Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คำถามเด็ดๆที่คนญี่ปุ่นถามนักเรียนไทยในญี่ปุ่น ^o^

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 1. คำถามเกี่ยวกับตัวเลข



คนญี่ปุ่นเป็นชนชาติที่สนใจตัวเลขและข้อมูลทางสถิติมาก ถ้าคุณมีเจ้านายเป็นคนญี่ปุ่น ลองนึกถึงคำถามเจ้านายสิคะว่า แกถามอะไรบ้าง...จำนวนพนักงาน ยอดขาย ความเร็วเครื่องจักร ค่าใช้จ่ายต่อหัว ค่าแรง ค่าไฟ ค่าน้ำ สารพัด ใครที่ (โชคดี) ไม่มีเจ้านายเป็นคนญี่ปุ่น ดิฉันจะยกตัวอย่างง่ายๆ ให้นะคะ

ภาพด้านล่างเป็นข่าวเกี่ยวกับน้ำท่วมเมืองไทยที่ออกอากาศในญี่ปุ่นค่ะ ตัวเลขด้านขวาคือ ชื่อนิคมอุตสาหกรรมและจำนวนบริษัทในแต่ละอุตสาหกรรม (เช่น นิคมโรจนะมี 147 บริษัท นิคมไฮเทคมี 100 บริษัท) เครื่องหมาย x △ คือ ระดับความเสียหาย ออกข่าวแค่นี้ เขียนเป็นแผนที่มาเสียละเอียดและเห็นภาพได้ชัดทีเดียว 



เพราะฉะนั้น เวลาดิฉันพาเพื่อนคนญี่ปุ่นเที่ยว ก็จะเจอคำถามแบบนี้...



- ณ ตลาดร่มหุบ (ตลาดแม่กลอง) จ.สมุทรสงคราม:
“ทางรถไฟเส้นนี้ยาวกี่กิโลเมตรครับ”
(จะบ้าเหรอ) ไม่ทราบค่ะ”

- ณ ทุ่งทานตะวัน จ.สระบุรี:
“ดอกทานตะวันสวยมากเลย ทั้งไร่นี่มีต้นทานตะวันทั้งหมดกี่ต้นคะ”
“ (พระเจ้า!) ไม่ทราบค่ะ”

คือก็เข้าใจว่า ถ้าที่ญี่ปุ่นเขาจะบอกไปเลยว่า แปลงนี้ 3 พันต้น แปลงนี้ 5 พันต้น เราจะได้กะขนาดความใหญ่ ขนาดไร่ จำนวนดอกไม้ได้ง่าย แต่คนไทยไม่มีใครนั่งนับไง เชื่อสิ ถ้าถามเจ้าของฟาร์มว่า พี่คะ ทุ่งนี้มีทานตะวันกี่ดอก อย่างมากพี่เขาก็คงตอบว่า “โอ...เยอะครับน้อง” จบข่าว.

ใครพาคนญี่ปุ่นไปดูพลุ ดูดอกไม้ อย่าลืมเซิร์ชข้อมูลเตรียมไปด้วยนะคะว่า ที่เราดูน่ะ มันทั้งหมดกี่ดอก กี่ต้น แขกญี่ปุ่นจะได้สบายใจ โฮะ

- ระหว่างทางไปพัทยา:
“จากกรุงเทพฯไปพัทยานี่ กี่กิโลเมตรครับ” 
“เอ้อ...ไม่แน่ใจค่ะ”
“ถ้างั้น ใช้เวลากี่ชั่วโมงคะ”
“เอ้อ...ถ้ารถไม่ติดก็ซัก 2 ชั่วโมงมั้งคะ”
“ถ้ารถติดล่ะครับ”
“เอ้อ...ไม่ทราบค่ะ (แล้วแต่ฟ้าดินจะดลบันดาล)”

เขาคงมองว่าฉันเป็นคนโง่ ไม่รู้ประสีประสาเนอะ แต่บ้านเมืองเรา เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้จริงๆนิ่คะ หลังๆเลยต้องเอาหนังสือแผนที่กรมทางหลวงติดรถไว้ เวลาคนญี่ปุ่นขยับปากจะถามอะไร จะได้เอาแผนที่ชี้ให้ดู เอ้า ดูซะ ทิศนี้ หลักกิโลเมตรนี้ ไปอีกกี่กิโลเมตรนี้ เอาข้อมูลยัดๆให้เขาไปเพื่อเซฟตัวเอง


