Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตะลุยวัดในกรุงเทพฯ ตอน วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

           ผมเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการถ่ายรูป (ถึงฝีมือจะไม่ดีก็เถอะ) แต่มันก็มีความสุขที่ได้ถ่ายรูป โดยเฉพาะในช่วงนี้ ผมชอบการถ่ายภาพวัดหรือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ต่างๆ มากมาย และนำไปอัำพโหลดลงเฟซบุ๊ค 

          โดยมาก สถานที่ที่ผมไป มักจะเป็นวัด ผมชอบมาก โดยเฉพาะพระอารามหลวงที่มีสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง และทัศนียภาพที่สวยงาม ผมจึงได้นำภาพที่ผมไปถ่ายมาลงในกระทู้นี่

         วัดแรกที่ผมจะนำเสนอคือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้วที่พวกเรารู้จักกันดีนั่นเอง ซึ่งวัดพระแก้วนั้น เป็นวัดที่อยู่ในพระบรมมหาราชวัง เหมือนกับวัดมหาธาตุในสมัยกรุงสุโขทัย วัดพระศรีสรรเพชญ์ในสมัยกรุงศรีัอยุธยา และวัดอรุณราชวรารามกับวัดโมลีโลกยารามในสมัยกรุงธนบุรี (ในสมัยนั้นเป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง) เป็นวัดสำหรับพระมหากษัตริย์ประกอบพิธีต่างๆ จึงมีแต่เขตพุทธาวาส ไม่มีเขตสังฆาวาส ทำให้ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา

         จริงๆ วัดนี้ผมเคยไปตั้งแต่ตอนประถม แต่ตอนนั้นยังไม่มีกล้อง และไม่มีความสนใจในเรื่องพวกนี้ จึงไม่ไำด้ถ่ายภาพมา แต่ตอนหลัง ตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัยมา ผมก็เริ่มมีความสนใจ และไปที่วัดนี้หลายรอบมาก ไปทีไรก็ไม่เึคยเบื่อเลยสักครั้ง

มุมนี้ผมว่าเป็นมุมที่สวยที่สุดของวัดแล้ว ถ้าเข้ามาทางประตูวิเศษไชยศรี ก็จะต้องพบกับมุมนี้ และอดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายภาพ

ปราสาทพระเทพบิดร สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปของรัชกาลที่ ๑-๘ ปกติจะไม่เปิดให้เข้าชมด้านใน นอกจากเป็นวันสำคัญต่างๆ เช่น วันฉัตรมงคล ถึงจะเปิด ผมเคยเข้าไปแล้ว แต่เสียดายที่เขาห้ามถ่ายภาพ

พระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง ข้่างในสวยมาก แต่ก็น่าเสียดายอีก ที่เขาห้ามถ่ายภาพภายใน แต่ก็มีบางคนนะ ที่เขาแอบซูมที่หน้าประตู พอดีกล้องผมกำลังซูมมันไม่ถึงขนาดนั้น ก็เลยแห้วไป



ที่กำแพงพระอุโบสถ จะประดับด้วยรูปครุฑยุดนาคเต็มไปหมด



พระศรีรัตนเจดีย์




พระมณฑป (ซ้าย) และ พระศรีรัตนเจดีย์ (ขวา)



ปราสาทหินนครวัดจำลอง รัชกาลที่ ๔ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จำลองมาจากกัมพูชา






ราวบันไดรูปพญานาค



วิหารยอด







พระอัษฎามหาเจดีย์ สร้างเป็นรูปแบบของพระปรางค์ มี ๘ องค์



ยักษ์และลิงช่วยกันแบกฐานเจดีย์ เป็นอีกมุมที่คนต่างชาตินิยมมาถ่ายภาพ โดยทำท่าเลียนแบบยักษ์และลิง ผมเห็นแล้วรู้สึกถึงความสามัคคียังไงไม่รู้ เพราะที่เรารู้ๆ กัน คือในรามเกียรติ์ ยักษ์กับลิงจะเป็นศัตรูกัน ทำสงครามกัน แต่ที่นี่ ต้องมาช่วยกันแบกเจดีย์ ถ้าคนไทยมีความสามัคคีแบบนี้ก็คงดี



