Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ความรักที่ยากจะหาเจอ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับทิ้งมันไป (เรื่องจริงเมื่อ 20กว่าปีก่อน)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
โพล104238

คืนเหงาใต้เงากรรม


เพียงไม่กี่นาทีเราตัดสินใจทำอะไรลงไป เพชรรุ่งไม่คิดว่าจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมโดยไม่ทิ้งเค้ารอย ไม่กี่นาทีในคืนเหงา หากย้อนวารวันกลับไปได้ เธอจะเลือกอยู่กับคนที่รักเธอเช่นเดิม

           

ปีพ.ศ.2529 เพชรรุ่งคือนิสิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย เธอเป็นคนเรียบง่าย ไม่จัดว่าเฉิ่มเชย แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดบาดใจอย่างวัยรุ่นบ้านรวยในสถาบันเดียวกัน ขณะที่เธอเรียนมีน้องใหม่เพียง 38 คน พี่ๆทั้ง 50 คน จึงผลัดกันแวะเวียนมาแลไม่ขาด รวมถึงรุ่นพี่ในคณะอื่นๆด้วย  

 

“น้องน่ะ...น้อง”

 

เพชรรุ่งแน่ใจว่าใครคนหนึ่งเรียกคนในกลุ่มเธอ ซึ่งแน่ใจว่าไม่ใช่เธอ พี่ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาหา แล้วทักทายพวกเธอทั้งกลุ่ม

 

“พี่ชื่อสายรุ้ง อยู่ปี 3 วิทยาฯ ทำค่ายอาสา น้องหน่วยก้านดี เป็นเด็กรุ่นใหม่ น่าจะลองไปอยู่ชมรมเรานะ” สายรุ้งพูดกับเพชรรุ่ง  เพื่อนอีก 3 คน จึงขอตัวกลับไปที่โต๊ะก่อน  

 

เพชรรุ่งทำหน้าไม่ถูกเลย  “จะไม่แนะนำตัวหน่อยเหรอ ไป...เข้าไปคุยกับพวกพี่กัน”  

 

เพชรรุ่งถูกดึงมือเข้าไปในห้องมืดๆ ทึบๆ เหม็นกลิ่นควันบุหรี่ เธอเกือบเหยียบใครบางคนที่นอนอยู่ใต้โต๊ะไม้ตัวเก่า สายรุ้งยังไม่ได้พูดอะไร ชิงภพเพื่อนร่วมชมรมชิงพูดขึ้นก่อน

 

“รุ้งนี่แกไปหลอกสาวที่ไหนมาวะ”

 

สาวที่ถูกพาดพิงถึงกับตกใจสภาพที่พบเห็นไม่หายยืนตัวแข็งทื่อเลย สายรุ้งเร่งให้น้องใหม่แนะนำตัว

 

“เพชรรุ่ง ฐานวิทย์ชีวกูล มนุษย์ปี 1 ค่ะ”

 

รุ่นพี่หนุ่มๆ ส่งเสียงกิ๊วก๊าวจนคนที่นอนบนพื้นสกปรกนั่นชันเข่าดึงตัวขึ้นมานั่งพิงขาโต๊ะ

 

“หนวกหูชิบ ข้าจะนอน ดันมาเป็นมารมาขัดขวางทางสู่นิพพาน พวกมารผจญเอ๊ย”

 

“เอ็งน่ะเงียบไปเลย เจี๊ยบ รุ้งมันพาน้องใหม่มาโว้ย หน่วยก้านดี สูงชะลูด บึกบึน ผิวสีน้ำผึ้ง สูงเท่าไหร่นะเรา”

 

คนที่ถูกถามรู้สึกอายที่รุ่นพี่พูดถึงเธอแบบนั้น แถมยังมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาประหลาดอีกด้วย แต่ด้วยความที่เป็นน้องใหม่จึงได้ตอบไปอย่างกล้าๆกลัวๆ

 

“169  ค่ะ” 

 

