Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วัดเขาสมโภชน์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


ประวัติวัดเขาสมโภชน์ วัดเขาสมโภชน์ ตั้งอยู่ที่บ้านเตาขนมจีน หมู่ที่5 ตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัด 200 ไร่ บริเวณที่ตั้งมีภูเขาล้อมรอบ 3ด้าน ที่ดินวัดแบ่งเป็น2ส่วน อยู่บนภูเขาและที่ราบเชิงภูเขา การสร้างวัดได้สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่ พ.ศ 2480 พื้นที่ภูเขาซึ่งล้อมรอบบริเวณวัดทั้ง3ด้านมีถ้ำอยู่มาก มีชื่อเรียกแตกต่างกัน มีเจดีย์ขนาดแตกต่างหลายองค์ ภายหลังได้ร้างไป เมื่อ พ.ศ. 2516 หลวงพ่อคง จตฺตมโล ได้ธุดงค์จาริกมาเพื่อการปฏิบัติธรรมโดยอาศัยอยู่ในถ้ำพระอรหันต์ ตามนิมิต ซึ่งในขณะนั้น ชาวบ้านเรียกกันว่า สำนักสงฆ์ถ้ำเขาสมโภชน์ ต่อมาวันที่23 กันยายน พ.ศ 2525 ทางคณะสงฆ์ได้ประกาศให้เป็นวัดเขาสมโภชน์ โดยมีหลวงพ่อคง จตฺตมโล เป็นพระวิปัสสนาจารย์ และประธานสงฆ์ มีพระครูภาวนาวิสุทธิ (ผิว วณณฺคุตโต) ดำรงค์ตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาส ด้วยอานุภาพขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และบารมีของหลวงพ่อคง จากครั้งแรกที่หลวงพ่อพร้องภิกษุหนึ่งรูป และสามเณรหนึ่งรูปรวมสามรูป ได้ธุดงค์มาที่ถ้ำพระอรหันต์ ปรากฏว่าทำให้มีภิกษุสามเณร และพุทธบริษัทชายหญิง หมุนเวียนกันเข้ามารับการฝึกอบรมกรรมฐานเป็นระยะๆ มากบ้างน้อยบ้าง สุดแล้วแต่ความพร้อมของแต่ละบุคคลและมาถวายตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องมีการก่อสร้างเสนาสนะขึ้นเพื่อรองรับพุทธบริษัทที่มาปฏิบัติธรรม ปี พ.ศ.๒๕๒๐ สร้างศาลาชายเขาและเสนาสนะต่างๆ ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ สร้างวิหารอเนกประสงค์ จตฺตมโล สร้างถังน้ำเก็บน้ำฝน โรงครัว ห้องสุขา ห้องน้ำ ปี พ.ศ ๒๕๒๘ สร้างกุฏิ ๗๖ปี หลวงพ่อคง จตฺตมโล ปี พ.ศ ๒๕๓๖ ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ อุโบสถ ๒ ชั้น ปี พ.ศ ๒๕๔๐ ประกอบพิธีเททองพระอุโบสถ โดยเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นองค์ประธาน ปี พ.ศ.๒๕๔๕ ประกอบพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ ปี พ.ศ.๒๕๔๖ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐาน ในบุษบกเหนือโรงอุโบสถ โดยเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นองค์ประธาน ปี พ.ศ.