รู้จักไหม?? NEET ปัญหาใหญ่ในอนาคต
ไปจีนเมื่อปีก่อน ผมพบคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังสร้างปัญหาให้รัฐบาลกลาง
คนกลุ่มนี้คือ NEET ซึ่งนิตยสาร China Newsweek ให้ความสำคัญโดยนำเสนอเป็นเรื่องใหญ่
NEET นี่เป็นอักษรย่อของ Not in Education, Employment or Training หรือแปลเป็นไทยง่ายๆว่า กลุ่มคนในวัยแรงงานที่ไม่อยู่ในระหว่างศึกษา ทำงาน และอบรม
China Newsweek บอกว่าพวกนี้คือ"คนว่างงานด้วยความสมัครใจ" !!!
ความจริงแล้ว NEET นี่แพร่หลาย(มาก)ในประเทศญี่ปุ่น ที่เรียกตามภาษาตัวเองว่า"อิสรชน" (Freeters) เป็นเด็กที่มาจากครบอครัวมีฐานะ(ดี) โดยเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 20 ปีก่อนหลังฟองสบู่เศรษฐกิจญี่ปุ่นแตก โดยสื่อในญี่ปุ่นให้ความหมายของ"อิสรชน"ว่า หมายถึงหนุ่มสาววัย 15-34 ปี ผู้เลือกที่จะไม่ทำงานประจำทั้งๆที่มีตำแหน่งว่างอยู่ แต่หันไปทำงานชั่วคราว อย่างเช่น พนักงานขาย หรือ งานในภาคบริการที่ให้ค่าตอบแทนเป็นรายชั่วโมง หรือ รายวันมากกว่า
สถาบันวิจัยนโยบายการศึกษาญี่ปุ่น แบ่ง"อิสรชน"ของญี่ปุ่นไว้เป็น 3 ประเภท คือ ประเภทรักความอิสระและความสบาย ประเภทไล่ตามความฝัน และประเภทอับจนหนทาง
แต่ที่เมืองจีน "เจียงจงเหลียน" สมาชิกวุฒิสภาจีนบอกว่า พวกนี้คือ"กลุ่มผู้ตกงานประเภทใหม่"
"เจียงจงเหลียน" ระบุว่า NEET ของจีน มีลักษณะเฉพาะตัว โดยหมายถึงคนอายุ 15-34 ปี ที่ยังไม่แต่งงาน และยังพึ่งพา"พ่อ-แม่"ในเรื่องที่อยู่อาศัย ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต(แถมบางคนยังยินดีที่จะเกาะแฟนกิน)
วุฒิสมาชิก รายนี้ระบุว่า NEET ในแบบจีนแบ่งเป็น 3 ประเภทเช่นกันคือ ประเภทที่ไม่ยอมทนความลำบากในการทำงาน(ไม่มีความอดทน)จึงเลือกที่จะอาศัยอยู่กับพ่อ-แม่ ประเภทที่ 2 คือประเภทที่ไม่มีทางเลือก (หรือไม่ยอมเลือก) ซึ่งมีทั้งพวกได้รับการศึกษาน้อยจึงหางานทำไม่ได้ หรือได้รับการศึกษาสูง จึงเลือกงานให้ตรงกันที่เรียนและยังเลือกไม่ได้(จึงสมัครใจว่างงาน) และประเภทที่ 3 คือเป็นกลุ่มที่มีการศึกษา(สูง) รักความสะดวกสบาย เลือกไล่ตามความฝัน โดยหากไม่ได้งานที่ตรงกับความคาดหวังก็จะยินดีไปทำงานบริการที่จ้างงานชั่ว คราวต่างๆ โดยยอมแม้กระทั่งเป็น"แม่บ้าน"ให้ผู้ชายที่ยินดีเลี้ยงดูตนเอง
"เจียงจงเหลียน" ชี้ให้เห็นว่า NEET กำลังจะเป็นปัญหาที่สำคัญของสังคมจีนในอนาคต และเหตุผลสำคัญ(อย่างหนึ่ง)ของการเกิดคนกลุ่มนี้ มาจากนโยบาย"ลูกคนเดียว" จนทำให้เด็กพวกนี้กลายเป็นพวกไม่สามารถดูแลตัวเองได้ หรือถ้าเมืองไทย เราจะเรียกว่า พวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
ดร.หลี่เทียนกั๋ว นักวิจัยด้านแรงงาน กล่าวถึงคนพวกนี้ว่า การที่กลุ่มคนเหล่านี้ได้รับการศึกษาแต่ไม่ยอมทำงาน จึงถือเป็นความสูญเสียของสังคมและของประเทศโดยรวม
ตอนเดินที่ ปักกิ่ง พรรคพวกบอกว่า หนุ่มสาวที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ในภัตตาคารหรือร้านกาแฟ คือNEET ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันว่า เป็นปรากฏการณ์ของสังคมโลก หรือเป็นปัญหาของสังคมกันแน่
ชาวเด็กดีล่ะ อนาคตจะเป็น NEET หรือเปล่า???
