จิตแพทย์ชี้เด็กเป็นโรคเครียด การบ้านเยอะ
จิตแพทย์ชี้เด็กเป็นโรคเครียด เหตุครูสั่งการบ้านเยอะแถมยากบวกกังวลครอบครัว แนะครูลดปริมาณการบ้าน ผู้บริหาร สพฐ.แจงมีระเบียบคุมเข้ม เฟ้นหาร.ร.สอนเยี่ยม-การบ้านน้อยเป็นแบบอย่างให้ร.ร.ทั่วประเทศ ระบุหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับปรับปรุงให้เด็กทุกระดับชั้นเรียนน้อยลง ส่งผลการบ้านลดลง
นพ.จอม ชุมช่วย จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กเป็นโรคเครียดมากขึ้น สาเหตุหลักเกิดจากปัญหาครอบครัว และส่วนหนึ่งเกิดจากการเรียน โดยเฉพาะเรื่องของการบ้านในแต่ละรายวิชา บางรายวิชานั้นเยอะจนเกินไปและยังยากอีกด้วย อาจจะส่งผลให้เด็กเครียด บางครอบครัวพอตรวจสอบตารางการบ้านพบว่าใช้เวลาทำการบ้านเกือบ 3 ชั่วโมง ทำให้เด็กไม่มีเวลาพักทั้งที่เมื่อเลิกเรียนก็อยากจะเล่นสนุกเป็นอิสระ
นพ.จอม กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กเครียดนั้นมีปัจจัยหลัก คือ 1.การเรียน เช่น ครูอาจจะสั่งการบ้านเยอะเกินไป หากแต่ละวันครูสั่งการบ้านมากถึง 5 วิชา เด็กก็อาจจะเครียด และอาจจะเกิดจากถูกครูดุ รวมไปถึงความสัมพันธ์กับเพื่อนในโรงเรียน เช่น โดนเพื่อนแกล้ง 2.เด็กวิตกกังวลว่าพ่อแม่ไม่รัก รักคนอื่นมากกว่าตนเอง กลัวว่าพ่อแม่ทะเลาะกันและจะแยกทางกัน
นพ.จอม กล่าวต่อไปว่า ความเครียดของเด็กแบ่งออกเป็นได้ 3 ระดับอาการ ระดับแรก เด็กอาจจะเครียด วิตกกังวล ไม่มีสมาธิ แต่ไม่กระทบต่อผลการเรียน และความสัมพันธ์ของคนรอบข้าง ส่วน ระดับที่สอง ส่งผลกระทบต่อการเรียน การทำงาน และความสัมพันธ์ของคนรอบข้างแล้ว และ ระดับที่สาม เป็นระดับที่รุนแรงและมีผลกระทบอย่างมาก ทำให้เด็กไม่มีสมาธิ ผลการเรียนตก ซึมเศร้า เหม่อลอย อยากตาย ร่างกายไม่มีพละกำลัง
"ครูต้องใส่ใจต่อเด็กให้มากในเรื่องการสั่งการบ้าน เด็กที่มีปัญหาการเรียน อาจจะเพราะรับรู้ช้า หรือสมาธิสั้น ครูอาจจะต้องเปลี่ยนวิธีสั่งการบ้าน หรือสั่งการบ้านพิเศษให้แก่เด็กที่มีปัญหา แยกกันว่าเด็กที่ไม่มีปัญหาการเรียน หรือพวกที่ติดท็อปเท็น อาจจะสั่งการบ้านปกติ แต่เด็กที่สมาธิสั้นอาจจะสั่งการบ้านที่ง่ายๆ และไม่เยอะจนเกินไป แต่ในปัจจุบันพบว่าครูส่วนมากไม่ค่อยได้ใส่ใจถึงเรื่องนี้มากเท่าที่ควร เด็กก็เลยเครียด" นพ.จอม กล่าว
