปทุกวันอาทิตย์

โบสถ์เรามีกลุ่มอนุชนด้วย ก็คือวันรุ่นอย่างพวกเรา....
ก็มีขอบคุณพระเจ้าเรื่องต่างๆ แบ่งปันกัน

ร้องเพลง ให้กำลังใจกันถ้าใครมีปัญหาอะ...

แล้วก็มีอธิษฐานร่วมกัน

ลองไปดูนะจ๊ะ....แล้วพระเจ้าจะอวยพระพรเธอนะ....

ม่ายต้องทำไรมากหรอก ไปด้วยใจก็พอ...จ๊ะ

0
พรชนัน 1 ก.ย. 51 เวลา 18:30 น. 8

เราก็เป็นคริสเตียนนะ ไปโบสถ์ของโปรแตสแตนท์อ่ะนะ ปกติก็จะไปวันอาทิตย์ประจำ สนใจก็ไปได้นะ มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้น ไม่มีอะไรเสียหาย

และเชื่อเราเถอะว่าทุกๆโบสถ์ยินดีต้อนรับเสมอ ^o^ มีไรก็คุยกันได้นะ&nbsp kiyone_yah@hotmail.com

0
YOUNGESTFIGHTER 5 ธ.ค. 51 เวลา 12:09 น. 9

เข้าโบสถ์ก็วันอาทิตย์ไง ถ้าจะไปก็ไปด้วยใจ พี่ก็เคยไปโบสถ์คริสต์มาแล้วตอนนั้นอาของพี่เขาเเต่งงานอิๆ
 


PS.  -emo9-] ONLY WHEN I SLEEP จะรับปริญญาแล้ว..ทำไม งานตรึมจังเลยวะ เฮ้อ!
0
Bas 22 ธ.ค. 51 เวลา 00:29 น. 10

ผมต้องการ ไปสารภาพบาปกับพระเยซู ครับ ผมยังไม่เคยไปโบสถ์เลยในชีวิตเพิ่งจะนึกขึ้นได้



ตอนนี้แหละครับ

0
บิ๊ก 1 ก.ค. 52 เวลา 10:42 น. 11

ผมเองก็ไปโบสถ์ทุกงันอาทิตย์อยู่เหมือนกัน&nbsp ถ้าจะให้อธิบายก็มีโบสถ์2แบบ คือ คาทอริก กับ โปรแตสแตนท์&nbsp ซึ่งตามความเชื่อต่างกันเล็กน้อย&nbsp คาทอริกจะนับถือพระแม่มารีย์ด้วย (เท่าที่ทราบนะ) ส่วนโปรแตสแตนท์ นับถือพระเยซูคริสต์อย่างเดียว&nbsp ซึ่งก็แล้วแต่ท่านเถอะครับ ว่าพระเจ้าจะเรียกท่านไปที่ใด&nbsp เพราะยังไงที่โบสถ์ก็มีความรักให้กันทั้งนั้น
ปล. ผมไปของโปรแตสแตนท์นะงับ

0
เนเธญเธ™ 23 ก.ย. 52 เวลา 01:08 น. 12

เน„เธ›เน‚เธšเธชเธ„เธงเธฒเธกเธซเธงเธฑเธ‡เน€เธ–เธญเธฐ เนเธฅเน‰เธงเธ—เนˆเธฒเธ™เธˆเธฐเธชเธกเธซเธงเธฑเธ‡

0
En-joy 31 ต.ค. 52 เวลา 19:21 น. 13

เราเป็นคริสเตียนน่ะ (โปเตสแตนท์) เราไปคริสตจักรความหวังกรุงเทพฯ อยู่ตรงโรงแรมรีเจ้นท์ประตูน้ำชั้น4
ยังไงถ้าสนใจ ก็ไปได้น่ะหรือเมลล์มาหาเราก่อนก็ได้ power_pinky9@hotmail.com คริสตจักรนี้อบอุ่นมาก : )