๒๕๔๙ จัดงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตโรงอุโบสถ ปัจจุบันนี้ท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันก็ยังนำพระภิกษุสามเณร แม่ชี อุบาสกอุบาสิกา ประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมเจริญ ภาวนา ศึกษาพระธรรมวินัย เป็นกิจวัตรประจำวัน ดำเนินรอยตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อคงเป็นปกติเสมอมา ประวัติพระพุทธเจ้าปางเปิดโลก หลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ในวันอาสาฬหบูชา ณ นครสาวัตถี แล้วได้เสด็จจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของท้าวสักกะเทวราช เพื่อแสดงธรรมโปรดพระมารดาที่ประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนา (พระอภิธรรม) แก่พระมารดา ในที่สุดแห่งเทศนาพระมารดาทรงบรรลุโสดาปัตติผล เป็พระโสดาบัน ครั้นอยู่จำพรรษาปวารณาแล้วจึงได้ตรัสกับท้าวสักกะว่า มีพระประสงค์จะเสด็จกลับยังโลกมนุษย์ ท้าวสักกะจึงได้นิรมิตบันไดทั้ง3 คือ บันไดทอง บันไดแก้ว บันไดเงิน ตีนบันไดทั้ง3 ตั้งอยู่ที่ประตูเมืองสังกัสสะนคร ส่วนหัวบันไดพาดอยุ่ที่เขาสิเนรุ พระพุทธองค์เสด็จลงทางบันไดแก้วตรงกลาง เทวดาลงทางบันไดทองทางด้านขวา มหาพรหมลงทางบันไดเงินทางด้านซ้าย ในขณะที่เสด็จลงจากเทวโลกนั้น ทรงทำยมกปาฏิหาริย์อีกครั้งหนึ่ง คือ ทรงเปิดโลกทั้ง3 ให้แก่เทวโลก มนุษย์โลก ยมโลก พร้อมทั้งทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสี ทำให้สัตว์โลกทั้ง3มองเห็นกันและกัน อนึ่งพุทธบริษัท ที่เห็นพุทธานุภาพแล้ว ล้วนแต่ปรารถนาพุทธภูมิ เพราะเหตุดังกล่าว ภายหลังจึงมีผู้สร้างพระพุทธรูปปางเปิดโลก เพื่อระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากเทวโลก ในวันปาฏิบท คือ วันแรม1 ค่ำ เดือน11 และวันนั้นจึงเป็นปฐมเหตุแห่งวันเทโวโรหนะ(วันตักบาตรเทโวโรหนะ) กรรมฐานเปิดโลก ความเป็นมาของกรรมฐานเปิดโลก มีสองยุค คือ สมัยพระบวรนาถสมณโคดมยังทรงพระชนม์อยู่ ในกาลนั้นได้เสด็จขึ้นสู่ดาวดึงส์เทวสถาน เพื่อโปรดพระพุทธมารดา ในวันที่เสด็จกลับจากดาวดึงส์ ได้มีพุทธศาสนิกชนมาคอยรับเสด็จอยู่จำนวนมาก ในครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงใช้พุทธานุภาพ แสดงโลกทั้ง3ในปรากฏแก่พสกนิกรผู้เป็นสานุศิษย์ของพระพุทธชินสีห์ ประชาชนที่มารับเสด็จในวันนั้นต่างก็ได้ทิพย์จักขุญาณ เห็นเทวโลก มนุษย์โลก และสัตว์ในอบาย สัตว์ในอบายทั้งหลายก็เห็นทั้งมนุษย์และเหล่าเทวดา เรียกว่าทั้ง3 โลกมองเห็นกัน อย่างทะลุปรุโปร่งในวันนี้ ด้วยอำนาจพระพุทธคุณนั้น เป็นอานุภาพที่ไร้ขอบเขต ทรงฤทธานุภาพสูงสุดในจักวาล