Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ความจริงของนักเรียนแลกเปลี่ยนในสหรัฐอเมริกา

ตั้งกระทู้ใหม่
� ความจริงของนักเรียนแลกเปลี่ยนในสหรัฐอเมริกา �

1. ชีวิตมันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่วาดฝันเอาไว้ โอกาสจะได้เจอโฮสไฮโซ
ใช้ชีวิตโก้เก๋เหมือนอย่างกอสซิปเกิร์ล ไม่มีทางหรอก แล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำมา

2. ถ้าโชคดี ก็จะอยู่ในเมืองหน่อย คำว่าในเมืองนี่คืออย่าไปฝันว่าจะได้อยู่
แมนฮัตตั้น หรือแอลเอ หรือ ออร์แลนโด้ เมืองที่สุดคือหมู่บ้านติด ๆ กัน�
มีร้านอาหารเยอะ ๆ ตึกสูงอย่างมากก็ไม่เกิน 2-3 ชั้น

3. คนที่หาบ้านให้เรา เป็นเจ้าหน้าที่ให้เราส่วนมากจะเรียกว่า Area Representative
เรียกสั้น ๆ ว่า AR หรือบางที่เรียก Co-ordinator�

4. ส่วนคนที่ใหญ่กว่า AR คือระดับ State เรียกว่า State Representative

5. มีปัญหากับโฮส อยากย้ายโฮส เรื่องโรงเรียน ทุกสิ่งทุกอย่าง ติดต่อ AR เท่านั้น

6. โฮสไม่ได้ใจดี สปอร์ต ไฮโซทุกคน บางคนเจอบ้านแทบจะพัง รถก็เก่า บ้านสกปรก
ห้องน้ำเสีย อาหารไม่ค่อยมี ฮีตเตอร์ไม่ค่อยเปิด พูดง่าย ๆ งกนั่นเอง

7. แต่บางคนถึงจะอยู่บ้านที่มีครบออกแนวเพอร์เฟ็ค แต่โฮสดันแย่ซะงั้น
ก็แล้วแต่บุญกรรมที่ทำมา

8. บางคนได้โฮสดี บ้านโอเค แต่ดันไม่ถูกกับ Double Placement ที่เป็นต่างชาติซะงั้น
ถ้ามีปัญหามาก ๆ โดนเตือนบ่อย ๆ อาจจะต้องเซ็น contract ถ้ามีอีกครั้งถูกส่งกลับประเทศ

9. ส่วนมากถ้าคนที่ได้อยู่แบบบ้านนอกจริง ๆ คือหน้าบ้านเป็นไร่ข้าวโพด หรือบ้านอยู่ในป่า
เพื่อนบ้านอีกหลังอยู่ห่างออกไป เดินไปไหนมาไหนไม่ได้

10. บางเมืองไม่มีรถโดยสารสาธารณะ ถ้าโชคดีอาจเดินไป Circle-K ได้ (circle-k คล้าย ๆ กับ 7-11) แต่โชคร้าย circle-k อาจจะต้องใช้เวลาเดินมากกว่าครึ่งชม.�

11. การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ไม่ได้แค่เข้าไปอยู่บ้านเค้า
แต่เราต้องเป็นครอบครัวเค้า คือพูดง่าย ๆ ถ้ากิจกรรมครอบครัวชอบดูทีวี เราก็ต้องดู
ถ้าเค้าชอบเดินป่า เราก็ต้องทำ แต่ก็สุดแล้วแต่โฮสจะว่า ว่าเราทำได้หรือไม่ได้

12. คนอเมริกันชอบจัดปาร์ตี้ โดยที่เจ้าของงานไม่จำเป็นจะต้องจัดหาเครื่องดื่ม อาหาร ขนมเอง อาจจะมีบ้าง แต่ส่วนมากแขกก็จะทำอาหารมาคนละอย่างสองอย่างอยู่แล้ว เป็นธรรมเนียม�

13. อเมริกันก็สนใจประเทศที่เรามา หรือบางคนก็ไม่สนใจเลย

14. บ้านเกือบทุกบ้านมีสัตว์เลี้ยง

15. คนที่นี่ชอบเทียนหอม ถ้าหาของฝากโฮส ลองเป็นเทียนหอมดูก็ได้�

16. อาหารที่นี่ดัดแปลงมาจากหลาย ๆ ชาติ เพราะคนอเมริกันเป็นเลือดผสม
ส่วนมากคนทางเหนือจะกินพวกขนมปังแป้งเยอะ แต่ทางใต้อาจจะกินข้าวบ่อยหน่อย
เพราะได้รับอิทธิพลมาจากพวกเม็กซิกัน

17. ถ้าอยู่ทางใต้ ๆ อาจจะเจอพวกเม็กซิกันอพยพเข้ามา เลยอาจจะได้ภาษาเม็กซิกันไปในตัว

18. ร้านอาหารไทยที่นี่รสชาติไม่ไทยเลย แต่ตั้งแต่อยู่ที่นี่มา ไปร้านนึงที่นิวยอร์ค
ชื่อร้าน 'ผ่องศรี' (Pong-Sri) ไทยที่สุดแล้ว แต่ถ้าอยู่แคลิฟอเนียร์ใกล้ ๆ กับแอลเอ
คนไทยอยู่เยอะ น่าจะมีร้านอาหารไทยอร่อย ๆ และมีตลาดไทย�

19. คนอเมริกันไม่ค่อยชอบกินปลากัน อาหารทะเลกับผักที่นี่แพงมาก
นอกจากนี้เนื้อหมูก็ยังแพง แต่เนื้อไก่กับเนื้อวัวจะถูก

20. แซนวิชเนยแข็งย่างกับซุปมะเขือเทศเป็นอะไรที่อเมริกันสุด ๆ�
คล้าย ๆ กับเมนูตามบ้านของคนอเมริกัน

21. เครื่องสำอางค์ drug stores จะถูกมาก ที่สำคัญคุณภาพค่อนข้างดี

22. มานี่อาจแพ้น้ำได้ หน้าจะเป็นสิว สิวอาจจะบุกได้ทั้งตัว ต้องระวัง

23. McDonald's มีแทบทุกเมืองในอเมริกา

24. แต่ถ้าไปอเมริกา แนะนำให้ลอง Wendy's, Toco Bell, Chipotle อร่อยเหมือนกัน

25. ร้านที่กล่าวมาข้างบนเป็นฟาสต์ฟู้ดทั้งนั้น แต่ Chipotle เป็นอาหารเม็กซิกัน
ที่คนอเมริกันที่รักสุขภาพชอบทาน เพราะมันจะเป็นข้าว มีผัก มีเนื้อ พูดง่าย ๆ สารอาหารครบ

