Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ข้อห้ามในศาสนาอิสลาม

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ชาวมุสลิมยังมีข้อห้ามอื่น ๆ ที่สำคัญมากมาย ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์ เช่น

ห้ามนำสิ่งอื่นมาเทียบเคียงอัลเลาะห์

ห้ามกราบไหว้หรือเซ่นไหว้สิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น

ห้ามเชื่อในเรื่องดวง

ห้ามเล่นเครื่องรางของขลัง

ห้ามเล่นการพนันทุกชนิด

ห้ามกินสัตว์ที่ตายเอง สัตว์ที่มีโรค

ห้ามกินหมู

ห้ามเสพสิ่งมึนเมาทุกชนิด

ห้ามผิดประเวณีกับหญิงใด ๆ

ห้ามการฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิด

ห้ามประกอบอาชีพที่ไม่ชอบด้วยศีลธรรม

ห้ามบริโภคอาหารที่หามาได้โดยไม่ชอบธรรม

ห้ามกักตุนสินค้า

ห้ามกินดอกเบี้ย และ

ห้ามกระทำใด ๆ ที่จะสร้างความเดือดร้อนแก่ตนเอง ต่อเพื่อนบ้านและต่อสังคมประเทศชาติ

แสดงความคิดเห็น

>

33 ความคิดเห็น

_HNN_ 11 ก.พ. 62 เวลา 21:21 น. 1-1

หมายถึงไม่ได้ฆ่าเพื่อประทังชีวิตน่ะค่ะ เช่นฆ่าปลาแต่ก็ไม่ได้เอาปลามาทำอะไรที่ได้ประโยชน์อย่างกินแบบนี้ผิดค่ะ

0
Muna 25 ธ.ค. 62 เวลา 20:17 น. 1-2

ในถานะที่เรานับถือศาสนาอิสลามเราจะบอกว่าเค้าห้ามฆ่าเล่นแต่สามารถฆ่ามากินได้​ เพราะบ้านเราเป็นโลงฆ่าสัตว์ในมัสยิด​

0
ผู้หวังดี 4 ธ.ค. 52 เวลา 17:25 น. 3

ตอบคห.1

ที่ห้ามฆ่าสัตว์คือ (จขกท.ไม่ได้เขียนให้ชัดเจน) ที่ห้าก็ อาทิเช่น แมว สุนัข ช้าง ม้า อะไรประมาณเนี่ยอ่ะค่ะ

ส่วนสัตว์ที่ไว้รับประทาน อาทิเช่น ไก่ วัว (จะต้องกล่าวพระนามพระเจ้าก่อนเชือดคอน่ะค่ะ แล้วถ้าหากเป็นสัตว์ที่ตายเอง

ศาสนาห้ามมิให้รับประทานค่ะ)

แต่สมมุตว่า สถานที่ ที่เราอยู่ไม่มีอะไรให้ทานเลย มีแต่ ซากสัตว์ที่ตายเอง(ซึ่งศาสนาห้าม) สุกร อย่างนี้สามารถรับประทานได้ค่ะ

ศาสนาอนุญาติ


ปล.อยากจะบอกจขทก.ว่า ถ้าหากจะโพสเรื่องเกี่ยวกับศาสนา แนะให้ไปโพสที่เวปอื่น*จะดีกว่าค่ะ เพราะถ้าเป็นเวปแนวนี้(dek-d)
&nbsp &nbsp  อาจจะเกิดความขัดแย้งตามมาค่ะ ^^


ปล.2ขอบคุณสำหรับความรู้นะค่ะ&nbsp &nbsp &nbsp 

*อาทิเช่น www.islammore.com
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp www.muslimthai.com
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp www.islamcool.com
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp www.thaimuslim.com ฯลฯ

0
afia 4 ธ.ค. 52 เวลา 17:26 น. 4

ก้อเชือดสัตว์ไงจ๊ะ
ขณะเชือดสัตว์ก้อต้องกล่าวพระนามของอัลลอฮด้วย
หากไม่ได้กล่าว
กินสัตว์ตัวนั้นไม่ได้จ๊ะ
ดังนั้น คนมุสลิม จะกินอาหารที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปไม่ได้
นอกจากเสียว่า สัตว์นั้นได้ถูกเชือดโดยชาวมุสลิมด้วยกันเอง
เข้าใจกันรึยัง8