ในวันนั้นเทวดา มนุษย์ และสัตว์เดรัจฉานทั้งปวงต่างได้พบ พ่อแม่ พี่น้อง ครูบาอาจารย์ มิตรสหายและบริวารเก่า ๆ ที่กำลังเสวยผลกรรมอยู่ในภพต่างๆกัน เป็นทุกขเวทนาบ้าง เป็นสุขเวทนาบ้าง จึงเกิดเมตตาจิต อธิษฐานอโหสิกรรมแก่กัน ผู้ที่ได้เคยกระทำกรรมชั่วต่อกันให้พ้นจากบาปกรรมเวรเหล่านั้น ในวันนั้นนั่นเอง มีผู้มีปัญญาฌาน เกิดความเบื่อหน่าย คลายความยินดีในภพชาติ หลุดพ้นจากอาสวะ สำเร็จเป็นพระอรหันต์เป็นจำนวนมาก จากนั้นมาธรรมะเปิดโลกก็มิได้ปรากฏ ในประวัติพระพุทธศาสนาอีกเลย จนกระทั้งเมื่อหลวงพ่อคง พุทธสาวกสมัยกึ่งพุทธกาลนี้ ได้ถือเนกขัมมะวัตรเป็นบรรพชิต บำเพ็ญเพียรด้วยวิริยะอันแรงกล้า วิรัติแล้วจากการเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมตั้งแต่ยังอยู่ในฆราวาสวิสัย ดำริมั่นที่จะออกจากกามได้จาริกเพื่อเจริญวิมุตติญาณเข้าสู่โลกุตตรสภาวะมาโดยลำดับ จนกระทั้งลุถึงถ่ำอรหันตร์ เขาสมโภชน์ ลพบุรี ท่านได้ปฏิบัติกรรมฐานเป็นอุกฤษฏ์ จนบังเกิดความตึงเครียดในทุกส่วนของระบบประสาท ก็ยังไม่สำเร็จผลดังหวังทำให้รู้สึกท้อแท้ ท่านจึงน้อมจิตอธิฐานว่า หากคุณพระพุทธเจ้ามีจริง ขอจงทรงมาโปรดให้ท่านมีดวงตาเห็นธรรมด้วยเถิด ในครั้งนั้นเองก็ได้มีปรากฏการณ์บังเกิดขึ้นกับหลวงพ่อ ท่านได้พบ "พระวิสุทธิสัมมาสัมพุทธเทพ" และได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติกรรมฐาน อาศัยบุญบารมีเก่าที่หลวงพ่อคงเคยเป็นหลวงพ่อร่วง ผู้รจนาคัมภีร์ ไตรภูมิกถาไว้สั่งสอนปวงชนมาก่อน พระพุทธองค์จึงทรงประธานธรรมมะเปิดโลกให้ เมื่อหลวงพ่อใช้กำลังปัญญาเข้าพิจารณาภพภูมิอันเป็นอาสวะแห่งวัฏฏะแล้ว เกิดความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด จิตใจมุ่งเข้าสู่ความบริสุทธิ์สำเร็จวิสุทธิญาณในวันนั้นเอง จากนั้นองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าบรมโลกเชษฐ์ได้ทรงประทานพุทธานุญาต ให้หลวงพ่อคงโปรดแสดงธรรมะปิดโลกแก่พสกนิกรพุทธบริษัทได้โดยอาราธณาพระพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และอริยสังฆานุภาพ มาเป็นอำนาจเปิดโลก เพื่อให้พุทธบริษัททั้งหลายเข้าใจแจ้งเรื่องกรรมและกลไลของกรรมโดยถ่องแท้ กรรมฐานเปิดโลก จึงได้รับการถ่ายทอดสาธิตจากหลวงพ่อคงนับแต่นั้นมา สำหรับบางท่านที่สงสัยว่า พระพุทธเจ้าผู้ปรินิพพานนานแล้วพระองค์นั้น สามารถพบได้หรือข้อนี้ขอยืนยันด้วยพุทธพจน์ที่ว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต " และหากท่านปฏิบัติจนเข้าถึงโลกุตรธรรมแล้ว ท่านจะหายสงสัยเอง 

