ผมขอแย้งคำตอบของ ดร. อุทุมพรครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
จากคำถามที่ว่า
้ข้อใดเป็นการแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียนได้ดีที่สุด
1. หยุดเรียนไประยะหนึ่งเพื่อคลอดลูก
2. ทำแท้งเพราะไม่สามารถเลี้ยงลูกได้
3. ลาออกจากโรงเรียนแล้วหางานทำเพื่อลูก
4.แจ้งความเพื่อหาผู้รับผิดชอบ
ข้อนี้ ดร. ท่านตอบ ข้อ 1
แต่ในความคิดของผม
ข้อ 4 เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าตอบนะครับ
ถ้าเราแจ้งความ เรามีโอกาสที่จะชนะคดีนะครับ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 บัญญัติว่า
“ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบ ห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000 ถึง 20,000 บาท”
ความผิดฐานพรากเด็กหรือพรากผู้เยาว์ เป็นการพาเด็กหรือผู้เยาว์ไป หรือแยกเด็กหรือผู้เยาว์ออกไปจากความปกครองดูแลของบิดามารดาหรือผู้ปกครอง ของเด็กหรือผู้เยาว์นั้นโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองของเด็กหรือผู้เยาว์
หากการพรากเด็กหรือผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร เช่น พาไปกอดจูบลูบคลำ ผู้นั้นจะต้องได้รับโทษหนักยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากมีการร่วมประเวณีหรือมีเพศสัมพันธ์กัน ผู้นั้นจะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาข่มขืนกระทำชำเราอีกข้อหาหนึ่ง ซึ่งมีโทษหนักมาก
ตรงนี้สำคัญครับ
แม้ผู้เยาว์นั้นจะยินยอมไปด้วย ผู้ที่พรากก็ต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000 บาท ถึง 20,000 บาท”
เช่น แดงพบเด็กหญิงเขียวจึงชวนไปเที่ยวค้างคืนที่พัทยา โดยไม่ได้ขออนุญาตจากบิดามารดาของเด็กหญิงเขียว แม้แดงจะไม่ได้ล่วงเกินเด็กหญิงเขียวก็ตาม ถือว่าแดงมีความผิดฐานพรากเด็กไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันสมควร หากแดงล่วงเกินทางเพศเด็กหญิงเขียว แดงจะต้องได้รับโทษที่หนักขึ้น
ถ้า ความผิดตามมาตรานี้ได้กระทำเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และ ปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท"
ผู้เสียหายอายุ 13 ปีเศษ หลบหนีออกจากบ้านมาอยู่กับจำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบิดา จำเลยพาผู้เสียหายไปห้องอาหาร ใส่ชุดว่ายน้ำเพื่อออกไปเดินโชว์ จำเลยจะมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจารหรือไม่ ศาลฎีกาได้วินิจฉัยเป็น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2543 ว่า