“หือ...เราสูงตั้ง 169 เลยหรอ พี่นะแค่ 158 เองรู้ไหม หน่วยก้านดีจริงๆด้วย ลองตัดสินใจดูนะว่าจะเข้าร่วมชมรมนี้กับพวกพี่หรือเปล่า แล้วก็ขอโทษด้วยที่พาน้องมาที่นี่ พี่ชักสงสารเราแล้วละ คงตกใจสินะ ที่นี่มันมีแต่เสือ สิงห์ กระทิง แรด ทั้งนั้น ”

 

รุ่นพี่ที่อยู่บนพื้นหยัดกายยืนขึ้น เขามองหน้าเพชรรุ่งเต็มตา เขาคิดว่า เด็กสาวคนนี้สวย

ดูดี ฉลาด ตาคมกริบ จมูกโด่งรับกับใบหน้าเรียวและริมฝีปากบาง เธอไม่แต่งแต้มสีสันบนใบหน้าอย่างเด็กสมัยนี้ทั่วไป แน่นอนเขารู้สึกสนใจใบหน้างามๆ ของเธอ จะมองรูปร่างก็เกรงจะเสียมารยาท เพราะเธอเองก็มองเขาสลับกับคนโน้นทีคนนี้ทีอยู่เหมือนกัล

 

“พี่ชื่อเจี๊ยบ ชื่อจริงอรุโณทัย อย่าถามว่าทำไมชื่อเหมือนผู้หญิง แม่ตั้งใจ จะขอเปลี่ยนแม่ก็ไม่ยอม แล้วนั่น สมจริง เรียกจริงก็ได้ อีก 3 คน ก็พวกนรกแตก ช่างพูด ช่างแซว แต่จิตใจดีไม่เหมือนกับปาก ชื่อประณต กำชัย และวุฒิ เรียกมันแบบนั้นแหละ เพราะไม่มีชื่อเล่น พวกเรายังมีอีก 2 คน เป็นผู้หญิงชื่ออนงค์ กับวันระพี วันนี้ไม่อยู่เพราะไปธุระที่ทบวงมหาวิทยาลัยลองตัดสินใจดูนะว่าอยากเข้าชมรมไหม แต่ยังไงพวกพี่ก็ยินดีต้อนรับเรานะ แค่นี้แหละ เฮ้ย! พวกเอ็ง ข้าไปเรียนก่อนนะ วันนี้มีภาษาศาสตร์ ติด E มา 2 ครั้งแล้ว ขืนไม่ผ่านอีกครั้งข้าเป็นปู่แน่ๆ ไปละ ไปละน้องเพชร”

ชายหนุ่มสร้างความประทับใจให้เพชรรุ่งไม่น้อย เขาดูน่าเชื่อถือ ดูดี ต่างจากภาพที่เธอเห็นแต่แรก เพชรรุ่งตัดสินใจเข้าชมรมค่ายอาสา จะเข้ามาชมรมอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง

เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเรียนวิชาพื้นฐานที่ต้องเร่งเก็บให้หมดก่อนขึ้นปี 2 และการทำงานส่งอาจารย์ เธอเลือกที่จะทำในห้องสมุด มีบ้างที่หอบหนังสือขึ้นรถเมย์ไปทำที่บ้าน

 

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเรา”  

 

อรุโณทัยนั่นเอง เขาอยู่บนรถเมย์ก่อนหน้าเธอ เพชรรุ่งยิ้มรับ แต่สายตามองไปที่หนุ่มอีกคนที่เพิ่งขับรถผ่านไป วิชลรุ่นพี่หนุ่มหล่อ แฟนของวันระพี รุ่นพี่อีกคนในชมรมของเธอ

 

“รวดเดียวหรือว่าต้องต่อไปอีก”

 

เขาถามขึ้นมา เพชรรุ่งไม่ทันได้ยินคำถามทั้งหมด แต่ก็หันมามองหน้าเหรอ เขาจึงเปลี่ยนคำถาม

 

“บ้านอยู่ไหนน่ะ เรา” 

 

“อ๋อ บางโพค่ะ” 

 

“อืม...ถ้างั้นก็ต่อเดียว โน่น...ว่างแล้ว ไปนั่งไป”

 