อยู่ไม่ไกลจากบ้านพัชเท่าไหร่อ่ะข๊ะ เพื่อนๆอยากไปเที่ยวก็บอกนะข๊ะพัชจะพาไปสวยมาก
www.pg.in.th/ Pach_Ultraman.pg.in.th/



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 10 มิถุนายน 2552 / 13:33

PS.  

แสดงความคิดเห็น

>

53 ความคิดเห็น

~#$ Love U$#~!!! 10 มิ.ย. 52 เวลา 16:06 น. 1

แม่เราเคยไปถือศีลที่นั่นแม่บอกว่าคนอยู่ในกรงลิงอยู่ข้างนอกอิอิ

แถมยังมีตักกรรมอีกด้วยหน่ะ น่ากลัวมากอ่ะ(ที่น่ากลัวเพราะไปรับแม่) มีทั้งรำ ทั้ง กรีดร้องบ้างหล่ะ โครกคร๊ากบ้างหล่ะ น่ากลัวนะ แต่บรรยากาศดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก&nbsp สวยสุดๆอ่ะ ได้บรรยากาศป่าเข้า สวยๆ แต่ลิงเยอะเกินไปอิอิ&nbsp กลัวลิง ไม่ใช่ไรหรอกคะ


PS.  โหลๆ เหล๋ เอ๋ๆ โหย๋ รักๆๆๆทุกคนน๊าาาาาาาาา จุบุๆ มลล์ใหม่เค้านะ babymizza@hotmail.com
0
Nat 10 ก.ย. 52 เวลา 16:35 น. 2

ผมเคยทำนะธรรมมะเปิดโลก

ลูกศิษย์ของหลวงพ่อผิวนำมาเผยแพร่


รู้สึกไม่อยากกลับไปทำบาปเลย


ทรมานสุดๆ8

0
เก่ง 10 พ.ย. 52 เวลา 09:51 น. 4

ผมเพิ่งเคยเห็นเพราะไปมาเมื่ออาทิทย์ที่เเล้ว&nbsp  สุดยอดอยากให้ทุกคนลองไปสัมผัส
&nbsp &nbsp  จากช่างเก่ง&nbsp  อบต.&nbsp นางรอง

0
nuchi 14 ม.ค. 53 เวลา 11:47 น. 5

ดีนะเราว่า เราไปมาตั้งสามครั้งแล้ว วันกลับ ทุกครั้งรู้สึกไม่อยากกลับเลย ไปแล้วก้อรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ครั้งล่าสุดไปตอนปีใหม่ ได้อะไรกลับมาเยอะ ท่านเจ้าอาวาสท่านสวดมนต์เพราะมาก ได้เช่าแหวนพ่อปู่มาด้วย มาแชร์กันได้นะ nu_chi@hotmail.com

0
มนต์ภัสสร 15 ม.ค. 53 เวลา 16:10 น. 6

ไปตั้งแต่ ปี 51 ไปแล้วได้รับรู้อะไรมากมาย ทั้ง อดีต ปัจจุบัน อนาคต&nbsp คู่กรรม&nbsp คู่เวร เป็นลูกเต้าเหล่าใครมา เยอะแยะมากมาย เหนื่อยนะ กับการที่ต้องเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติในการเวียนว่ายตายเกิด อยากให้สิ้นสุดกันสักที ฉะนั้นแล้วคืออย่ายึดมั่นถือมั่น ในทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ตามที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสไว้&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ตอนนี้ที่ไปคือไปสร้างบารมีกับหลวงปู่คง ให้ท่านชี้แนวทางในการเกิดสติ และปัญญา สาธุหลวงพ่อ...........

0
หนุ่มครับ 25 ก.พ. 53 เวลา 12:21 น. 7

ไปวัดเมื่อตอนปีใหม่นี่เองเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากๆสงกรานต์นี้ว่าจะไปอีกชวนเพื่อนไปเยอะๆเลย
เพราะที่วัดมีถ้ำอรหันต์ได้พาขึ้นเขาล่ะงานนี้ถ้าบุญถึงคงได้อยู่สัก7วัน

0
นุ้ย 17 มี.ค. 53 เวลา 16:06 น. 8
สงกรานต์นี้เราก่อว่าจะไปอีกง่ะ แล้วเพื่อนๆๆ จะไปกันอีกรึป่าวคะ เห็นเค้าบอกว่างวดนี้ที่วัดจะทำกำไรปู่นาคา ด้วยนะ ตอนปีใหม่เราได้เช่าแหวนปู่นาคามา สวยมากเลย ชอบที่นั่นมากๆๆเลยค่ะไปมา 3ครั้งแล้ว คราวนี้ครั้งที่ 4 จะพาพี่สาวไปด้วย c]แล้วไปเจอกันที่นั่นนะคะ
0
nam 23 มี.ค. 53 เวลา 08:07 น. 9

อยากไปบ้างอะ แต่ไม่ทราบระเบียบการปฏิบติธรรมค่ะ
มีใครพอจะแนะนำได้บ้างไหมคะ ว่าต้องไปขั้นต่ำกี่วัน
และต้องไปถึงก่อนกี่โมงคะ
รบกวนแจ้งในกระทู้ หรือแจ้งผ่านทางเมล์ก็ได้นะคะ
nam_angka@hotmail.com