PS*ขอบคุณและดีใจที่มีคนเปิดใจเข้าหาพระเจ้าขอพระเจ้าอวยพระพร....อาเมน

0
เพื่อน 22 มิ.ย. 53 เวลา 05:09 น. 14

ถามกว้างจังคะ&nbsp เราเข้าใจว่าน่าจะหมายถึงว่าได้ยังไงว่าโบสถ์ไหนคือนิกายอะไร

ชาว คริสต์มีความเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์ จากหญิงพรหมจรรย์ (สาวบริสุทธิ์) โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า เพื่อไถ่มนุษย์ให้พ้นจากความบาปโดยการสิ้นพระชนม์ที่กางเขน และทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายในสามวันหลังจากนั้น และเสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระบิดา ผู้ที่เชื่อและไว้ วางใจในพระองค์จะได้รับการอภัยโทษบาป และจะเข้าสู่การพิพากษาในวันสุดท้ายเหมือนทุกคน แต่จะรอดพ้นจากการถูกพิพากษาให้ตกนรกแต่จะเป็นการพิพากษาเพื่อรับบำเหน็จ รางวัลแทนในวันสิ้นโลก (Armageddon) และได้เข้าสู่ พระราชัยสวรรค์ แต่ถ้าผู้ใดไม่เชื่อจะถูกปรับโทษหลังความตาย สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดพิธีกรรมใน คริสต์ศาสนาเรียกว่า "ศีลศักดิ์สิทธิ์"&nbsp อันหมายถึงเครื่องหมายภายนอก ที่พระเยซูคริสต์ทรงตั้งขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้คนไปสู่ความหลุดพ้น จากความทุกข์

เมื่อเกิดพิธีกรรมก็ต้องมีศาสนสถาน เกิดขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางของผู้คนในศาสนาคริสต์ที่จะไถ่บาปหรือร่วมทำพิธีกรรม&nbsp  ส่วนในเรื่องของความเชื่อก็ได้สื่อออกมาในรูปแบบของงานสถาปัตยกรรม ตามความเชื่อทางศาสนาและงานจิตรกรรมภายในโบสถ์อย่างสวยงามในทางคริสต์ศาสนา โบสถ์ หมายถึง อาคารหรือสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์มารวมกันเพื่อประกอบพิธีหรือทำศาสน กิจร่วมกัน คำว่าโบสถ์ในภาษาอังกฤษ หรือ "church" อาจ มีความหมายกว้างขึ้นหมายถึง คริสตจักร ซึ่งคริสตจักรในความหมายตามพระคัมภีร์ หมายถึง ประชากรหรือชุมชนของพระเจ้า พระคัมภีร์เดิมฉบับแปลกรีก (เซปทัวจินต์) ใช้คำกรีกคำนี้เพื่อแปลคำว่า "ชุมชน"&nbsp ส่วนในเรื่องของ นิกาย ที่นับถือกันมากในประเทศไทยได้แก่ นิกายโรมันคาทอลิก (คริสตัง) และ นิกายโปรเตสแตนต์(คริสเตียน) โบสถ์ของแต่ละนิกาย ในแง่ของอาคารอาจเหมือนหรือแตกต่างกันก็ได้ (ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่น) แต่ในแง่ของจารีต คำเรียก และรูปสัญลักษณ์ ที่แตกต่างกันบ้าง


&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  นิกาย โรมันคาทอลิก เรียกโบสถ์ของตนว่า "วัด" เช่น วัดพระแม่มารี วัดเซนต์หลุยส์ วัดกาลหว่าร์ วัดแม่พระประจักเมืองลูร์ด วัดนักบุญยอแซฟ ฯลฯ โดยทั่วไป อาคารของโบสถ์มักมีลักษณะของสถาปัตยกรรม ยุโรป ที่ต่างจากอาคารที่พักอาศัย เน้นความศิลปะและยิ่งใหญ่ ประดับด้วยรูปปั้นต่างๆ อย่างไรก็ตามในท้องถิ่นทุรกันดารอาจสร้างแบบเรียบง่ายก็ได้

นิกายโปรเตสแตนต์ เรียกโบสถ์ของตนว่า "คริสตจักร" [1] เช่น คริสตจักรพระ สัญญา ฯลฯ อาคารของโบสถ์เน้นความเรียบง่าย ดูเหมือนอาคารทั่วไป ไม่เน้นรูปปั้นรูปสลัก มีไม้กางเขนประดับเป็นเครื่องหมายถึงอาคารทางศาสนกิจเท่านั้น