ผู้เสีย หายหลบหนีออกจากบ้านมาอยู่กับจำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบิดา แต่ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายมีอายุเพียง 13 ปีเศษ อยู่ในอำนาจปกครองของบิดา จำเลยได้พาผู้เสียหายไปตามห้องอาหารต่าง ๆ โดยบิดาผู้เสียหายมิได้ยินยอมด้วย เป็นการล่วง อำนาจปกครองของบิดาผู้เสียหาย แม้ผู้เสียหายจะสมัครใจยินยอมไปกับจำเลย ก็ถือไม่ได้ว่าได้รับความยินยอมเห็นชอบจาก บิดา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการพรากผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดาแล้ว ทั้งการเดินโชว์ ชุดว่ายน้ำของเด็กหรือการต้องยอมให้แขกผู้ชายที่มาเที่ยวจับหน้าอกในห้อง อาหารต่าง ๆ ถือได้ว่าเป็นการพรากเด็กไป โดยปราศจากเหตุอันสมควรเพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร
ส่วนข้อ 3 ก็พอจะทำได้นะครับ คนท้องก็มีโอกาสที่จะหางานได้นะครับ ทำประเภท Call Center หรืออะไรที่นั่งอยู่กับที่ก็ได้ครับ
ผมคิดว่า เรามีโอกาสชนะคดีนะครับ หากแจ้งความ เพราะรายละเอียดปลีกย่อยลึกกว่านี้เรามิอาจรู้ได้
ลองดู คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7820/2549 กรณีคล้ายกันครับ
ผมโพสต์ไว้ที่ ความเห็นที่ 19
อีกประเด็นนึงนะครับ เรื่องข้อสอบ
เพราะเห็นว่า ต้องการจะแยกนักเรียนที่เก่งและไม่เก่งออกจากัน ป้องกันการสุ่มเดา
แต่ในความเป็นจริง คนที่มีความรู้จริงๆ และสามารถทำข้อสอบลึกๆ (อย่างเช่น สังคมศึกษาที่มีให้ตอบหลายตัวเลือก) มีจำนวนน้อย
แต่ คนที่พอจะรู้บ้าง และคนที่ไม่รู้เลย มีจำนวนมาก
ดังนั้น หากต้องการจะแบ่งแยกนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ
ซึ่งในที่นี้ มีการแย่งแยกโดยใช้คะแนนเป็นตัววัด คือ ได้คะแนน และไม่ได้คะแนน
กลุ่มนักเรียนที่ใช้เกณฑ์นี้แยกออกมาควรจะมีจำนวนเท่าๆกัน
แต่กลับกลายเป็นว่า
คนที่รู้ลึก ซึ่งคิดเป็นส่วนน้อยมาก จะได้คะแนน
ส่วนคนที่รู้เกือบลึก คนที่พอรู้ คนที่พยายามทำ คนที่ไม่ทำ คนที่มั่ว กลับไม่ได้คะแนน เหมือนกัน
แล้วจะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์แบ่งการวัดของนักเรียนกลุ่มหลังนี้ครับ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2553 / 23:49
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553 / 00:10
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553 / 00:23
59 ความคิดเห็น
เห็นด้วยครับ เพราะอันที่จริงแล้ว การหยุดเรียนไประยะหนึ่งเพื่อคลอดลูก ก็เท่ากับการลาออกดีๆ นี่เอง จะมีใครไหมครับที่ลอดลุกเสร็จจะกลับไปเรียนในโรงเรียนได้เหมือนเดิม?
เค้าเอาที่ "ดีที่สุด"
มีสติหน่อยๆ
ข้างล่างนี่ผมโพสต่อหลังจากโดน จขกท. และ คห.9 ถามและแย้งว่า
ดีที่สุดมันเป็นไง
ผมก็สงสาร ม.6 ปีนี้ เหมือนกันคับ แต่อันไหนถูกผมก็ว่าไปตามถูก
ใครก็ได้ช่วยโพสสถานการณ์เต็มๆ หรือเกือบเต็มให้ทีนะคับ พอดีไม่ได้สอบ
จำโจทย์ไม่ได้ คร่าวๆว่าเที่ยวกลางคืน มีเพื่อนชายมาติดพัน
สิ่งที่ควรทำก็คือหยุดเรียนไปคลอดลูกไม่ใช่หรอ
ไปแจ้งความแบบ จขกท. แล้วเรียนทั้งๆที่ท้องป่อง ???
เห็นไหมว่ามันไม่ได้
แต่ๆๆๆ ถ้าหยุดเรียนไปคลอดลูก แล้วไม่แจ้งความ << ก็ทำได้ใช่ไหมละ