0
MMM 31 มี.ค. 53 เวลา 18:31 น. 10

เราเคยไปมาแล้วอ่ะ
อากาศดีมากมาย
แต่ลิงอ่ะสุดยอดแย่งของเราด้วย
ตอนตัดกรรมอ่ะทรมานมากๆตัวงี้ชาไปหมดอ่ะ
แต่น่าไปนะ&nbsp  ลองดูสิ

0
หนุ่ม 1 เม.ย. 53 เวลา 16:35 น. 11

หวัดดีเพื่อนๆครับ ถ้าสงกรานต์นี้ฬครไปคงได้เจอกันนะ
เราไปวันที่10 นี้กะว่าจะอยู่สัก7วันจะได้ป่าวไม่รู้
ยังไงเอาใจช่วยด้วยนะครับแล้วจะเอาบุญมาฝาก

0
จ้ะโอ๋ 10 พ.ค. 53 เวลา 12:34 น. 13

คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างในวัดนี้ ทั้งพระ แม่ชี เด็กวัด ผู้ร่วมปฏิบัติธรรม และบรรยากาศดีๆ จริงๆว่าจะกลับตั้งแต่วันแรกเพราะกลัว
แต่พระท่านห้ามไว้ให้อยู่ต่อ ก็เลยอยู่จนครบทั้ง 15 วัน พอตอนกลับแอบน้ำตาเล็ด ใจหายมากเลย อยากไปออกกรรมที่นั่นอีกแม้ว่ามันจะเดินทางไกลก็ตาม

0
หนุ่ม 11 พ.ค. 53 เวลา 16:36 น. 14

ถ้าใครมีรูปเจดีย์ทรายเมื่อตอนสงกรานต์รบกวนเพื่อนๆ ส่งให้เราด้วยยังนึกถึงตอนที่จุดเทียนตอน4ทุ่มสวยมากๆอยู่ได้ครบ7วันแล้วตามที่ได้ตั้งใจไว้ถ้าใครไปแล้วอย่าลืมขึ้นถ้ำอรหันต์นะอาจจะเหนื่อยนิดนึงแต่ขึ้นไปถึงแล้วสวยมากๆ

0
พระภิกษุณีสุโพธา 15 พ.ค. 53 เวลา 21:07 น. 15

พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า หลังจากเราปรินิพพานแล้ว จักไม่มีผู้ใดได้เห็นเราอีกฯ

กรรมฐานเปิดโลกเป็นกรรมฐานเบื้องต้นของจิต ที่จิตเสวยผลจากความสงบเมื่อทิ้งนิวรณ์ได้ชั่วคราว&nbsp ผลของกรรมฐานเปิดโลกยังต้องประกอบกับธรรมชั้นสูงเพื่อประโยชน์แห่งความดับอีกมาก

บางคนเข้าใจว่าเปิดกรรมคือการได้ไปเห็นวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวร นี่คือการมองแบบ"สัสสตะทิฎฐิ"ที่วัดเขาสมโภชน์ชอบสอนเบี่ยงเบนมาทางนี้เสมอ แล้วบางท่านก็ชอบเข้าไปตั้งตัวเป็นครูบาอาจารย์ตัดเวรตัดกรรมให้ ทั้งๆที่นั่นคือกลไกธรรมชาติของจิตที่มันเกิดสำนึกผิดบาปแล้วเพิกถอนได้เอง อาจอาศัยครูบาอาจารย์บอกกล่าวเป็นแนวทางให้เท่านั้น การตัดกรรมเกิดจากความเต็มอิ่มในการเรียนรู้ปรากฎการณ์บนกฐ.เปิดโลกนั้นเอง


ปรกติคนมักมีจิตที่ประกอบอยู่กับนิวรณ์ทั้ง5ขวางกั้นการรู้เห็นของจิต&nbsp จิตจึงมีความสามารถเห็นได้ระลึกได้เพียงแค่เท่าอายุตนเองในปัจจุบันชาติ เพราะนิวรณ์5กั้นอยู่ ทำให้ไม่สามารถเห็นทั้งหมดที่จิตสะสมไว้นานนับร้อยชาติหมื่นแสนล้านชาติ