26. ถ้าคุณชอบกิน Chicken nuggets แล้วคิดว่าของ McDonald's อร่อยแล้ว
ลอง Chicken nuggets ของ Wendy's ดู แล้วคุณอาจจะติดใจ�

27. เวลาไปร้านอาหาร โฮสไม่ได้ออกให้เราทุกครั้ง บางครั้งเราอาจจะต้องออกเอง
แต่มันเป็นธรรมเนียมเหมือนที่เรามักจะได้ยินว่า อเมริกันแชร์ ดังนั้น พนักงานจะถาม
ก่อนรับออเดอร์อาหารทุกครั้งว่าแยกบิลมั้ย

28. เป็นเรื่องจำเป็นมากที่ต้องรู้ไว้ว่า ต้องให้ทิปพนักงาน แต่ก่อนจะให้เช็คในบิลให้ดีก่อน
ว่าเค้ารวมรึยัง ถ้ารวมอาจจะไม่ต้องให้ แต่ถ้าไม่ เราต้องวางบนโต๊ะหลังจากจ่ายบิลเสร็จ
วิธีการให้ทิปคือ 15-20% ของค่าอาหาร

29. อาหารจานนึงในอเมริกาให้เยอะมาก ราคา 150+ บาท แต่สามารถใส่กล่องกลับบ้านได้

30. บางร้านเค้าให้แค่กล่องและเราต้องใส่กล่องเอง ไม่มีบริการใส่ให้

31. แนะนำว่าก่อนจะสั่งอาหาร ให้ใช้คำว่า I would like... or May I have.. or I would have.. เป็นต้น ถือเป็นมารยาทการสั่งอาหาร

32. Sephora เป็นร้านเครื่องสำอางค์ที่มีสาขาอยู่ทั่วอเมริกา เข้าไปในร้านจะตื่นตาตื่นใจมาก

33. Walmart, Target ออกแนวคล้าย ๆ เทสโก้โลตัส คาร์ฟู บิ๊กซีบ้านเรา

34. อเมริกาไม่มีตลาด แต่จะมีที่เค้าเรียกว่า Grocery Store คือไว้ซื้อของสด�
อันที่เรารู้จักคือ Giant eagle

35. ค่าตัดผมที่นี่แพงมาก 400-500 ร้อยบาทขึ้นไป ส่วนมากเด็กแลกเปลี่ยนอย่างเรา ๆ เลยตัดกันเอง

36. ที่นี่ ถ้าไปซื้อของ เข้าร้านอาหาร เราคือพระเจ้า ถ้าเราไม่ถูกใจสินค้าอันนี้ หรืออาหารจานนี้
สามารถร้องเรียน หรือขอเปลี่ยนได้ หรือถ้าเรายังไม่ได้ใช้ จะเปลี่ยนสินค้าเอาเงินคืนก็ได้

37. เด็กฝรั่งมีหลายประเภทเหมือนในซีรีย์�

38. บางคนได้ไปรร.ใหญ่ ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในเมือง อาจจะหาเพื่อนยากกว่าคนที่อยู่ในเมืองเล็ก ๆ เพราะเด็กน้อยกว่า มีประมาณ 300-500 คน

39. รถรร.เป็นรถสีเหลืองเหมือนในหนัง�

40. วันหยุดใหญ่ ๆ ในอเมริกามี Thanksgiving break, Christmas break, Spring break



*มีอีกเยอะ แต่พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะมาต่อให้5555555*�



PS.  ♥ รัก. ปาีร์คจองซูหมดใจ :-)

แสดงความคิดเห็น

>

19 ความคิดเห็น

eifeve 2 เม.ย. 56 เวลา 20:00 น. 1

ขอบคุณที่แชร์นะค้าา อ่านนนเพลินนนนนนนนนนน 5555555555555  อยากรู้เกี่ยวกับอเมริกาอีกค้ะ
พี่เรียนอยู่อเมริกาหรอค่ะ?  

0
Nicholas.KT 4 เม.ย. 56 เวลา 04:53 น. 4
ความจริงของนักเรียนแลกเปลี่ยนในสหรัฐอเมริกา  

1. ชีวิตมันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่วาดฝันเอาไว้ โอกาสจะได้เจอโฮสไฮโซ
ใช้ชีวิตโก้เก๋เหมือนอย่างกอสซิปเกิร์ล ไม่มีทางหรอก แล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำมา
ถูกครับ...มันไม่ได้ไฮโซครับ เพราะส่วนใหญ่ที่ทุนส่งเราไปจะส่งให้เราไปเรียนครับไม่ได้ไปฟุ้งเฟ้อ
เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่แล้วจะได้อยู่นอกเมืองครับ แต่ไม่ได้แปลว่าจะลำบากนะครับ ไม่ลำบากเลยครับ พี่กลับชอบแนวนั้นซะอีกครับ Host ของพี่ดูแลพี่ดีมากไม่ตกหล่นไม่ขาดแม้แต่นิดเดียวครับ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่มีความสุขมากๆครับ

2. ถ้าโชคดี ก็จะอยู่ในเมืองหน่อย คำว่าในเมืองนี่คืออย่าไปฝันว่าจะได้อยู่
แมนฮัตตั้น หรือแอลเอ หรือ ออร์แลนโด้ เมืองที่สุดคือหมู่บ้านติด ๆ กัน 
มีร้านอาหารเยอะ ๆ ตึกสูงอย่างมากก็ไม่เกิน 2-3 ชั้น
ถูกต้องครับ....ให้อ่านข้อ 1 อีกรอบ

3. คนที่หาบ้านให้เรา เป็นเจ้าหน้าที่ให้เราส่วนมากจะเรียกว่า Area Representative
เรียกสั้น ๆ ว่า AR หรือบางที่เรียก Co-ordinator 
ถูกต้องครับ