(โจทย์ให้เลือกอันแค่อันเดียวนะ)
ผมอยากจะยกตัวอย่างดังนี้
ข้อสอบพื้นฐานแพทย์ของ กสพท. พาร์ท 2 จริยธรรม
ข้อสอบประมาณที่ จขกท. ยกมานั่นแหละ กำกวมกว่าด้วยซ้ำ
ใครไปสอบมาก็คงรู้ ใน 1 ข้อ มีข้อถูกหลายช้อย
แต่ละช้อยคะแนนลดหลั่นกันลงไป ซึ่งแน่นอนว่ามีช้อยนึงคะแนนเยอะสุด
ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าช้อยนั้นเค้าเอาอะไรมาวัด
ใช้มาเกิน 3 ปี ไม่เห็นจะมีใครเรียกร้องเป็นเรื่องราวใหญ่โต
ก็เพราะว่ามันพอรับได้ไงคับ
แต่อย่างข้อผ้าปูโต๊ะเงี้ย มันไม่ใช่แล้ว สมควรเรียกร้อง ที่ ม.6 ทำกันอยู่ก็ถูกต้องแล้ว
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553 / 00:31
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553 / 00:33
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553 / 00:35
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553 / 00:34
แก้ไขครั้งที่ 5 เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553 / 00:42
แล้วคุณรู้ได้อย่างไร ว่าอันไหนดีที่สุดครับ
มีสติหน่อยครับ ที่ผมมาโพสต์นี่ไม่ใช่ว่าผมไม่มีที่เรียนนะครับ ผมติดสอบตรง โควตาต่างๆหลายที่เหมือนกันนะครับ แต่ผมสงสารเพื่อนๆ และมาตรฐานของข้อสอบครับ
ความคิดของคนเรานั้นต่างกัน
คุณเอาอะไรมาเป็นตัววัดครับ ว่ามันดีที่สุด
ในเมื่อเราไม่รู้สถานการณ์ที่แน่ชัด
และผมขอถามว่า คำตอบข้อที่ 1 มันดีกว่าข้อที่ 4 ตรงไหนครับ
สมมติว่า ในกรณีที่ 4 เราสามารถชนะคดี แต่เรากลับไม่ทำ เรากลับลาออกไปคลอดลูก แล้วไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2553 / 23:55
รู้สึกว่าเนติบัณฑิตจะมาเอง
แน่นมากกก
ปัญหาที่แท้จริงคือโจทย์ไม่ได้ระบุสถานการณ์มาชัดเจนครับ
เช่น
1.โจทย์ไม่ได้ระบุว่าโดนข่มขืนหรือสมยอม
2.โจทย์ไม่ได้ระบุว่าเป็น นร.ชั้นใด
3.โจทย์ไม่ได้ระบุถึงสถานภาพทางบ้านของ นร. เช่น ฐานะของครอบครัว ความคิดเห็นของผู้ปกครอง
แจ้งความโลด!!!
คห.5 ถูกต้องที่สุด
PS. IกSดไม่ได้วัดค่าความเปงคน
นี่หรอ ที่พวกแกเรียกว่าบันฑิต
แถเข้าไปๆ แถยิ่งกว่าอุทุมพรอีก เอาเข้าไป
อยากจะชนะนักนี่ เค้าเฉลยแทนที่จะยอมรับ ชนะแล้วไง
"ดีที่สุด" ของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ
A ชอบสีแดง"ที่สุด", B ชอบสีเหลือง"ที่สุด", C ชอบสีน้ำเงิน"ที่สุด"
อ้าว แล้วยังไง? แสดงว่าสีอื่นไม่สวยเหรอ? ถ้างั้นก็ควรจะล้มๆมันทิ้งจากระบบไปสิ งั้นเหรอคะ?
ส่วนตัวแล้วเราเลือกตอบข้อ 1
แต่คิดว่าเ้จ้าของกระทู้คิดได้มีหลักการมากๆค่ะ
เพราะถ้าหากข้อมูลที่นำมาชี้แจงถูกต้องเป๊ะทุกอย่าง เราคิดว่า.. ข้อสี่น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดมากกว่าอ่ะค่ะ
อย่างน้อยมันก็ดีกว่าการลาออกไปคลอดลูกที่เจ้าตัวยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะเลี้ยงดูด้วยตนเองล่ะนะ...