0
ชิกเก้น 8 ต.ค. 59 เวลา 20:56 น. 5-1

แล้วแต่คุณเลยครับ ศาสนาใครศาสนามัน คุณนับถือพุทธก้อนับถือไป okay

0
som_kangin 4 ธ.ค. 52 เวลา 17:39 น. 6

ไม่ได้ตั้งใจจะลบหลู่นะ

แต่ก็ทำทำกันเกือบซะทุกข้อเลย

แต่ไม่เข้าใจอยู่ว่าทำไมคนที่นับถือศาสนาอิสลามห้ามย้ายศาสนาหร๋อ

ก็เห็นเวลาแต่งงานกับคนอิสลามทีไรก็ต้องย้ายเข้าอิสลามอ่ะ ไม่เข้าใจ

เดี่ยวก็อ้างว่าเคร่งศาสนา แล้วศาสนาอื่นไม่เคร่งหร๋อ

บอกไว้ก่อนนะว่าไม่เข้าใจ  ถ้าอยากให้เข้าใจก็อธิบายนะ ไม่ใช่ว่ามาเขียนด่ากัน

0
ooOPiMzOoo 4 ธ.ค. 52 เวลา 18:19 น. 8
ค.ห.6  เปนไรมากป่ะ

ประเทศเดียวกันศาสนาไหนก็ต้อง รักและสามัคคี ศาสนาไหนก็สอนให้คนทำความดีเท่านั้นแหละ   ไม่เข้าใจเลยคน

ที่ชอบดูหมิ่นศาสนาอื่น  บาปรู้มั้ย ศาสนาพุทธ หรือศาสนาใด ก็ห้ามดูหมิ่น ล้อเลียน ด่า ว่า ลบหลู่ศาสนาอื่ศาสนา

พุทธก็ห้ามฆ่าสัตว์เหมือนกันแหละทีเขาห้ามกินหมู กินสัตว์ที่ตายแล้ว เพราะว่า สมัยก่อนมันมีเชื้อโรค สกปรก  แต่

สมัยนี้มีเทคโนโลยี หมูก็สะอาด สัตว์ที่ตายแล้วก็ไม่มีใครเอามาขายหรอกบางคนก็เคร่ง  บาคนก็ไม่ถึงขนาดนั้น

หรอก
ศาสนาใดเราก็เป็นคนไทยด้วยกัน
PS.  ขอบคุณค่า แวะมาเยี่ยมกันด้วยเน้อ LoVe GraN
0
Pagakaw 4 ธ.ค. 52 เวลา 19:53 น. 10

ทุกศาสนานั้นดี เป็นที่ที่ทำให้เรามีสุขสิ่งนั้นคือวิทยาศาสตร์ทั้งนั้น


PS.  สิ่งสวยงามที่สุดคือสิ่งที่เราไม่ต้องการได้มันมาเป็นของตนเอง
0
[ The_Ant@Chem ] 4 ธ.ค. 52 เวลา 19:56 น. 11
ตอบความเห็นที่ 6 

เหตุผลง่าย ๆ ครับ "ป้องกันเรื่องความมัวหมองในหลักการศาสนา"


ง่าย ๆ ว่าถ้าคุณแต่งงานกับมุสลิมสักคน แล้วคุณมีลูกโดยที่คุณทั้งสอง
ก็ไม่ได้เปลี่ยนศาสนา

ลูกของคุณก็ใช้ข้ออ้างทางศาสนาของคุณมาสร้างปัญหา เช่น

ถ้าลูกคุณไม่อยากสวดมนต์ ไม่อยากนั่งสมาธิตามที่โรงเรียนสั่ง
แล้วให้นักเรียนมุสลิมกลับบ้านก่อนได้ ลูกคุณก็จะอ้างว่าเป็นมุสลิม 
... เพื่อใช้ในการนี้

หรือกรณีที่จัดไปค่ายเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งโดยทั่วไปอิสลามก็ไม่สมควรไปอยู่แล้ว
แต่เพราะลูกคุณติดเพื่อน ไปกับเพื่อน แล้วบอกว่าตัวเองเป็นพุทธ ... เพื่อใช้ในการนี้


แล้วคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหล่ะครับ .... ถ้าเกิดปัญหาแบบนี้

นึ่เป็นตัวอย่างคร่าว ๆ ที่มีจริงในปัจจุบัน


หรือคุณจะบอกว่าไม่จริง ?