ศาสนสถานของศาสนาคริสต์ก็ถือเป็น สิ่งสำคัญและเป็นศูนย์ร่วมของศาสนาคริสต์ในทุกเรื่อง&nbsp มีความ หมายสำหรับทุกคนและเป็นสถานที่เผยแผ่ เก็บรักษาพระคัมภีร์ไบเบิล&nbsp ซึ่งเป็นหนังสืออันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนายิวและคริสต์ศาสนา&nbsp และ สืบทอดศาสนาคริสต์ต่อไป

ลองดูนะคะ&nbsp สวนตัวเราเชื่อในพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียวค่ะ

0
poopea 2 ก.ย. 53 เวลา 15:18 น. 15

วันสะบาโตวันมหาพระพรของคริสเตียน
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมคริสเตียนบางกลุ่มจึงนมัสการพระเจ้าใน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  วันอาทิตย์และบางกลุ่นมัสการในวันเสาร์แต่วันใหนเล่าที่เป็นวันสะบาโตที่แท้จริง ที่นี่มีคำตอบ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ในพระคัมภีร์ ( bible )ได้กล่าวไว้ว่า “จงระลึกถึงวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์&nbsp จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน&nbsp แต่ในวันที่เจ็ดเป็นสะบาโตของพระเจ้าของเจ้า&nbsp ในวันนั้นอย่ากระทำการงานใดๆ เพราะในหกวันพระเจ้าใด้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน&nbsp ทะเลและสรรพสิ่งที่มีอยู่ในที่เหล่านั้น&nbsp  แต่ในวันที่เจ็ดก็ทรงพัก เพราะฉนั้นพระเจ้าจึงอวยพระพรแก่วันสะบาโต&nbsp และตั้งไว้เป็นวันบริสุทธิ์”&nbsp (อพยพ 20:8,11)
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  พระเจ้าทรงส้รางโลกเป็นเวลาหกวัน&nbsp &nbsp พระคัมภีร์กล่าวว่า “วันที่เจ็ดพระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ที่ทรงกระทำมานั้น พระเจ้าจึงทรงอวยพระพรแก่วันที่เจ็ด ทรงตั้งไว้เป็นวันบริสุทธิ์ศักสิทธิ์&nbsp  เพราะในวันนัน พระองค์ทรงหยุดพักจากการงานทั้งปวงที่พระองค์ทรงกระทำในการเนรมิตงสร้าง” (ปฐมกาล 2:2-3)
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 