4. ส่วนคนที่ใหญ่กว่า AR คือระดับ State เรียกว่า State Representative
ก็ถูกอีกครับ แล้วแต่ทุนแต่ละทุนอาจจะมีการเรียกที่ไม่เหมือนกัน

5. มีปัญหากับโฮส อยากย้ายโฮส เรื่องโรงเรียน ทุกสิ่งทุกอย่าง ติดต่อ AR เท่านั้น
ใช่แล้วครับ ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ประสานงาน แต่เราก้ควรจะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองก่อนครับ ไม่ใช่ว่าเกิดปัญหาอะไรก้จะย้ายท่าเดียว เราไปต่างบ้านต่างเมือง ต้องมีการปรับตัวอยู่แล้วครับ

6. โฮสไม่ได้ใจดี สปอร์ต ไฮโซทุกคน บางคนเจอบ้านแทบจะพัง รถก็เก่า บ้านสกปรก
ห้องน้ำเสีย อาหารไม่ค่อยมี ฮีตเตอร์ไม่ค่อยเปิด พูดง่าย ๆ งกนั่นเอง
ใช่ครับ แล้วแต่โชคของเราครับ ว่าเราจะโชคดีหรือโชคร้าย ของพี่ถือเป็นโชคดีครับ

7. แต่บางคนถึงจะอยู่บ้านที่มีครบออกแนวเพอร์เฟ็ค แต่โฮสดันแย่ซะงั้น
ก็แล้วแต่บุญกรรมที่ทำมา
....ก็แล้วแต่ดวงแต่ละคนอีกแหละครับ...แล้วแต่ทุนด้วยนะครับ เพราะทุนแต่ละทุนมีมาตรฐานการคัดเลือก Host ต่างกัน

8. บางคนได้โฮสดี บ้านโอเค แต่ดันไม่ถูกกับ Double Placement ที่เป็นต่างชาติซะงั้น
ถ้ามีปัญหามาก ๆ โดนเตือนบ่อย ๆ อาจจะต้องเซ็น contract ถ้ามีอีกครั้งถูกส่งกลับประเทศ
ปัญหาทุกปัญหามีทางแก้ครับ ลองเจรจาก่อนครับ ทุนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี Double Placement นะครับ ถึงมีก็จะน้อยครับ

9. ส่วนมากถ้าคนที่ได้อยู่แบบบ้านนอกจริง ๆ คือหน้าบ้านเป็นไร่ข้าวโพด หรือบ้านอยู่ในป่า
เพื่อนบ้านอีกหลังอยู่ห่างออกไป เดินไปไหนมาไหนไม่ได้
บ้านพี่อยู่นอกเมืองครับ มีที่เยอะมาก เป็น 100 acres เดินไปไหนมาไหนไม่ได้ก็จริง แต่กิจกรรมนั้นเยอะแยะเลยครับ เวลาจะไปไหนก้ให้เพื่อนมารับ หรือไม่ก็ปั่นจักรยานไป และถ้าจะไปไกลๆก็ Host พาไปทุกครั้งครับ

10. บางเมืองไม่มีรถโดยสารสาธารณะ ถ้าโชคดีอาจเดินไป Circle-K ได้ (circle-k คล้าย ๆ กับ 7-11) แต่โชคร้าย circle-k อาจจะต้องใช้เวลาเดินมากกว่าครึ่งชม. 
เมืองเล็กๆไม่ค่อยมี Bus ครับ

11. การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ไม่ได้แค่เข้าไปอยู่บ้านเค้า
แต่เราต้องเป็นครอบครัวเค้า คือพูดง่าย ๆ ถ้ากิจกรรมครอบครัวชอบดูทีวี เราก็ต้องดู
ถ้าเค้าชอบเดินป่า เราก็ต้องทำ แต่ก็สุดแล้วแต่โฮสจะว่า ว่าเราทำได้หรือไม่ได้
ถูกต้องเลยครับ จุดประสงค์ของการไปคือการไปศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมครับ ต้องปรับตัวให้กลมกลืนกับวัฒนธรรมของเค้าครับ เหมือนที่ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วก็หลิ่วตาตามครับ ตอนพี่อยู่พี่ก็นั่งดูทีวีกับครอบครัว ไปโบสถ์ทุกวันเสาร์ ไป Gun Club ทุกวันพฤหัสกลางคืน   ไปล่าสัตว์กับ Host Dad ฯลฯ เป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆครับ

12. คนอเมริกันชอบจัดปาร์ตี้ โดยที่เจ้าของงานไม่จำเป็นจะต้องจัดหาเครื่องดื่ม อาหาร ขนมเอง อาจจะมีบ้าง แต่ส่วนมากแขกก็จะทำอาหารมาคนละอย่างสองอย่างอยู่แล้ว เป็นธรรมเนียม
นี่คือวัฒนธรรมของต่างชาติเลยครับ ^_^ 

13. อเมริกันก็สนใจประเทศที่เรามา หรือบางคนก็ไม่สนใจเลย
ใช่ครับ นานาจิตตังครับ เหมือนกับนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาบ้านเรา เด็กไทยบางคนก็สนใจ บางคนก็ไม่สน..ไม่แม้แต่จะคุยกับเค้า

14. บ้านเกือบทุกบ้านมีสัตว์เลี้ยง
ก็เหมือนเมืองไทยครับ มีบ้าง ไม่มีบ้าง แล้วแต่บ้านครับ

15. คนที่นี่ชอบเทียนหอม ถ้าหาของฝากโฮส ลองเป็นเทียนหอมดูก็ได้
ของไทยๆ ของแต่งบ้าน ...ของที่หาไม่ได้ในUSA พกติดไม้ติดมือไปครับเราจะได้ใจเค้าอีกเยอะเลย 

16. อาหารที่นี่ดัดแปลงมาจากหลาย ๆ ชาติ เพราะคนอเมริกันเป็นเลือดผสม
ส่วนมากคนทางเหนือจะกินพวกขนมปังแป้งเยอะ แต่ทางใต้อาจจะกินข้าวบ่อยหน่อย
เพราะได้รับอิทธิพลมาจากพวกเม็กซิกัน
ครับแล้วแต่พื้นที่ครับ อาหารการกินอาจจะแตกต่างกันได้..ที่แน่ๆคือเค้าไม่ใช้ช้อนตักข้าวครับ เค้าจะมีแค่ส้อมไว้ตักอะไรเข้าปากครับ ช้อนเค้าจะเอาไว้ตักซุปเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราอาจจะสอนเค้าใช้ช้อนกับส้อมคู่กันก็ได้นะครับ เหมือนที่พี่สอนเค้ามาแล้ว

