Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[ตอบทุกคำถาม] สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มธ. !!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เมื่อถึงฤดูนี้ คณะผมก็จะถูกถามถึงมากนะฮะ เพราะคะแนนมันไม่สูงมาก และใช้ GAT ล้วน
ในฐานะฝ่ายวิชาการ ปี 3 จึงเขียน FAQs นี้ขึ้นมาเพื่อตอบทุกคำถามที่มักจะชอบถามกัน
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องจะเลือกคณะผมโดยคบหาดูใจกันให้ดีก่อน ไม่ใช่เพราะคะแนนมันถึง
ไม่งั้นอาจจะต้องจบแบบเจ็บ เลิกร้างกันไปในปีแรกที่เรียนให้เสี้ยนหนามยอกใจเปล่าๆ (กระซิกๆ)



Q : คณะนี้เรียนอะไร ?
A :
ที่มาที่ไปของมนุษย์โลก (โบราณคดี) วัฒนธรรมและการเข้าใจคนอื่น (มานุษยวิทยา) การจัดระเบียบสังคม โครงสร้างทางสังคม ประชากรศาสตร์(สังคมวิทยา) สถิติ ระเบียบวิธีวิจัย การทำวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพ และการทำวิจัยภาคสนามรายบุคคลในชั้นปีที่ 4  ( สามารถอ่านอีกเยอะๆ ไดโดยการ
ดาวน์โหลดไฟล์นี้)


Q : เรียนจบไปทำมาหากินอะไรได้ ?
A : นี่มันคณะสายวิชาการ ไม่ใช่สายวิชาชีพอย่าง สังคมสงเคราะห์ หรือจิตวิทยา ซึ่งจะมีเส้นทางอาชีพที่ชัดเจนกว่า แต่คณะนี้ไม่เป็นอย่างนั้น ซึ่งคุณอาจจะรู้สึกปวดใจเมื่อต้องนั่งคิดว่าชั้นจะจบไปทำงานอะไรฟะเนี่ย แต่อย่าได้ตระหนกไป เพราะในทางกลับกัน คุณสามารถสมัครงานได้หลากหลายมาก (ไปแย่งงานสาขาอื่นได้หลากหลายมาก) ในอดีตที่ผ่านๆ มาก็มีทั้งทำงานฝ่ายบุคคล การตลาด ซีอีโอ เปิดโรงเบียร์ บก.หนังสือพิมพ์ นักพากย์บอล หรือถ้าสวยพอคุณอาจเป็นภรรยาของเคน ธีรเดชได้ (โอเคอันนี้ไม่นับ)

เมื่อจบหลักสูตร(ไม่ว่าจะอย่างถูลู่ถูกังอย่างไรก็ตาม) คุณจะมีสกิลในการทำวิจัย สามารถออกแบบ วางแผนวิจัย และลงพื้นที่ หาวิธีหาคำตอบมาให้ได้ ซึ่งถ้าไม่ทำวิจัยในมหาวิทยาลัย ก็อาจจะไปทำกับบริษัทเอกชน ความเข้าใจด้านโครงสร้างและความสัมพันธ์ทางสังคมจะช่วยให้คุณไปทำบ้าอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับเครือข่ายคนจำนวนมากๆ เช่นบริหารองค์กร (ซึ่งคุณอาจจะเลือก “บริหาร” เป็นวิชาโทในขณะเรียน) ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับวัฒนธรรมและการรู้จักยอมรับความแตกต่างจะช่วยให้คุณมีทัศคติที่กว้างขวางต่อผู้คน ซึ่งจะช่วยให้คุณทนกับสภาพแวดล้อมทางสังคมในที่ทำงานได้สารพัดสารเพ 

 

งานสายตรงของคณะนี้คือนักวิชาการ คุณอาจจะเกิดติดใจอยากเป็นอาจารย์ หรือเป็นนักวิจัย หรือทำงานกับศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (แถวตลิ่งชัน) ก็ได้ถ้าไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องร่ำรวยอะไร เพราะคุณจะไม่รวยแน่ๆ ๕๕๕