PS.   ***---*** โปรดฟัง ( หัวใจ ) อีกครั้งหนึ่ง****------****
0
มุสลิมีน 4 ธ.ค. 52 เวลา 21:06 น. 12

อิสลามที่เคร่งก็มีเยอะแยะ เพื่อนผมมันเล่าให้ฟังว่าเพื่อนมันเปนอิสลาม เหล้าเบียร์หมูหมา มันแดร็กซ์ หมดแล้ว มันก็เลย งง กับผมเพราะไมเคยเจออิสลามเคร่ง 55+

บางคนน่ะ ก็อิสลามแค่ชื่อเท่านั้นแหละ พอถึงวันกิยามะ อัลลอฮ์จะทรงลงโทษ พวกคนเหล่านี้เองง

0
<ร้าย>สาระ 4 ธ.ค. 52 เวลา 21:57 น. 13

 ที่เราได้ยินมาอีกอย่างหนึ่งนะ...........
คืออิสลามห้าม
แตะต้องตัวสุนัข......
จริงมั้ยอ่า
หรือว่าเราเข้าใจผิดมาตลอด
ใครเป็นมุสลิม
มาตอบด่วนนนนนนนนนน

0
ผู้หญิง 4 ธ.ค. 52 เวลา 22:48 น. 14

ตอบคห.9

นั่นคือ ระดับความศรัทธาของคนเรานั้นไม่เท่ากันค่ะ อย่างนั้นไม่แปลกถ้าเราจะเห็นมุสลิมบางท่าน ทานหมู ดื่มสุรา ดิฉันจะอธิบายง่ายๆคือ อาทิเช่น ศาสนาพุทธจะมีศีลให้ปฎิบัติกันซึ่งหนึ่งในนั้นคือห้ามดื่มสุรา แต่ส่วนใหญ่ที่เราจะเห็นนั้น จะเป็นพระสงฆ์มากกว่าที่ปฎิบัติ(อย่างเคร่งครัด)กัน แต่สามัญชนธรรมคนธรรมดา จะไม่ถืออะไรมากมายเรื่องแบบนี้ค่ะ


ตอบคห.13

คำตอบ คืออย่างนี้นะค่ะ เรื่องที่มุสลิมจับสุนัขไม่ได้นั้น ถือว่ากล่าวยังไม่ถูกต้องเท่าใดนัก เพราะน้ำลายของสุนัขเท่านั้นที่เป็นนะญิส(คือสิ่งสกปก) ส่วนขนสุนัขนั้นไม่ใช่นะญิส(สิ่งสกปก)นะค่ะ แต่ที่มุสลิมไม่นิยมสัมผัสสุนัขก็เนื่องจากว่า สุนัขส่วนใหญ่มักชอบเลียขนของมันด้วยลิ้น ฉะนั้นน้ำลายของมันก็จะเปื้อนตามขนของมันด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น มุสลิมก็ไม่มั่นใจว่าหากสัมผัสตัวของสุนัขแล้วจะเปื้อนน้ำลายของมันด้วยหรือไม่ จึงตัดปัญหาไม่สัมผัสตัวของสุนัขจะดีกว่านั่นเองค่ะ




ปล.ขอโทดด้วยนะค่ะถ้าดิฉันพิมผิดไปบ้าง ภาษาไทยดิฉันไม่แข็งแรงน่ะค่ะ แต่ตอนนี้กำลังฝึกฝนอยู่

ปล2.คุณความเห็นที่6ค่ะ ถ้าประเทศไทยมีคนอย่างคุณเกินกว่าครึ่งละก็ไม่เจริญแน่ๆค่ะ ได้โปรดอย่าได้สร้างความแตกแยกนะค่ะ ถ้าไม่เป็น คนดีก็อย่าเป็นคนเลวค่ะมีอะไรนะค่ะก็เก็บเอาไว้ค่ะ อย่าได้มาประจานตัวเองแบบนี้

