Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

หลวิชัยคาวี1

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
วันหนึ่ง ณ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณและสัตว์นานาชนิด แม่โคได้พาลูกน้อยออกเที่ยวแทะเล็มยอดหญ้าไปตามไหล่เขา ขณะที่ผ่านมาถึงปากถ้ำแห่งหนึ่งก็พบลูกเสือตัวน้อยที่กำลังรอแม่ของมันกลับมาจากการอาหาร ลูกเสืออยู่ในสภาพหิว กระหายน้ำนมจนแทบสิ้นเรี่ยวแรงเป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก ด้วยความหิวลูกเสือ
จึงค่อยๆคลานเข้ามา อ้อนวอนขอแบ่งปัน น้ำนมแม่โคเพื่อดื่มกินบ้าง ลูกโคที่อยู่ในวัยเดียวกันกับลูกเสือจึงขอ
ร้องให้แม่โคแบ่งปันน้ำนมให้ลูกินบ้าง เพราะรู้สึงสงสารลูกเสือที่กำลังหิวจนแทบสิ้นลมซึ่งสมควรจะช่วย
ชีวิตไว้ ในที่สุดแม่โคก็ใจอ่อนให้ลูกินนมจนอิ่มหนำสำราญ ต่อมาทั้งสองครอบครัวได้มาอาศัยอยู่ในถ่ำ
เดียวกันตามคำขอร้องของลูกเสือ ถึงแม้แม่โคจะกลัวแม่เสือแต่ก็อุ่นใจที่แม่เสือให้สัญญาว่าจะไม่ทำร้าย
แต่ด้วยสัญชาตญาณผู้ล่าเนื้อวันหนึ่งแม่เสือออกหากินแต่ไม่ได้อาหาร ด้วยความโมโหหิวจึงลืมตัวจับแม่วัวกิน
เป็นอาหาร ลูกับลูกโครู้ความจริงต่างก็เสียใจเป็นอย่างมาก จึงคิดหนีแม่เสือไป และต่อมาแม่็ถูกกรรม
ตามสนองเพราะถูกนายพรานยิงตาย จากนั้นลูกับลูกโคก็ใช้ชีวิตร่วมกันไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่เสมอ
สร้างความประหลาดใจแก่บรรดาสัตว์ทั้งหลายเป็นยิ่งนัก ต่อมาฤาษีได้รับรู้ถึงความสำพันธ์ของสัตว์ทั้งสอง
จึงมีความคิดที่จะชุบร่างกายลูกับลูกวัวให้เป็นมนุษย์ เพราะเห็นว่าโดยสัญชาตญาณแล้วยากที่สัตว์ทั้งสองจะเป็นมิตรกันตลอดไป ฤาษีตั้งชื่อให้ลูกเสือว่าหลวิชัย ส่วนลูกโคตั้งชื่อว่าคาวี หลังจากทีทั้งสองกลายเป็นคนแล้วพระฤาษีก็สั่งสอนวิชาความรู้จนหมดแล้วแนะนำให้ทั้งสองออกเดินทางสู่โลกกว้าง เพื่อจะได้สร้างคุณงามความดีและเกียรติคุณต่างๆ เพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่น แต่ก่อนจะออกเดินทางฤาษีได้ถอดดวงใจของทั้งสองใส่ไว้ในพระขรรค์ ในระหว่างทางที่หลวิชัยกับคาวีเดินทางไปจันทบุรได้แวะพักที่ต้นไม้ใหญ่ริมบึงซึ่งเป็นที่อยู่ของยักษ์ตนหนึ่งที่คอยจับคนกินเป็นอาหารอยู่เสมอ ขณะที่หลวิชัยพักผ่อนอยู่นั้น