Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เกมข่มขืน...ขนมหวาน หรือน้ำตาลเคลือบยาพิษ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 
เป็นบทความที่เขียนให้กับ http://www.healthygamer.net เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาติดเกมค่ะ
สาวๆ อ่านจะได้รู้ไว้ว่าสื่อเดี๋ยวนี้เค้าเอาเราไปเป็นวัตถุทางเพศกันถึงขนาดไหน ส่วนหนุ่มๆ ที่ชอบเล่น ก็ฟังคำแนะนำจากคุณหมอกันบ้างนะคะ และที่จริงก็ครอบคลุมถึง หญิงข่มขืนชาย ชายข่มขืนชาย หญิงข่มขืนหญิงด้วยไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายถูกกระทำ บทบาททางเพศในสังคมก็ทำให้พวกเขาต้องทนทุกข์ต่างกันไป แต่ไ่ม่ว่าจะเพศไหนก็ทุกข์ทรมานทั้งนั้นค่ะ
ในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2552 และในสหรัฐอเมริกาไม่กี่ปีก่อนหน้านั้น ได้มีกระแสสังคมเรียกร้องให้ปลดเกมคอมพิวเตอร์เกมหนึ่งออกจากชั้นวางและห้ามวางขายในที่ใดๆ โดยเด็ดขาด เพราะเกมนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับการข่มขืนเยาวชน องค์กรสิทธิสตรีและสิทธิเด็กได้ออกมาเรียกร้องให้แบนเกมนี้ รวมถึงกดดันให้ญี่ปุ่นสั่งห้ามผลิตเกมที่มีเนื้อหาข่มขืนและละเมิดสิทธิเด็กอีกต่อไป แต่ถึงปัจจุบัน ความพยายามก็ยังไม่เป็นผล


และเมื่อช่วงเดือนธันวาคม (2553) ที่ผ่านมา วงการการ์ตูนในประเทศญี่ปุ่นก็เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง เมื่อทางการโตเกียวมุ่งมั่นออกฎห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 เข้าถึงสื่อการ์ตูน เกม และอนิเมชั่นที่มีเนื้อหายั่วยุทางเพศ รวมทั้งจับตามองสื่อที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการข่มขืน การมีเพศสัมพันธ์กับคนในสายเลือดใกล้ชิด (incest) และเนื้อหาที่หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมด้านอื่นๆ แน่นอนว่าความพยายามนี้สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากต่อผู้สร้างสรรค์ผลงาน โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า มันเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน


น่าตลกไ่ม่น้อยที่สิทธิในการแสดงออก กับสิทธิในความปลอดภัยของร่างกายดูจะไม่ค่อยไปทางเดียวกัน



เสรีภาพในการสร้างสื่อเหล่านี้เป็นเรื่องสมควรหรือไม่ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันไม่จบสิ้น แต่สิ่งที่เรารู้แน่คือ สื่อยั่วยุทางเพศทั้งหลายได้เผยแพร่อออกมาแล้ว อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว ดังนั้นประเด็นที่เราควรให้ความสนใจก็คือ สื่อยั่วยุเหล่านี้มีผลกระทบต่อผู้เล่นและสังคมมากแค่ไหน ความสนุกสนานที่เกิดจากการได้ก่ออาชญากรรม...แม้จะเป็นในโลกจินตนาการ...จะไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใครแน่หรือ คุณหมอชาญวิทย์ พรนภดล จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น มีคำอธิบายในมุมมองด้านจิตวิทยามาให้ได้ขบคิดกันค่ะ


  • ความรู้สึกอยากเล่นเกมที่มีเนื้อหาการใช้ความรุนแรงทางเพศ ถือว่าเป็นความต้องการตามปกติหรือไม่

จริงๆ แล้ว เกมเหล่านี้มันก็แสดงถึงความป่วยอย่างหนึ่งนะครับ คนที่เข้าไปเล่น เข้าไปสัมผัสแล้วเกิดความสนุกไปกับมัน จะมองว่ามีบางอย่างในจิตใจที่ผิดปกติก็เป็นได้ เพราะคนปกติเมื่อได้เห็นเกมเหล่านี้เขาจะเกิดความรู้สึกรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น อาจเกิดความรู้สึกสงสารผู้หญิงหรือคนที่เป็นเหยื่อ มองว่ามันเป็นอาชญากรรม


