Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากเรียนหมอ โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจดีๆนะครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ตามไปอ่านประสบการณ์ตรงได้ตามลิงค์ครับ
http://docjin.wordpress.com/

ผมเป็นหนึ่งในคนที่ถ่ายรูปและเล่าประสบการณ์เล่านี้ลงเว็บไซต์ เผื่อเป็นอุทาหรณ์และใช้ประกอบการตัดสินใจครับ และ ณ วันนี้ (15.4.2013) มีนักเรียนไทยหลายคนที่ได้ไปเรียนที่จีนตามโฆษณาชวนชื่นของเอเจนซี่ ได้ลาออกจากที่ประเทศจีน หลายคนให้เหตุผลตรงกันว่าการเรียนการสอนที่นั่นแย่มาก และทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เอเจนซี่โฆษณาไว้ 


อีกไม่นานพวกผมจะรวบรวมประสบการณ์จากหลายๆคนมาเขียนลงเว็บให้อ่านกันครับ

อันนี้เป็น feedback จากทางแพทยสภาหลังจากที่พวกผมนำเรื่องไปแจ้งครับ
http://www.tmc.or.th/detail_news.php?news_id=632&id=1
http://www.tmc.or.th/detail_news.php?news_id=631&id=4

แสดงความคิดเห็น

>

33 ความคิดเห็น

อดีตนักเรียนไทยในจีน 15 เม.ย. 56 เวลา 13:30 น. 2

ผมเป็นคนอีกคนที่ไปเรียนที่จีนครับ&nbsp ผมมายืนยันประสบการณ์ของจขกท. และมีที่อยากเพิ่มเติมคือ

1. เรื่องการเรียนการสอนในห้องเรียน&nbsp หลายครั้งที่พบว่าสกิลภาษาอังกฤษของผู้สอนนั้นยัไม่ดีพอที่จะสอน "ในระดับมหาวิทยาลัย" สมมติว่า&nbsp คุณเรียนใน้องแล้วไม่เข้าใจ&nbsp แล้วต้องการไปถามอาจารย์เพื่อให้เขาอธิบายให้&nbsp เขาก็จะอธิบาได้แค่พูดสิ่งที่เคยพูดไปแล้ว&nbsp ไม่สามารถอธิบายในเชิงลึก หรือใช้ถ้อยคำอื่นได้

2. การสอบ&nbsp ผมพบว่าหลายวิชา&nbsp ทีการแจกโพยก่อนสอบ "โดยอาจารย์ผู้สอนเอง" บอกว่าเป็นแบบฝึกหัดทบทวน&nbsp แต่ปรากฏว่าข้อสอบก็ออกตามนั้นเกือบหมด&nbsp ถ้าคุณสอบตกและซ่อม&nbsp ก็จะใช้ข้อสอบเดิม&nbsp เรื่องนี้ผมรับไม่ได้มากๆ เพราะการที่คุณเรียนหมอ&nbsp คุณต้องสอบใบประกอบ&nbsp และคุณจะมีปัญหาเมื่อถึงตอนนั้น

3. อีกอันคือ เรื่องการฝึกงานหลังจากที่จบไปแล้ว&nbsp การเรียนแพทย์ต่างประเทศ&nbsp จบแล้วุคุณจะสอบใบปรกอบฉบับที่สามเลย&nbsp แบบจบเมืองไทยไม่ได้&nbsp ต้องทำงานก่อน 1 ปี จะทำงานที่ไหนก็แล้วแต่&nbsp ผมไม่แน่ใจว่าทางมหาวิทยาลัยจะสามารถหาที่ทำงาน 1 ปี ให้คุณรึป่าว&nbsp เพราะคุณเรียนจบจนได้ใบปริญญาไม่เกี่ยวกับเขาแล้ว&nbsp คุณอย่าคิดว่ามหาวิทยาลัยเมืองนอกสบายๆ เหมือนเมืองไทย

ส่วนการจะกลับมาฝึกเมืองไทยแทบเป็นไปไม่ได้&nbsp เพราะที่ฝึกงานไม่เพียงพอ มีน้อยกว่าจำนวนคนที่ต้องการกลับมาฝึก 4-5 เท่า&nbsp อันนี้ผมพูดถึงที่สำหรับรองรับคนที่ไปเรียนแพทย์ต่างชาติและต้องการกลับมาฝึก