ปล3.หากใครมีอะไรสงสัยอีก ก็ถามได้นะค่ะ

0
ขอบคุณครับ 5 ธ.ค. 52 เวลา 01:36 น. 15

คห.14 มีเรื่องสงสัยครับ

อยากถามว่า ทำไมมุสลิมผู้ชายต้องใส่หมวกครับ แต่บางคนก็ไม่ใส่

แล้วผู้หญิงทำไมต้องใส่ผ้าคลุมผมครับ บางคนก็ไม่ใส่อีก

ช่วยตอบด้วยนะครับ อยากรู้มากๆ

1
chicken 8 ต.ค. 59 เวลา 21:01 น. 15-1

แล้วแต่ความเคร่งครับ ว่าใครเคร่งมากว่าน้อย
แต่สำหรับผู้ชายไม่ใส่หมวกก้อได้ครับไม่ได้บาปอะไรครับ

0
ผู้หวังดี 5 ธ.ค. 52 เวลา 18:14 น. 16

ไม่ทราบว่าจะมาทันคห.ที่15 ไม่รู้ว่าจะยังอยู่รอคำตอบไหม แต่ก็จะตอบค่ะ

คำตอบคือ(อาจจะยาวซักนิดแต่ก็จะคลี่คลายความสงสัยได้แน่นอนค่ะ)

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า อิสลามเป็นศาสนาที่ยกย่องสถานะของสตรี ดังนั้นกฎระเบียบว่าด้วยการแต่งกายนั้นก็เป็นบทบัญญัติที่มาจากพระผู้เป็นเจ้าผู้ซึ่งรู้ธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างดีและหวังดีต่อมนุษย์ โดยธรรมชาติแล้วทั้งร่างกายของสตรีถือเป็นส่วนเย้ายวนต่อเพศตรงข้าม ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าจึงได้บัญญัติให้ทั้งร่ายกายของสตรีถือเป็นส่วนพึงสงวน(เอาเราะฮฺ) ที่ต้องปกปิด ยกเว้นหากจะเปิดก็อนุญาตให้เปิดได้เฉพาะใบหน้าและฝ่ามือ ส่วนสำหรับผู้ชายนั้น ส่วนพึงสงวนที่ต้องปกปิดก็คือบริเวณตั้งแต่สะดือลงไปถึงหัวเข่า โดยไม่มีการจำกัดว่าเครื่องแต่งกายนั้นจะเป็นชุดของวัฒนธรรมใดหรือชาติใด แต่หากต้องการจะได้รับผลบุญมากขึ้นก็ให้แต่งกายซึ่งเป็นรูปแบบที่นบีมุฮัมมัดเคยสวมใส่ไว้เพื่อเป็นการแสดงความรักที่มีต่อท่านนบี และเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชาวมุสลิม ซึ่งกฎระเบียบเรื่องการแต่งกายทั้งหญิงและชายก็ล้วนมาจากบทบัญญัติของอัล-กุรอานและหะดีษทั้งสิ้น ดังนั้นไม่ใช่ว่าการที่มุสลิมแต่งกายมิดชิดนั้นเป็นเพราะวัฒนธรรมหรือประเพณีของชาติใดหรือท้องถิ่นใด แต่มันเป็นการแต่งกายตามบัญญัติศาสนา

แต่สำหรับสตรีส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และบรูไนนั้นมีการแต่งกายที่ผิดหลักการศาสนา เช่น คลุมศีรษะแต่สวมเสื้อผ้ารัดรูป หรือคลุมศีรษะไม่มิดชิดเปิดผมและคอ หรือบ้างก็คลุมศีรษะแต่สวมเสื้อผ้าบางๆ และยิ่งในยุคปัจจุบันมีการคลุมศีรษะแต่สวมเสื้อเอวลอย..! ทำนองนี้เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นการแต่งกายที่ผิดหลักศาสนา และทำให้คนต่างศาสนิกมีความเข้าใจเรื่องการแต่งกายของมุสลิมแบบผิดๆไปด้วย

