Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คนที่เรามองข้าม

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ท่ามกลางความวุ่นวายของสังคมในขณะนี้ ทำให้หลายต่อหลายคนเลิกสนใจคำว่าจริยธรรม  และ ศีลธรรม
เพียงเพราะทุกคนจ้องมองไปที่คำว่า  ความอยู่รอดเท่านั้น

    ข้าพเจ้าได้นำเสนอเรื่องที่ว่า  พระในบ้านที่คนมองข้าม
บางคน  สังเกตได้ว่าชอบไปทำบุญ  ตามสถานที่ต่างๆ  การทำบุญเป็นเรื่องที่ดีค่ะ  แต่อยากฝากถึงทุกท่านว่า  อย่าลืมทำบุญกับพระในบ้านของเราด้วย
พระท่านเทศน์ว่า  บิดา มารดา  เปรียบดังพระอรหันต์ของลูก  เรากราบไหว้พระทุกครั้ง  แล้วเรากราบไหว้พ่อแม่เราหรือยัง
เคยได้ยินคำนี้ใช่ไหม ว่า  ลูกสิบคน พ่อแม่เลี้ยงได้  แต่ทำไม่ลูกสิบคน  เลี้ยงพ่อแม่แค่สองคนไม่ได้
หากคุณ เคยดุด่า ว่ากล่าวบิดามารดา ทำให้ท่านน้ำตาไหล  นั่นจะเป็นการทำบาปอย่างไม่รู้ตัวในทันที  ลูกคนนั้นจะกลายเป็นคนบาป  หากไม่สำนึกจะกลายเป็นคนทำอะไรไม่ขึ้น  
     บางคนจะบอกว่า  พ่อ แม่ไม่มีเวลาให้ตนเอง เลยทำตัวเกเร เที่ยวเตร่กับเพื่อนฝูง  แต่คุณรู้ไหมว่า เวลาที่ท่านทุ่มเทไปนั้น ท่านทุ่มเพื่อใคร  ทำเพื่อลูกทั้งนั้น  เพราะท่านไม่อยากเห็นลูกลำบาก  ถึงไดเร่งสร้างตัวให้มั่นคง  เพื่อที่ลูกจะสบาย ไม่ลำบากเหมือนท่านที่เคยเป็นมาก่อน  แทนที่เราจะโกรธเคืองท่าน  ข้าพเจ้าคิดว่าเรามาหาทางช่วยเหลือท่านจะดีกว่าไหม  การที่เราปฏิบัติตัวดี ตั้งใจเรียน ไม่ทำผิด  นั่นเท่ากับเป็นการสร้างกำลังให้พวกท่านเหลือจะนับ และเป็นการเอาชนะใจตนเองอีกทางหนึ่งด้วย
บางคนก็บอกว่า  เพราะท่านชอบบ่น ด่า ว่าเรา
ลองตรองให้ลึก  นึกให้ดีๆ  ท่านทำไปเพราะมีเหตุผล  ที่ท่านว่า เพราะท่านเป็นห่วงเรา  หากเพียงเราจะมองแยกย่อยลงไป  จะพบคำเล็กๆ  แต่ความหมายยิ่งใหญ่อยู่ในนั้น
คือ คำว่า 
"  รัก"
นั่นเอง
 คุณรู้ไหมว่าตอนที่ท่านทุกข์ใจ คือ ตอนที่ลูกมีแฟน
ท่านห่วง กังวลไปสารพัด  กลัวว่าคนที่มาคบกับลูกของตนนั้นจะเป็นคนไม่ดี   ข้าพเจ้าว่า  ยามที่เราอกหัก  ไม่สมหวัง  คนที่เราต้องหันกลับมามอง  นั่นคือตัวเรา  และคนที่รักเรามากกว่าใครในโลก  คือ พ่อ และ แม่ของเรา