เขาคว้าข้อมือเธอเดินจูงไปนั่งตรงที่ว่าง แล้วอีก 2 ป้าย คนที่นั่งคู่กับเพชรรุ่งก็ลงมาจากรถ เขาจึงนั่งคู่เธอ หนุ่มสาวทั้งสองได้คุยกันบ้าง ส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะเป็นคนพูดเสียมากกว่า เขาลงที่ป้ายรถเมย์แถวๆนางเลิ้ง ก่อนลงจากรถหันมาฉีกยิ้มให้เห็นฟันขาวพราวเรียงเป็นระเบียบ ซึ่งเพชรรุ่งคิดว่ามันดูน่ารักและจริงใจดี

           

ใกล้ปิดเทอมภาคต้น ชมรมค่ายอาสาเตรียมการเรื่องค่ายน้องใหม่ เพชรรุ่งไปด้วย เพราะเธอก็เป็นน้องใหม่ที่นี่ เพื่อนๆ ของเธอหลายคน แม้ไม่ได้อยู่ในชมรมก็ยังขออนุญาตผู้ปกครองร่วมเดินทางไปด้วยเช่นกัน เพราะเป็นแค่น้องใหม่จึงไม่มีงานหนักอะไรรออยู่ เด็กปี 1 และสมาชิกใหม่ของชมรมแค่เอาของไปมอบให้คนที่นั่น สอนหนังสือและเล่านิทานให้เด็กๆฟัง ร้องเพลง เต้นรำ สนุกสนาน และเล่นกีฬากระชับความสามัคคี การไปค่ายครั้งนี้ทำให้ทุกคนรู้จักกันมากขึ้น เพชรรุ่งดีใจที่วิชลแฟนของวันระพีก็ไปด้วย เธอเฝ้ามองเขาห่างๆไม่ให้ใครจับได้ ส่วนอรุโณทัยก็มักจะเข้ามาดูแลเธอเป็นพิเศษจนเพื่อนๆของเขาเริ่มจับพิรุธได้

 

“ไม่มีอะไร ก็น้องมันยังใหม่ กลัวจะเข้ากับใครไม่ได้”  

 

เขาจะแก้ตัวถูไถไปเรื่อย สายรุ้งดูจะแปลกใจที่สุด เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้ชอบใครสักคน แต่เธอก็ขันอาสาเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ชนิดไม่ต้องปรึกษาใคร เพชรรุ่งรู้ตัวแต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เธอไม่ได้พึงใจชอบพอรุ่นพี่คนนี้แบบนั้น เพียงรักนับถืออย่างพี่ชายแต่ก็จะปฏิเสธให้เสียน้ำใจไม่ได้ จึงยอมคบหาดูใจกันไปเผื่อว่าสักวันมันจะเปลี่ยนแปลง

 

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของเพชรรุ่งมีสีสันมากยิ่งขึ้น เธอได้ร่วมเดินทางไปแข่งขันกีฬาของมหาวิทยาลัยที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในแต่ละปีจะเปลี่ยนหมุนเวียนไปจัดในแต่ละวิทยาเขตที่เป็นเจ้าภาพ เธอได้รู้จักเพื่อนต่างมหาวิทยาลัย ความเป็นนักกีฬาของเธอแม้จะไม่โดดเด่นถึงขั้นพวกเรียนด้านกีฬา แต่มันก็ส่งให้เธอโดดเด่นกว่าเดิม ในด้านที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นอีกอย่าง เธอยังคงเฝ้าสังเกตวิชล ถึงใครๆในมหาวิทยาลัยจะรู้ว่ามีอรุโณทัยคอยห่วงใยดูแลเธออยู่ไม่ห่างก็ตาม

       