Q : สังคมวิทยาฯ/สังคมสงเคราะห์ ต่างกันยังไง ?
A : อันนี้น้องก็ชอบถามครับ ก็จะขอย้ำอีกทีว่าสังคมวิทยาฯ เป็นคณะสายวิชาการ เรียนทฤษฎี เรียนการวิจัยเพื่อทดสอบทฤษฎีและสร้างความรู้ใหม่ ส่วนสังเคราะห์เป็นคณะสายวิชาชีพ เรียนเรื่องการจัดสวัสดิการสังคมให้แก่ผู้ยากไร้อย่างเป็นรูปธรรม เรียนการช่วยเหลือเหยื่อ ซึ่งสามารถจบไปประกอบอาชีพเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย (ซึ่งก็ต้องมาลงเรียนวิชาของสังคมวิทยาฯ ด้วยบางตัว) ดังนั้นถึงสองคณะนี้จะเป็นญาติกันแต่มีเป้าหมายกันไปคนละทาง

 

Q : นอกจากธรรมศาสตร์แล้วมีที่ไหนอีกบ้าง ?
A : คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามีที่ธรรมศาสตร์ที่เดียว ส่วนที่จุฬา เชียงใหม่ เกษตร มศว. มอ. ขอนแก่น จะเป็นภาควิชา ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วคุณภาพนักศึกษาก็พอๆ กันครับ แต่ถ้าเกิดสนใจจะศึกษาในแนววิชาการจริงจัง ธรรมศาสตร์ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะสาขาย่อยมีหลากหลายกว่าที่อื่นมาก รวมถึงนักวิชาการระดับดารารุ่นใหม่ๆ ก็มารวมกันที่นี่อย่างคับคั่ง

 

Q : เรียนยากไหม ?
A : ยากครับ แต่ก็คงไม่เกินกำลัง (และความจริงคือทุกคณะก็มีส่วนที่ยากทั้งนั้น) คุณจะต้องเผชิญกับแนวคิดป่วงๆ ของนักคิดชาวยุโรปจำนวนมากใน text ซึ่งไม่มีแปลไทย ดังนั้นหากภาษาอังกฤษของคุณไม่ได้ประเสริฐเยี่ยงเจ้าของภาษา นี่ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณเหนื่อยได้  นอกจากนี้คุณอาจจะต้องเจอวิชาแปลกๆ เช่นมานุษยวิทยากายภาพ (Physical Anthropology) ว่าด้วยวิวัฒนาการของมนุษย์ล้วนๆ หากเลือกเอกมานุษยวิทยา ซึ่งถ้าคุณไม่ชอบชีวะวิชานี้ก็เป็นดั่งยาขม  และสุดท้ายคือการทำวิจัยที่จะต้องใช้ความละเอียดอดทนเป็นอันมากในการเขียนงานให้อาจารย์ที่ปรึกษายอมให้ผ่านได้

 

Q : มีเรียนคณิตศาสตร์ป่ะ ?
A : มีครับ คือวิชาสถิติประยุกต์เพื่อการวิจัย ซึ่งคนที่เกลียดชังคณิตศาสตร์หนักหนาอาจจะเบือนหน้าหนี แต่มันมีแค่วิชาเดียวครับ  เว้นแต่ถ้าเลือกเอกสังคมวิทยาก็จะต้องเรียนประชากรศาสตร์ (demography) ซึ่งจะต้องใช้สถิติอีกครับ  แต่อย่าห่วงว่าจะต้องใช้มากขึ้นในปีสูงๆ เพราะเราไม่เน้นการคำนวณครับ แค่เรียนให้เข้าใจหน้าที่ของเครื่องมือทางสถิติต่างๆ จากนั้นก็ใช้ SPSS โปรแกรมคำนวณทางสถิติในการทำวิจัยเชิงปริมาณครับ

 

Q : สังคมในคณะ ?
A : คณะนี้เป็นคณะขนาดปานกลางครับ รุ่นหนึ่งจะมีราว 200 คน สังคมควบคุมด้วยระบบคล้ายเครือญาติ คือความศักดิ์สิทธิ์ของรุ่นพี่อยู่ในระดับเดียวกับพี่สาวพี่ชายตามปกติ คือควรจะเคารพตามจารีตของสังคมไทย  แต่ความตึงเครียดระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องจะมีน้อย เพราะไม่มีการว้ากเช้าว้ากเย็นเพื่อจัดระเบียบสังคม ดังนั้นคุณจะมีอิสระมากในคณะนี้ ถึงขั้นไม่เข้าร่วมกิจกรรมอะไรเลยก็ไม่เดือดร้อนอะไรเพราะถือว่านั่นเป็นสิทธิ์ของคุณ  สรุปคือมันจะเป็นองค์กรหลวมๆ ที่ประสิทธิภาพต่ำแต่ความอบอุ่นจะเหมือนครอบครัวครับ ช่วยให้อยู่สบาย สนิทกับรุ่นพี่ได้ทุกรุ่น