ในสังคมปัจจุบันได้มีมุมมองที่แสนจะไร้เหตุผลว่า การที่ให้สตรีคลุมผมคลุมหน้าและแต่งกายมิดชิดนั้นเป็นการกดขี่สตรี! หรือเป็นการปิดกั้นสิทธิของสตรี! ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ขัดกับความเป็นจริงและสามัญสำนึกของมนุษย์ เพราะมนุษย์เราทุกคนก็รู้ดีว่าสตรีที่มีเกียรติคือคนที่รักนวลสงวนตัว มีกิริยาที่สุภาพและมีการแต่งกายที่เรียบร้อย ดังนั้นการปกปิดเรือนร่างของสตรีก็เป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าร่างกายของสตรีนั้นมีเกียรติ เป็นสิ่งพึงสงวนปกป้องปกปิดแม้จะเป็นแค่สายตาก็ตาม ส่วนผู้ชายคนไหนก็ตามที่บอกว่าการแต่งกายมิดชิดเป็นการกดขี่สตรีนั้นถือว่าเขาพูดโกหก! เพราะจริงๆแล้วมันเป็นการปิดกั้นโอกาสในการมองของเขามากกว่า! และสตรีคนไหนก็ตามที่บอกว่าการแต่งกายมิดชิดเป็นการปิดกั้นสิทธิสตรี เพราะการที่เราเปิดส่วนพึงสงวนนั้นก็เท่ากับว่าเราไปเย้ายวนให้ผู้ชายนั้นเกิดตัณหา

ดังนั้นเป็นที่พิสูจน์ได้แน่นอนแล้วไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยว่า เรือนร่างของสตรีนั้นก่อความวุ่นวายให้แก่สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเห็นได้ในข่าวทุกๆวันว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมก็คือตัวสตรีเอง ซึ่งความจริงมันได้ปรากฏให้เห็นว่าประเทศที่ปกครองด้วยกฎหมายอิสลามอย่างสะอุดีย์อาระเบียนั้นในรอบปีไม่มีข่าวอาชญากรรมทางเพศเลย (รวมทั้งอาชญากรรมอื่นๆด้วย) เพราะกฎหมาย อิสลามมีบทลงโทษที่เด็ดขาด แต่หากมีข่าวเกี่ยวกับการข่มขืนกระทำชำเราเมื่อไหร่ นั่นจะเป็นข่าวดังในรอบ 2-3 ปีของประเทศเขาเลยทีเดียว ซึ่งต่างจากประเทศไทยเราที่มีข่าวเหล่านี้ปรากฏแทบทุกวัน นั่นก็เพราะการแต่งกายที่แตกต่างกันนั่นเอง และสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ประเทศสะอุดีย์อาระเบียมีความสงบสุขกว่าไทยหลายเท่า ก็เพราะกฎระเบียบในการปกครองและความเชื่อทางศาสนา

ปล.ใครมีคำถามอะไรสงสัยก็ถามมาได้เลยนะค่ะ

1
คนๆเดิม 5 ธ.ค. 52 เวลา 18:17 น. 17

ไม่แน่ใจว่าคห.15จะยังรอคำตอบไหมเอ่ย แต่ก็จะตอบค่ะ

คำตอบคือ

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า อิสลามเป็นศาสนาที่ยกย่องสถานะของสตรี ดังนั้นกฎระเบียบว่าด้วยการแต่งกายนั้นก็เป็นบทบัญญัติที่มาจากพระผู้เป็นเจ้าผู้ซึ่งรู้ธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างดีและหวังดีต่อมนุษย์ โดยธรรมชาติแล้วทั้งร่างกายของสตรีถือเป็นส่วนเย้ายวนต่อเพศตรงข้าม ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าจึงได้บัญญัติให้ทั้งร่ายกายของสตรีถือเป็นส่วนพึงสงวน(เอาเราะฮฺ) ที่ต้องปกปิด ยกเว้นหากจะเปิดก็อนุญาตให้เปิดได้เฉพาะใบหน้าและฝ่ามือ ส่วนสำหรับผู้ชายนั้น ส่วนพึงสงวนที่ต้องปกปิดก็คือบริเวณตั้งแต่สะดือลงไปถึงหัวเข่า โดยไม่มีการจำกัดว่าเครื่องแต่งกายนั้นจะเป็นชุดของวัฒนธรรมใดหรือชาติใด แต่หากต้องการจะได้รับผลบุญมากขึ้นก็ให้แต่งกายซึ่งเป็นรูปแบบที่นบีมุฮัมมัดเคยสวมใส่ไว้เพื่อเป็นการแสดงความรักที่มีต่อท่านนบี และเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชาวมุสลิม ซึ่งกฎระเบียบเรื่องการแต่งกายทั้งหญิงและชายก็ล้วนมาจากบทบัญญัติของอัล-กุรอานและหะดีษทั้งสิ้น ดังนั้นไม่ใช่ว่าการที่มุสลิมแต่งกายมิดชิดนั้นเป็นเพราะวัฒนธรรมหรือประเพณีของชาติใดหรือท้องถิ่นใด แต่มันเป็นการแต่งกายตามบัญญัติศาสนา