วิธีที่จิตจะเข้าไปเห็นทั้งหมดที่สะสมมา ก็ต้องสงบระงับจากนิวรณ์5แม้เพียงชั่วคราว โดยอาศัยกรรมฐาน40กองใดกองหนึ่ง เลือกมาปฏิบัติให้แน่วแน่ชำนิชำนาญ กรรมฐานเปิดโลกก็คืออาณาปาณสติแบบผุสนัยภาวนาคือจับที่ลมกระทบ เป็นบทหนึ่งในมหาสติปัฎฐาน4&nbsp การดึงลมแรงๆเป็นอุบายให้จิตถอนออกมาจากนิวรณ์5ที่คุ้นเคยได้ดีเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่ฝึกชำนาญแล้วทีหลังไม่ต้องดึงลมแรงๆจิตก็เข้าสู่ฌาณได้&nbsp 

กรรมฐานเปิดโลกเป็นกลไกธรรมชาติแสนธรรมดาที่เกิดจากจิตเลิกสนใจในนิวรณ์๕ที่คุ้นชินเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องอานุภาพของใครมาเสกให้ใครเปิดได้ ให้ตั้งใจแน่วแน่ประกอบความเพียรเพียงพอก็ทำได้

ขณะที่ยังพยายามดึงลมอยู่ ขณะนั้นยังไม่เป็นฌาณ&nbsp พอลมหายใจเร่งเร็วขึ้นเอง ความ"พยายาม"ดึงลมค่อยๆหายไป แต่ยังรู้สึกและประกบในลมหายใจอยู่ ขณะนั้นคือฌาณ1&nbsp กรรมฐานเปิดโลกคือฌาณ2 ที่จิตไม่ประกบในลมหายใจแล้ว มีแต่ ปิติ สุข เอกัคตา&nbsp ปิติที่เกิดขึ้นในกฐ.เปิดโลกคือ อุพเพงกาปิติ แปลว่าปิติแบบโลดโผน มีอาการตัวเบา กระเพื่อมเหมือนนั่งบนยอดคลื่น หกขะเมนตีลังกา ฯลฯ คนที่พบเห็นภายนอกมักตำหนิว่า ผีเข้า หรือ ขาดสติ&nbsp (ปิติมี5อย่าง ขณิกปิติ ขุทกาปิติ โอกันทกาปิติ อุพเพงกาปิติ ผรณาปิติ ไปหารายละเอียดเอาเอง )

มีแต่คนไม่เคยทำเท่านั้นจะกล่าวว่าขาดสติ คนที่เคยทำจึงจะรู้ว่าสติมีอย่างต่อเนื่องบริบูรณ์ จิตรู้อารมณ์อย่างไม่มีอะไรมาBias&nbsp การที่ร่างกายขณะเป็นสมาธิมีอาการต่างๆนาๆนั้น ก็ให้นึกถึงคนฝันว่าฉี่ แล้วกลับฉี่ออกมาจริงๆ ฝันเป็นอารมณ์ ฉี่จริงเป็นธุระของร่างกาย หรือคนเสียใจมากๆ กลับมีน้ำไหลออกจากตา&nbsp เสียใจเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นให้ใจรับรู้ แต่ตาที่เป็นกายเนื้อกลับเข้าไปตอบสนองด้วยอาการร้องไห้ นี่คือตัวอย่างของการต่อเนื่องกันของกายกับใจอย่างง่ายๆ&nbsp คนทำกฐ.เปิดโลกมีอาการดิ้นพราดๆ เวลาที่เขาระลึกได้ว่าเขาเคยทุบหัวปลา เขาลงคลาน4ขาเวลาที่เขาระลึกได้ว่าเคยเกิดเป็นหมา นี่เป็นอาการต่อเนื่องกันของกายกับใจเท่านั้นเอง ไม่ใช่ผีเข้าเที่ยวต้องเป่าน้ำหมากน้ำมนต์ขับไล่อะไร