  • แล้วเกมที่มีฉากเซ็กส์ แต่ไม่ได้มีเนื้อหาล่วงละเมิดทางเพศ

ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนดูครับ ถ้าคนดูมีวุฒิภาวะ และแยกแยะได้ ว่าอันนี้ไม่ใช่เรื่องจริง และสามารถควบคุมตัวเองได้ ก็อาจจะไม่มีผล แต่ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่น หรือเด็กก่อนวัยรุ่น ที่วุฒิภาวะ และการแยกผิดชอบชั่วดียังไม่เข้มแข็ง ก็อาจจะมีส่วนในการกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง ซึ่งก็ไม่แตกต่างจากสื่อลามกอื่นๆ หนังสือ รูปภาพ ภาพยนตร์


  • ฉากมีเพศสัมพันธ์ในเกมข่มขืนที่มักแสดงให้เห็นว่าเหยื่อมีอารมณ์ทางเพศตอบสนองและถึงจุดสุดยอดได้นั้นเป็นเพียงจิตนาการ หรือเกิดขึ้นได้จริง

แม้ว่าอาจจะเป็นไปได้ที่เหยื่อของการข่มขืนมีการตอบสนองทางเพศ แต่ความเป็นไปได้นี้น่าจะน้อยมาก เนื่องจากเหยื่อส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในอารมณ์หวาดกลัว เจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ซึ่งอารมณ์เหล่านี้สามารถสะกด หรือหยุดยั้งความสุขทางเพศได้ ดังนั้นสิ่งที่ผู้สร้างเกมจินตนาการขึ้นคงมีเหตุผลเพียงแค่เร้าสัญชาตญาณดิบของผู้เล่นเกมเท่านั้น


  • ผู้เล่นจะมีโอกาสเกิดพฤติกรรมเลียนแบบหรือไม่

มีโอกาสครับ งานวิจัยกี่ชิ้นๆ ทำออกมาก็ยืนยันว่าคนที่เล่นเกมเหล่านี้โดยขาดสติ ขาดการควบคุมตัวเอง จะมีโอกาสเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ผมไม่ได้หมายความว่าคนที่เล่นเกมทุกคนจะต้องเป็นอย่างนั้น หรือว่าคดีข่มขืนทุกคดีเกิดจากการเลียนแบบเกมนะครับ แต่คนที่เล่นเกมเหล่านี้แล้วขาดสติ ขาดวุฒิภาวะ และอินกับเกมมากๆ ก็มีโอกาสที่จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้ 
นอกจากพฤติกรรมเลียนแบบแล้ว การที่ได้รับสื่อเหล่านี้มากๆ จะทำให้เกิดความชาชินกับความรุนแรง อาจมองว่าอาชญากรรมข่มขืนเป็นเรื่องธรรมดาไป นอกจากนั้นสำหรับคนที่เคยถูกข่มขืน ถ้าเกิดเขาได้มาเห็นสื่อเหล่านี้เข้า ก็จะทำให้เกิดอาการ PTSD (Post traumatic stress disorder) หรืออาการเครียดหลังวิกฤตได้ อาการเหล่านี้จะเกิดกับผู้ที่เคยผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มาก่อน เช่น เหยื่อข่มขืน หรือทหารที่เพิ่งกลับมาจากสงคราม พวกเขาจะเกิดอาการเครียด ฝันร้าย หวาดผวาเมื่อได้เห็นสิ่งที่ทำให้ระลึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเองเคยประสบมา


  • ผู้หญิงที่เล่นเกมนี้ก็เกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้หรือเปล่า

เกมสามารถกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ ณ ขณะที่เล่นได้เท่าเทียมกันทั้งหญิงและชาย  แต่ด้วยบทบาททางสังคม ผู้หญิงมีโอกาสลงมือก่ออาชญากรรมได้น้อยกว่า แต่เดี๋ยวนี้เราได้ยินข่าวหญิงข่มขืนชายเยอะขึ้นเรื่อยๆ นะครับ อย่างเช่น ครูผู้หญิงข่มขืนเด็กนักเรียนผู้ชาย หรือล่อลวงเด็กนักเรียนผู้ชายให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย เกมหรือสื่อลามกอื่นๆ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดอาชญากรรมเหล่านั้น