2. คำถามเกี่ยวกับช้าง



เมืองไทยเป็นประเทศที่สร้างคาแรคเตอร์ของตัวเองชัดเจนมาก พูดถึงเมืองไทย ร้อยละร้อยของคนญี่ปุ่นจะนึกถึง “ช้าง” เป็นอันดับแรกค่ะ คงซึมซับข้อมูลจากหนังสือท่องเที่ยว รายการโทรทัศน์ ของฝาก ขนาดช็อคโกแล็ตที่ขายที่ Duty Free ยังต้องทำเป็นรูปช้างเลย คนญี่ปุ่นเลยเข้าใจไปว่า ชีวิตเราผูกพันกับช้างมาก เพราะฉะนั้น ตอนที่ดิฉันไปเรียนที่ญี่ปุ่น ก็จะเจอคำถามแบบ...

ที่บ้านเลี้ยงช้างกี่ตัวครับ/คะ
(เอ่อ...บ้านหนูอยู่กรุงเทพฯ เค้าห้ามเอาช้างเข้ามาทำมาหากินค่ะ)

ขี่ช้างยากมั้ย
(คือ คนถามคิดไปเองแล้วว่า อีนี่ที่บ้านเลี้ยงช้างชัวร์ มันเลยกระโดดไปถามภาคประยุกต์)

ไปโรงเรียนนี่ นั่งช้างไปหรือเปล่า
คำถามนี้ไม่ได้โม้ เดี๊ยนโดนจริงๆ เจ๊คนที่ถามคงคิดว่าบ้านดิฉันอยู่บนดอย ช้างทำหน้าที่คล้ายๆ รถโรงเรียน ผ่านหน้าบ้านเด็กคนไหนก็เอางวงจับเด็กขึ้นมาไว้บนหลัง แล้วเดินไปส่งที่โรงเรียน เซาะกราวมาก... 


3. คำถามเกี่ยวกับกะเทยไทย



พูดถึงเมืองไทย ร้อยละ...87.4 ของคนญี่ปุ่นจะนึกถึง “กะเทยไทย” ความนิยมเป็นรอง “ช้าง” อยู่แค่ไม่กี่ช่วงตัว เป็นที่น่าแปลกมากเพราะคำถามในหมวดนี้จะมีอยู่แค่คำถามเดียว นั่นก็คือ
“ทำไมเมืองไทย กะเทยเยอะจัง”

เคยมีรุ่นพี่อ่านงานวิจัยและเล่าให้ฟังว่า ประเทศเรามักใส่อาหารร้อนๆ ในถุงพลาสติก ซึ่งความร้อนนั้นจะไปทำปฎิกิริยาอะไรซักอย่างกับถุง เกิดเป็นสารเคมีที่มาทำลายฮอร์โมนเพศชาย เพราะฉะนั้น ผู้ชายไทยที่กินกับข้าวถุงมากๆ ก็มีโอกาสเสี่ยงที่โครโมโซมหรือฮอร์โมนเพศชายจะถูกทำลายสูง 

แต่เราก็สงสัยว่า เด็กบางคน อยู่แค่ประถมหรือม.ต้นก็เริ่มเข้าวงการนี้แล้ว สารเคมีมันมีปฎิกิริยาไวขนาดนี้เชียวหรือ ด้วยความไม่แน่ใจในสมมติฐานข้างต้น ดิฉันก็เลยตอบคนญี่ปุ่นไปก่อนว่า 

“คงเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมค่ะ เห็นคนอื่นเค้าเป็นๆกัน ผู้ชายไทยหลายคนเริ่มตาสว่างว่า เอ...ฉันไม่ต้องชอบผู้หญิงก็ได้นิ่ เลยเริ่มเบี่ยงเบนเป้าหมายไปเป็นเพศเดียวกันแทน” 


4. คำถามฮาร์ดคอร์



คือ คำถามประเภทที่คุยกับคนญี่ปุ่นมา 500 คน จะมีสัก 1 คนที่ถามคำถามแบบนี้ ครั้งนี้ ขอเล่าแค่เรื่องเดียวนะคะ เดี๋ยวไม่มีมุขเขียนหากินครั้งต่อไป o( ̄ー ̄;)ゞ คำถามล่าสุดที่ดิฉันโดน เป็นฮาร์ดคอว์ในรอบ 2 ปีนี้ คือ 

“แย้...ภาษาอังกฤษว่าอะไร” ( ̄□ ̄;)!!