การเห็นอดีตชาติ เป็นนิมิตอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์มากๆ พระพุทธองค์ได้ปุพเพนิวาสานุสตินญาณ(ระลึกชาติของพระองค์เอง) และ จุตูปะปาตะญาณ(รู้การเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์อื่น)&nbsp ญาณทั้ง2นี้พระองค์ได้ในคืนที่พระองค์ตรัสรู้ สิ้นอาสวะกิเลส เพราะรู้แจ้งตามความเป็นจริงของธรรมชาติแห่งการเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ว่าเป็นทุกข์อย่างไร อะไรเป็นเหตุ ดั่งคำปฐมพุทธอุทาน(ตรัสครั้งแรกหลังตรัสรู้)ว่า "การเกิดทุกคราวเป็นทุกข์ร่ำไปฯ"

ประโยชน์ของกฐ.เปิดโลกที่ว่าตัดกรรมได้นั้นเป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้นเอง&nbsp ประโยชน์สูงสุดคือการทำให้สิ้นภพชาติ เพียงแต่เท่าที่เห็นคนในวงการกฐ.เปิดโลกนั้น เห็นแต่ยังวนเวียนกับสัสสตะทิฎฐิทั้งนั้น ซึ่งจะน่าเสียดายมากๆถ้าใช้ประโยชน์กฐ.เปิดโลกเพียงประโยขน์แค่ตัดกรรม ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงสิกขาบทไว้ให้ศึกษาเท่านั้นเอง

ขอให้ชาวกฐ.เปิดโลกทุกท่าน จงดำเนินรอยตามพระพุทธองค์ ใช้ฌาณ และทัสนะที่ได้ แปรให้เป็นญาณทัสนะ รู้แจ้งธรรมชาติของสรรพสิ่งตามความเป็นจริง เพื่อเพิกถอนอนุสัยกิเลสสันดาน ก้าวข้ามวัฏฏสงสารโดยเร็วเถิด อย่าได้ใช้กฐ.ที่ฝึกได้ไว้อวดเบ่งอวดเก่ง เที่ยวเป่าน้ำหมากน้ำมนต์เปรอะไปหมด&nbsp อย่าใช้กฐ.ไปในทางสร้างภพสร้างชาติ อดีตมีไว้ให้รู้ให้เข้าใจ ไม่ใช่ให้ไว้ละเมอเพ้อพกยึดมั่นถือมั่น อดีตชาติไม่ได้มีไว้ให้ยึด แต่ให้รู้เพื่อคลายเพื่อละ

(อธิบายกรรมฐานเปิดโลก)

0
มุทิตา 21 มิ.ย. 53 เวลา 19:12 น. 16

[y-004ใครว่างก้อไปจิ...เราไปมา 2 ครั้งแล้ว&nbsp คร้งแรก 3 วัน ครั้งที่ 2....7 วัน แล้วแต่ใครสะดวกกีวันเดี๋ยวเราให้เบอร์โทรรถตู้นะ
&nbsp &nbsp  -085-08045259,086-0105443,081-9493104,081-7804671,081-9227206,
เป็นรถตู้ของคุณกฤษ...ซึ่งเป็นลูศิษย์หลวงพ่อคง...รถออกจากอนุเสาวรีย์ กี่โมงลองโทรสอบถามตามเบอร์ที่ให้เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลง
-สิ่งที่ต้องเตรียมไป&nbsp 1. ชุดขาวกางเกงก้อได้&nbsp ผ้าถุงก้อได้&nbsp หรือถ้าไม่มีที่วัดมีให้บูชา&nbsp ราคาไม่แพงมากกำไรนิดหน่อยเพราะทางวัดต้องนำรายได้จากการจำหน่ายไปช่วยค่าน้ำ-ค่าไฟ ซึ่งแต่ละเดือนค่อนข้างที่จะแพงมาก&nbsp เนื่องจากทางวัดใช้เครื่องป่นไฟและมีเครื่องสูบน้ำบาดาลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาปฏิบัติธรรม 2. ของใช้จำเป็นทั้งหลายที่ท่านพึงต้องการ ถ้าไม่มีทางวัดมีร้านค้าสวัสดิการให้บริการ&nbsp 3.&nbsp เตรียมตัวให้แข็งแรง&nbsp เตรียมใจให้สะอาด&nbsp วางสิ่งวุ่นวายไว้ข้างหลัง&nbsp เพื่ออานิสงในการเจริญภาวนาจะได้ผลยิ่งขึ้นไม่เพื่อใคร....คือตัวเราเอง
3. ของมีค่าให้พกไว้กับตัว&nbsp เดี๋ยวจะมีคนยืมไปใช้โดยไม่บอก&nbsp 4.&nbsp ระวังลิงแย่งของนะ&nbsp เพราะเยอะมาก... 5.&nbsp ก่อนกลับอย่าลืมใช้หนี้สงฆ์ ตามกำลังศรัทธา...ไปปฏิบัติแล้ว...อะไรๆ จะเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น....Confirm...