ในยามที่เราจะกำเนิดมานั้น  ท่านเจ็บปวดมากมาย สักเพียงไหน เพื่อจะให้ลูกออกมาดูโลกใบนี้ คิดดูเถอะ  เพียงแค่มีดบาดมือ  เรายังน้ำตาไหล  แต่ท่าน เจ็บปวดมากมายนัก  แต่ก็ยินดี  ที่เห็นลูกอันเป็นที่รักลืมตามาดูโลกใบใหม่
คนเป็นลูก  ไม่ว่าจะดีหรือร้าย  พ่อแม่ก็ยังรัก เสมอ
ท่านมีความสุขกับการเฝ้าเลี้ยงดู  เฝ้ามองการเจริญเติบโตของลูกๆ  อย่างพวกเราตลอดมา
ข้พเจาปลื้มมากเมื่อดูภาพสมัยเด็ก  เห็นพ่อแม่จูบฝ่าเท้าเล็กๆของเรายังอดน้ำตาซึมไม่ได้
สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจคือ  เหตุใดเมื่อเราเดินได้ด้วยตัวเองแล้ว  เราจึงพยายามเดินจากท่านไป

ได้โปรดอย่าลืมว่า  พ่อ แม่ ผู้ให้กำเนิดเป็นสิ่งที่จะมีเพียงคู่เดียวในโลกเท่านั้น
ไม่เหมือน เพื่อน คนรัก  ที่ไม่ดีเราก็เลิกคบ แล้วหาเพื่อนใหม่ หาคนรักใหม่
วันนี้เรามีท่านอยู่เคียงข้างข้าพเจ้าอยากให้ทุกคนรัก และเอาใจใส่ท่านมากๆ  สมกับที่ท่านอดหลับอดนอนเลี้ยงเรามา เพราะหากวันใดวันหนึ่งที่เราไม่มีท่านแล้ว  เราจะหมดโอกาสทดแทนพระคุณของท่านเช่นกัน
ยังมีอีกหลายล้านคนในโลกใบนี้  ที่อยากอยู่กับพ่อแม่แต่ไม่มีโอกาส
หากคุณเป็นคนที่โชคดี  มีท่านอยู่พร้อมหน้าแล้ว  คุณจะปล่อยให้โอกาสดีๆเช่นนี้หลุดลอยไปหรือ

มีพระอาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า
พระนอกบ้านนั้น  เป็นที่ศรัทธาของทุกคนอยู่แล้ว  หากวันหนึ่งเราไม่ได้ไปถวายทาน  คนอื่นเขาก็ยังไปถวายอยู่ดี  หากพระในบ้านของคุณนั้น เมื่อท่านไม่สนใจ หาอาหารการกินให้ทาน  ไม่พูดจาเสวนากับท่าน  ใครเล่าจะไปให้ความสนใจอีก
อย่ามัวเดินตามคนอื่นอยู่ อย่ามัวเดินตามความเจริญทางวัตถุที่มากกว่าจิตใจ  

มีบทกลอนหนึ่งที่ข้าพเจ้าท่องจนขึ้นใจ  และนำมาใช้ยามที่เราหมดกำลังใจ  ไม่ว่าจากการเรียน การทำงาน


"พ่อแม่ไม่ มีเงินทอง มากองให้
จงตั้งใจ พากเพียร เรียนหนังสือ
หาวิชา ความรู้ เป็นคู่มือ
เพื่อยึดถือ เอาไว้ ใช้เลี้ยงกาย
พ่อกับแม่ มี แต่ จะแก่เฒ่า
จะเลี้ยงเจ้า เรื่อยไป นั้นอย่าหมาย
ใช้วิชา ช่วยตน ไปจนตาย
ลูกสบาย แม่พ่อ ก็ชื่นใจ"



ฝากเรื่องนี้ไว้  เตือนใจด้วยนะคะ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 16 เมษายน 2552 / 16:53
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 22 เมษายน 2552 / 21:16

แสดงความคิดเห็น

>

10 ความคิดเห็น

ทิกเกอร์แอล 16 เม.ย. 52 เวลา 16:34 น. 1

กลอนบทนั้นน่ะ

แม่ผมสอนให้ท่องตั้งแต่เด็กเลยแหละ

ตั้งแต่ 
จะได้เรียกว่า ท่องได้ แต่เขียนไม่ได้ อ่านไม่ออก


PS.  TiGGeR-L is PROTECTING THE POLAR BEAR
0
Cherrykids 16 เม.ย. 52 เวลา 16:49 น. 2

พ่อแม่เราชอบบอกกับเราว่า

ไม่เป็นไรหรอก....ไม่ต้องเลี้ยงดูพ่อกับแม่หรอก
พอพวกท่านแก่แล้ว พวกท่านก็จะไปอยู่วัดปฏิบัติธรรม
ไม่ต้องการอะไรจากจากเราตอบแทนหรอก

เราก็เห็นด้วยกับการที่พ่อแม่จะไปปฏิบัติธรรมนะคะ
แต่เรื่องไม่เลี้ยงดูท่านเนี่ยคงจะไม่ได้ล่ะค่ะ....