ปีพ.ศ.2531 นิสิตรุ่นอรุโณทัย วันระพี สายรุ้ง จบการศึกษา งานรับปริญญาจัดขึ้นที่สวนอัมพร นิสิตรุ่นวิชลเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดงานฉลองให้รุ่นพี่ ตอนนั้นวิชลกับวันระพีเพิ่งเลิกรากัน ฝ่ายหญิงถูกบอกเลิก วิชลให้เหตุผลว่าเขาทนรับอารมณ์หึงหวงของเธอไม่ได้ เหตุผลมีเท่านั้นจริงๆ คืนวันฉลองปริญญาแก๊งรุ่นพี่ชวนน้องๆไปบางแสน เพราะมีเพื่อนๆ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยที่นั่นหลายคนและรับปริญญาพร้อมกันอีกทั้งยังมีบ้านอยู่ที่นั่นด้วย บรรยากาศสนุกสนานครื้นเครงกันมาก คนที่ดูเศร้าที่สุดคือวันระพี ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบอย่างเธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะถูกผู้ชายทิ้งแบบนี้

 

อรุโณทัยกับเพื่อนๆ ผู้ชายเมาคอพับคออ่อน พวกสาวๆต้องช่วยกันดูแล วิชลกับเพื่อนๆ ก็เมามายไม่ได้สติ พวกผู้หญิงต้องดูแลเช่นกัน เพชรรุ่งเห็นวันระพีมองอดีตแฟนตาละห้อย เธอรู้สึกเห็นใจรุ่นพี่ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากเข้าไปดูแลวิชลที่เธอไม่เคยหมดความสนใจ  

 

“เจี๊ยบมันรักเพชรมากนะ” วันระพีพูดขึ้นมา เพชรรุ่งพยักหน้า แล้วก็ยิ้ม

 

“ของดีมีอยู่ใกล้ตัวแบบนี้อย่าทิ้งขว้างนะเพชร ชาติหนึ่งผู้หญิงเราจะหาผู้ชายดีๆ ที่รักเราแบบนี้น่ะ มันยากเต็มที น้องเอ๊ย”

 

วันระพีเริ่มเมา เธอดื่มอีกจนไม่ได้สติ เพชรรุ่งต้องลากเธอไปนอนในห้อง


“เหนื่อยหน่อยนะ แต่ดีแล้วแหละ ได้มาเห็นภาพที่ไม่ควรเอาอย่าง” สายรุ้งนั่นเอง เธอคอยดูแลทุกๆคนอยู่ คืนนั้น 2 สาวคุยกันจนถึงเช้าถึงได้เข้านอน

 

            ชีวิตในรั้วมหา’ลัยปีสุดท้ายของเพชรรุ่ง เธอทุ่มเทให้การเรียนทั้งหมด ยอดตัดกิจกรรมที่ทำมาต่อเนื่อง 3 ปีทิ้งไป รุ่นพี่วิชลรับปริญญาไปแล้ว พอถึงปีหน้าก็จะถึงตาเธอบ้าง ปีใหม่ปีนั้นศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบันนัดเจอกันที่คอฟฟี่ช็อปแถวๆ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ อรุโณทัยขับรถไปรับแฟนสาวรุ่นน้องและเพื่อนๆของเธอ

 

“ปิดร้านเลี้ยงปีใหม่กันเลยเหรอพี่เจี๊ยบ”

 

เพชรรุ่งประหลาดใจ เพราะเห็นแต่รุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยเธอทั้งนั้น แล้วสายตาของเธอก็ไปสะดุดอยู่ที่หนุ่มสาวคู่หนึ่ง วิชลกับวันระพี ทั้งคู่นั่งชิดกุมมือกันจนแทบจะเป็นคนคนเดียวกันเลย

 

“ตกข่าวหรือเพชร คู่นั้นมันจะแต่งงานกันอยู่แล้ว”

หญิงสาวรู้สึกเหมือนโลกจะถล่มถลายไปต่อหน้า เธอเพิ่งจะบอกความรู้สึกที่มีต่อวิชลไปเมื่อไม่กี่วันก่อน พูดกับเขาแม้กระทั่งว่าจะขอเลิกกับอรุโณทัยเพื่อมาคบเขา แล้วทำไมเขาจึงทำแบบนี้กับเธอ วิชลรู้ตัวว่ามีคนจ้องมองอยู่จึงลุกเดินขึ้นมาหา

 

“เพชรฟังพี่ก่อนนะ เราไปคุยข้างนอกกัน”

       

