โรคจากการทำงาน
ตั้งกระทู้ใหม่
อุบัติการ
        พบอาการปวดในวัยทำงานถึง 60-70%  ส่วนใหญ่พบในกลุ่มคนวัยทำงาน ช่วงอายุระหว่าง16-35 ปี ซึ่งเป็นการทำงานแข่งกับเวลา  ส่วนกลุ่มคนทำงาน อายุ 55  ปีขึ้นไป มักมีอาการปวดศีรษะเนื่องจากเป็นการทำงานที่ต้องรับผิดชอบการตัดสินใจเรื่องสำคัญ
สาเหตุของการปวด
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยส่วนบุคคล  :  อายุมากขึ้น  รูปร่างอ้วนลงพุง  นิสัยส่วนบุคคลเป็นคนเคร่งเครียด  วิตกกังวล  สุขภาพร่างกายส่วนบุคคล
ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม  : สถานที่ทำงานไม่เหมาะสม    อยู่ในสถานที่คับแคบเกินไป  ทำงานหักโหมมากเกินไป  อุบัติเหตุระหว่างการทำงาน
ปัจจัยด้านจิตใจ  : ความเครียดในการทำงาน  ความรีบเร่ง  ความเบื่อหน่ายในงาน
ปัจจัยส่งเสริม
-  อยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้อง : ทำซ้ำๆ  อยู่เป็นเวลานาน เช่น ท่ายื่นคอ  ห่อไหล่  ท่านั่งโน้มตัวไป 
    ข้างหน้า  ท่ายกของไม่ถูกต้อง  การใส่รองเท้าส้นสูง  เตียงนอนที่นุ่มเกินไป
-  ลักษณะงาน : ใช้แรงงานมาก  งานที่มีแรงสั่นสะเทือนนาน
-  คนอ้วน : พุงโย  กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรง
-  ภาวะสุขภาพอื่นๆ : ภาวะซีด  ไทรอยด์ต่ำ  ขาดสารอาหาร  การติดเชื้อ
-  งานใหม่ : งานที่ไม่ถนัดหรือไม่เคยทำมาก่อน
-  การใช้มากเกินไป : ทำงานในลักษณะเดิมนานเกินไป  การงานท่าเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา
-  อุบัติเหตุ : ลื่นล้มอย่างรุนแรง
วิธีการแก้ไขปัญหาอาการปวด
พักผ่อน
การใช้ยาลดปวด
อุปกรณ์พยุงหลัง
การทำกายภาพบำบัด
การออกกำลังกาย
การแก้ไขปัจจัยก่อเหตุ
การป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
การรักษาที่ได้ผลระยะยาว 2 สาเหตุหลัก
สภาพที่ทำงาน : ปรับสภาพที่ทำงานให้ถูกสุขลักษณะ โต๊ะ  เก้าอี้  เครื่องคอมพิวเตอร์
สภาพร่างกาย :  จัดโครงสร้างร่างกายให้เหมาะสมในการทำงาน  จัดระเบียบโครงสร้าง  ฝึกสมดุลโครงสร้าง  เพิ่มสมรรถภาพร่างกายให้แข็งแรงโดยออกกำลังกายแบบแอโรบิค
ถ้าไม่ดีขึ้น มีปัจจัยอื่นซ่อนเร้น
ปริมาณงานที่มากเกินไป ทำเกินกำลัง
ความเครียด (งาน  เพื่อนร่วมงาน  เรื่องส่วนตัว)
การป้องกันการปวด
ปรับวิธีการยกของที่ถูกต้อง
หลีกเลี่ยงสถานที่ที่เสี่ยงต่ออันตรายในการปฏิบัติงาน
เลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมถูกต้องและทุ่นแรงในการทำงาน
อยู่ในท่าที่ถูกต้องในทุกอิริยาบถในการทำงาน
ฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรงสม่ำเสมอ
การดูแลในท่ายืน
หลีกเลี่ยงการยืนในท่าที่ผิด
พยายามเกร็งเขม่าพุงในทุกๆอิริยาบถ
ยืนบนฐานที่กว้างพอ
กระจายน้ำหนักตัวสลับแต่ละขาบ่อยๆแต่ไม่ลงน้ำหนักที่สะโพก
วางขาบนม้าเล็กๆ กรณียืนนานๆ
พยายามยืนย่อเข่าเล็กน้อย อย่าเหยียดเกร็งเข่าสุด
สวมใส่รองเท้าที่เหมาะสม หัวรองเท้าไม่แคบเกินไป ส้นไม่สูงเกินไป
พยายามขยับเขยื้อนตัวรอบๆ
นั่งพัก 5 นาที ถ้ายืนนาน
ยืนพิงฝาพนังและหย่อนหลังเป็นพักๆ
ท่านั่งที่เหมาะสม
คอตรง     
พนักพิงหลังที่แข็งพอดี ทำมุม 90-100 °
ข้อศอกงด 90° และมีที่วางแขน
อยู่ในท่าหลังแอ่นตามธรรมชาติ
งอสะโพกตั้งฉากกับหลัง
สะโพกอยู่ในระดับเดียวกับเข่าหรือสูงกว่าเข่าเล็กน้อย
ฐานเก้าอี้รองต้นขาพอดี ห่างจากข้อพับเข่า ~ 2 นิ้วมือ
เท้ารองพอดีที่พื้นหรือมีม้ารอง
การดูแลในท่านั่ง
หลีกเลี่ยงนั่งท่าใดท่าหนึ่งในเวลานาน     
หลีกเลี่ยงการนั่งที่ขา 2 ข้างวางบนม้ารองขา
หลีกเลี่ยงนั่งบนเตียงหรือเก้าอี้ที่ยวบ
หลีกเลี่ยงการนั่งท่าเหยียดขา 2 ข้างตรงเป็นเวลานาน
หลีกเลี่ยงท่านั่งไขว่ห้าง
หลีกเลี่ยงการนั่งที่เอียงขาทั้ง 2 ข้างอยู่ในข้างใดข้างหนี่งของเก้าอี้นานเกิน 10 นาที
หลีกเลี่ยงท่านั่งหลังงอ
ด้วยความปรารถนาดีจาก โรงพยาบาลสมิติเวช http://www.samitivejhospitals.com/healthblog/Sriracha/blogdetail.php?id=34
1 ความคิดเห็น
การทำงานก็ต้องประสานกับคุณภาพชีวิตด้วยจึงจะดี *-*
PS. พยายามแล้วพลาด ดีกว่าพลาดที่จะพยายาม >>> http://writer.dek-d.com/lady-law/writer/view.php?id=640126
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?