พระคัมภีร์ที่กล่าวมานี้ใด้บอกความจริงไว้ 3 ประการ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ประการแรก&nbsp พระเจ้ามีคำสั่งให้ชนชาติอิสราเอลระลึกถึงวันสะบาโต (วันที่เจ็ดของสัปดาห์) ซึ่งวันนี้ถูกสร้างมาหลังจากการสร้างโลก และมนุษคู่แรกเส็จสิ้นในหกวัน
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ประการที่สอง&nbsp วันที่เจ็ดทรงพักการงานในการเนรมิตรสร้าง คำถามก็คือพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยใช่ไหม ? คำตออบก็คือ&nbsp ไม่ใช่&nbsp (พระคัมภีร์กล่วว่า พระองมิใด้ทรงเหน็ดเหนื่อย เพราะพระองค์ทรงฤทธานุภาพ – อิสยาห์ 40:8)
สาเหตุที่ทรงพักเพราะมีพระประสงค์ที่จะให้มนุษย์คู่แรกที่ถูกสร้างได้รับพระพร
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ประการที่สาม&nbsp การเนรมิตงสร้างโลกและมนุษย์คู่แรกในหกวัน&nbsp พระองค์ทรงเห็นว่าดีทุกวันส่วนวันที่เจ็ดพระองค์ทรงสร้างให้เป็นวันหยุดพัก พระไม่ได้ตรัสว่าดีเหมือนกับหกวัน แต่พระองค์ตรัสว่า เป็นวันบริสุทธิ์ศักสิทธิ์&nbsp นั่นหมายความว่า ในบรรดาวันทั้งเจ็ดวันนั้น วันที่เจ็ดของสัปดาห์เพพพพียงวันเดียวเท่านั้นที่พระองค์ทรงตั้งไว้จำเพาะพระพักต์ของพระองค์ เพื่อให้มนุษย์คู่แรกที่ถูกหยุดพักจากการงานเพื่อมานมัสการพระองค์&nbsp ในฐานะทีพระองค์ทรงเป็นพระผู้ทรงสร้าง ดังนั้นวันสะบาโต วันที่เจ็ดของสัปดาห์จึงเป็นของมนุษย์ทุกคน ไม่ใช่ของชนชาติใดชนชาติหนึ่ง&nbsp 
พระคำภีร์จึงกล่าวไว้ว่า “วันสะบาโตนั้นทรงตั้งไว้เพื่อนุษย์ มิใช่ทรงสร้างมนุษย์ไว้สำหรับวันสะบาโต” ( มาระโก 2:27)
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp วันสะบาโตในพระบัญญัติ 10 ประการ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp พระเจ้าทรงประทานพระบัญญัติ (กฎหมาย) 10 ประการและวันสะบาโตได้ถูกจารกไว้ในพระบัญญัติในข้อที่ 4 (พระธรรม อพยพ 20:8-11)เพื่อชนชาติอิสราเอลจะได้ประพฤติตามหมือนกับมนุษย์คู่แรก ( ปฐมกาล2:1-3)
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  วันสะบาโตเป็นหมายสำคัญ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า จงสั่งชนชาติอิสราเอลว่า “เจ้าทั้งหมายจงรักษาวันสะบาโตของเราไว้ เพราะนี่จะเป็นหมายสำคัญระหว่างเรากับ ตลอดจนชั่วอายุของเจ้า เพื่อเจ้าจะไดด้รู้ว่าเราคือพระเจ้า” (พระธรรม อพยพ 31:13)&nbsp พระคัมภีร์ข้อนี้บอกให้เรารู้ว่า วันสะบาโตเป็นวันของพระเจ้า และพระองค์ทรงให้วันนี้เป็นหมายสำคัญระหว่างพระเจ้ากับพลไพร่ของพระองค์&nbsp  พระเจ้าตรัสว่า “ถ้าเจ้ารักษาวันสะบาโตของเราไว้ เจ้าก็จะรู้ว่าเราคือพระเจ้า” แต่ถ้าเจ้าไม่รักษาเจ้าก็ยังไม่รู้จักรพระเจ้า
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp มีคำถาม?
วันสะบาโตหรือวันที่เจ็ดของสัปดาห์ ตรงกับวันเสาร์ หรือ วันอาทิตย์
คำตอบคือ&nbsp วันเสาร์ (พระธรรม มัทธิว28:1,ยอห์น 20:1)
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  การนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์มาจากใหน?
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ทำไมคริสเตียนส่วนใหญ่จึงสมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์ ? การนมัสในวันอาทิตย์มาจากไหน ? วันอาทิตย์เป็นวันนมัสการตั้งเมื่อไหร่ ?ประวัติศาสตร์บอกเราหรือไม่ ?