มันยังมีข้อจำกัดอีกเยอะ&nbsp นอกจากที่กล่าวมา

พวกผมคือนักเรียนที่เสียเวลาหลายปีในชีวิตไปที่โน่นจึงอยากมาเตือนน้องๆ&nbsp ซึ่งตอนนั้น ผมก็อารมณ์นี้แหละ&nbsp สอบเมืองไทยไม่ติด&nbsp แล้วน่ามืดตามัวอยากเรียนหมอมาก&nbsp จึงไปตามคำของเอเยนซี่

0
นักเรียนจีนปัจจุบัน 15 เม.ย. 56 เวลา 15:00 น. 3

สวัสดีค่ะ เราก็เป็นคนนึงที่ตัดสินใจผิด มาเรียนที่นี่อยากเล่าประสบการณ์ให้ฟังเหมือนกัน ไม่อยากให้ใครต้องมาเจออะไรแบบนี้แล้ว

ประเด็นแรกที่มีปัญหาสำหรับเรานะคือ ภาษาของอาจารย์ผู้สอน อาจารย์พูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาจารย์ไม่สามารถพูดภาษาทางการแพทย์ได้อย่างลึกซึ้ง บางทีคิดคำพูดภาษาอังกฤษไม่ออก ก็พูดภาษาจีนออกมา แล้วถามนักเรียนในห้องว่าอันนี้ภาษาอังกฤษใช้คำว่าอะไรนะ แบบนี้อะ งงมาก อาจารย์พูดออกมาเรายังไม่แน่ใจเลยว่าเค้าเข้าใจภาษาอังกฤษที่เค้าพูดสอนเรารึเปล่า เวลามีคำถาม ไปถามอาจารย์ บางครั้งอาจารย์ยังไม่เข้าใจคำถามของเรา เค้าสามารถตอบได้แค่สั้นๆ อธิบายเราจนเข้าใจไม่ได้ เราเลยหยุดถาม หันกลับมา อ่านเอง ท่องเอง อ่านหนังสือประกอบกันหลายๆอย่าง บอกตามตรงว่าเหนื่อยมากค่ะ&nbsp แต่ก็บอกกับตัวเองว่า เปลี่ยนไม่ได้แล้วนะ เลือกแล้ว ถึงการเรียนปีนี้ เราอ่านๆสไลด์พบว่าที่อาจารย์สอน บางครั้ง เหมือนก้อปๆมาจากหนังสือ หรือไม่ก็เว็บไซด์ มาทำให้เราเรียนเราท่อง นี่มันก็ไม่แฟร์สำหรับเรานะบางที กับความรู้วิชาแพทย์ที่เราควรได้รับ