Q : ภาควิจัย คืออะไร ?
A : หลักสูตรการวิจัยทางสังคม เป็นหลักสูตรที่เปิดมาได้ 3 ปีแล้ว พูดง่ายๆ มันคือโครงการพิเศษที่คณะดำเนินการเอง รับสมัครเอง คัดเลือกเอง สอนเอง ค่าใช้จ่ายก็จะแพงกว่าภาคปกติเล็กน้อย (หรือไม่น้อยวะ)
หลักสูตรนี้มีข้อดีคือคุณจะจบไปเป็น “นักวิจัย” เต็มตัวเพราะจะโดนเคี่ยวให้ทำวิจัยหนักกว่าภาคปกติ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยขาดแคลนมาก คือถึงจะหานักวิจัยได้ก็ไม่ใช่คนที่จบมาตรงสาขา  แต่ในความเฉพาะทางของมันก็มีข้อเสียเหมือนวิชาชีพอื่นๆ คือเปิดกว้างน้อยกว่าภาคปกติ ไม่สามารถเลือกวิชาโทตามใจชอบ ไม่สามารถเลือกเอกสังคมฯ เอกมานุษย์ หรือสมดุลได้เหมือนภาคปกติ  การเรียนจะเรียนแยกจากกัน คือภาคปกติจะไม่มีทางเจอกับภาควิจัยเลยในห้องเรียน แต่ก็จะเจอกันตลอดที่ตึกคณะ และอยู่ร่วมกันได้ปกติดีครับ

 

Q : สีคณะ สัญลักษณ์ ?
A : สีคณะคือสีชมพูบานเย็นแสบทรวงที่สุด ซึ่งถ้าคุณเคยไปเทียวไปเทียวมาแถวงานรับปริญญาธรรมศาสตร์ก็จะเคยเห็นว่ามันดูเก๋ดีบนครุยสีดำ ส่วนสัญลักษณ์คือมด ซึ่งหมายถึงการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมขนาดใหญ่

 

Q : คะแนนสูงสุด-ต่ำสุด ?
A :

ปี 2553 : 21742.5 / 19583.6
ปี 2552
: 21568.5 / 19572
ปี 2551 : 23775 / 18925.5

Q : ใช้คะแนนอะไรยื่นบ้าง ?
A : GPA 20 %  /  ONET 30% / GAT 50%

 

ถ้าอยากคุยกันมากขึ้น ใกล้กันมากขึ้น รู้จักกันมากขึ้น
เข้าไปที่
http://socio.tu.ac.th/ เว็บไซต์ของคณะ หรือเข้าไปพูดคุยกันได้ที่ 
http://www.facebook.com/socant48

และถ้าอยากคุยจริงๆ แอดเอ็มมาก็ได้ครับ

ผมพยายามเขียนให้เป็นกลางๆ นะครับ
ไม่อยากให้ดูโฆษณาชวนเชื่อมากจนเกินไป และพยายามจะไม่นำไปเปรียบเทียบกับสาขาอื่นในแง่ความดีความงาม เพราะทุกคณะก็มีแนวทางของตัวเอง ซึ่งมันขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบอะไร และพอใจที่จะเรียนอะไรมากกว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวคณะครับ

สำหรับน้องๆ ที่แอบมีใจให้กัน เลือกแล้วก็ขอให้ติดนะครับ
ตอนนี้พี่ๆ เตรียมงานแรกพบกันแล้ว หวังว่าจะได้เจอกันโดยไว





แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 9 เมษายน 2554 / 11:04
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 5 พฤษภาคม 2554 / 01:26
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 5 พฤษภาคม 2554 / 01:27
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 5 พฤษภาคม 2554 / 15:40

แสดงความคิดเห็น

>

54 ความคิดเห็น

paee 9 เม.ย. 54 เวลา 12:26 น. 1

น้องเต่า เขียนดีมากเลย ชมๆๆ :)
ใครสนใจภาควิจัยก็ลองๆถามได้นะ
พี่อยู่ภาควิจัย กำลังขึ้นปี 4ค่ะ ยินดีตอบๆๆ

ยังไงก็โชคดีนะน้องๆทุกๆคน

2
fang 6 มิ.ย. 58 เวลา 17:47 น. 1-1

พี่คะ คือหนูหลุดแอดมิชชั่น หนูจะสมัครหลังแอดคณะนี้ อยากคุยอะไรหน่อยได้มั้ยคะ พี่ TT

0
ERDE' 9 เม.ย. 54 เวลา 12:35 น. 3

พี่คะ...
ถ้าคะแนนประมาณ 22000 นี่จะรอดมั้ยคะ?
แต่ละปีบูมมากมั้ย?