17. ถ้าอยู่ทางใต้ ๆ อาจจะเจอพวกเม็กซิกันอพยพเข้ามา เลยอาจจะได้ภาษาเม็กซิกันไปในตัว
ถือเป็นโชคดีของน้องเลยครับที่ได้เรียนภาษาอื่นๆเพิ่มเนี่ย ^_^

18. ร้านอาหารไทยที่นี่รสชาติไม่ไทยเลย แต่ตั้งแต่อยู่ที่นี่มา ไปร้านนึงที่นิวยอร์ค
ชื่อร้าน 'ผ่องศรี' (Pong-Sri) ไทยที่สุดแล้ว แต่ถ้าอยู่แคลิฟอเนียร์ใกล้ ๆ กับแอลเอ
คนไทยอยู่เยอะ น่าจะมีร้านอาหารไทยอร่อย ๆ และมีตลาดไทย 
ฮ่าๆ แน่นอนครับ เค้าต้องมีการปรับปรุงรสชาติให้ถูกปากต่างชาติครับ แล้วอีกอย่างก็คือวัตถุดิบไม่เหมือนกันครับ ทำให้รสชาติออกมาไม่เหมือนไทยแท้ๆครับ เหมือนอาหารญี่ปุ่นบ้านเราครับ ทำเพื่อให้ถูกปากคนไทยซะส่วนใหญ่ ร้านที่รสญี่ปุ่นแท้ๆก็มีครับ แต่คนไทยน้อยคนที่จะชอบแนวนั้น

19. คนอเมริกันไม่ค่อยชอบกินปลากัน อาหารทะเลกับผักที่นี่แพงมาก
นอกจากนี้เนื้อหมูก็ยังแพง แต่เนื้อไก่กับเนื้อวัวจะถูก
ถูกครับ...ปลาแพงมากจริงๆ ยิ่งเมืองที่พี่อยู่ห่างไกลจากทะเลมาก...อาหารทะเลถือเป็นของราคาสูงมากครับ

20. แซนวิชเนยแข็งย่างกับซุปมะเขือเทศเป็นอะไรที่อเมริกันสุด ๆ 
คล้าย ๆ กับเมนูตามบ้านของคนอเมริกัน
เนยแข็ง ชีส นี่ของโปรดเลยครับอร่อยมากๆ ยิ่งกินกับ Cracker ยิ่งอร่อย

21. เครื่องสำอางค์ drug stores จะถูกมาก ที่สำคัญคุณภาพค่อนข้างดี
No Comment ในเรื่องนี้ครับ ^_^"

22. มานี่อาจแพ้น้ำได้ หน้าจะเป็นสิว สิวอาจจะบุกได้ทั้งตัว ต้องระวัง
แพ้มาแล้วครับ...5555

23. McDonald's มีแทบทุกเมืองในอเมริกา
ถือเป็นอาหาร Junk Food แบบ Low Grade เลยครับ ที่นั่นคนจะชอบกิน Burger King, Subway, clover, Taco bell มากกว่าครับ

24. แต่ถ้าไปอเมริกา แนะนำให้ลอง Wendy's, Toco Bell, Chipotle อร่อยเหมือนกัน
อร่อยมากเลยแหละครับไม่ใช่แค่อร่อยเหมือนกัน ^_^"

25. ร้านที่กล่าวมาข้างบนเป็นฟาสต์ฟู้ดทั้งนั้น แต่ Chipotle เป็นอาหารเม็กซิกัน
ที่คนอเมริกันที่รักสุขภาพชอบทาน เพราะมันจะเป็นข้าว มีผัก มีเนื้อ พูดง่าย ๆ สารอาหารครบ
ร้านนี้เมืองพี่ไม่มีเลยไม่ทราบ

26. ถ้าคุณชอบกิน Chicken nuggets แล้วคิดว่าของ McDonald's อร่อยแล้ว
ลอง Chicken nuggets ของ Wendy's ดู แล้วคุณอาจจะติดใจ 
ของเค้าดีจริงๆ 555

27. เวลาไปร้านอาหาร โฮสไม่ได้ออกให้เราทุกครั้ง บางครั้งเราอาจจะต้องออกเอง
แต่มันเป็นธรรมเนียมเหมือนที่เรามักจะได้ยินว่า อเมริกันแชร์ ดังนั้น พนักงานจะถาม
ก่อนรับออเดอร์อาหารทุกครั้งว่าแยกบิลมั้ย
ของพี่ทุกมื้อ Host จะออกให้ทุกครั้ง เวลาไปโรงเรียน Host จะให้ค่าขนมทุกวันด้วยครับ

28. เป็นเรื่องจำเป็นมากที่ต้องรู้ไว้ว่า ต้องให้ทิปพนักงาน แต่ก่อนจะให้เช็คในบิลให้ดีก่อน
ว่าเค้ารวมรึยัง ถ้ารวมอาจจะไม่ต้องให้ แต่ถ้าไม่ เราต้องวางบนโต๊ะหลังจากจ่ายบิลเสร็จ
วิธีการให้ทิปคือ 15-20% ของค่าอาหาร
เรื่อง Tip เรื่องสำคัญนะครับ ต้องศึกษาให้ดี

29. อาหารจานนึงในอเมริกาให้เยอะมาก ราคา 150+ บาท แต่สามารถใส่กล่องกลับบ้านได้
ให้เยอะสมราคาครับ ^_^

30. บางร้านเค้าให้แค่กล่องและเราต้องใส่กล่องเอง ไม่มีบริการใส่ให้
ถูกต้องครับ

31. แนะนำว่าก่อนจะสั่งอาหาร ให้ใช้คำว่า I would like... or May I have.. or I would have.. เป็นต้น ถือเป็นมารยาทการสั่งอาหาร
เป็นภาษาสุภาพที่สมควรใช้ครับ

32. Sephora เป็นร้านเครื่องสำอางค์ที่มีสาขาอยู่ทั่วอเมริกา เข้าไปในร้านจะตื่นตาตื่นใจมาก
ไม่มีความเห็นครับ

33. Walmart, Target ออกแนวคล้าย ๆ เทสโก้โลตัส คาร์ฟู บิ๊กซีบ้านเรา
Walmart สาขาเยอะมาก...ใหญ่มากด้วยของเต็มไปหมดเลย ^_^

34. อเมริกาไม่มีตลาด แต่จะมีที่เค้าเรียกว่า Grocery Store คือไว้ซื้อของสด 
อันที่เรารู้จักคือ Giant eagle
ใช่แล้วครับ

35. ค่าตัดผมที่นี่แพงมาก 400-500 ร้อยบาทขึ้นไป ส่วนมากเด็กแลกเปลี่ยนอย่างเรา ๆ เลยตัดกันเอง
เป็นโชคอีกชั้นที่มี Host Sister เป็น Hair Designer เลยได้ตัดผมฟรี....