นายสุชาติ วงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนากระบวนการเรียนรู้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา สพฐ.เคยหารือกับโรงเรียนเรื่องปัญหาการให้การบ้านเด็กเยอะมาหลายครั้ง และได้ออกแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการที่โรงเรียนให้การบ้านเด็กตั้งแต่สมัยนางพรนิภา ลิมปพยอม เป็นเลขาธิการ กพฐ. และนายอดิศัย โพธารามิก เป็น รมว.ศึกษาธิการ เช่น โรงเรียนต้องดูว่าวิชาหลักๆ เช่น ภาษาไทย คณิตศาสตร์ จะต้องให้การบ้านเด็กเท่ากัน โดยแบ่งเวลาในวันจันทร์-ศุกร์ดูว่าแต่ละวิชาจะให้การบ้านเด็กอย่างไร เพื่อไม่ให้เด็กมีการบ้านมากเกินไป จะได้มีเวลาพักผ่อนและออกกำลังกาย
"การให้การบ้านเด็กนั้นภายในโรงเรียนทั้งผู้บริหารและครูจะต้องพูดคุยตกลงกันแต่ละวิชาจะให้การบ้านเด็กอย่างไร เพื่อไม่ให้เด็กมีการบ้านมากเกินไป และเมื่อเด็กอยู่โรงเรียนก็ควรให้ทำการบ้านให้เสร็จ สพฐ.ได้ให้โรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอยู่แล้ว ทำให้ครูรู้จักและเข้าใจเด็กเป็นรายบุคคล และวางแผนการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับศักยภาพของเด็กแต่ละคน เช่น เด็กเรียนรู้ช้า สมาธิสั้น ครูจะเข้าใจว่าควรให้การบ้านเด็กกลุ่มนี้อย่างไร" นายสุชาติ กล่าว
นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า ผอ.สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. กล่าวว่า หากครูให้การบ้านเยอะ พ่อแม่ก็มองว่าลูกเรียนหนัก หรือถ้าลูกมีการบ้านน้อย พ่อแม่ก็มักสงสัยโรงเรียนสอนดีหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 ทั้งฉบับเดิมและหลักสูตรฉบับปรับปรุงใหม่ ไม่ระบุลงลึกถึงการให้การบ้านนักเรียนเพียงแต่บอกถึงหลักสูตรและแนวทางการจัดการเรียนการสอน
"หลักสูตรใหม่นี้มี 8 กลุ่มสาระเหมือนเดิม แต่เมื่อนำมาใช้แล้ว จะทำให้เด็กเรียนน้อยลง เพราะระบุชัดเจนว่า ระดับประถมให้เรียนไม่เกิน 1,000 ชั่วโมงต่อปี มัธยมต้นไม่เกิน 1,200 ชั่วโมงต่อปี และมัธยมปลายรวม 3 ปี ไม่เกิน 3,600 ชั่วโมงต่อปี และต้องจัดเวลาให้เด็กออกกำลังกาย ต่างจากหลักสูตรเก่าที่ไม่ระบุชัดเจนว่า แต่ละระดับห้ามเกินกี่ชั่วโมง เชื่อว่าเมื่อเวลาเรียนลดลง จะทำให้การบ้านนักเรียนแต่ละระดับชั้นลดลงไปด้วย นอกจากนี้ สพฐ.ยังได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองผ่านเว็บไซต์ www.obec.go.th ของ สพฐ. ถึงแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมเพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์จัดทำเป็นคู่มือแนวทางการจัดการเรียนการสอนให้โรงเรียน และจะใส่ข้อมูลด้วยว่าโรงเรียนจะสอนอย่างไรให้เด็กเรียนอย่างมีความสุข" นางเบญจลักษณ์ กล่าว