เครดิต:oknation.net
PS.
สาย ตาจับจ้องที่ดวงดาว และเท้ายังคงติดดิน
15 ความคิดเห็น
เย้...เม้นคนแรก (โดนเจ้าของกระทู้ สกรัมบาทา)
เอ่อ...เรื่องนี้อ่านแล้วคิดไปคิดมา ท่าทางเราจะเข้าเค้าแฮะ
คนว่างงานน
PS. "ไม่มีพรสวรรค์ ไม่มีทางลัด การจะเป็นที่ 1 ได้นั้นไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินความพยายาม" MoO+Nidnoi
/me โดนตื้บข้อหาขุดกระทู้ =[]=!
PS. 小野 小町 [Ono no Komachi]
โดนเต็มๆ
นีทรายงานตัวคับ
เราว่ามันเป็นปัญหาของโลกนะ ไม่ใช่อค่ปรากฏการณ์หรอก ประเทศไหนเกิดมันก็ต้องดูพื้นฐานของประเทศนั้นด้วย สมมุติว่าญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นอาจเพราะเรื่องของการใช้ชีวิต เทคโนโลยีสูงและสะดวกสะสบายอะไรๆก็ง่ายไปหมดเลยทำให้คนที่โตมาแล้ววันหนึ่งต้องออกจากตรงนี้ เขาเลยไม่อยากออกมา กลายเป็นพวกว่างงานแทนไม่ก็ตั้งเป็นชมรม
ประเทศไทยเองก็มีสิทธิเกิดสูงเพราะเด็กเดี๋ยวนี้ล้วนสะดวกสบายไปหมดเลยกลายเป็นว่าเสียนิสัย อีกทั้งคนไทยเป็นคนง่ายๆ เรื่อยๆ เปื่อยๆ ปัญหา neet อีกรูปแบบเลยเกิดขึ้นที่ไทย
อันนี้เราวิเคราะห์เองนะ
อยากเปน neet จำพวกคนรวยก้อไม่เลว // โดนตบ
เก็ตอย่างถ่องแท้แล้วว แต้งมากค่า
เป็นNEETอยู่ในตอนนี้' 'เดสสึ
ไม่นะ คำว่าNEETบนโลกของเราคือ การเก็บตัว ไม่ออกจากบ้านหรือทำอะไรเลย หมายความว่า เป็นพวกไม่ชอบ/ไม่กล้าเข้าสังคมดีๆนี่เอง เช่น การไปพรีเซ๊นต์งานก็ไม่กล้าที่จะออกไป ไม่กล้าจะสบตาผู้คนมากๆรอบๆกาย เป็นสาเหตของการที่ทำให้เก็บตัวไม่ออกจากบ้านรแค่นั้นเอง การเป็นNEETก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรสำหรับเราเลย เราก็เคยเป็นNEETอยู่พักนึงนะ ไม่ได้หนักหนาอะไร ไม่ได้กระทบต่อสังคมใดๆเลยล่ะ
ปล.ความคิดส่วนบุคคล แล้วแต่คนจะคิดอ่ะค่ะ
สมองมีรอยยักเพิ่มขึ้นทันที ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ
........... ตอนแรกก็กลัวสังคมนะ กลัวเเบพวกโอตาคุ แต่ปัจจุบันคือ NEET แล้ว
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?