  • ข้อโต้แย้งที่กล่าวว่า 'เกมช่วยลดอาชญากรรมได้ เพราะผู้เล่นใช้เกมเป็นที่ระบายแทนที่จะลงกับคนจริง' นั้นเชื่อถือได้มากแค่ไหน
จริงครับที่เกมอาจจะช่วยระบายความเครียดหรือระบายอารมณ์ได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็อย่าลืมว่าเกมช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศได้ด้วยเช่นกัน การที่ผู้เล่นเกิดความรู้สึกทางเพศแล้วระบายด้วยการเล่นเกมบ่อยๆ อาจไม่ได้ทำให้ความรู้สึกนั้นหมดไป  การไม่มีอาชญากรรมเกิดขึ้นไม่ได้หมายความว่าคนจะไม่มีความต้องการ เขาอาจจะไม่สามารถทำได้เพราะกฎหมายเข้มแข็งหรือสภาพแวดล้อมไม่เอื้อ เราต้องดูปัจจัยอื่นประกอบด้วย


  • พฤติกรรมแบบไหนที่เป็นสัญญาณของอันตราย

แยกตัว เก็บตัว สื่อสารกับคนอื่นน้อยลง อารมณ์ฉุนเฉียวก้าวร้าวขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่ถูกดึงออกจากเกม ถูกห้ามเล่นเกม เริ่มมีการใช้ถ้อยคำก้าวร้าว หยาบคาย เริ่มมีการเลียนแบคำพูดจากในเกม ซึ่งเด็กที่เราเจอว่าเลียนแบบ เค้าจะมีคำพูดเหล่านี้ออกมาให้เห็นก่อน อย่างเคสเด็กที่ฆ่าปาดคอแทกซี่เค้าก็สื่อสารออกมาก่อนหน้านี้แล้ว 


  • ถ้ามีคนบอกว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วนี่ ไม่เห็นเป็นไร

ใช่ครับ สิ่งเหล่านี้ก็มีอยู่คู่ธรรมชาติของมนุษย์ และมีกันมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณ เช่นพวกหนังสือปกขาว หนังสือลามกต่างๆ คนที่เขียนเรื่องราวเชิงอินเซส ข่มขืนนั้นก็มี เพียงแต่ว่าสื่อในสมัยนั้นไม่แพร่หลายเหมือนสมัยนี้ กิจกรรมทางสังคมด้านอื่นก็มีหลากหลาย เช่น เล่นกีฬา เข้าชุมนุม เพราะงั้นก็จะมีตัวแบ่งเวลาออกไป สื่อเหล่านี้จึงเป็นเพียงแค่หนังสือที่มีรูปภาพ มีความเร้า ความตื่นเต้น ความน่าดึงดูด 


แต่ในปัจจุบัน สื่อเหล่านี้มีการพัฒนามากขึ้น มีอิทธิพล มีความน่าสนใจ ความดึงดูดให้ติดมากกว่า ยิ่งวัยรุ่นเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น ได้เสพมากๆ เข้า เขาก็อยากลอง และสมัยนี้วัยรุ่นมีกิจกรรมน้อยลง ผมหมายถึงกิจกรรมอย่างอื่นนอกเหนือจากสิ่งที่ทำอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นะครับ การอยู่หน้าคอมนานๆ ทำให้เด็กมีโอกาสพัฒนาศักยภาพในด้านอื่นๆ น้อยลง เด็กจะอยู่กับตัวเองมากกว่า และมีโอกาสดิ่งลึกได้ง่ายกว่า ซึ่งใครที่ดิ่งแล้ว หลายคนก็จะทิ้งสิ่งที่เคยทำอยู่ไปเลย ทิ้งกิจกรรม เพื่อน กิจกรรมครอบครัว ยิ่งถ้าพ่อแม่ปล่อยด้วย โอกาสที่เด็กจะได้ทำกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งแต่เดิมมีน้อยอยู่แล้ว ก็ยิ่งน้อยลงไปใหญ่ พื้นที่กิจกรรมที่ทางการจัดไว้ให้ตอนนี้ก็ไม่เพียงพอ และยังส่งเสริมกันได้ไม่จริงจัง



  • ถ้าพ่อแม่รู้ว่าลูกชอบเล่นเกมเหล่านี้ ควรจะทำอย่างไร

ผมเข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่คงจะตกใจและเป็นกังวล  สิ่งแรกที่อยากให้พ่อแม่มองหลังจากหายช็อค คือมองย้อนกลับมาที่ตัวเองก่อนจะดุด่าว่ากล่าวเด็ก  ว่าเราได้ทำหน้าที่พ่อแม่ที่สมบูรณ์พร้อมแล้วหรือยัง หมายถึงว่า สื่อสารกับลูกในเชิงบวกมั้ย ให้เวลาเชิงบวกกับลูกบ้างรึเปล่า พ่อแม่รู้มั้ยว่าลูกทำอะไรบ้างในแต่ละวัน ว่าลูกคบกับใคร รู้รึเปล่าว่าลูกผลการเรียนเป็นยังไง ก่อนจะไปโทษว่าเป็นเพราะสังคม เป็นเพราะผู้ผลิตสื่อ หรือเพราะตัวเด็ก ถ้าทำอย่างนั้นจะไม่มีทางแก้ปัญหาได้ เพราะเราไม่มีวันควบคุมผู้ผลิต ควบคุมเทคโนโลยี หรือควบคุมเด็กได้ทุกฝีก้าว  