36. ที่นี่ ถ้าไปซื้อของ เข้าร้านอาหาร เราคือพระเจ้า ถ้าเราไม่ถูกใจสินค้าอันนี้ หรืออาหารจานนี้
สามารถร้องเรียน หรือขอเปลี่ยนได้ หรือถ้าเรายังไม่ได้ใช้ จะเปลี่ยนสินค้าเอาเงินคืนก็ได้
ที่นั่นผู้บริโภคเป็นใหญ่ครับ ^_^

37. เด็กฝรั่งมีหลายประเภทเหมือนในซีรีย์ 
เด็กไทยก็มีหลายประเภทเช่นกันครับ

38. บางคนได้ไปรร.ใหญ่ ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในเมือง อาจจะหาเพื่อนยากกว่าคนที่อยู่ในเมืองเล็ก ๆ เพราะเด็กน้อยกว่า มีประมาณ 300-500 คน
โรงเรียนเด็กน้อยก็มีข้อดีครับ เพราะเราจะได้รุ้จักกันทุกคน....เพื่อนเยอะใช่ว่าดีทุกคน  ให้พี่เลือกพี่เลือกเพื่อนน้อยแต่ได้เพื่อนดีทุกคนดีกว่า

39. รถรร.เป็นรถสีเหลืองเหมือนในหนัง 
มาตรงเวลามากๆด้วยสิ

40. วันหยุดใหญ่ ๆ ในอเมริกามี Thanksgiving break, Christmas break, Spring break
เป็นวันที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยเพราะจะมี Dinner มื้อใหญ่อร่อยๆ...และได้หยุดด้วย 

พี่ AFS USA#41 2002-2003 เมืองที่พี่อยู่ชื่อว่า Oconomowoc, Wisconsin ครับ 

*มีอีกเยอะ แต่พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะมาต่อให้5555555* 


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 4 เมษายน 2556 / 04:56

PS.  Maturity cannot be measured by AGE but THOUGHT http://www.facebook.com/mynameisknix
0
abc 4 เม.ย. 56 เวลา 05:08 น. 5

ที่อเมริกาคนเม็กซิกันเยอะมว้ากก เรานั่งเรียนอยู่ก็เดิมมาทักแล้วก็พ่นภาษาสเปนใส่เรา555555

0
momay55 4 เม.ย. 56 เวลา 06:58 น. 6

เมืองเราพม่ากับม้งเยอะมาก โดยเฉพาะโรงเรียนเรามากกว่าคนขาวอีก แต่เยอะสุดคือคนดำ

เพิ่มอีกข้อ ข้อนี้หลายคนอาจรู้แล้ว ที่นี่ห้ามเรียกคนดำว่านิโกรเด็ดขาด(ถ้ายังไม่สนิทกัน) จะเรียกกันว่า Black White Mexican(Hispanic) หรือ Asians ไปเลยค่ะ

แล้วก็เสริมเรื่องทิปนิดนึง คือพนักงานร้านอาหารที่นี่บริการดีมาก เราไม่พอใจอะไร เขาก็จะยอมให้เราหมดเลย อีกอย่างอาหารที่กินที่ร้านมื้อนึง พอห่อกลับบ้านเอาไปกินต่อได้อีก 2 มื้อ ปกติเราทิปประมาณ 10% เอง 555 แบบว่างก

 


PS.  พยายามไม่เข้าเฟสบุ๊คทุกวัน ทำไมมันทำยากจัง 555
0
เด็กเคยแลกเลี่ยน 4 เม.ย. 56 เวลา 11:24 น. 7

ความจริงของนักเรียนแลกเปลี่ยนในสหรัฐอเมริกา&nbsp 

1. ชีวิตมันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่วาดฝันเอาไว้ โอกาสจะได้เจอโฮสไฮโซ
ใช้ชีวิตโก้เก๋เหมือนอย่างกอสซิปเกิร์ล ไม่มีทางหรอก แล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำมา

แล้วแต่บุญแต่กรรมจริงค่ะ มีเพื่อนเป็นเด็กเยอรมันได้โฮสรวยมากเขาก็สบายไป แต่โฮสเราก็ดีมากๆเลยนะถึงจะไม่รวย

2. ถ้าโชคดี ก็จะอยู่ในเมืองหน่อย คำว่าในเมืองนี่คืออย่าไปฝันว่าจะได้อยู่
แมนฮัตตั้น หรือแอลเอ หรือ ออร์แลนโด้ เมืองที่สุดคือหมู่บ้านติด ๆ กัน
มีร้านอาหารเยอะ ๆ ตึกสูงอย่างมากก็ไม่เกิน 2-3 ชั้น

เราก็เป็นหนึ่งคนที่โชคดีที่บ้านโฮสอยู่ใกล้ตัวเมืองของเมืองเล็กๆ 555 ก็ดีที่ไปไหนสดวกกว่าคนอื่นๆ บ้านโฮสเพื่อนนี้อยู่แบบในเขาบ้างไม่ก็ไกลสุดๆ

3. คนที่หาบ้านให้เรา เป็นเจ้าหน้าที่ให้เราส่วนมากจะเรียกว่า Area Representative
เรียกสั้น ๆ ว่า AR หรือบางที่เรียก Co-ordinator

ของเราเรียน Local Co-ordinator หรือ LC

4. ส่วนคนที่ใหญ่กว่า AR คือระดับ State เรียกว่า State Representative
อันนี้ไม่มีอ่ะ