แล้วถ้าได้ประมาณ 2หมื่นต้นๆล่ะคะ(อันนี้ถามเผื่อเพื่อน)
รบกวนตอบทีนะคะ
:}

0
T O O N 9 เม.ย. 54 เวลา 12:44 น. 4

22000 พี่ว่าก็โอเคนะคะ แต่ถ้า 2หมื่นต้นๆก็อาจจะฉิวเฉียดหน่อย
แล้วถ้าแต่ละปีนี่บูมมั้ย พี่ว่าก็ระดับนึงนะค่ะ เพราะว่าใช้ GAT ล้วน

แต่ถ้าน้องสนใจคณะนี้ พี่ว่าก็เลือกดูก็ได้ค่ะไม่เสียหาย
เดี๋ยวถ้ายังไงให้พี่เต่ามาตอบอีกรอบนึงละกัน

0
เต่า นะ 9 เม.ย. 54 เวลา 14:55 น. 7

ตอบน้อง ERDE'
ปีนี้มีเหตุอันพอจะเชื่อได้ว่า GAT เฟ้อ และแม้ว่า O-net คะแนนเฉลี่ยจะต่ำลง
แต่ในคณะที่ใช้ GAT 50% เช่นสังคมวิทยาฯ มันจะเฟ้อจริงจังครับ เอาแบบแง่ร้ายสุดๆ
ก็อาจจะ +ขึ้นไป 1,500-2,000 จากปีที่แล้ว

คะแนน 22k ผมเชื่อว่าผ่านได้สบาย โอกาส 95%+ ด้วยอัตราความเชื่อมั่นแบบมองโลกในแง่ร้าย
ส่วนเพื่อน 20k ค่อนข้างเสี่ยง อาจจะมีโอกาสราว 50%-70% แล้วแต่ความผันผวน
ยังไงก็ตามผมคิดว่าอย่าเพิ่งตระหนกเกินไปกับการเฟ้อของ GAT เพราะความผันผวนคาดเดาไม่ได้เสมอ

เป็นกำลังใจให้ครับ

edit >> ตอบน้อง bank
21k ต้นๆ ค่อนข้างปลอดภัยแล้วครับ โอกาสไม่น่าจะต่ำกว่า 80%



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 9 เมษายน 2554 / 15:05
0
ERDE' 9 เม.ย. 54 เวลา 17:20 น. 8

พี่คะ...ถ้าไม่ได้ทำงานที่แบบโดยตรงกับคณะนี้
สามารถทำงานอะไรได้อีกบ้างคะ?

แล้ว...ภาษาอังกฤษจำเป็นมากมั้ยคะ
หนูไม่ค่อยปึ๊กอ่า แหะๆ
:}

0
T o o n 9 เม.ย. 54 เวลา 17:34 น. 9

ทำได้เกือบหมดนะค่ะ คือวิชาคณะเราสามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลายวิชาชีพ
พี่ๆหลายคนจบไปก็ไม่ทำงาานเกี่ยวกับคณะโดยตรง เป็นแอร์ฯก็มี ทำงานบริษัทก็มี

ภาษาอังกฤษก็ต้องใช้พอสมควรเพราะพวกหนังสือส่วนมากเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
แต่ว่าก็สามารถฝึกกันได้ อ่านบ่อยฝึกบ่อยๆก็ดีขึ้นค่ะ

0
ิbank 10 เม.ย. 54 เวลา 14:54 น. 10

งานวิจัยนี่ทำตลอด หรือทำปี4 คับ ?
แล้วได้ข่าวว่ามีเรียนเขียนโปรแกรมด้วยหรือคับ ?

0
เต่า นะ 10 เม.ย. 54 เวลา 15:24 น. 11

ไม่ตลอดครับ
ปี 2 จะเป็นพื้นฐาน+ทฤษฎี อาจได้ทำวิจัยขนาดจิ๋วแบบ 3 วันเสร็จในวิชาสถิติฯ
ปี 3 ทำวิจัยกลุ่ม เป็นงานขนาดไม่ใหญ่มาก
พอถึงปี 4 เทอม 1 ถึงจะเป็น individual project ครับ