อย่างน้อยที่สุด ก็จะทำบุญแล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้พวกท่านทุกครั้งค่ะ
PS.  ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า :: ทุกวินาทีอาจเป็นเวลาสุดท้ายที่มีโอกาสได้หายใจ
0
กะรัต/กะรัตตา 16 เม.ย. 52 เวลา 17:01 น. 4

ทำดี พูดดี คิดดีกับบุพการีทุกวันในชีวิตค่ะ จตอบแทนเท่าไหร่ก็คงไม่หมดหรอกคุ่ะพระคุณของผู้เลี้ยงดูอุ้มชูนี่


PS.  อังศุธรฉานส่องฟ้าทั่วหล้า สิตางศุ์เต็มดวงแจ่มจ้าดาวเคียง สองร่วมนัมพรแต่มิอาจร่วมเรียง กาลต่างเพียงเวียนอยู่ได้เดียวดาย (หัวใจมีไว้เพื่อรัก ภักดีมีไว้เพื่อรบ...ฝากบัลลังก์เสน่หาด้วยค่ะ)
0
รสสภัน 16 เม.ย. 52 เวลา 17:48 น. 5
การเป็นพ่อเป็นแม่คนน่ะเหนื่อยและลำบากกว่าการเป็นลูกหลายร้อยหลายพันเท่า
คำพูดที่ว่า "เดี๋ยวเอ็งมีลูกก็รู้เองแหล่ะ" , "ทำกับพ่อแม่ไว้ยังไง ลูกเอ็งก็จะทำแบบนั้นบ้าง"
เป็นความจริงทุกประการ

PS.  นักเขียนที่ดีต้องเคารพนักเขียนด้วยกันและไม่ดูถูกงานเขียนคนอื่นเพราะงานเขียนทุกชิ้นย่อมมีคุณค่าในตัวมันเอง และคุณไม่มีวันรู้หรอกว่างานเขียนที่คุณดูถูกไว้อาจจะกลายเป็น Master Piece สักวัน
0
pieorange 16 เม.ย. 52 เวลา 19:54 น. 6
ซึ้งอ่า T^T
กลอนนี้เราหัดท่องตั้งแต่เด็กเหมือนกัน ขึ้นใจเลย

รักพ่อแม่จัง <3

PS.  ...มันมาหลอน
0
– หุ่ น ไ ล่ ก า – 16 เม.ย. 52 เวลา 22:11 น. 7

กตัญญู รู้คุณท่าน แล้วชีวิต จะไม่ยากจน 


PS.  "เงิน ทำให้ฉันมีทุกอย่าง ฉันจึงทำทุกอย่างเพื่อเงิน และใช้เงินซื้อทุกอย่าง แม้กระทั่ง ความรัก"
0
ri_ringo 16 เม.ย. 52 เวลา 22:41 น. 8

ดูเเลท่านเมื่อยังมีโอกาส

ก่อนที่จะสายไป


PS.  ด้วยรักและอยากฆ่า หึๆ โชคดีและโชกเลือด เป็นห่วงนะหวังว่านรกจะดูแลคุณ
0
Deta 16 เม.ย. 52 เวลา 23:33 น. 9

ไม่เคยมองข้ามฮะ
จริงอยู่ อาจหงุดหงิกดบ้าง โมโหบ้าง
แต่ยังไงท่านก็เป็นพ่อแม่นี่นา


PS.  อ๊ากกกกก ชิพมั้งค์!!! ธีโอดอร์ แอลวิน ไซม่อน!!! ข้าน้อยหลงรักซะแล้ว!!!///[โหมด:คลั่ง] เจฟฟ์ ลี...สุโก้ย///โจอาเกีย///อ๊ากกกก ฉันรักแก!!! อัคนี!!!///วิบัติฟีเวอร์!!! รักชาติ รักไทย อย่าใช่ภาษาวิบัติ!!!
0
seviophy 17 เม.ย. 52 เวลา 00:56 น. 10

บอกรักท่านประจำแล้วรึยัง...(อย่าเขิล แล้วท่านจะรู้ว่าพ่อกับแม่น่ารักกว่าที่คิดฮี่)


PS.  ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นทุกคนจ้า
0