เราไม่มีทางปกป้องเด็กให้รอดพ้นจากสื่อเหล่านี้ได้หรอกครับ ทำอย่างไรให้เค้ามีภูมิต้านทานกับสื่อเหล่านี้คือโจทย์สำหรับพ่อแม่มากกว่า 





  • ถ้าให้ฝากถึงผู้ผลิตสื่อ

สังคมทุกวันนี้มันป่วยอยู่แล้ว อย่าช่วยทำให้มันป่วยมากขึ้นเลยครับ ช่วยเยียวยาสังคมเถอะ



เทคโนโลยีช่วยทำให้โลกสมมติทวีความสมจริงมากขึ้นจนมีบางคนดิ่งลึกเข้าไปในโลกเสมือนนั้นทั้งโดยเต็มใจหรือไม่รู้ตัว สิ่งที่น่ากังวลคือ เส้นแบ่งระหว่างความจริงกับจินตนาการยังคงมีความชัดเจนแค่ไหน เพราะถ้าหากผู้เล่นไม่สามารถแยกออกเสียแล้วว่าอะไรเป็นความจริง อะไรคือจินตนาการ ความวุ่นวายย่อมตามมาแน่นอน
เป็นหน้าที่ของคนในสังคมอย่างเราที่ต้องทำความเข้าใจผลกระทบจากสื่อเหล่านั้น แม้จะไม่สามารถควบคุมการผลิต และปิดกั้นลูกหลานจากสื่อได้ 100% แต่เราสามารถรู้เท่าทัน และสร้างเกราะป้องกันให้แก่พวกเขาได้...ด้วยความรัก และความเข้าใจ




::บทความที่เกี่ยวข้อง::
ปกป้องเด็กจากภัยโลกออนไลน์ หน้าที่ใครต้องรับผิดชอบ
- 4 อาการ "เด็กติดเกม" ที่พ่อแม่ควรรู้
เกมสมดุล ชีวิตสมดุล เจ็ดกลวิธีสำหรับผู้ปกครอง



ใครกำลังสงสัยว่าตัวเองหรือลูกหลานติดเกมรึเปล่า ก็เข้ามาทำแบบทดสอบการติดเกมได้จ้ะ


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 12 มกราคม 2554 / 11:40

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

Liquoricechy 14 ม.ค. 54 เวลา 17:17 น. 2

ถ้ามีแฟนจะไม่เอาคนติดเกมส์ออนไลน์แบบเซ็กส์ๆ เด็ดขาด

อันตรายมาก TT^TT


PS.  เทอจะอยู่ในความทรงจำของฉันเสมอ...❤
0
Nakara11 7 ก.พ. 54 เวลา 18:48 น. 3

อือ มันผิดจริง เพราะ มันรุนแรงเกินไป เพลงก็หดหู่เกิน มาถึงก็ซั่มเลย
แต่ก็พึ่งเข้าใจแหล่ะ ว่ามันมีไว้ระบายอารมณ์มากกว่าเล่นเฉยๆ นะ
เนื่องจาก ผมเผลอพูดอะไรไม่ดีต่อเจ้าของร้านเน็ตในหมู่บ้านผมร้านนึง กำล่ะพี่น้อง โดนเขาด่าและตบแน่ๆ ดีไม่ดีโดนเด็กที่ร้านตบแน่นอน ก็เลยพูดดีๆ และขอโทษและก็หนีจากร้านเกมนี้มาบ้านครับ เปิดคลิปเกมนี้ดูใน Google เลยครับ เหอๆ ผิดจริงๆ ผิดมะหัญ ถึงกับอยากโดนอาเบะมายัดตูดให้เลยล่ะครับ T__T [b-005]
(แหม ก็เจอเขาใหญ่ดี แต่ปรับ Resolution ซะเล็กนี่หน่า และผมแค่พูดว่าสเปคคอมร้านเขา มันจะดีสักแค่ไหนเชียว อีกอย่าง เห็นเขากันเองกับพวกเพื่อนผมดีมากเยยอ่ะ)


PS.  นักกูรูที่บ้าการ์ตูนและเกม อิอิ
0