Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ปวดเมื่อยเรื้อรัง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่




         ทุกอิริยาบถของการใช้ชีวิตประจำวัน ร่างกายต่างก็ต้องใช้งานอยู่ตลอดเวลา ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนในสังคมปัจจุบัน ให้ลองสังเกตดูว่าวันหนึ่งๆ คุณลุกขึ้นมาเปลี่ยนท่าทางกันสักกี่ครั้งเชียว เช่น ผู้บริหารก็มักจะนั่งเซ็นงาน,นั่งประชุม หนุ่มสาวออฟฟิสก็นั่งพิมพ์งานกันวันหนึ่งๆไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ส่วนฝ่ายคุณแม่บ้านก็ใช้เวลานั่งอยู่ในรถเพื่อรับ-ส่งลูกไม่น้อยกว่า 4-5 ชั่วโมงต่อวันอย่างแน่นอน

    แต่จะเคยนึกตระหนักกันบ้างมั้ยว่าวันหนึ่งร่างกายของคุณอาจเริ่มรับไม่ไหวแล้วก็เป็นได้ แต่จะใช้มากไปหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ในท่าทางแบบไหนนั่นเอง อาการหนึ่งที่จะเริ่มส่งสัญญาณความผิดปกติของระบบโครงสร้างกระดูกกล้ามเนื้อ นั่นคือ อาการปวดเมื่อย
   เพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัด จากสถาบันปรับโครงสร้างร่างกาย อริยะ (ARIYA WELLNESS CENTER) กล่าวว่า ในภาวะปกติทุกครั้งที่ร่างกายมีการเคลื่อนไหวหรือการทำงาน กล้ามเนื้อจะเป็นตัวที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหว และกำหนดทิศทางต่างๆตามความต้องการของจิตใจที่จะสั่งให้ทำ และในการหดตัวแต่ละครั้งกล้ามเนื้อจะต้องดึงเอาพลังงานที่สะสมอยู่มาใช้ในการเผาผลาญพลังงาน (Metabolism) ซึ่งทุกครั้งที่มีการหดตัวจะมีของเสียเกิดขึ้นคือกรดแล็คติก (Lactic acid) แต่ด้วยในกล้ามเนื้อจะมีหลอดเลือดอยู่ภายใน และมีการไหลเวียนของเลือดเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ร่างกายถ่ายขับสารเสียออกมา และมีเลือดดีที่มีออกซิเจน ไปเลี้ยงเนื้อเยื่อต่างๆได้ รวมถึงเลี้ยงกล้ามเนื้อด้วย

   แต่ตรงกันข้าม หากเป็นการทำงานที่เกิดขึ้นแบบซ้ำๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง จากนานวันเข้า กล้ามเนื้อจะเริ่มหดตัวอย่างเดียว ไม่มีการคลายตัว พอนานวันเข้าก็เริ่มเป็นพังผืดแข็ง หลอดเลือดถูกบีบรัด ทำให้ไม่มีการไหลเวียน เกิดการคั่งค้างของสารเสีย จากแค่อาการปวดเมื่อยเพียงเล็กน้อยก็เริ่มเป็นมากขั้นจนรู้สึกไม่สบายตัว ไม่คล่องตัว ไม่สดชื่น เพลียง่าย ง่วงบ่อย หาวบ่อย หงุดหงิด หายใจไม่อิ่ม หายใจไม่คล่อง จนต้องหายากิน หรือหาที่นวดเพื่อให้ผ่อนคลาย แต่อาการเหล่านี้จะกลับมาเรื่อยๆ เพราะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ตรงสาเหตุที่เป็น ฯลฯ

    ระบบกล้ามเนื้อเป็นระบบที่เป็นที่อยู่ของหลอดเลือด,น้ำเหลือง(ระบบขับของเสีย),ระบบประสาท หากกล้ามเนื้อไม่ได้อยู่ในภาวะที่ปกติ เช่นหดเกร็ง รั้งอยู่ ไม่ใช่แค่ตรงจุดนั้นจะมีปัญหาเท่านั้น แต่จะเป็นชนวนที่จะลุกลามต่อเนื่อง เนื่องจากกล้ามเนื้อเชื่อมต่อกันตลอดทั้งตัว และกล้ามเนื้อยังเป็นตัวคุมให้กระดูกอยู่ในแนวปกติ 

     หากกล้ามเนื้อมีการรั้ง ดึง ไม่สมดุลกันทำให้โครงสร้างของร่างกายบิดเบี้ยวไป ไม่อยู่ในโค้งที่ปกติ จะทำให้กระทบถึงรากประสาท ซึ่งเป็นตัวนำคำสั่งจากสมองไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้การส่งกระแสประสาทส่งไปสู่อวัยวะต่างๆ ได้ไม่เต็มที่ มีผลให้การทำงานของระบบต่างๆ เสื่อมง่ายลง ทำงานได้ไม่เต็มที่ หากรุนแรงมากก็อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงได้ โดยเฉพาะ อัมพฤกษ์อัมพาต หรืออาจถึงชีวิตได้ โดยที่ตัวคุณเองไม่คาดคิดมาก่อน ผู้วชาญกล่าว
--สำหรับวิธีการป้องกันนั้น นักกายภาพบำบัด แนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงไลฟ์สไตล์ที่ทำเป็นประจำและใช้งานร่างกายเป็นเวลานานๆ เช่น คนที่นั่งทำงานคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมงต่อเนื่องกัน ต้องปรับพฤติกรรมไม่ให้เพลินกับการทำงานมากเกินไป ประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง ควรมีการเปลี่ยนอิริยาบทลุกขึ้นยืน เอามือประสานกันเหยียดขึ้นเหนือศีรษะค้างไว้สัก5-10 วินาที เอียงตัวไปซ้าย/ขวา สัก 2-3 ครั้ง ลุกขึ้นเดินแล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่


      ส่วนพวกที่ชอบหิ้วกระเป๋าหนักๆ ก็ควรปรับเปลี่ยนท่าทาง ด้วยการใช้ศอกหิ้วกระเป๋าแทนการสะพายที่บ่า และสลับซ้าย/ขวาเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อต้องทำงานหนักมากเกินไป คนที่ชอบใส่ส้นสูง ควรมีรองเท้าลำลองมาเปลี่ยนใส่เวลาอยู่ในที่ทำงาน แต่ถ้าลองเปลี่ยนตัวเองแล้วยังไม่ดีขึ้น ตอนกลางคืนก็อาจใช้แผ่นความร้อนประคบจะช่วยได้มากเพราะความร้อนจะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดปวดได้ ที่สำคัญไม่แนะนำให้กินยา เนื่องจากไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่หากยังคงมีอาการปวดอยู่ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันถึงขั้นไปขัดขวางการทำงาน และการใช้ชีวิต ควรต้องหาเวลาไปปรึกษาผู้วชาญในระบบกระดูกกล้ามเนื้อโดยตรงจะดีที่สุด.
ตัวอย่างท่าบริหาร 


PS.  Love always runs away from the hunter, and always comes to the escaper. If u wanna be flirted, just stand still.

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

Bieber Lerman =) 14 ส.ค. 52 เวลา 00:26 น. 1

เหอะ ๆ
เราก็ปวดเมื่อยบ่อยอ่ะ
เวลาเราให้เพื่อนจับเส้นดู
มันบอกว่าเส้นตึงมากอ่ะ
เจ็บมากเวลาเพื่อนนวด

TT'


PS.  หนูอยากได้ อ๊ะ หนูอยากด้ายยยยยยย~ (ไม่วิบัตินะคะ แค่ผันไปตามเสียง) ฮี่ ๆ
0