แต่สำหรับสตรีส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และบรูไนนั้นมีการแต่งกายที่ผิดหลักการศาสนา เช่น คลุมศีรษะแต่สวมเสื้อผ้ารัดรูป หรือคลุมศีรษะไม่มิดชิดเปิดผมและคอ หรือบ้างก็คลุมศีรษะแต่สวมเสื้อผ้าบางๆ และยิ่งในยุคปัจจุบันมีการคลุมศีรษะแต่สวมเสื้อเอวลอย..! ทำนองนี้เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นการแต่งกายที่ผิดหลักศาสนา และทำให้คนต่างศาสนิกมีความเข้าใจเรื่องการแต่งกายของมุสลิมแบบผิดๆไปด้วย

ในสังคมปัจจุบันได้มีมุมมองที่แสนจะไร้เหตุผลว่า การที่ให้สตรีคลุมผมคลุมหน้าและแต่งกายมิดชิดนั้นเป็นการกดขี่สตรี! หรือเป็นการปิดกั้นสิทธิของสตรี! ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ขัดกับความเป็นจริงและสามัญสำนึกของมนุษย์ เพราะมนุษย์เราทุกคนก็รู้ดีว่าสตรีที่มีเกียรติคือคนที่รักนวลสงวนตัว มีกิริยาที่สุภาพและมีการแต่งกายที่เรียบร้อย ดังนั้นการปกปิดเรือนร่างของสตรีก็เป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าร่างกายของสตรีนั้นมีเกียรติ เป็นสิ่งพึงสงวนปกป้องปกปิดแม้จะเป็นแค่สายตาก็ตาม ส่วนผู้ชายคนไหนก็ตามที่บอกว่าการแต่งกายมิดชิดเป็นการกดขี่สตรีนั้นถือว่าเขาพูดโกหก! เพราะจริงๆแล้วมันเป็นการปิดกั้นโอกาสในการมองของเขามากกว่า! และสตรีคนไหนก็ตามที่บอกว่าการแต่งกายมิดชิดเป็นการปิดกั้นสิทธิสตรี จริงๆแล้วมันเป็นการปิดกั้นสิทธิในการทำชั่วนะค่ะเพราะการที่เราเปิดส่วนพึงสงวนนั้นก็เท่ากับว่าเราไปเย้ายวนให้ผู้ชายนั้นเกิดตัณหา

ดังนั้นเป็นที่พิสูจน์ได้แน่นอนแล้วไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยว่า เรือนร่างของสตรีนั้นก่อความวุ่นวายให้แก่สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเห็นได้ในข่าวทุกๆวันว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมก็คือตัวสตรีเอง ซึ่งความจริงมันได้ปรากฏให้เห็นว่าประเทศที่ปกครองด้วยกฎหมายอิสลามอย่างสะอุดีย์อาระเบียนั้นในรอบปีไม่มีข่าวอาชญากรรมทางเพศเลย (รวมทั้งอาชญากรรมอื่นๆด้วย) เพราะกฎหมาย อิสลามมีบทลงโทษที่เด็ดขาด แต่หากมีข่าวเกี่ยวกับการข่มขืนกระทำชำเราเมื่อไหร่ นั่นจะเป็นข่าวดังในรอบ 2-3 ปีของประเทศเขาเลยทีเดียว ซึ่งต่างจากประเทศไทยเราที่มีข่าวเหล่านี้ปรากฏแทบทุกวัน นั่นก็เพราะการแต่งกายที่แตกต่างกันนั่นเอง และสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ประเทศสะอุดีย์อาระเบียมีความสงบสุขกว่าไทยหลายเท่า ก็เพราะกฎระเบียบในการปกครองและความเชื่อทางศาสนา