ตอนนั้นอรุโณทัยไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ แล้ว เพชรรุ่งเดินตามวิชลออกไปอย่างว่าง่าย ชายหนุ่มเริ่มหาเหตุผลมาอธิบายกับเธอ

 

“วันเขามาขอคืนดีกับพี่ แล้วพี่ก็ยังรู้สึกว่ารักเขาอยู่ เราไม่เคยทะเลาะกันเลย เขาก็แค่หึงหวงไปตามประสาผู้หญิงเท่านั้นเองพี่ผิดที่ทิ้งเขาไปแล้วมาคิดได้ในตอนนี้ กับเพชรพี่รู้สึกดีด้วยนะ แต่ถ้าให้เลือก พี่ว่าพี่เลือกวันดีกว่า ถ้าพี่คบกับเพชร ต้องมีคน 2 คนที่ต้องเจ็บ”

 

เพชรรุ่งไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเพียงแต่นึกในใจว่า ผู้ชายคนนี้ฉลาด เขาเป็นคนเดียวที่จะไม่มีวันเจ็บเลย ไม่ว่าจะเลือกอยู่กับใครก็ตาม มีแต่ได้กับได้  

 

“พี่ไม่ได้บอกใครนะ เรื่องของเรา 2 คน แล้วพี่ก็ว่าดีที่เราหยุดไว้ตรงนี้ ทั้งวันและเจี๊ยบก็จะไม่ได้เสียความรู้สึกกับเพชรด้วย”

 

หญิงสาวไม่ได้กลับเข้าไปที่งานเลี้ยง เธอออกเดินไปทั่วบริเวณสยามเซ็นเตอร์ ข้ามฟากไปสยามสแควร์เดินเลยเรียบไปตามถนนอังรีดูนังต์ แล้วกลับไปนั่งร้องไห้ที่โต๊ะม้าหินในมหาวิทยาลัย ถามว่าเจ็บไหม เธอเจ็บมาก แต่ก็ดีที่ไม่ตัดสินใจบ้าบิ่นบอกเลิกผู้ชายดีๆที่รักกันมาเกือบ 4 ปี เธอไม่ได้รักเขาอย่างหนุ่มสาว รักเขาอย่างพี่ชาย เธอพูดไม่ออกบอกไม่ได้ เพชรรุ่งเดินกลับไปยังที่ที่เธอจากมา เธอเข้าไปหาอรุโณทัย แล้วพูดกับเขาท่ามกลางผู้คนมากมาย  

 

“เราเลิกกันเถอะเพชรไม่ได้รักพี่เจี๊ยบแบบนั้น เพชรคิดกับเจี๊ยบแค่พี่ชาย” 

 

เวลาเกือบ 4 ปี เธอตัดสินใจในเสี้ยววินาทีตัดสัมพันธ์ ชายหนุ่มที่ถูกบอกเลิก เขากำลังเอื้อนเอ่ยวาจากับเพื่อนๆ น้องๆ ว่าจะขอเพชรแต่งงานทันทีที่เรียนจบแล้วจะพาไปทำงานที่ร้านอาหารกับพ่อที่อเมริกา เก็บเงินสักก้อนแล้วกลับมาลงหลักปักฐานมีลูกมีหลานกันที่เมืองไทย ยิ่งกว่าฝันสลาย โลกทั้งโลกพังทลายอยู่ตรงหน้า เพชรรุ่งไม่บอกลาใครทั้งนั้น เธอเดินจากไปพร้อมความเหงาที่ไม่รู้มันจะหายไปเมื่อไหร่

       

เวลาที่เหลือในรั้วมหาวิทยาลัยมันเงียบเชียบจืดชืดและไร้ซึ่งมิตรภาพ หรือเธออาจรู้สึกไปเอง ผลการสอบของเธอออกมาดีมาก ได้ A เกือบทุกวิชา แต่ผลทางใจเธอแย่ วันๆ แทบไม่พูดจากับใคร เพื่อนๆต่างไม่พูดถึงเรื่องในคืนนั้น และดูเหมือนเธอเองก็ไม่ต้องการหวนคิดถึงมัน

 

วิชลมาหาเพชรรุ่งในวันขอจบการศึกษา  “ไปดูพี่เจี๊ยบกัน”