5. มีปัญหากับโฮส อยากย้ายโฮส เรื่องโรงเรียน ทุกสิ่งทุกอย่าง ติดต่อ AR เท่านั้น

ใช่คะ

6. โฮสไม่ได้ใจดี สปอร์ต ไฮโซทุกคน บางคนเจอบ้านแทบจะพัง รถก็เก่า บ้านสกปรกห้องน้ำเสีย อาหารไม่ค่อยมี ฮีตเตอร์ไม่ค่อยเปิด พูดง่าย ๆ งกนั่นเอง

อันนี้เราต้องเข้าใจว่ารายได้โฮสเราก็ไม่ได้มากมาย ค่าครองชีพเขาก็สูง ทำให้เขาต้องประหยัดเท่าที่จะทำได้

7. แต่บางคนถึงจะอยู่บ้านที่มีครบออกแนวเพอร์เฟ็ค แต่โฮสดันแย่ซะงั้น
ก็แล้วแต่บุญกรรมที่ทำมา

อันนี้ก็แล้วแต่บุญกรรมอ่ะนะ

8. บางคนได้โฮสดี บ้านโอเค แต่ดันไม่ถูกกับ Double Placement ที่เป็นต่างชาติซะงั้น
ถ้ามีปัญหามาก ๆ โดนเตือนบ่อย ๆ อาจจะต้องเซ็น contract ถ้ามีอีกครั้งถูกส่งกลับประเทศ

55 นั้นเป็นเรื่องที่เราคิดว่าควรพูดคุยกับDouble Placementเราให้ดีๆนะ เพราะโฮสบ้างคนรับมา2คนเพราะกลัวเหงาไม่มีเพื่อนคุย&nbsp 

9. ส่วนมากถ้าคนที่ได้อยู่แบบบ้านนอกจริง ๆ คือหน้าบ้านเป็นไร่ข้าวโพด หรือบ้านอยู่ในป่าเพื่อนบ้านอีกหลังอยู่ห่างออกไป เดินไปไหนมาไหนไม่ได้

บ้างคนอาจจะคิดว่ามันกันดานแต่อยากให้คิดว่ามันก้เป็นสิ่งที่ดีที่ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สงบ ร่มรื่น

10. บางเมืองไม่มีรถโดยสารสาธารณะ ถ้าโชคดีอาจเดินไป Circle-K ได้ (circle-k คล้าย ๆ กับ 7-11) แต่โชคร้าย circle-k อาจจะต้องใช้เวลาเดินมากกว่าครึ่งชม.

เมืองเล็กๆไม่มีBusอยู่แล้ว ทุกคนเดินทางโดยรถส่วนตัว

11. การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ไม่ได้แค่เข้าไปอยู่บ้านเค้าแต่เราต้องเป็นครอบครัวเค้า คือพูดง่าย ๆ ถ้ากิจกรรมครอบครัวชอบดูทีวี เราก็ต้องดูถ้าเค้าชอบเดินป่า เราก็ต้องทำ แต่ก็สุดแล้วแต่โฮสจะว่า ว่าเราทำได้หรือไม่ได้

ส่วนมากแล้วก็ที่โฮสจะรับดูแลเรา เขาจะดูประวัติเราก่อนนะว่ามีความชอบที่คล้ายกันมั้ยทำให้อยู่ด้วยกันได้ ไปทำกิจกรรมด้วยกันได้ แต่แนะนำว่าเราก็ควรลองทำกิจกรรมที่โฮสเราทำดู อย่าพึ่งปฏิเสธก่อน อย่างเราก็ช่วยโฮสปลูกต้นไม้ ขุดดิน ทั้งที่เราไม่เคยมาก่อน แต่เราทำแล้วเราก็ชอบมากเลย

12. คนอเมริกันชอบจัดปาร์ตี้ โดยที่เจ้าของงานไม่จำเป็นจะต้องจัดหาเครื่องดื่ม อาหาร ขนมเอง อาจจะมีบ้าง แต่ส่วนมากแขกก็จะทำอาหารมาคนละอย่างสองอย่างอยู่แล้ว เป็นธรรมเนียม

เป็นธรรมเนียมที่ทุกคนช่วยๆกัน ซึ่งเราชอบมากๆเลย

13. อเมริกันก็สนใจประเทศที่เรามา หรือบางคนก็ไม่สนใจเลย

อืมๆ ใช่ๆ บางคนก็สนมากๆ บ้างคนก็ไม่สนเลย

14. บ้านเกือบทุกบ้านมีสัตว์เลี้ยง

จริงคะ เกือบทุกบ้าน น้อยมากที่ไม่เลี้ยง

15. คนที่นี่ชอบเทียนหอม ถ้าหาของฝากโฮส ลองเป็นเทียนหอมดูก็ได้

เขาจะชอบของหอมๆมาก เทียนหอมที่USก็มีขายนะ แต่กลิ่นไม่เหมือนบ้านเราและแพงมากๆ

16. อาหารที่นี่ดัดแปลงมาจากหลาย ๆ ชาติ เพราะคนอเมริกันเป็นเลือดผสม
ส่วนมากคนทางเหนือจะกินพวกขนมปังแป้งเยอะ แต่ทางใต้อาจจะกินข้าวบ่อยหน่อย
เพราะได้รับอิทธิพลมาจากพวกเม็กซิกัน

คนที่อยู่ต่างภาคกันมีความเป็นอยุ่ต่างกันมากอยู่คะ เราอยู่ทางใต้นะ เขาไม่ได้กินข้าวบ่อยเพราะพวกเม็กซิกันแต่เพราะเขาปลูกข้าวได้แล้วก็ชอบกินเหมือนบ้านเรา แต่เขาจะไม่ได้กินทุกมื้อ กินบ้างครั้ง

17. ถ้าอยู่ทางใต้ ๆ อาจจะเจอพวกเม็กซิกันอพยพเข้ามา เลยอาจจะได้ภาษาเม็กซิกันไปในตัว

มีเพื่อนเป็นเม็กซิกันพอสมควร แต่ก็ไม่ค่อยได้ภาษาเท่าไร TT เขาพูดสเปนกันคะ

18. ร้านอาหารไทยที่นี่รสชาติไม่ไทยเลย แต่ตั้งแต่อยู่ที่นี่มา ไปร้านนึงที่นิวยอร์ค
ชื่อร้าน 'ผ่องศรี' (Pong-Sri) ไทยที่สุดแล้ว แต่ถ้าอยู่แคลิฟอเนียร์ใกล้ ๆ กับแอลเอ
คนไทยอยู่เยอะ น่าจะมีร้านอาหารไทยอร่อย ๆ และมีตลาดไทย