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp จากหนังสือ ประวัติศาสตร์คริสจักรสากล เขียนโดย เยสเซ ไลแมน เฮอร์บัท ดีดี. หน้า 46-49 กล่าวไว้ว่า “จักรพรรดิคอนสแตนตินแห่งจักรวรรดิโรมัน ได้ขึ้นครองราชในปี ค.ศ.312 พระองค์มีใจโน้มเอียงไปทางคริสต์ศาสนา และในปีต่อมา ค.ศ.313 จึงให้เสรีภาพแก่ผู้นับถือในศาสนาคริสต์&nbsp ซึ่งก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่ปี ค.ศ.62 เป็นต้นมา จนถึงปี ค.ศ. 312 ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาต้องห้าม&nbsp เพราะผิดกฎหมาย ช่วงนั้นคริสเตียน ได้ถูกฆ่าตายอย่างถูกต้องตมกฎหมายของอาณาจักรโรมัน แต่เมื่อถึงปี ค.ศ. 313 การข่มเขงคริสเตียนก็สิ้นสุดลง จากพระราชโองการอันลือเลื่องของจักรพรรดิคอนสแตนติน”
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ยุคแห่งเสรีภาพในการนมัสการพระเจ้าและดวงอาทิตย์
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ต่อมาในปี ค.ศ. 321 จักรพรรดิคอนสแตนตินก็ประกาศให้วันอาทิตย์เป็นวันหยุดพักและนมัสการตามกฎหมายอีกวันหนึ่ง&nbsp เพื่อผู้กราบไหว้ดวงอาทิตย์ ( ลัทธิเดียรถีย์ เป็นศาสนาของโรม) จะได้มานมัสการพระของเขาในวันอาทิตย์ และในไม่ช้ากฎหมายวันอาทิตย์ได้ปฏิบัติกันทั่วราชอาณาจักร&nbsp  และคริสเตียนส่วนใหญ่ก็ยอมทำตามกฎหมายวันอาทิตย์&nbsp เพราะทุกคนคิดว่าจะทำให้ชีวิตปลอดภัย และเป็นการป้องกันจากการถูกฆ่าตาย เพราะกฎหมายวันอาทิตย์ จึงได้เกิดมีคริสจักรแม่ที่นมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์ ขึ้นในประเทศมหาอำนาจคืออาณาจักรโรมัน และคริสจักรลูกคือ โปรแตสแตนท์ หลายคณะในปัจจุปัน ก็เลยทำตามคริสจักรแม่ซึ่งมีนามว่า โรมันคาทอลิก
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp การประชุมที่เมืองเลาดีเซีย
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ต่อมาในปี ค.ศ. 364 พวกผู้นำชาวคริสต์ที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากจักรพรรดิคอนสแตนติน ให้รับสมณศักดิ์กับพระในศาสนาอื่นทั่วไป ยศสูงสุดคิอ พระสันตะปาปา ยศรองลงมาคือ พระคาร์ดินัล และพระบาทหลวง ซึ่งมีอำนาจในยุคนั้น ได้เรียกประชุมกันที่เมือง เลาดีเซีย เพื่อลงมติเปลี่ยนแปลงวันนมัสการโดยผู้นำเหล่านั้น ให้เหตุผลว่าคริสต์ศาสนาควรมีวันนมัสการที่แตกต่างไปจากพวกยิว เพราะคนยิวไม่รับพระเยซูคริสต์ว่าเป็นพระเมสิยาห์&nbsp  ( พระผู้ไถ่)&nbsp  จึงลงมติให้ วันอาทิตย์เป็นวันนมัสการพระเจ้าแทนวันเสาร์
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  อีกประการหนึ่ง “วันอาทิตย์เป็นวันที่พวกกราบไหว้บูชาดวงอาทิตย์หยุดพักเพื่อนมัสการดวงอาทิตย์&nbsp เมื่อคนเหล่านี้กลับใจมาเชื่อพระเยซูคริสต์&nbsp พวกเขาจะไม่ได้รู้สึกเคอะเขินเมิอมานมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์&nbsp ดังนั้นการประชุมที่เมืองเลาดีเซีย จึงลงมติให้เปลี่ยนแปลงวันสะบาโตของพระเจ้า จากวันที่เจ็ดของสัปดาห์ (วันเสาร์) มาเป็นวันอาทิตย์ (วันต้นสัปดาห์)
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 
&nbsp &nbsp พระคำภีร์กล่าวพยากรณ์ถึงเรื่องนี้หรือไม่ ?&nbsp 
&nbsp &nbsp &nbsp  ในพระธรรม ดาเนียล บทที่ 7:25 กล่าวว่า “ท่านจะพูดกล่าวร้ายองค์ผู้สูงสุด&nbsp และจะให้วิสุทธิชนขององค์ผู้สูงสุดนั้น อิหนาระอาใจ และจะคิดเปลี่ยนแปลงบรรดาวาระ และธรรมบัญญัติ”