ประเด็นที่สองนะ เรื่องการฝึกงานที่ยังมาไม่ถึงในปีสี่ปีห้า
คุยกับรุ่นพี่มานะ ตัวเราเองยังไม่ถึง อยากเล่าประสบการณ์ที่รุ่นพี่เจอ คือแบบ รุ่นพี่บอกว่าไปฝึกงานในโรงบาลต้องใช้ภาษาจีนทั้งหมดในระดับที่เราสามารถคุยกับคนไข้ พยาบาล หมอเองได้หมดเลย ซึ่งรุ่นพี่ก็เก่งภาษาจีนนะ แต่ยังไม่ถึงขั้นแบบรู้ทุกส่วนทุกโรคที่มีเป็นภาษาจีน เข้าใจประเด็นนี้ปะ&nbsp ทำให้ตอนนี้อะ เค้าได้แต่ยืนดูเฉยๆทั้งๆที่อยู่ปีสี่ปีห้าเราอะ เฮ้ย ฟังแล้วเหนื่อยนะ ก็เลยต้องหาทางออกไปฝึกที่ต่างประเทศอีกตอนปีสุดท้าย อย่างนั้นแปลว่า เราต้องได้ภาษาอังกฤษระดับเทพถูกปะ บอกตามตรงนะ มาเรียนที่นี่อะ เพื่อนคนไทยก็เยอะนะ การที่เราจบ ม.ปลายที่ไทยมา แล้วจะฝึกภาษาอังกฤษมันก็ลำบากเหมือนกันถ้าเทียบกับการที่เราไปเรียนประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ แล้วจะทำไงต่ออ่ะ ลองมองๆดู
ประเด็นที่สาม เรื่องข้อสอบ
คือทุกเทอมอะ อาจารย์จะมีแนวข้อสอบใส่ไว้หลังสไลด์คือเราว่ามันก็ช่วยได้อะ เพราะว่าจากการที่อาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง ถ้าเค้ายิ่งไม่บอกแนวอะ เราคิดว่าเราคงสอบไม่ผ่าน อีกทั้งยังมีกฎเกณท์ประมาณว่า ถ้าสอบตกเกิน 3 วิชาซ้ำชั้นนะ แล้วข้อสอบก็ออกมาแบบยาก ลื้มอะ คือออกตามแนวนั่นแหละ แต่ว่าต้องท่องให้ได้เกือบทุกสไลด์อะ เอาเป็นว่าแบบนกแก้วนกขุนทอง เฮ้อ สงสารตัวเอง บางวิชาอะ ถึงกับขั้นแบบต้องเหมือนตามสไลด์เป๊ะๆ เพราะไม่งั้นอ่ะ คะแนนก็ต่างออกไปถ้าไม่เหมือนกับสไลด์ เพราะอาจารย์อ่านไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เขียนความหมายคล้ายกัน แล้วอย่างนี้เราจะเป็นหมอที่ประยุกต์ใช้ได้ไหม

ประเด็นที่สี่ เรื่องที่ฝึกงาน
อยากให้ทุกคนคิดไกลๆมองไปว่าเราจะฝึกงาน ยังไงที่ไหน หาลู่ทางให้กับตัวเองได้หรือยังก่อนมา
อยากแนะนำน้องหรือคนที่จะมาให้ลองสอบที่ไทยก่อนเถอะ อย่ามาเลย พี่เคยคิดว่ามาเรียนที่นี่แล้วจะได้ภาษามากกว่าคนอื่น ได้เปรียบกว่าที่ไทยนะ แต่ประเด็นของเราที่แท้จริงคือเราอยากเรียนวิชาแพทย์ไม่ใช่หรอ ถามตัวเองนะ ถ้าอยากเป็นก็ต้องฟันฝ่าความยากในการสอบเข้าให้ได้ สู้ๆเถอะนะ อดทน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเหมือนหลายๆคนที่มาที่นี่แล้วต้องกลับไป ประเมินตัวเองก่อนอันดับแรก คนเราฝันได้ และต้องอดทนเพื่อที่จะไปให้ถึงในทางที่ถูกต้องด้วย

เขียนไว้แค่นี้ก่อนละกัน

0
ฟอสซิลวิศวะเบนไปเป็นหมอ 15 เม.ย. 56 เวลา 22:11 น. 4

โหยย น่ากลัวมากครับ


PS.  ความฝัน...สิ่งที่เราต้องการ บางที่ต้องใช้ความพยายามมากๆ ไม่ว่ากี่ปี จะเป็นหมอให้ได้ครับ
0
So* cUte 16 เม.ย. 56 เวลา 23:47 น. 5

พี่ก็เคยพิมบอกในบอร์ดเด็กดีบ่อยมากเลย
เกัี่ยวกับการเรียนแพทย์ที่ต่างประเทศ

เรื่องที่น่ากลัวอันดับต้นๆ คือ ภาษา
ขนาดคนไทยด้วยกัน หมอก็ไทย คนไข้ก็ไทย
ยังจะมีเรื่องสื่อสารไม่เข้าใจกันอยู่บ่อยๆ
ยิ่งชั้นคลินิคยิ่งน่ากลัวเพราะเราต้องสื่อสารกับคนไข้จริงๆ

นอกจากนั้นหากจะกลับมาเป็นหมอที่ไทย
หนูก็ต้องรู้จักโรคในแถบประเทศเราเพิ่มด้วยนะ
พวกโรคระบาดต่างๆบางที ต่างถิ่นมันก็ต่างโรคเนอะ