ปล. นอกเรื่องนิดหน่อย แต่ขอปรบมือให้เจ้าของกระทู้สำหรับข้อมูลค่ะ ไม่เคยคิดถึงด้านนี้มาก่อนเลย (ฮา)
ปล๒. ความเห็นส่วนบุคคลค่ะ แย้งได้ แต่ขอแบบสร้างสรรค์นะคะ :))
PS. who knows what miracles.. you can achieve. when you believe somehow you will, you will when you believe :)
คห. 8 ครับ
ผมไม่ได้ไม่ยอมรับคำเฉลยนะครับ ผมเองเป็นนักเรียนนะครับ ไม่มีสิทธิที่จะไปแก้ไขคำตอบที่ออกมาอยู่แล้ว
แต่ที่ออกมาแสดงออกแบบนี้ เพราะต้องการให้สังคมรู้จักมองหลายๆด้าน
ให้รู้ว่า บางคำถาม ไม่ได้มีคำตอบที่ดีที่สุดเพียงคำตอบเดียว
และไม่ควรใช้ความคิดของคนออกข้อสอบเป็นตัวกำหนดคำตอบ
เพราะมันเป็นข้อสอบที่วัดการวิเคราะห์ แต่กลายเป็นว่าต้องวิเคราะห์ให้ตรงกับผู้ออกข้อสอบ
กลายเป็นว่า ประเทศเราจะได้คนที่มีความคิดด้านเดียว มองทุกอย่างเหมือนกันหมด
แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป
จขกท น่ะ ผิดแล้วครับ
ถ้าเด็กอายุเกิน 15 ปีก็ไม่เข้ามาตรานี้
15 ปีก็ ม.3 2 1  ต่ำกว่านี้ก็ ป.6 ไม่น่าอยู่ในข่ายการตั้งครรภ์
กว่า 15 ก็ ม. 4  5  6    ปี 1 2 3 4
ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 15+
ดังนั้นไม่อาจแจ้งความ หรือ ฟ้องศาลได้ครับ (ในกรณีที่ผู้เยาว์ยินยอม)
ฉะนั้น ข้อ 4 ใช้ไม่ได้เสมอไปครับ และอาจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด เพราะการแจ้งความคดีอาญาอาจทำให้ผู้ต้องรับโทษมาทำร้ายผู้เสียหายได้
ฉะนั้นจึงไม่ใช่คตอบที่ดีที่สุด
เพราะถ้าเราไม่แจ้งความคดีอาญา เรายังสามารถฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งให้ผู้เป็นบิดาที่แท้จริงรับเด็กเป็นบุตรได้ด้วยการตรวจดีเอ็นเอ เมื่อปรากฏว่าเป็นบุตรแล้ว บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เอ่อ.... ทะเลาะกันเองแล้วจะได้อะไรดีขึ้นมาล่ะครับ
ตามความเห็นผมคือโจทย์น่ะแหละที่ผิดเอง เพราะโจทย์เชิงวิเคราะห์ควรอย่างยิ่งที่จะต้องชี้แจงระบุถึงสถานการณ์ต่างๆให้ชัดเจน
โดยที่สถานการณ์ทุกๆอย่างที่เรามองข้ามไปก็ล้วนมีผลเปลี่ยนแปลงคำตอบทั้งนั้น
ปล.แสดงความเห็นได้ ติได้ แต่ขอเชิงสร้างสรรค์กันนะครับ
ถูกๆๆๆ ถูกอย่างมีหลักการไม่ใช่พูดไปเหมือนใครบ้างคน
ต้องเจอของจริงแบบนี้!!
เจ๊ประเมินเด็กว่าไงหรอ โง่มากหรอที่จะเชื่อที่เจ๊พูดน่ะ -*-
ตอนฟังแล้วเหมือนกุโคต รกลวงเลย
พูดกันไปพูดกันมา เข้าไปเรื่อง กฏหมายกันนุ้นละ
เห้อ  !!  ทำเรื่องง่ายเป็นเรื่องยากกันไปทำไม
ลองดู คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7820/2549 กรณีคล้ายกันครับ
ผู้เสียหายเป็นผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี การที่จำเลยพาผู้เสียหายไปและกระทำชำเราผู้เสียหายโดยผู้เสียหายยินยอมนั้น จำเลยมิได้รับอนุญาตจากบิดามารดาและผู้ปกครองดูแลผู้เสียหาย จึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 319 วรรคหนึ่ง
การพรากผู้เยาว์กฎหมายบัญญัติเป็นความผิดไม่ว่าผู้เยาว์จะเต็มใจไปด้วย หรือไม่ แม้ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 318 ก็ตาม แต่ศาลฎีกาก็มีอำนาจลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 319 วรรคหนึ่ง ที่พิจารณาได้ความได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215 และมาตรา 225
ดูการตัดสินของศาลฏีกา ในกรณีนี้นะครับ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยกระทำชำเรา จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราทั้ง 2 ครั้ง และเมื่อฟังว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยกระทำชำเราแล้ว การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดฐานพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและฐาน พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วยตามคำพิพากษาของศาล อุทธรณ์ด้วย อย่างไรก็ตามการที่จำเลยพาผู้เสียหายไปและกระทำชำเราผู้เสียหายโดยผู้เสีย หายยินยอมให้จำเลยกระทำชำเรานั้น จำเลยก็มิได้รับอนุญาตจากบิดาและพี่ชายผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ ปกครองดูแลผู้เสียหายให้พาผู้เสียหายไป จึงเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคหนึ่ง ซึ่งแม้โจทก์จะมิได้ระบุอ้างบทมาตราดังกล่าวมาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่ศาลฎีกาก็มีอำนาจลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายดังกล่าวที่พิจารณาได้ความนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215 และมาตรา 225 ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์บางส่วน ส่วนที่โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ความผิดฐานพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284 กับความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารตามมาตรา 318 วรรคสาม เป็นความผิด 2 กรรมต่างกันนั้น เมื่อได้วินิจฉัยแล้วว่าการกระทำของจำเลยเป็นเพียงความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไป เพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา 319 วรรคหนึ่ง เท่านั้น ปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นประโยชน์ที่จะต้องวินิจฉัยต่อไป เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคหนึ่ง จำคุก 2 ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน ข้อหาอื่นให้ยก.