ไม่เคยไปผ่องศรีอะ ในรัฐที่เราอยู่ก็มีร้านอาหารไทยเยอะอยู่นะ รสชาติโอเคแต่ก็ไม่ได้รสชาติไทยจริงๆคะTT มันจะมีร้านasia market ที่สามารถซื้อเครื่องปรุง ของไทยๆได้คะ

19. คนอเมริกันไม่ค่อยชอบกินปลากัน อาหารทะเลกับผักที่นี่แพงมาก
นอกจากนี้เนื้อหมูก็ยังแพง แต่เนื้อไก่กับเนื้อวัวจะถูก

เพราะปลามันแพงคะ รับเราติดทะเลแต่พวกอาหารทะเลยังแพง

20. แซนวิชเนยแข็งย่างกับซุปมะเขือเทศเป็นอะไรที่อเมริกันสุด ๆ
คล้าย ๆ กับเมนูตามบ้านของคนอเมริกัน

เนย ชีสนี้เป็นอะไรที่ขาดกันไม่ได้เลย

21. เครื่องสำอางค์ drug stores จะถูกมาก ที่สำคัญคุณภาพค่อนข้างดี

ใช่ค่ะ ถูกกว่าบ้านเราเพราะไม่ต้องนำเข้าและมีอะไรที่ไม่เข้าไทยด้วย

22. มานี่อาจแพ้น้ำได้ หน้าจะเป็นสิว สิวอาจจะบุกได้ทั้งตัว ต้องระวัง

เราไม่แพ้นะ หรือเราหน้าหนา

23. McDonald's มีแทบทุกเมืองในอเมริกา

ต้องบอกว่าทุกที่เลยดีกว่า

24. แต่ถ้าไปอเมริกา แนะนำให้ลอง Wendy's, Toco Bell, Chipotle อร่อยเหมือนกัน

ถ้าอยู่ทางใต้แนะนำ bojangles อีกอย่างคะ อาหารดั่งเดิมของคนทางใต้
ปล.เราชอบwendy มากเลย

25. ร้านที่กล่าวมาข้างบนเป็นฟาสต์ฟู้ดทั้งนั้น แต่ Chipotle เป็นอาหารเม็กซิกัน
ที่คนอเมริกันที่รักสุขภาพชอบทาน เพราะมันจะเป็นข้าว มีผัก มีเนื้อ พูดง่าย ๆ สารอาหารครบ

อันนี้ไม่มี

26. ถ้าคุณชอบกิน Chicken nuggets แล้วคิดว่าของ McDonald's อร่อยแล้ว
ลอง Chicken nuggets ของ Wendy's ดู แล้วคุณอาจจะติดใจ

เห็นด้วยอย่างยิ่ง

27. เวลาไปร้านอาหาร โฮสไม่ได้ออกให้เราทุกครั้ง บางครั้งเราอาจจะต้องออกเอง
แต่มันเป็นธรรมเนียมเหมือนที่เรามักจะได้ยินว่า อเมริกันแชร์ ดังนั้น พนักงานจะถาม
ก่อนรับออเดอร์อาหารทุกครั้งว่าแยกบิลมั้ย

โฮสไม่เคยออกให้เราคะ ออกให้เฉพาะวันพิเศษ

28. เป็นเรื่องจำเป็นมากที่ต้องรู้ไว้ว่า ต้องให้ทิปพนักงาน แต่ก่อนจะให้เช็คในบิลให้ดีก่อนว่าเค้ารวมรึยัง ถ้ารวมอาจจะไม่ต้องให้ แต่ถ้าไม่ เราต้องวางบนโต๊ะหลังจากจ่ายบิลเสร็จวิธีการให้ทิปคือ 15-20% ของค่าอาหาร

เป็นวัฒนธรรมที่สำคัญมาก

29. อาหารจานนึงในอเมริกาให้เยอะมาก ราคา 150+ บาท แต่สามารถใส่กล่องกลับบ้านได้

ราคาแพงแต่ปริมาณก็เยอะๆมากคะ

30. บางร้านเค้าให้แค่กล่องและเราต้องใส่กล่องเอง ไม่มีบริการใส่ให้

ใช่คะ

31. แนะนำว่าก่อนจะสั่งอาหาร ให้ใช้คำว่า I would like... or May I have.. or I would have.. เป็นต้น ถือเป็นมารยาทการสั่งอาหาร

เป็นมารยาทที่ควรทำ

32. Sephora เป็นร้านเครื่องสำอางค์ที่มีสาขาอยู่ทั่วอเมริกา เข้าไปในร้านจะตื่นตาตื่นใจมาก

ได้ยินอยู่ตอนกลับมาแล้ว ตอนอยุ่ไม่เคยไป

33. Walmart, Target ออกแนวคล้าย ๆ เทสโก้โลตัส คาร์ฟู บิ๊กซีบ้านเรา

Walmart เป็นอะไรที่มีอยู่ทั่ว ขายตั้งแต่สากเบือยั้งเรือรบ

34. อเมริกาไม่มีตลาด แต่จะมีที่เค้าเรียกว่า Grocery Store คือไว้ซื้อของสด
อันที่เรารู้จักคือ Giant eagle

เรามีGrocery store เล็ก แต่จำชื่อไม่ได้ แต่โฮสชอบไปซื้อผักสดที่ที่พวกชาวสวนมาขายเอง

35. ค่าตัดผมที่นี่แพงมาก 400-500 ร้อยบาทขึ้นไป ส่วนมากเด็กแลกเปลี่ยนอย่างเรา ๆ เลยตัดกันเอง

แพงมากจริงๆ โฮสเราแค่ไปเล็มๆเสียไป10เหรียญ เราใช้วิธีตัดสั้นตอนไป 55

36. ที่นี่ ถ้าไปซื้อของ เข้าร้านอาหาร เราคือพระเจ้า ถ้าเราไม่ถูกใจสินค้าอันนี้ หรืออาหารจานนี้สามารถร้องเรียน หรือขอเปลี่ยนได้ หรือถ้าเรายังไม่ได้ใช้ จะเปลี่ยนสินค้าเอาเงินคืนก็ได้