และก่อนจะมาเป็นหมอที่ไทยได้ แพทย์ทุกคน เน้นว่าทุกคน ไม่ว่าจะได้ปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิตจากที่ใดมาก็ตาม
ถ้าจะเป็นหมอในไทยต้องสอบผ่าน National licence ของไทยก่อน ซึ่งจะมีสอบ 3 step
ต้องผ่านทั้ง 3 step


0
๐Pandora๐ 17 เม.ย. 56 เวลา 11:49 น. 6

ขอบคุณพี่ๆที่แชร์ประสบการณ์มากเลยค่ะ
มีลูกเพื่อนแม่ไปเรียน ตอนนี้ไม่รู้เป็นไง 
ตอนเราท้อเราเคยคิดจะไปนะ แต่พอพี่แชร์ประสบการณ์แล้วถึงตระหนักว่ควรสู้อยู่ที่นี่ ขอบคุณพี่ๆมากค่ะ

0
อู๋วอฟ ชอบคลาสสิก 17 เม.ย. 56 เวลา 17:54 น. 7

คือว่านะ ไอ่วิชาแพทย์เนี่ย
ขนาดฟังเป็นภาษาไทยยังยากเลย
มาฟังแบบภาษาอังกฤษที่มันไม่original มันก็ไม่ได้อะไร

แถมการฝึกงานก็สำคัญ ถ้าภาษาไม่ได้
ทักษะการซักประวัติและตรวจร่างกาย เราก็ไม่พัฒนา
บ่องตง แล้วจะเป็นหมอได้อย่างไร

0
UZUKI 17 เม.ย. 56 เวลา 20:16 น. 8

เราก็เป็นคนหนึ่งที่เกือบได้ไปเรียน โดยส่วนตัวเรามีเพื่อนที่ไปเรียนแพทย์ที่จีนเยอะมากกก แล้วส่วนมากเพื่อนเราก็กลับมาเรียนที่ไทย เราอาจโชคดีที่ไม่ได้ไป เพราะที่บ้านเรามีเราเป็นลูกคนเดียว =...= 
 ใครจะไปก็ตัดสินใจดีๆ มันก็มีส่วนดีอยู่ ส่วนเสียก็มีมากเหมือนกัน ต่างบ้าน ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม และความเข้าใจ


PS.  ใครสักคนที่ไม่มีตัวตนอยู่ ณ ตอนนี้
0
คนเดียวกับความเห็นที่สอง 17 เม.ย. 56 เวลา 20:30 น. 9

ลืมบอกไปว่า&nbsp จุดประสงค์ที่มาพูด คือ อยากให้คนที่จะไป รู้ข้อมูลทั้งหมดทั้งหมดก่อนตัดสินใจ&nbsp ไม่ใช่รู้ข้อมูลเพียง "ด้านเดียว"&nbsp ถ้าอ่านจากหลายๆแห่ง&nbsp ฟังจากหลายๆคน แล้วยังอยากไปเรียนอยู่&nbsp ก็ไป&nbsp 

เราไม่ได้ตั้งกระทู้เพื่อจะบอกว่า "เฮ้ย !! นาย&nbsp อย่าไปเรียนที่ประเทศจีนเลยนะ" มันเป็นสิทธิ์ของพวกคุณๆ อยู่แล้วในการเลือก

อยากบอกอีกอย่างว่า&nbsp ทุกอย่างเป็นอนาคตของพวกคุณ&nbsp สุดท้ายแล้วคนที่ตัดสินจจริงๆ คือตัวผู้เรียน&nbsp ไม่ใช่พี่ๆ ไม่ใช่เพื่อนๆ หรือแม้แต่พ่อแม่&nbsp เพราะเวลาไปแล้ว&nbsp ผู้ปกครองก็ได้มาเจอสิ่งที่เราเจอด้วย&nbsp ถ้าเป็นไปได้&nbsp การไปเรียนต่างประเทศควรจะเห็นสถานที่เรียนด้วยตา "ตัวเอง" ก่อน