ปล.ใครสงสัยถามได้เลยนะค่ะ

0
นัทสริห์ 5 ธ.ค. 52 เวลา 18:23 น. 18

คห6คับ
คุนมาพูดว่าชาวอิสลามมันทำกันทุกข้อห้าม
แล้วศาสนาอื่นล่ะรึอย่างตัวคุนก้อเหนยังทำกันทุกข้อห้ามเหมือนกันรึว่าไม่จิง
ก่อนว่าคนอื่นส่องกระจกดูตัวเองก่อนเหอะคุน
ทามรายไว้บ้างแต่ละวันอ่ะคับ
มันขึ้นอยู่กับตัวของเราเองมากกว่าคับ

0
mamo-hony 14 ต.ค. 53 เวลา 14:10 น. 19

บางคนในอิสลาม เขาก็ไม่เคร่ง
แต่พวกคุณกรุณาอย่าเหมารวม
และกล่าวว่าให้ศาสนาเสียหาย

0
มะลิ ชบา 19 ก.ค. 55 เวลา 13:37 น. 20

คนในศาสนาอิสลลาม จะมีคนที่เคร่งศาสนากับคนที่ไม่เคร่งศาสนาค่ะ จนที่เคร่งศาสนาก็จะไม่ปฎิบัติตามข้อห้องของศาสนาเลย ถึงนับว่าดีมากก เลย ค่ะ

ส่วนคนที่ถามว่า ศาสนาอิสลามย้ายศาสนาไม่ได้หรอ ถ้าย้ายไปคงไม่ดีมากกเลยล่ะค่ะ เพราะ ถ้าได้มาเรียนรู้ศาสนาอิสลาม และ เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วคุณจะไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนศาสนาเลยล่ะ ค่ะ

เช่น ที่พระเจ้าสร้างเรามา เพื่อให้เราสักการะและเคารพภักดีต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น โลกดุนยา(โลกนี้)ก็แค่ทางผ่าน เพื่อที่พระองค์จะลองทดสอบใจของบ่าวของพระองค์ว่าภักดีกับพระองค์แค่ไหน และเมื่อถึงวัน (กิยามะห์)วันสิ้นโลก ทุกสรรพสิ่งจะดับสูญทุกคนจะกลับไปรวมใจที่ๆเดียวกัน และตัดสินความดีความชั่วของทุกคน คนที่ทำความดีและภักดีกับพระองค์จะได้เข้าสวรรค์ไป ส่วนคนที่ปฎิเสธและทำความชั่วโทษของเขาคือลงนรก ตลอดกาลเช่นเดียวกัน ส่วนคนที่มีกาลีเมาะชาฮาดะฮ์ คือการกล่าวปฎิญานตน และเขาทำความชั่ว เขาจะชดใช้ความผิดในนรกจนหมดแล้วเขาจะได้ขึ้นสววรค์ อยากให้ทุกคนลองศึกษาศาสนาอิสลามให้ถ่องแถ้และ เข้าใจ
มันจะเป็นผลดีต่อทุกคน

*ทุกคนไม่สงสัยหรอขนาดบ้านเรือน ตึก ยังมีคนสร้าง แล้ว โลกนี้ มนุษย์ แล้วทุกสิ่ง ทุกอย่างจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไรถ้าไม่มีใครสร้างขึ้นมา แล้วทำไมโลกไม่ชนกัน แล้วทำไมดวงดาวต่างๆๆ ถึงไม่ชนกันล่ะ ถ้าไม่มีคนบรรดาล บริหาร อยากให้ทุกคนลองนึกให้ดีๆๆๆ แล้วลองศึกษาศาสนาอิสลาม ให้ถ่องแท้แล้วคุณจะเข้าใจทุกอย่าง แล้วยัง อย่างอื่นอีก ทุกคนไม่สงสัยกันบ้างหรออ

0