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  พระเจ้าทรงเปิดเผยให้ประชากรของพระเจ้ารู้ล่วงหน้าผ่านทางผู้พยากรณ์ดาเนียลว่า จะมีผู้หนึ่งซึ่งมีอำนาจมาก คิดเปลี่ยนแปลงบรรดาวาระ และพระบัญญัติของพระเจ้า และคำพยากรณ์ก็เกิดขึ้นจริง ศาสนจักรโรมันคาทอลิกเป็นผู้เปลี่ยนแปลงวันสะบาโตของพระเจ้าที่จารึกอยู่ในพระบัญญัติสิบประการข้อที่ 4 (เปิดดูที่ พระธรรม อพยพ 20:8-11)
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp มีหนังสือของศาสนจักรโรมันคาทอลิกเล่มหนึ่ง มีชื่อว่า “The Converges&nbsp Catechism of Catholic &nbsp&nbsp&nbsp doc&nbsp&nbsp&nbsp trine”
หน้า 50&nbsp ซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1910 เป็นลักษณะถาม-ตอบ มีคำถามที่น่าสนใจมาก&nbsp  ถามว่า :&nbsp วันใหนเป็นวันสะบาโต
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp คำตอบ : วันที่เจ็ด (วันเสาร์) เป็นวันสะบาโต
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp คำถาม : แล้วทำไมจึงรักษาวันอาทิตย์แทนวันเสาร์
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  คำตอบ : เพราะศาสนจักรโรมันคาทอลิก ได้เปลี่ยนแปลงวัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp นมัสการจากวันเสาร์&nbsp มาเป็นวันอาทิตย์แล้ว ในการ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ประชุมที่เมืองเลาดีเซีย เมื่อปี ค.ศ. 364
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  นี่คือประวัติความเป็นมาของวันนมัสการที่แตกต่างกันระหว่างวันเสาร์ กับ วันอาทิตย์ หรือ วันทีเจ็ดของสัปดาห์ กับ วันที่หนึ่งของสัปดาห์&nbsp 
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  แต่แผ่นดินโลกใหม่ก็ยังมีการนมัสการพระเจ้าในวันสะบาโตด้วย “พระเจ้าตรัสว่า ทุกวันขึ้นค่ำและทุกวัน สะบาโต มนุษย์ทั้งหลายจะมานมัสการต่อเรา” (อิสยาห์ 66:23)
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ในวาระสุดท้าย คำพยากรณ์ ได้บ่งชี้ว่า คริสตจักรของพระเจ้า ซึ่งมีผู้หญิงเป็นสัญลักษณ์ในคำพยากรณ์ จะประตามพระบัญญัติของพระเจ้าและคำพยานของพระเยซู ซึ่งมี วันสะบาโตอยู่ในนั้นด้วย ( วิวรณ์ 12: 17, 1โครินธ์11:2)
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เมื่อท่านทราบแล้วว่า วันสะบาโตที่แท้จริงคือ วันเสาร์ โปรด
อธิฐานขอการทรงนำจากพระเจ้า เพื่อท่านจะมีกำลังประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ได้&nbsp ( ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา&nbsp ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา ผู้ใดที่มีบัญญัติของเรา และประพฤติตามบัญญัตินั้น
ผู้นั้นแหละคือผู้ที่รักเรา และผู้ที่รักเรานั้น พระบิดาของเราจะทรงรักเขา และเราจะรักเขา และจะสำแดงให้ปรากฎแก่เขา&nbsp พระธรรม ยอห์น 14:15, 21)
&nbsp &nbsp &nbsp  จงหันมานมัสการพระเจ้า เพระวันเวลาของพระองค์ไกล้เข้ามาแล้ว
กรุณาส่งต่อเพื่อนหรือคนที่คุณรัก หรือติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมส่งอีเมลมาที่&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp poopea777@gmail.com ( หรือ hotmail&nbsp ก็ได้ครับ)&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp อ่านนิมิตรเกี่ยวกับเหตุการณ์ วันสิ้นโลกได้ที่ www.7sda.com
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ขอพระเจ้าอวยพรครับ