...เท่านั้นแหละ&nbsp ขอบคุณที่ทำให้กระทู้ขึ้นกระทู้แนะนำครับ ^^

0
อดีตนักเรียนคนนึง 18 เม.ย. 56 เวลา 00:34 น. 10

เราเป็นอีกคนนึงซึ่งเคยไปเรียนแพทย์ที่มหาลัยหนึ่งในประเทศจีน โดยการสมัครผ่านเอเย่น ..
เหตุผลที่ไปตอนนั้นคือ ตอนแรกเห็นแม่บอกว่ามีลูกเพื่อนแม่สมัคร แล้วแม่ก็อยากให้เราเรียนแพทย์มาก เราจึงได้สมัครไป แล้วก็ได้ีสิทธิ์ไปเรียน ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปด้วยดี อะไรก็เรียบง่าย สบายใจ ทุกอย่างดูสวยหรู วาดอนาคตไว้อย่างดี แต่พอไปอยู่จริง ๆ กลับไม่เป็นอย่างนั้น มีปัญหามากมายที่เราจะข้ามไป จะมาเน้นเรื่องเรียนแทน

คือ ที่สำคัญคือด้านภาษา ถ้าคุณเป็นคนนึงที่อยากเรียนแต่ภาษาอังกฤษแบบพอถูไถ ขอให้พิจารณาใหม่อีกครั้ง เพราะว่าการเรียนการสอนทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่ กลับเป็นสำเนียงที่ไม่คุ้นเคย ยิ่งทำให้เราฟังไม่รู็เรื่อง อาจารย์บางคนมาอ่านสไลด์ให้ฟังอย่างเดียว และบางทียังอ่านผิดอีกด้วย

และถ้าคุณเป็นคนที่ไม่เคยเรียนรู้ภาษาจีนเลย พูดไม่ได้เลย ก็เป็นการยากอีกเช่นกัน
ตอนแรกที่ไปก็หวังจะได้ภาษาเพิ่มกันทั้งนั้นแหละ เรายังพูดกับแม่เลยตอนแรกว่าก็ดีนะ ได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน คือ ไม่มีข้อเสียในการไปเลยว่างั้น
แต่เอาเข้าจริง ๆ นะ ลองคิดดูนะ นักเรียนไทยก้ไปกันเยอะ ส่วนใหญ่ก็พูดจีนกันยังไม่ได้ ก็ต้องเกาะกลุ่มกัน ไปไหนไปกัน ช่วยกัน เพราะคนที่นู้นเค้าไม่พูดภาษาอังกฤษกันเลย อยู่แต่กลับคนไทยด้วยกัน เวลาเรียนก็ไม่เจอคนจีนสักคน เพราะมันแบ่งพวกอินเตอร์ออกมาอยู่แล้ว แล้วสกิลภาษาจีนก็ไม่ได้พัฒนาเท่าไหร่ พอคุย ๆ ถูๆไถๆใช้ชีวิตประจำวันได้ แล้วภาษาอังกฤษไม่ได้ว่าจะพัฒนาอะไรมากมายกว่าเดิมเลย


ตอนที่ไปเพราะอยากได้ภาษาด้วย ไป ๆ มา ๆ ภาษากลับเป็นปัญหาหลักในการเรียนซะงั้น
ยิ่งถ้าเราจะต้องขึ้นคลีนิค อีก ขอบอกว่า จีนจ๋าาาาา ทุกอย่าง
แต่เอาจริง ๆ&nbsp ถ้าคุณคิดว่าคุณมีความพยายามอย่างมากในการฝึกฝนในตัวเอง คุณก็ตัดปัญหาด้านนี้ไป


ส่วนเรื่องวิชาแพทย์ เราไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะแต่ละมหาลัยก็ต่างกัน เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้ก็ลองถามเพื่อน ๆ พี่ ๆ คนที่เค้าอยู่และเรียนอยู่ที่นั่นเองจะดีกว่า เพราะตอนนี้เราก้ย้ายออกมาแล้ว
ยังไงใครที่คิดจะไปลองศึกษาเยอะ ๆ นะ อย่าใจร้อน
เพราะเวลาจ่ายค่าเทอมที่ก็หลายแสนอยู่ คิดดี ๆ คิดเยอะ
ถามคนอื่นบ้าง อย่าฟังที่เอเย่นอย่างเดียว
เพราะเค้าทำธุรกิจ ซึ่งยังไงมันก็มาพร้อมกับการโฆษณา
คิดดีดีนะค่ะ บอกได้แค่นี้

0
คนเดียวกับความเห็นที่เก้า 18 เม.ย. 56 เวลา 04:53 น. 12

ตอบน้องที่ถามเรื่องฟิลิปปินส์...