ขอย้ำ “แย้” ค่ะ “แย้” ....เจ้าสัตว์ตัวนั้นแหละค่ะ ดิฉันเกิดมายังไม่เคยเห็นเลย

คนถามเป็นเพื่อนดิฉันเอง ชื่อ “ยูกิ” เธอชอบอ่านข่าวอ่านบล๊อกเกี่ยวกับเมืองไทยมาก วันหนึ่ง ยูกิเผอิญไปอ่านเจอบล๊อกของคนญี่ปุ่นที่อยู่อีสาน เขาเขียนเล่าว่า “วันนี้ชาวบ้านจับกิ้งก่าที่ชื่อว่า แย้ มา”...

อีตาบล๊อกเกอร์คนนี้ก็ถ่ายรูปแย้อัพลงบล๊อกแล้วก็บรรยายๆ ตอนท้ายของบล๊อกยังอุตส่าห์เขียนหัวข้อ “ศัพท์ภาษาไทยวันนี้” ได้แก่ “จิ้งจก” “ตุ๊กแก” “กิ้งก่า” “แย้” แล้วก็ “วรนุช” โดยพี่แกเรียงตามขนาดของสัตว์แต่ละตัว เฮียแกรู้เรื่องเมืองไทยมากไปเปล่า น่ากลัวมาก...



ใครอยากอ่าน ⇒ http://blogs.yahoo.co.jp/smkg1754/28747532.html 

อะแฮ่ม เข้าเรื่องยูกิต่อ ยูกิติดใจในความน่ารักของแย้ เลยสนอกสนใจหาข้อมูล เธอสงสัยว่า ภาษาญี่ปุ่น “แย้” เป็นสัตว์ในหมวดไหนหนอ เธอหาคำแปลญี่ปุ่นไม่เจอ เลยให้ดิฉันหาศัพท์ภาษาอังกฤษให้ก่อน แล้วเดี๋ยวเธอค่อยไปหาเป็นภาษาญี่ปุ่นต่อ ทุ่มเทมาก... ลืมบอกว่า ยูกิเป็นแม่บ้าน ลูกอายุ 16 ขวบแล้วนะคะ แม่บ้านยังชอบศึกษาหาความรู้ (ประหลาดๆ) ขนาดนี้ 

เป็นความโชคดีของดิฉัน ที่ Wikepedia ไทยมีข้อมูลที่แน่นพอ ได้ความว่า “แย้ มีชื่อสามัญว่า Butterfly Lizard หรือ Small-scaled Lizard หรือ Ground Lizard จัดเป็นสัตว์ที่อยู่ในสกุล Leiolepis ในวงศ์ Agamidae วงศ์ย่อย Leiolepidinae” อ่านงงๆ เหมือนกันเพราะดิฉันจบสายศิลป์ สุดท้ายก็ก๊อปปี้ศัพท์ทั้งดุ้นตอบยูกิไป

ใครที่มีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นน่าจะเคยเจอคำถามประมาณนี้บ้างนะคะ ตรง-ไม่ตรง เล่าสู่กันฟังด้วยค่า ^^

เรื่องโดย : เกตุวดี www.marumura.com
ภาพประกอบโดย : Choco
PS.  ชีวิตคนไม่ใช่นิยาย ไม่อาจรอคอยโชคชะตาเขียนทุกอย่างให้สมหวัง หรือ วาดเส้นใดๆให้ประสานบรรจบกันอย่างต้องการได้

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

yayayu 30 ก.ย. 59 เวลา 11:05 น. 4
สนุกไปอีกแบบ เรื่องกระเทยนี่คนจีนก็ถามเราเยอะ เขาจะถามว่าทำยังไงถึงจะเป็นกระเทย  เขาคิดว่ามันเป็นโรคค่ะ โรคทางจิตใจ  บางทีก็ถามว่าเราเป็นกระเทยไหม อารมณ์ไม่แน่ใจ
0