0
มิ้น 15 ม.ค. 54 เวลา 17:06 น. 16

เราก็เข้าโบสถ์นับถือคริสต์มาสักพักนึ่งแล้วแหละ ตอนแรกแฟนชวนเพราะแฟนเป็นคริสต์เตียนอยู่แล้ว เวลาไปโบสถ์เราจะรู้สึกเหมือนตัวเบาเบาทุกทีเลย อธิฐานขออะไรพระองค์ก็ประทานให้เสมอนะ ลองไปโบสถ์กันสิแล้วจะมีแต่เรื่องดีดีเข้ามาในชีวิต

0
aloha 6 ก.พ. 54 เวลา 18:48 น. 17

สวัสดี เราเป็นคริสต์ โปรแตส อยู่โบสถ์ใจสมาน สุขุมวิท ซ.6 ดีค่ะ ไปโบสถ์ ดีขอขอบคุณพระเจ้าที่สร้างโลก และ อธิษฐานขอพระเจ้าเมตตา เราทุกวัน ขอบคุณพระเยซู ที่รักเราก่อน เพราะพระองค์ทรงรักเราและเราได้รับความรักนั้นอย่างเต็มเปี่ยม (ต้องลองดูนะค่ะ ประสบการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน)แต่การันตีดีจริงๆ ของแท้

0
เคนสั้นขวาน 20 ก.พ. 54 เวลา 00:26 น. 18
กรรมผมไม่รู้เรื่องไรเลยผมจะเล้าให้ฟังผมชื่อเคนอายุ17ตอนผมอายุได้16พ่อได้บอกไวว่าพ่อไม่ได้เป็นพุทธหรอผมก็ตกใจพ่อบอกผมว่าผมเป็ศริสต์มาตลอดผมไม่รู้เรื่องไรเลยมาตลอด1ปีเต็มผมก็บอกพ่อว่าเเล้วปู่ละก็เมื่อพ่อนั้นละ&nbsp .....เเล้วผมจะทำไงดิผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวก็ศริสต์เเต่ผมมีพระศำภีร์ผมอยากรู้เรื่องตัวเองมากกว่านี้
เเอดมาคุยได้ทุกวันนะคับbboybaruss@hotmail.comบอกชื่อด้วยนะคับเด่วผมงง
0
ณัฐฐิพงศ์ 6 ส.ค. 54 เวลา 18:52 น. 19

ศีลมหาสนิท คือ ศีลมหาสนิทเปลียบเสมือนเนื้อหนังของพระเยซู (รับได้เฉพาะคนคริสต์ที่เตรียมตัวมาอย่างดีแล้วเท่านั้น)
โบสถ์ คือ โบสถ์ เปรียบเสมือน บ้าน ของพระเยซูเจ้า
ตู้ศีล คือ ตู้ศีลเปรียบห้องนอนของพระเยซูเจ้า ที่พระองค์ ประทับอยู่ใน
การที่เราเข้าไปในบ้านคนอื่น เราต้องรู้จักสำรวม ให้ความเคารพแก่เจ้าของบ้าน
เมื่ออยู่ในโบสถ์แล้ว พอเค้ารุกขึ้นเราก็ต้องรุกขึ้น นอกจาก คนชรา หรือ บุคคลที่มิสามารถ ยื่นขึ้นได้
การร้องเพลงเปรียบเสมือนการสรรเสริญพระเยซู
การเข้าโบสถ์ในมิซซาธรรมดา มีทุกวัน แล้วแต่เวลา
วันอังคาร พฤหัส เสาร์ อาทิตย์ มีมิซซาตอน 19.00 น.
วันอาทิตย์ มีมิซซาตอน 9.45 น.
วัน จันทร์ พุธ ศุกร์ มีมิซซาเวลา 6.00น.
และมีมิซซาศุกรฺต้นเดือน คือวันศุกร์แรกของเดือน มีมิซซา ตอน 18.45น.(อันนี้ไม่แน่ใจนะ)

0
ณัฐฐิพงศ์ 6 ส.ค. 54 เวลา 18:57 น. 20

ขอขัดแยกกับ ความคิดเห็นที่4 หน่อยคับ
ชื่อเต็บของการเข้าโบสถ์คือ พิธีมิซซาบูชาขอบพระคุณครับ
และศีลมหาสนิทเปรียบเสมือนพระกายอย่างเดียวคับ
ส่วนพระโลหิต คือ เหล่าองุ่น คับ

ถ้าผิดประการในขอประธานโทษคับ
มีเรื่องจะถามอะไร ถามได้ spy321@hotmail.com

0