ยักษ์วัดพระัแก้ว สองตนนี้คือ ทศกัณฐ์ (สีเขียว) และ สหัสเดชะ (สีขาว) ไหนๆ แล้วก็ขอพูดถึงสหัสเดชะหน่อย คือที่เรารู้ๆ กัน ทศกัณฐ์จะมี ๑๐ หน้า ๒๐ มือ ก็ว่าเยอะแล้ว แต่สหัสเดชะที่เป็นเพื่อนกับทศกัณฐ์เนี่ย มีตั้ง ๑,๐๐๐ หน้า ๒,๐๐๐ มือ เยอะกว่ามาก แต่ถึงจะเยอะอย่างไร สุดท้ายก็ถูกหนุมานสังหารอยู่ดี





คู่นี้คือ ทศคีรีวัน (ขวา) และ ทศคีรีธร (ซ้าย) โอรสแฝดของทศกัีณฐ์กับนางช้าง สังเกตได้ว่าจมูกจะยาวเหมือนช้าง ถูกพระลักษมณ์สังหารทั้งคู่










ประติมากรรมต่างๆ ที่พบในวัด




เคยมีเพื่อนว่าผมว่าผมสักแต่ว่าถ่ายรูป ไม่มีัศิลปะในการถ่ายภาพ ผมก็เลยลองถ่ายแบบนี้ดู โดยภาพแรกนี่ผมได้ไอเดียจากป้ายโฆษณาการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ




ที่ระเบียงพระอุโบสถ มีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ เขียนจนจบเรื่องบริบูรณ์ ซึ่งเป็นอะไรที่สวยงามมาก ผมตามไปถ่ายรูปหลายครั้งมาก กะจะถ่ายให้จบเรื่อง แต่ไปหลายครั้ง ก็มีหลา่ยส่วนเขาปิดซ่อมอยู่ ก็เลยไม่้ได้ถ่ายจนครบเสียที ในภาพก็จะเป็นภาพหนุมานอมพลับพลา ในตอนที่หนุมานป้องกันไม่ให้ไมยราพลักพาตัวพระรามไป แต่พอโดนกล้องเป่ายาเข้าไปก็จบ 




เมื่อชมวัดพระแก้วเสร็จ ก็จะต้องออกทางพระบรมมหาราชวัง ซึ่งจะเห็น พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เด่นเป็นสง่าอยู่ เป็นการออกแบบที่สุดยอดมาก คือตัวปราสาทเป็นศิลปะแบบตะวันตก แต่ยอดปราสาทเป็นแบบไทย เพื่อนผมเคยเรียกว่า "ฝรั่งสวมชฎา" ด้วย ที่ชั้นล่างของพระที่นั่ง มีพิพิธภัณฑ์อาวุธโบราณ ที่น่้าสนใจคือ พระแสงปืนของรัชกาลต่้างๆ 


พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นที่เก็บพระบรมศพของพระราชวงศ์ อย่างเช่นในตอนที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวา่สราชนครินทร์ หรือสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตน์สิ้นพระชนม์ ก็เก็บพระศพที่พระที่นั่งนี้



   
 พระที่นั่งบรมพิมาน
เ้ป็นที่ที่รัชกาลที่ ๘ ทรงประทับ และเสด็จสวรรคตที่นี่




หมู่พระมหามณเฑียร นี่ก็ห้ามถ่ายภาพข้างใน

ขอบคุณที่รับชมครับ โอกาสหน้า ผมจะนำเสนอวัดอะไร คอยติดตามดูนะครับ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 ตุลาคม 2555 / 18:30
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 13 ตุลาคม 2555 / 18:33
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2555 / 22:44
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 24 เมษายน 2556 / 13:11

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

ปาณา 30 พ.ย. 61 เวลา 01:37 น. 2

ยยักษ์และลิงไม่ได้สามัคคีค่ะ ลิงไปหลอกยักษ์มาช่วยแบกลิงไม่ออกแรงช่วยเลย ดูจากหน้าหนักและหน้าระรืน จุดนี้เป็นต้นเหตุของสำนวนลิงหลอกเจ้าค่ะ ปล.มีโอกาสคุยกับพี่วิทยากรเลยรู้ค่ะ

1
ซูบารุโย 6 ธ.ค. 61 เวลา 17:21 น. 2-1

ไม่เคยได้ยินเรื่องนั้นเลยครับ ลองเสิร์ชดูเรื่องลิงหลอกเจ้าก็เห็นมาจากนิทานชาดกที่ไม่เกี่่ยวกับรามเกียรติ์ ส่วนเรื่องการหลอก ที่คล้าย ๆ กันก็เคยเจอในตำนานการกวนเกษียรสมุทร ที่ว่าเทวดาไปหลอกยักษ์ให้มาช่วยกันชุดภูเขามันทระเพื่อกวนเกษียรสมุทรให้เกิดเป็นน้ำอมฤตครับ

0