พี่ตอบจากข้อมูลที่พี่หามาและฟังบอกเล่าต่ออีกทีนะ&nbsp เพราะหลังจากที่พี่ลาออกจากจีน&nbsp พี่ก็พยายามหา "ความเป็นไปได้ทั้งหมด" ในการที่จะทำให้พี่ได้เรียนแพทย์ในมหาวิทยาลัยซักแห่งในโลก

คือฟิลิปปินส์จะตัดปัญหาเรื่องภาษาที่สาม&nbsp เพราะคนปินส์สามารถพูดอังกฤษได้หมด&nbsp แต่คราวนี้คนสอนก็จะปฏิบัติโดยถือว่าผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว&nbsp การสอนจะค่อนข้างเร็วและมี discussion ในห้อง ถ้าอังกฤษไม่ถึงระดับที่ใช้งานได้จะมีปัญหามาก&nbsp (โดยส่วนตัว เราคิดว่าภาษาอังกฤษระดับที่จะใช้ในการเรียนแพทย์หลัักสูตรภาษาอังกฤษควรจะอยู่ระดับ IELTS 6.5&nbsp ((โครงการนอตติ้งแฮมของ มศว เอาตั้ง 7)) ถ้าต่ำกว่านี้จะพบปัญหาในการเรียนอย่างหนัก

ปัญหาอีกอย่างที่เราพบคือ&nbsp ในปินส์โรงเรียนแพทย์หลายแห่งกำลังจะหมดอายุการรับรองจากแพทยสภาของไทยแล้ว (อ้างอิงจาก http://www.tmc.or.th/news06_1.php )ซึ่งแว่วๆ มาว่า อาจไม่ได้รับการต่ออายุการรับรอง (ตรงนี้ข่าวลือ)

การฝึกงาน&nbsp เมื่อก่อนคนที่จบจากฟิลิปปินส์กลับมาฝึกงานโรงพยาบาลตำรวจได้&nbsp แต่ซักปีสองปีนี้จะไม่ได้แล้ว&nbsp เพราะที่ไทยก็ผลิตแพทย์เพิ่ม&nbsp แต่เพื่อนที่เรียนอยู่ที่ปินส์บอกว่า&nbsp โรงพยาบาลที่ปินส์มีเพียงพอที่จะรับนักศึกษาทั้งหมด (ข้อมูลนี้ยังไม่ได้เช็ค)

ที่ฟิลิปปินส์โรงเรียนแพทย์เข้าง่ายมาก&nbsp เข้าใจว่าแค่สมัครก็ได้เลย&nbsp แต่ตรงนี้อาจจะเป็นดาบสองคมก็ได้&nbsp เพราะที่การเข้าเรียนแพทย์ในไทยตั้งกำแพงไว้สูง&nbsp เขาทำเพื่อ "ช่วย" นักเรียน เอาคนที่เรียนไหวและน่าจะสอบใบประกอบผ่านได้เข้ามาเรียน&nbsp ถ้าคุณเข้ามาเรียนไปสองสามปีแล้วเรียนไม่ไหว&nbsp หรือเรียนจบแต่สอบใบประกอบไม่ผ่าน&nbsp เสียเวลาทั้งผู้เรียนและมหาวิทยาลัย

อย่างไรก็ตามเพื่อนที่เรียนอยู่บอกว่าการเรียนที่ฟิลิปปินส์นั้น "เข้ม"&nbsp แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเทียบกับที่ไทยแล้วเป็นอย่างไร&nbsp เพราะคนเรียนไทยก็ไม่เคยไปเรียนปินส์ คนเรียนปินส์ก็ไม่เคยเรียนที่ไทย&nbsp หาสถิติผ่านใบประกอบไม่เจอว่ะครับ สงสัยไม่ได้รวบรวม ><