 

 เธอนิ่งไปสักครู่ แล้วไม่พูดอะไร แต่เสียมารยาทลุกหนีไปเฉยๆ  “โกรธพี่แล้วไปลงกับพี่เจี๊ยบทำไมละเพชร”

 

เพชรรุ่งไม่อยากอธิบายด้วย เธอพูดกับเขาไปจนหมดเปลือกแล้ว

 

“พี่เจี๊ยบเป็นไข้ป่า ไม่ยอมกินข้าว กินยา พี่รุ้งกับเพื่อนเขาไปเจอนอนซมอยู่ในกระท่อมหมู่บ้านที่เชียงราย หมอบอกเป็นตายเท่ากัน”

 

หญิงสาวยังไม่พูดอะไร แต่รีบไปหยอดเหรียญโทรศัพย์หาสายรุ้งทันที เพชรรุ่งนั่งรถแท็กซี่ไปหาอรุโณทัยที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เขาอยู่ในห้องฉุกเฉิน เธอขอหมอไปเยี่ยมเขา ทันทีที่สองสายตามาประสานกันน้ำตาที่เอ่อท้นก็ไหลพรากออกมา โดยไม่ได้นัดหมาย เพชรรุ่งเกาะกุมมือเขาไว้ เธอถ่ายทอดความห่วงใยทางแววตา พลันภาพหลังคืนวันปีใหม่ก็ตัดเข้ามาในมโนสำนึกของเธอ อรุโณทัยมาพบเธอที่บ้าน แล้วถามเหตุผลที่ทำให้เธอบอกเลิก เธอพูดกับเขาตรงๆว่าคงรักได้แค่พี่ชาย เขาขอร้องว่าให้กลับมาเหมือนเดิม ให้เธอค่อยๆคิด แล้วเขาจะมาเอาคำตอบ

 

“อย่าเสียเวลาเลยพี่เจี๊ยบ เพชรมีคนใหม่แล้ว”

 

คนใหม่ที่เธอว่าคือคนที่เธอรักและคิดถึงตลอด ผู้ชายคนนั้นไม่มีวันเป็นของเธอ เธอรู้สึกได้ แต่เธอก็ไม่พร้อมจะเป็นของใคร จากวันนั้นอรุโณทัยก็หายไปเลย เพื่อนของเขาถามข่าวจากเธอ เธอก็เล่าไปตามตรงว่าพบกันเพียงครั้งเดียว แล้ววันนี้เขามานอนป่วยอยู่ต่อหน้าเธอ ถ้าเขารอดชีวิต เธอจะมอบทั้งชีวิตให้เขา เพราะเขารักเธออย่างแท้จริง และไม่มีวันหมดรัก

 

“อย่าทิ้งเพชรไปนะ พี่เจี๊ยบ”

 

เพื่อนๆ ที่ยืนดูอยู่ข้างนอก เห็นภาพเพชรรุ่งกอดเพื่อนของตัวเอง และพูดพร่ำไม่หยุดถึงกับน้ำตาแตกไปตามๆกัน

ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง อรุโณทัยไม่กลับมา เขาจากไปในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยมีเพชรรุ่งกอดก่ายไว้ตลอดเวลา สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงเท่านี้ เขาอุทิศความรักให้เธอและเธอสนองตอบเขาแบบนั้น สิ่งที่ได้รับกลับมาคือตราบาปและความทรงจำอันเลวร้าย

 

เพราะคืนเหงาๆ คืนนั้นทำให้คน 2 คน ต้องจากกันชั่วชีวิต และคนที่ยังอยู่ก็มีชีวิตไม่เหมือนเดิม...



ขอขอบคุณข้อมูลจาก: หนังสือกรรมทันตา

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

Tanaporn :) 29 ต.ค. 53 เวลา 18:43 น. 1

น้ำตาคลอเลยอ่ะ
ทำไมถึงทิ้งพี่เค้าไปนะ

ถ้าเป็นสมัยนี้ผู้ชายแบบนี้คงไม่มีอีกแล้ว


PS.  ♥~ เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ ~♥
0