นางเบญจลักษณ์ กล่าวอีกว่า ปัญหานักเรียนมีการบ้านเยอะเกิดจากครูแต่ละวิชาต่างให้การบ้านนักเรียนโดยไม่ได้หารือกันก่อน ผู้บริหารและครูจะต้องพูดคุยกัน เพื่อไม่ให้เด็กมีการบ้านมากเกินไป โดยนำการบ้านแต่ละวิชามาบูรณาการกันแทนที่จะให้การบ้านในแต่ละรายวิชา จะทำให้เด็กมีการบ้านน้อยลง ซึ่งจะต้องให้แต่ละสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ประสานและทำความเข้าใจกับโรงเรียนในพื้นที่
"สพฐ.จะคัดเลือกโรงเรียนที่สอนได้อย่างมีคุณภาพ โดยที่นักเรียนมีการบ้านไม่เยอะมาเป็นตัวอย่างให้โรงเรียนต่างๆ จะเปิดให้โรงเรียนและครูทั่วประเทศเสนอเข้ามาผ่านเว็บไซต์ สพฐ. แล้วคัดเลือกโรงเรียนกลุ่มนี้จำนวนหนึ่งมาเสนอในการประชุม ผอ.สพท.ทั่วประเทศในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อให้ สพท.แต่ละแห่งนำไปใช้เป็นตัวอย่างและทำความเข้าใจกับโรงเรียนในพื้นที่" นางเบญจลักษณ์ กล่าว
นายศิลปชัย บูรณพานิช นายกสมาคมพัฒนาวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากปฏิรูปการศึกษา โดยเฉพาะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ครูทั่วประเทศได้ปรับเปลี่ยนการสอนและการให้การบ้านนักเรียนแล้ว ปัจจุบันก่อนที่ครูจะให้การบ้านจะต้องวิเคราะห์ผู้เรียนและประสานกับครูในกลุ่มสาระวิชาอื่นๆ ก่อน เช่น การทำโครงงาน เดิมแต่ละกลุ่มสาระวิชาต่างฝ่ายต่างสั่งงานนักเรียน แต่ปัจจุบันครูในแต่ละกลุ่มสาระวิชาต้องปรึกษากันก่อนที่จะสั่งให้เด็กทำโครงงาน จะช่วยให้เด็กทำเพียง 1 โครงงานแต่ได้เรียนรู้หลายกลุ่มสาระวิชา
Credit กรุงเทพธุรกิจ
สาระดีๆติดตามได้ที่www.urrac.com/chanthaburi
88 ความคิดเห็น
เออ...เพิ่งจะมาคิดกันได้เร๊อะ!
สมัยก่อนโน้น สัก 10-20 ปีที่แล้ว  ครูมักจะให้การบ้านเยอะมาก  เลิกเรียนประมาณ 3-4 โมงเย็น(ถ้าเป็นเอกชนนะ โรงเรียนรัฐอันนี้ไม่รู้)  เลิกเรียนก็จะหมดวันแล้ว  บางคนนี่ก็สั่งเลยว่าการบ้านทำที่บ้าน ห้ามทำที่โรงเรียน(กลัวลอกกัน)  โถ..ห่ ารากเอ้ย...
-รอพ่อแม่มารับกี่โมง?
-กลับรถโรงเรียนกี่โมง? 
-รถติดสยองโลกอีกต่างหากใช่ไหม?
-กว่าจะถึงบ้านกี่โมง? อืม..น่าจะประมาณสัก 6โมงเย็น..
ถามหน่อยสิ กลับบ้านไปเนี่ยก็ไม่ต่างกับคนทำงานเลยอ่ะ  ช่วงระยะเวลาที่กลับบ้านเนี่ยมันเพลียนะ  พอถึงบ้านอาบน้ำกินข้าว ดูทีวีไม่ได้ เล่นก็ไม่ได้ ต้องทำการบ้านให้เสร็จก่อนถึงเล่นได้  กว่าจะทำเสร็จ 3-4ทุ่ม(นอนสองทุ่ม) การบ้านยาก หรือ ครูโชว์เพาว์เวอร์ให้การบ้านเยอะๆ (นึกว่าสนุกสินะ)  กว่าจะเสร็จ เที่ยงคืนก็มี...ทำผิดถูกตีอีก อะไรเนี่ย?  ก็กรูไม่เข้าใจนี่ว้อย พ่อแม่กรูก็ไม่ว่างมาสอนน่ะ เข้าใจไหม? ไม่เข้าใจอีก แล้วไงต่อ ตีอีก เออ เอาเข้าไป...ตอนนั้นเกลียดโรงเรียนมาก แทบไม่อยากไป...
เอ้า..สมัยก่อน ใครต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปโรงเรียนบ้าง?.....