0
หวาน 18 เม.ย. 56 เวลา 14:27 น. 13

เรียนที่เมืองไทยเถอะนะถึงจะเป็นมหาลัยเอกชนค่าเทอมค่อยข้างแพง คุณสามารถเรียนจบและสอบใประกอบผ่านทั้งสามครั้งก็เป็นหมอได้แล้ว คนไข้คงไม่ซักประวัติคุณหรอกนะว่าจบที่ไหนมา

0
คนที่เรียนอยุ่ที่นี่ 18 เม.ย. 56 เวลา 14:59 น. 14

เรียนที่ไทยเถอะครับอย่ามาเลย&nbsp พยามยามสอบอ่านหนังสือตั้งใจสอบที่ไทยให้ได้. เพราะที่นี่ภาษาจีนยาก อย่าคิดว่ามาฝึกที่นี่. ในความคิดของน้องๆตั้ง6ปี จะพูดจีนไม่ได้เลยเหรอ&nbsp พี่เป้นคนนึงบอกเลย เมื่อน้องอยุ่กับคนไทยเยอะๆน้องก้จะพูดเเต่ภาษาไทย การพัฒนาภาษาจีน อังกิด ก้ไม่ค่อยพัฒนา เเล้วบ่างที่มีภาษาประจำถิ่น เหมือน ภาษาใต้ ภาษาอีสาน ภาษาภาคเหนือ ลำบากครับบบอกตามตรง ลำบากตอนฝึกงาน ที่จะพูดกับคนไข้&nbsp ลองคิดดีๆนะคับ ชั่งใจ ถ้ามาจะพบกับปัญหาที่ัยอะมา&nbsp ตั้งใจอ่านสอบที่ไทย ดีที่สุดครับ

0
อู๋วอฟ ชอบคลาสสิก 18 เม.ย. 56 เวลา 19:07 น. 16

ขอเสริมนิดนึงละกันครับ เคยมีรุ่นพี่ปี6ที่เรียนแพทย์จากฟิลิปปินส์มาฝึกงานที่ รพ.เดียวกับผม
แผนกอายุรกรรม ดูๆแล้วความรู้จะสู้กับรุ่นพี่ที่เรียนของไทยไม่ค่อยได้นะครับ
แต่ภาษาอังกฤษพี่เค้าเก่งมากมายครับ หุหุ

ปล.อาจารย์ผมเองก็พูดโดยรวมแล้วโรงเรียนแพทย์ไทยก็ยังมาตรฐานสูงกว่าโรงเรียนแพทย์ฟิลิปปินส์ครับ เพราะที่นั่นเค้าเข้าง่ายซะเหลือเกินไม่เหมือนบ้านเรา

0
nuey2603 18 เม.ย. 56 เวลา 19:37 น. 17

เราเป็นคนนึงนะ ที่คิดจะไปและหาข้อมูลและศึกษามาระยะนึงแล้ว
เราเห็นกระทู้นี่บ่อยมาก บ่อยมากจนเราแอบคิดว่า นี่ตั้งมาดิสเครดิตป่ะ?

ถ้าไม่ใช่..รบกวนให้อีเมล์ส่วนตัวไว้ได้ไหมคะ คือ อยากถามเป็นว่ามันดีไม่ดีอะไรยังไง

เพราะมันมีหลายกระแสเกินไป!!!!
บางคนก้มาแชร์ประสบการณ์การไปเรียนว่า ดีมาก โอเคเลยบลาๆ

เราเลยอยากจะลองชั่งน้ำหนักดูว่า ตกลงเราควรเชื่อฟังไหน?
จะได้ตัดสินใจถูก แต่ความจริงเราก้ยื่นไปแล้วละ เสีย5000 ได้โอกาสทางเดินชีวิตเพิ่ม เราถือว่าโอเค

แต่ไอตอนจะตัดสินใจเข้าเรียนที่ต้องจ่ายหลายแสนนี่สิ ที่ต้องคิด!!