ไม่มีเขียนโปรแกรมครับ แต่มีเรียนใช้โปรแกรม SPSS ในงานวิจัยเชิงปริมาณครับ

0
ิbank 10 เม.ย. 54 เวลา 15:38 น. 12

ขอบคุณพี่เต่ามากครับ จริงๆแล้วคณะนี้มีกี่เอกครับ ผมเปิดดูวิกิพิเดียบอกว่า
หลักสูตรสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาบัณฑิต (สม.บ.) Bachelor of Arts Program in Sociology&nbsp &nbsp &nbsp 
and Anthropology
-สาขาสังคมวิทยา
-สาขามานุษยวิทยา
หลักสูตรสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาบัณฑิต (การวิจัยทางสังคม) Bachelor of Arts Program in&nbsp 
Social Research
-สาขาการวิจัยทางสังคม

ใช่ไหมครับแล้วมันต่างกันยังไง ?&nbsp ขอบคุณพี่จริงๆคับ

0
เต่า นะ 10 เม.ย. 54 เวลา 16:19 น. 13

มี 2 หลักสูตรฮะ
คือหลักสูตรปกติ - หลักสูตรวิจัย (วุฒิที่ได้จะต่างกัน)
อย่างที่บอกคือหลักสูตรวิจัยเป็นโครงการพิเศษ เน้นทำวิจัยมากกว่า พอปี 3 ได้ไปดูงานต่างประเทศ

ส่วนหลักสูตรปกติ จริงๆ แล้วมี เอกเดียว แต่เลือกเรียนได้ 3 แบบคือ
- เน้นหนักสังคม
- เน้นหนักมานุษย์
- สมดุล
ซึ่งเรามักจะพูดกัน หรืออธิบายกับคนอื่นๆ ว่าเรียนเอกสังคม หรือเอกมานุษย์ ให้เข้าใจง่ายๆ ฮะ

ความต่างของแต่ละแบบลองอ่านดูในนี้ http://socio.tu.ac.th/file/11.pdf



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 10 เมษายน 2554 / 16:24
0
1234 14 เม.ย. 54 เวลา 15:15 น. 15

พี่คะ แล้ววิจัยทางสังคมนี่ เรียนหนักมั้ย และเรียนเลขยากมั้ยคะ
แล้วที่พี่บอกได้ไปต่างประเทศ นี่คือทำอะไรหรอคะ

0
เต่า นะ 14 เม.ย. 54 เวลา 23:50 น. 16

หนักครับ แต่ก็ไม่เกินกำลัง
เลขเยอะกว่าภาคปกติ คือจะแบ่งเป็นสถิติ1 สถิติ2 และบังคับวิชาคอมฯ (วิชาสถิติที่มีคอมฯให้ใช้)
จริงๆ แล้วสถิติประยุกต์ในงานวิจัยไม่ได้ยากมากมายอะไร แต่ถ้าคนไม่ชอบเลขมันก็จะไม่สนุก และทำให้รู้สึกว่ายากฮะ

ไปต่างประเทศไปทำอะไรบ้างนี่ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะไม่ได้อยู่ภาควิจัย
แต่รุ่นพี่ภาควิจัยรุ่นแรกก็กำลังจะไปกันวันสองวันนี้แล้วฮะ ออกแนวไปศึกษาสังคมวัฒนธรรม
เรียนรู้ทักษะการลงสนามกับอาจารย์ที่เชี่ยวชาญภูมิภาคนั้น มีเวียดนาม จีน แล้วก็พม่า
(ในปีถัดๆ ไปอาจปรับเป็นที่อื่นด้วย ได้ข่าวว่าอินโด)
สิ่งที่ต้องทำเวลาลงสนามก็คือทำบันทึกสนาม (field note) ครับ เป็นสาระสำคัญอันหนึ่งของคณะนี้
หลังจากกลับมาแล้วก็เอาฟีลด์โน้ตมาประมวล สรุปเพื่อตอบคำถามวิจัย
ในกรณีนี้ไปแค่อาทิตย์กว่าๆ คาดว่าคงจะเป็นโจทย์วิจัยเล็กๆ เพราะมีข้อจำกัดด้านเวลา และภาษาพูด

1
เต่า นะ 16 เม.ย. 54 เวลา 07:55 น. 18

อย่างที่บอกน้องคนข้างบนโน้นฮะ
20k ต้นๆ โอกาสผันผวนมาก ปัจจัยมันคาดเดายาก
แต่หลังจากที่ผมไปนั่งดูมาแล้วคะแนนมันก็ไม่ได้เฟ้อถึงขั้นร้ายกาจอะไรปานนั้นนะ
โอกาสก็น่าจะ 60% ขึ้นไปเป็นอย่างต่ำ

อย่าวางไว้ต่ำกว่าอันดับ 2 เป็นใช้ได้

0