ตื่นตี4 อาบน้ำแต่งตัว ออกจากบ้านตี5 ถึงโรงเรียน 6-7โมงเช้า (ตอนนั้นนึกในใจทำไมนักเรียนอย่างเราเราต้องมาทำอะไรอย่างนี้ด้วย)
ลองสรุปดูนะ  ไม่ได้เล่นกับคนแถวบ้าน  ทำการบ้านถึง 3-4ทุ่ม มากหน่อยก็ล่อเข้าเที่ยงคืน ตี1  กว่าจะนอนอีกล่ะ  ตื่นกี่โมง? ตี4!
เด็กๆควรนอนกี่ชั่วโมงเอ่ย? 8ชั่วโมงค๊าบ (ป้อเมิงตาย...ชีวิตจริงยังทำไม่ได้เลยหอกเอ๊ย...จะมาเรียนหลักสูตรนี้ทำแป๊ะอะไรวะ)
ต่างประเทศน่ะ เขา ไม่ให้การบ้าน เป็นบ้า เป็นหลังขนาดนี้เล้ย...อย่างมาก เขาจะใ้ห้เป็น "โปรเจค" ให้ไปคนคว้าเรื่องนั้นเรื่องนี้ ให้เวลา1 อาทิตย์ 2อาทิตย์ ก็ว่ากันไป แล้วมาอะิบายว่าอะไร อย่างไร แบบไหน  ถ้าเป็นเราควรจะแก้ไขอย่างไร...อะไรอย่างนี้
นี่เล่นมา...ทำอย่างกับว่า เป็นกฏข้อบังคับว่า ถ้าครูไม่ให้การบ้านเยอะๆ จะดูไม่เป็นครูหรือไง..ไม่เข้าใจว่ะ...
ผมว่าใครในเมื่อก่อนต้องเจออะไรอย่างนี้บ้างแหละ  แต่ก้ไม่คิดไงว่า ระยะเวลาผ่านมาเป็น สิบๆ ปี แล้ว ยังจะทำอะไรเดิมๆไม่คิดพัฒนาอะไรให้ก้าวหน้าบ้างเล้ย...หรือคุณๆ น้องๆ ว่าไงล่ะครับ..
ถ้าเป็นการบ้านแบบให้ทำแบบฝึกหัด
ผมไม่ค่อยเคียด  เพราะได้ความรู้ ฝึกทักษะ
ทีเครียดมากคือให้ทำรายงานบ้าๆบอๆ  ทำงานประดิดประดอย
เสียเวลามาก  แต่ได้สาระน้อยมาก
PS. I am NazzNa ,, ;]] Love U SuJu,,
อยากเก่งก็ทำ
ไม่อยากเก่งก็ไม่ต้องทำ
สวัสดี
PS. Junior 55+
มาลองทำการบ้าน 40 หน้าภายใน 1 คืนแบบเราดูสิ ครูสั่งวันนี้ส่งพรุ่งนี้ แล้ววิชาสังคมด้วยนะ คิดเอาว่าเนื้อหามันจะเยอะขนาดไหน มีหลายวิชาด้วยนะ
อ่อ คนเก่งคือคนที่ทำแต่การบ้าน ตรรกะบ้าๆ คิดได้ไง หาแต่เรื่องประชด ทำการบ้านแล้วมันเกี่ยวกับเก่งไม่เก่งยังไง แก่แล้ว ก็รีบๆตายเหอะ-*-
นั่นสิ บางทีมันก็ไม่ใช่แค่ 3 ชั่วโมงนะ มีบ่อยเลยอะ ที่ทำตั้งกะเย็น เที่ยงคืนยังไม่เสร็จเลย ตั้งแต่ขึ้นม.ปลายมานี่ไม่เคยนอนเร็วกว่าเที่ยงคืนซักวัน ยกเว้นปิดเทอมน่ะนะ 55+
ว่าแต่....ผู้ใหญ่เพิ่งจะรู้กันเหรอคะ เด็กต้องอดตาหลับ ขับตานอนกันมานานเท่าไหร่แล้ว!!!