คาวีออกเดินเลียบไปตามริมบึง และได้เจอยักษ์ตนนั้นเข้า เมื่อยักษ์เห็นคาวีก็หวังจับกินเป็นอาหารทั้งสองจึงต่อสู้กันและคาวีเป็นฝ่ายชนะสามารถฆ่ายักษ์ได้ก่อนที่จะถูกจับกิน และเหตุการณ์ทั้งหมดก็เป็นที่โจษจันกันทั่วเมือง ท้าวมคราชผู้ครองเมืองจันทบุรีนั้นรู้เรื่องเข้าทรงโปรดเกล้าให้หลวิชัยกับคาวีเข้าเฝ้า และยกราชธิดาให้เป็นคู่ครองของคาวีผู้ฆ่ายักษ์พร้อมแต่งตั้งให้เป็นอุปราช แต่คาวีเห็นว่าตนนั้นเป็นน้องของหลวิชัยจึงเสนอยกลาภยศทั้งหมดให้กับหลวิชัยผู้พี่ ต่อมาคาวีปรารถนาจะออกไปแสวงหาเกียรติคุณความดี ก่อนออกเดินทางหลวิชัยกับคาวีได้เก็บดอกบัวไว้คนละหนึ่งดอกและกล่าวแก่กันและกันหาว่าหากแม้นผู้ใดประสบภัยอันตรายก็ขอให้ดอกบัวนั้นเ่ยวแห้งลง จากนั้นก็ออกเดินทางพร้อมกับพระขรรค์ซึ่งใส่ดวงใจของตนไว้ คาวีเดินทางเรื่อยมาจนถึงเมืองรมย์นครและแปลกใจว่า ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ในเมืองนี้เลย คาวีเดินขึ้นเข้าไปในราชวังเห็นกลองใบใหญ่ แต่ปรากฎว่าเมื่อตีกลองกลับไม่มีเสียงจึงใช้พระขรรค์กรีดหนังกลองดูข้างในก็พบว่ามีหญิงสาวรูปงาม เส้นผมส่งกลิ่นหอมให้เคลิบเคลิ้มน่าหลงไหล คาวีสอบถามด้วยความสงสัยจึงได้ความว่าที่นางต้องมาซ่อนตัวอยู่ในกลองนี้ เพราะต้องการหลบนกยักษ์คู่หนึ่งที่จ้องจะบินมาโฉบเอาผู้คนในเมืองไปกิน ส่วนนางเองเป็นพระราชธิดาของท้าวมัทราชกษัตริย์นครนี้ นามว่าจันทร์สุดา ที่หน้าเศร้าคือ ท้าวพรหมจักรกับพระมเหสีก็ถูกนกยักษ์โฉบไปกินแล้ว คาวีจึงวางแผนฆ่านกยักษ์คู่นั้น โดยการจุดไฟเพื่อหลอกให้นกยักษ์เข้าใจผิดคิดว่าชาวเมืองกำลังหุงหาอาหารพอนกยักษ์ ทั้งสองโฉบเข้ามาคาวีก็เข้าต่อสู้ และฟันด้วยพระขรรค์จนนกยักษ์ตายทั้งสองตัว หลังจากที่คาวีสามารถปราบนกยักษ์ได้แล้วบรรดาชาวรมย์นครต่างพากันโห่ร้องด้วยความยินดีแล้วขอให้คาวีซึ่งเป็นผู้ปราบนกยักษ์ขึ้นปกครองเมืองรมย์นครที่ไม่มีใครมาเป็นราชาในตอนนี้ โดยมีนางจันทร์สุดาเป็นมเหสีเคียงข้าง

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

-Saber- 5 พ.ย. 55 เวลา 21:25 น. 2

เดี๋ยวๆๆ ถ้าจะเล่าเรื่อง ไปกดเปิดเรื่องครับ


PS.  ถ้าเขาว่าผิดผมว่าไม่ผิดแล้วผมต้องผิดใช่ไหม ถ้าเขาว่าถูกผมว่าไม่ถูกแล้วผมต้องเชื่อหรือไง
0