ลองคิดในสภาพจริงนะครับ ใครที่ไหนจะยินยอมและอนุญาตให้ลูกตัวเองโดนคนอื่นพาไปกระทำชำเรา
แต่เหมือนอันเก่าๆเขาก็มีพูดๆกันเรื่องช้อย4ข้อนี่เหมือนกันครับ กฎหมายด้วยมั้ง
คุณอุทุมพรแกดริฟท์เก่งครับ แชมป์ดริฟท์แม่ฮ่องสอนแน่ๆ(น่าจะเอาไปทำหนังแข่งกับภาพยนตร์บางเรื่อง)
คำตอบของเขาแก่สังคมเหมือนมีคำแถกแทบทั้งหมด(เรื่องมาตรฐานข้อสอบน่ะครับ เหมือนเขาจะย้ำจังว่าโรงเรียนมันผิด)
..ไม่ขอใช้แถนะครับมันน้อยไป
ปล. เลขไอพี 113.53.54.45 คุ้นๆเหมือนจะเคยเห็นแถวกระทู้ล่างๆ
PS. หยดเลือดรินอาบไหล กับลมหายใจที่ถึงคราวสิ้นสุด ทุกอย่างคือจุดเริ่มของเรื่องมากมาย แสนวุ่นวายและสับสน เกี่ยวกระหวัดเป็นเรื่องราว ..สู่ปมแห่งชีวิตเบื้องหลังคราวหมดลม..(The Whisper เสียงกระซิบแห่งภูต)
เปิดตำรามาถกเถียง มันส์ กันเลยทีเดียว
แอดไปเมื่อปีที่แล้ว
แต่ยอมรับเลยว่าครั้งแรกที่เห็นข้อสอบจากข่าวก็ตอบข้อสี่
เพราะจากชีวิตจริงส่วนใหญ่ ถ้าผู้ชายไม่ยอมรับ(จากข้อสอบที่ผู้ชายให้ไปทำแท้ง แปลว่าน่าจะไม่รับนะ)
พ่อแม่ฝ่ายหญิงมักจะแจ้งความ เพื่อให้ผู้ชายมารับผิดชอบ หรืออย่างน้อยๆ ก็ร้องเรียกค่าเสียหาย
ส่วนหยุดเรียนไปลาคลอดอ่ะ ครั้งแรกที่ฟัง มันเหมือนกับหยุดชั่วคราว หรือคลอดแล้วกลับมาใหม่
แต่เท่าที่เคยเห็น จะมีแต่ออกแล้วออกเลยนะ
แล้วอีกข้อนึง คนท้องทำงานได้มีถมเถไปอ่ะ
เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่มีเหตุผลที่มีน้ำหนักมากพอ ก็อย่าแถเถอะ
คนเราต่้างมีเหตุผลเพื่อรองรับการติดสินใจของตัวเองทั้งนั้น
ถ้าคุณไม่ดูเฉลยมาก่อน จะตอบได้ไหม????
สรุปคือคนออกข้อสอบ "ง่าว"
ไปตายซะ!!!!!
PS. ^^ ฉันคงไม่กล้ารักใครเท่าเธออีกแล้ว ....รู้แล้วว่าเจ็บเจียนตาย...เธอเลือกที่จะทิ้งสิ่งที่ฉันมีให้ไปเอง ลาก่อนที่เคยรักกัน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?