PS. imagination is more important than knowledge. จินตนาการสำคัญกว่า...ความรู้
ก็ดองกาบ้านเอาไว้เองนิ สมควรแล้วหละที่พอรีบๆทำแล้วเครียด ถ้าอาจารย์สั่งปุ๊บแล้วรีบทำให้เสร็จรับรองไม่มีปัญหาเลย
คิดในอีกมุมนึงครูก็สั่งเยอะจริงนะวันนึงเรียนตั้ง8-9วิชาครูสั่งการบ้้านทุกวิชาส่งพรุ่งนี้นี่หรอถือว่าไม่เยอะ??แค่เรียนแต่ละวันก็็เหนื่อยแล้วกลับบ้านมาก็ไม่มีเวลาพักผ่อนต้องมานั่งทำการบ้านกว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบเที่่ี่่่่่ยงคืนแถมยังต้องตื่นเช้าเพื่อไปโรงเรียนอีกยิ่งวันศุกร์นี่จะสั่งเยอะเป็นพิเศษเพราะมีวันหยุด 2 วันแทนที่เสาร์อาทิตย์จะได้มีเวลาพักผ่อนกับครอบครัวกับว่าจะเอาเวลาพวกนี้มานั่งทำการบ้านไม่คิดจะให้มีวันพักเลยรึไง
ตอนเรียนม.ปลายอ่า
ขึ้นม.4ใหม่ๆหนักใจกับการบ้านมากเลย
แค่คณิตวิชาเดียวแทบทำไม่เสร็จแล้วครูแกสั่งเยอะมาก
วันไหนมีวิชาอื่นๆอีกยิ่งแย่หนักเลย ตอนม.4 นอนอย่างเร็วสุดน่าจะตี1
แถมเรียนคณิตทุกวัน เยอะทุกวัน น้ำหนักลดลงแถมยังเป็นไมเกรนอีก
ทำให้เกียจวิชาคณิตศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้เลย
คิดยังไงกันบ้างครับ
โดดตึกตายก่อน .
ค่อยมาคิดได้ว่าการบ้านเยอะ
PS. " กระ แส หั ด ล ด ๆ กั น บ้ า ง น ะจ๊ ะ ; ) "
นั่นดิ ให้การบ้านเยอะทำเพื่อ..?
คิดว่าจะมีคนทำซักกี่คนกัน
พวกครูไม่เคยรู้หรอกว่า นักเรียนอย่างเราๆนอนตีอะไร
บางคนนอนตี1 ตี3 แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปเรียนวะ
เด็กมหาลัย  งานก็เยอะไม่แพ้กันนะคะ  งานเยอะแล้วงานใหญ่อีกตะหาก
ลดการบ้านมหาลัยด้วยก็ดีนะคะ -------------------------             
เครียดค่ะ!!!!!
PS.
เราเคยมีอาการหนักอ่ะ ไม่มีสมาธิ เหม่อลอย ซึมเศร้า นอนไม่หลับ เพราะอะไรล่ะ การบ้านก็เยอะ สอบก็บ่อย เรียนพิเศษเลิกทุ่มครึ่ง
ไหนกว่าจะกลับถึงบ้านอีก กว่าจะได้นอนก็ปาไปเที่ยงคืน
หลักสูตรร.ร.มาตรฐานสากลอยากจะบ้าตาย เรียนวิชาไรนะ โลกศึกษา ความเรียงขั้นสูง ไอ2วิชานี้ แม่มทำโครงงาน เฮ้อ
เครียด!!
PS. "แค่อยากเรียกเธอที่รัก แต่เธอไม่ต้องมารัก ผิดไหมที่ใจมันคิดถึงเธอ ถึงเธอ ถึงเธอไม่คิด"
ทำไมเพิ่งรู้สึกตัว
ฉันเป็นมานานเเล้วนะไอโรคเครียดเนี่ย
PS. ...เจริญสุขสวัสดีจ้า...