ใช่คะ เขาจะให้บริการลูกค้าดีมาก

37. เด็กฝรั่งมีหลายประเภทเหมือนในซีรีย์

ใช่คะ เราทุกคนล้วนต่างกัน^^

38. บางคนได้ไปรร.ใหญ่ ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในเมือง อาจจะหาเพื่อนยากกว่าคนที่อยู่ในเมืองเล็ก ๆ เพราะเด็กน้อยกว่า มีประมาณ 300-500 คน

เราได้เรียนโรงเรียนใหญ่คะ มีคนเยอะจริงๆ เรื่องหาเพื่อนนี้แล้วแต่บุคคล

39. รถรร.เป็นรถสีเหลืองเหมือนในหนัง

เป็นรถที่รับส่งนักเรียนถึงหน้าบ้านเลย แบ่งรับส่งเป็นย่านที่อยู่


40. วันหยุดใหญ่ ๆ ในอเมริกามี Thanksgiving break, Christmas break, Spring break

เป็นช่วงวันหยุดยาวที่ทุกคนจะหยุดครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกันคะ

เราเคยอยู่ oxford,North Carolina 2010-2011

0
~tamada~ 4 เม.ย. 56 เวลา 16:26 น. 9

ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากค่าาาาา//ไหว้งามๆสามรอบ ><
ชอบมากเลย ดีมากๆๆ เอามาแบ่งกันอีกนะคะ เราอยู่ม.2 แต่ตอนม.ปลายอยากไปแลกเปลี่ยนซักครั้ง


PS.  มองอะไรจ๊ะน้อง,,
0
P'Goong 4 เม.ย. 56 เวลา 17:12 น. 10

พี่เคยไปแลกเปลี่ยนมาตั้งแต่ปี 2004-2005 ได้มาอ่านกระทู้อันนี้คือ มันจิงอย่างๆมากๆๆๆ
แต่พี่ก้อเรียกว่าโชคดี เพราะได้โฮสดี เป็น singer mom อยู่กันกะโฮสมัม 2 คน ....
ส่วนใครที่กังวลเรื่องภาษา&nbsp ....รับรองว่าไปอยู่ 2-3 เดือนได้แน่นอน แต่ถ้าคนที่ไม่เก่งอังกฤษไปก้อ 3-4 เดือน
ยังไงก้อเป็นกำลังใจให้น้องๆที่กำลังจะไปแลกเปลี่ยนนะค่ะ

Exchange Student ...Fort Vancouver High School 2004-2005

0
eifeve 4 เม.ย. 56 เวลา 19:48 น. 11

ไปแลกเปลี่ยนนนี่ไปโครงการของอะไรหรอค่ะ ? (คืออยากไปบ้างงงง่ะ 5555555555)
ข้อสอบยากไหมค่ะ ? 

0
Unsimao!! 5 เม.ย. 56 เวลา 00:20 น. 12

อยากอ่านอีกกกก


PS.  เมื่อฝนหยุดโปรยปราย วายุกับอัสนีที่หยุดกรรโชกเเละเดือดดาลอย่าง บ้าคลั่ง สายหมอกเริ่มเลือนหาย เมฆาใกล้ลอยมาบรรจบกัน เเละอรุณที่เริ่มฉายเเสงเรืองรอง ทำให้เผยให้เห็น....... ท้องนภาที่โอบอุ้มทุกสิ่งอ
0
usaexchange 5 เม.ย. 56 เวลา 20:31 น. 14

ใช่เลยอ่าถูกแทบทุกข้อ โดยเฉพาะแพ้น้ำนะ
จากปกติเราไม่เคยเป็นสิว มานี่สิวเห่อเต็มหน้าแทบรับไม่ได้

0
&lt;3USA 6 เม.ย. 56 เวลา 01:53 น. 15

8. บางคนได้โฮสดี บ้านโอเค แต่ดันไม่ถูกกับ Double Placement ที่เป็นต่างชาติซะงั้น
ถ้ามีปัญหามาก ๆ โดนเตือนบ่อย ๆ อาจจะต้องเซ็น contract ถ้ามีอีกครั้งถูกส่งกลับประเทศ

แทบจะหนีมันกลับบ้านอยู่แล้ว ดีนะที่หลังๆ เริ่มปรับตัวเข้าหากันได้ 55555

0
Tammie Victoria Horan 6 เม.ย. 56 เวลา 09:59 น. 16

นิยายเลยยยยย แบบโฮสพ่อใจดี โฮสแม่น่ารัก โฮสพี่หล่อ ได้กุ๊กกิ๊กกัน -*- ฝันฮ้าบบบ หายาก -0- ถ้าอยากได้แบบนี้จงทำบุญเยอะๆซะ *รีบเร่งเข้าวัด*


PS.  I'm Directioner and Potterhead. Sha la la !! #Crazy Day! :)
0
bbm 6 เม.ย. 56 เวลา 18:29 น. 18

Chipotleเป็นอะไรที่ฟินมาก ชอบมากเลย>< เรายังจำได้อาหารมื้อสุดท้ายก่อนเราจะกลับ โฮสก็พาไปกินChipotle
จริงเลยค่ะทุกๆอย่าง555555 คนเมกาบางคนนิสัยแบบ เหมือนหลุดออกมาจากในซีรีย์เลยอ่ะ เก๋นะ5555
คิดถึงชีวิตที่อเมริกาจังเลยค่ะ อยากใช้ชีวิตให้คุ้มกว่านั้น

0
stsndard 19 เม.ย. 56 เวลา 13:36 น. 19

ทำไมต้องแล้วแต่บุญแต่กรรมล่ะ แล้วมาตรฐานของโครงการอยู่ไหนจ่ายเงินก็เท่ากันทำไมต้องซวยส่วนตัวล่ะ เท่าที่รู้ไม่ใช่แต่เมกานะละตินยิ่งเคี่ยวกว่าอีกแต่มาโปรโมตว่าจิตใจดี ขอบคุณที่ให้ข้อมูลน้องๆจะได้มีมุมมองที่กว้างขึ้นไม่ใช่ฝันว่าจะเป็นอย่างที่เค้านำเสนอ เมื่อไหร่จะปรับมาตรฐานเพื่อเด็กไทยมั่งล่ะ

0