&nbsp &nbsp &nbsp Form....หนึ่งในลูกศิษย์หลวงพ่อคง

0
มิ้นท์ 25 มิ.ย. 53 เวลา 19:40 น. 17

ชอบความรุ้ที่ Name;พระภิกษุณีสุโพธา ให้มากๆ เป็นการแสดงภูมิที่ขออนุโมทนาด้วยนะคะ เป็นหตุเป็นผลมากๆ สุดท้ายแล้ว รู้แล้วก็ต้องละวางอยู่ดี การระลึกชาติอาจจะเป็นแค่ทำให้รู้ว่าการเวียนว่ายตายเกิดเป็นจริง เพื่อที่จะหาทางดับการเกิดที่เป็นทุกข์ นั้นคือนิพพาน ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านมากๆนะคะ ขอให้ทุกคนใช้เหตุใช้ผลให้มากด้วย

0
hyena 6 ส.ค. 53 เวลา 12:42 น. 18
เราก้อไปมาแล้วล่าสุด 31 - 1 สิงหาคม 53&nbsp เสียดายน้อยไปนิดแต่ได้คิดอยู่อย่างหนึ่งว่า ที่ผ่านมาเราทำอะไรไปบ้าง (ไม่ได้ระลึกชาตินะ) แต่มีเวลานั่งคิด นั่งภาวนา ตัด ละ ทิ้ง ปัจจุบันชั่วคราว เหมือนมาหยุดพักใจ หน่ะ&nbsp กลับมาแล้วรีบทำความดีเพราะรู้สึกว่าชอบทางธรรมนะ&nbsp อยากศึกษาอย่างจิงจัง&nbsp ทางโลกปวดหัวมาก&nbsp จะหาเวลาไปอีก
0
กําไร 28 ก.ย. 53 เวลา 19:45 น. 19

ไปมาแล้วหลายครั้งค่ะ&nbsp  แต่ล่ะครั้งได้อะไรมาเยอะมาก ๆ ตอนนี้เลยใช้ชีวิตแบบระมัดระวัง
&nbsp กลัวบาป กรรม มากค่ะ เพระรู้แล้วว่านรก สวรรค์มีจริง ๆ&nbsp ลองไปดูนะค่ะ เพื่อนๆ

0
ผู้ที่ไปปฏิบัติธรรม 24 ต.ค. 53 เวลา 12:08 น. 20

กรุณาตรวจดู

พวกนอกรีต

แฝงตัวมาปฏิบัติธรรม

ตึก 2 ด้านข้างใน

จุดลับตาคน&nbsp ส่งเสียงดังมาก&nbsp และมีวัยรุ่นมาก และมั่วสุมเสพยา

ทำตัวเป็นอันธพาล และก็ได้ทำงานอยู่ในวัด ของหายบ่อย สกปรก

ขอความกรุณา พิจารณา พวกเด็กวัยรุ่นนี้ด้วย ว่าสมควร จะให้อยู่อีกหรือ

เพราะชอบสร้างความเดือดร้อน&nbsp กับผู้ที่มาปฏิบุติธรรม&nbsp ไม่อยากให้ผู้ปฏิบัติธรรม เห็นภาพที่ไม่ดี

และมาเล่าต่อกัน&nbsp ทำให้วัดเสียฃื่อเสียงอย่างมาก&nbsp ขอความกรุณา ช่วยเลือกบุคคลที่จะมาปฏิบัติ

ยกเว้นพวกวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมที่เหมาะสมที่สมควรมาปฏิบัติธรรม

อย่างเอาจริงเอาจัง

0