ค.ห.13 เหมือนกันเจอเหมือนกันเรียงความขั้นสุง Tok งี้ บอกว่าจำเป้นนักหนา ใครไม่ทำตก ตกๆๆๆอย่างเดียวจำได้แกไป4-5รอบ จำได้เลยแก้จนวินาทีสุดท้ายจะ6โมงเช้า ปริ้น ออดมามา เย็บเล่มสส่งอ.เลยทันที สรุปไม่ได้นนอเลยวันนั้เเถมยังต้องมาเรียนอีก7-8คาบเเล้วกลับมาทำการบ้านอีกถึงตี1-2 เเล้วนอนตื่นมาตี5 อาบน้ำเเต่งตัวไปเรียน ดุเเล้วจะเอาอะไรพักผ่อนกิจกรรมก้เยอะ งานก้เยะเรียนก็เยอะ การบ้านก็เยอะ ทุกอย่างคือ เยอะ!!!!!!! คุรสอนก้ใช่ว่าเข้าใจ บางคาบอ.ไม่มาเซ็งสุดๆๆ เเถมผอ.ก็หน้าใหญา(ขอโทษคร๊าบบผ.อ.)แบบรับทุกโครงการที่เค้าเสนอมา ดรงเรียนแกนนำ งี้ โรงเรียน มาตรฐานสาล ดรงเรียน2-3 ภาษา โอ็ยเอาทุกอย่างการบ้านยอะเเล้วยังเอาภาระมาให้อีกเเถมนะ
บางทีเยอะจนเเบบ ไม่รุ้จะเริ่มอันไหนก่อนเเล้วไม่รุ้ว่าโรคอะไรชอบให้ส่งพร้อมกันเเล้วตูจะเริ่มอันไหนก่อนดี--;;;;
เครียด จนไม่อยากเรียน
PS. [_เพราะชีวิตในความทรงจำไม่มีวันตาย!!_]~~**
ขอระบายเหอะ เรื่องนี้
เวลาเรียนน้อยลงแต่โรงเรียนก็บังคับให้ทำกิจกรรมเยอะอยู่ดีอ่ะ
กิจกรรมนี้ทำเครียดกว่าการบ้านอีกนะ..
ทำไม่ดี เกรดก็ไม่ดี ซวยชัดๆ
เวลาเรียนจะไม่มีอยู่แล้วกับกิจกรรมเนี่ย..
แต่การบ้านก็ยังมีอ่ะ
เหนื่อยจริงๆ ไม่ไหวแล้ว
เฮ้อออ..
PS. 슈퍼주니어 4 집 Super Junior 4th album ซูเปอร์จูเนียร์ อัลบั้ม ๔
ใช่ๆ ไม่คิดถึงจิตใจเด็กบ้างเลย การบ้านก็เยอะ สอนก็ไม่รู้เรื่อง ทำไม่เสร็จก็ตี ทำผิดก็ตี ทำไมไม่ตีตัวเองบ้างวะ
ครูเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะสอน มีครูอยู่คนนึงไม่สอนหรอก วันๆเอาแต่เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ แล้วก็ชอบนักเรื่องเมืองจีนเนี่ย
เล่าอยู่นั่นแหละ ออดพักกลางวันแล้วก็ยังเล่าต่อ พอเราบอกว่า "อาจารย์คะหนูหิวข้าวแล้วค่ะ" ก็ไม่พอใจบอกว่าจะหักคะแนน
ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องเลยนะเนี่ย ครูคนนี้สอนวิชาอังกฤษ เราเก่งวิชาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่พอมาตอนนี้ คะแนนร่วงเลยอ่ะ
เสียใจมากๆ วิชาคณิตก็เหมือนกันโคตรน่าเบื่อสอนก็ไม่รู้เรื่อง แถมยังชอบให้สอบเก็บคะแนนอีกด้วยนะ อะไรก็ไม่รู้ (2x+y-9+ -84 )
คือมันก็ไม่ได้ยากอะไรมากมายหรอก แต่ไม่เข้าใจ แล้วบางทีส่งไม่ตรงเวลา พอจะเอาไปส่งอีกทีก็ไม่รับ เวลาตรวจ ก็ไม่ตรวจเอง เซ็งโคตรๆ
เด็กตายกันเยอะๆก่อน
แล้วค่อยแก้ปัญหาน่ะเรอะ
เราอยู่ห้อง1 ไม่เคยได้เรียนพละ
เดินเรียน วิ่งทัมงานเเทนการออกกำลังกาย
TT^TT จะบ้าตาย บางวันเรียน 7.30 เรียนเอาโล่???
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?