รบกวนขออีเมลของคนที่เขียนบทความนี่หรือรุ่นพี่คนไหนที่อยู่ปีสูงๆด้วยนะคะ หนูยื่น Dalian(ได้รับตอบรับแล้ว),china medical,capital medical กำลังรอผลอยู่

0
ดีดี 18 เม.ย. 56 เวลา 20:27 น. 18

แล้วเรียนแพทย์ศาสตร์อินเตอร์ที่เจ้อเจียง ดีเปล่าครับ เห็นว่ามหาวิทยาลัยนี่ติดท๊อป 3 ของจีน

0
คนเดียวกับความเห็นที่สิบสอง 18 เม.ย. 56 เวลา 23:24 น. 19

ตอบคุณน้องความเห็นที่ 17 นะครับ

ส่วนตัวผม&nbsp ผมพูดไว้ในความเห็นที่ 9 ว่า ที่ผมมาให้ความเห็นกับแชรประสบการณ์ที่ได้พบ&nbsp เพราะอยากให้น้องๆ ที่จะไป ได้พบและเห็นอีกด้านหนึ่ง&nbsp ของการเรียนแพทย์ในต่างประเทศ&nbsp (สำหรับที่ผมไปคือจีน) ก่อนการตัดสินใจที่จะไปหรือจ่ายค่าเทอม&nbsp เงินค่าสมัครนั้นเทียบกับ ค่าเทอม ค่ากินอยู่&nbsp หรือ เวลา&nbsp ที่กำลังจะต้องถูกใช้ไปไม่ได้เลย...

ถ้าน้องจะมองว่าเป็นการดิสเครดิต ผมก็ไม่ว่าอะไร&nbsp แต่ลองคิดกลับกันว่า&nbsp ถ้าผมมาดิสเครดิต&nbsp ผมมีจุดประสงค์อันใดถึงต้องลงทุนมาพิมพ์เล่ายาวๆ&nbsp เอาเวลามานั่งตอบข้อสงสัยน้องที่มาถาม&nbsp 

แพทยสภาถึงกับขนาดออกจดหมายเตือนแปะไว้หน้าเว็บ&nbsp คิดว่าอันนี้มันบ่งบอกอะไรได้บ้าง&nbsp อยู่ดีๆ หรือมีคนมาบ่นแค่สองสามคน&nbsp แพทยสภาจะทำขนาดนี้เลยหรือไม่

อันนี้มันอาจเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตก็ได้&nbsp ไม่อยากให้ฟังแต่คนที่เป็นตัวแทน&nbsp แต่ฟังจากหลายๆที่ค่อยตัดสินใจ&nbsp พี่ชี้ปัญหาใหญ่ๆ ที่พบให้แล้ว&nbsp ก็ลองไปหาทางออกดู&nbsp ถ้าสามารถตอบโจทย์ตรงนั้นได้&nbsp ก็ยินดีด้วยครับ

เรื่องอีเมล ขออภัยครับ&nbsp พี่ไม่สะดวกที่จะให้&nbsp แต่มีอะไรมาโพสถามในนี้ได้เลย&nbsp พี่จะตอบให้ตามมุมมองและความคิดของพี่

0
คนเดียวกับความเห็นที่สิบเก้า 18 เม.ย. 56 เวลา 23:34 น. 20

ตอบความเห็น 18

เจ้อเจียงเป็นมหาวิทยาลัยที่คณะแพทย์มีอันดับค่อนข้างสูง (อ้างอิงจาก http://www.china.org.cn/top10/2012-06/28/content_25755878.htm )แต่ผมไม่มีข้อมูลตรงนี้ครับ&nbsp ขออภัย

ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม&nbsp ลองขอเมลล์รุ่นพี่ที่เรียนอยู่จากเอเยนซี่ ดู&nbsp ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำเลยนะ (must do it)

แต่อย่างไรก็ตาม&nbsp ปัญหาเรื่องภาษาอะ&nbsp ผมคิดว่ามีแน่ๆเพราะเป็นประเทศเดียวกัน&nbsp เรื่องอื่นผมไม่อยากคาดเดาอะไรที่ผมไม่รู้

0