Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สวัสดีครับ พรุ่งนี้ผมจะหนีออกจากบ้านแล้วครับ เย้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับ 
ตอนนี้ผมอายุ14 อีก4เดือนจะ15แล้วครับ
เรียนอยู่ม.3เทอม1

เวลานี้ผมกำลังวางแผนหนีออกจากบ้านครับ ผมอยู่นครปฐม 
ว่าจะไปกรุงเทพครับ หางานทำที่มีที่พักให้ ผมทำได้ทุกอย่างครับ ขายของ ทำน้ำ ทำอาหาร เล่นดนตรี ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ผมว่าถ้าผมหนีออกจากบ้านไปคงจะไม่มีปัญหา

*เหตุผล*
พ่อของผมอยากให้ผมเข้าสายวิทย์-คณิตมาก ซื่งผมไม่ชอบเลยครับ วิทย์ไม่เท่าไหร่ แต่คณิตศาสตร์นี่ เป็นสิ่งที่ผมเกลียดมากที่สุดในโลกเลยครับ ตอนสอบกลางภาค ผมสอบคณิตตกทั้งคณิตหลักและเสริม(หลัก15/30 เสริม9/20) แต่คะแนนวิชาอื่นอยู่ในเกณดีทั้งหมดเลยครับ ได้เกรดเฉลี่ยนประมาน83% ผมไม่เข้าใจพ่อผมครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าจะให้ผมไปเรียนพิเศษนู่นนี่เพราะผมสอบตก ผมไม่ได้อยากเข้าสายวิทย์-คณิตเลยครับ เด็กคนอื่นๆสอบได้60-70%พ่อแม่เค้ายังไม่เห็นว่าอะไรเลย แถมที่บ้านผมขายของ หลังจากลับจากโรงเรียนผมก็ต้องช่วยแม่ผมขายของ5โมงเย็น-1ทุ่ม วันเสาร์-อาทิตย์ก็ต้องช่วยงานวันละ6ชม. เซง ทั้งวันผมเหนื่อยมากๆ ซื่งเด็กคนอื่นที่เรียนได้ดีกว่าผมในห้องของผม(ผมอยู่ห้องพิเศษครับ เรียนเยอะกว่าคนอื่น และในห้องก็มีแต่พวกหัวแถว ผมเลยสอบได้ที่โหล่เสมอ และพ่อผมก็ด่าผมเสมอ)พอพวกเค้าสอบได้ตามที่ตกลงกับพ่อแม่ ก็จะได้ของตอบแทนเช่น ไอโฟน/โน๊ตบุค และไม่ต้องทำงานเหมือนผมด้วย แต่ผมไม่เคยได้อะไรเลยครับ ผมเก็บตังซื้อของเองทุกอย่างมาตลอด ผมคิดว่า ถ้าผมสอบคณิตผ่าน พ่อผมก็คงจะให้ผมเรียนให้ได้90%อีกแน่นอน ผมไม่อยากทนแล้วครับ ผมไม่ชอบจริงๆ อาชีพที่ผมอยากเป็นจริงๆคือเชฟโรงแรมครับ

ผมควรจะไปทำอะไรดีครับ ในร้านอาหารเนี่ย ล้างจานดีไหมครับ แต่ผมอยากเป็นคนทำอาหารมากกว่าอะครับ มีใครเค้ารับเด็กอายุ14เข้าไปทำงานในร้านอาหารมั้ยครับ ?

แสดงความคิดเห็น

>

22 ความคิดเห็น

สายน้ำ 16 ส.ค. 56 เวลา 21:50 น. 1

พี่ว่าใจเย็นๆก่อนดีไหมครับน้อง อะไรจะรับประกันได้ว่าถ้าน้องออกจากบ้านไปแล้วความฝันของน้องจะเป็นจริง น้องอาจเป้นเด็กติดยามั่วสุม โดนดึงไปทางที่ไม่ดีก็ได้ พี่อยากให้น้องใจเย็นๆก่อนใช้เหตุผลครับอย่าอารมณ์ ถ้าน้องออกไปแล้วน้องเหนื่อยกว่านี้แน่นอครับทำงานร้านอาหารมันไม่ได้สบายอย่างที่คิดนะครับขนาดพี่เคยเป็นเด้กเสิร์ฟทำงานวันละเกือบสิบสองชั่วโมงได้แค่ 160 ต่อวันบางวันเดินตั้งแต่สิบเอ็ดโมงยันห้าโมงเย็นไม่ได้นั่งเลยข้าวก็ไม่ได้กินมันเหน่ือยจริงๆนะครับ แล้วทำทุกวันไม่มีวันหยุด้วยน้องไม่มีเวลาได้เรียนรู้อะไรเลยชีวิตจะจบอยู่แค่นั้น ฝากน้องไปคิดนะครับบคิดให้ดีพี่ก็แค่ไม่อยากให้น้งออกไปเสี่ยงอะนะครับ

0
universe 16 ส.ค. 56 เวลา 21:53 น. 2
(จริงมั้ยเนี่ย?)

ปล. อยู่ ม.3 อีก 4 เดือนจะ 15 เหมือนกันเลย.....เราว่าอย่าออกจากบ้านเลยดีกว่านะ คิดว่าจากที่อ่านมา ลองต่อรองกับพ่อแม่ดูว่าขอไม่ช่วยทำงานได้มั้ยครับ เพราะว่าผมอยู่ ม.3 แล้ว อยากใช้เวลาในการเตรียมตัวสอบอ่านหนังสือ ... จขกท บอกว่าอยากเป็นเชฟใช่มั้ย เชฟก็เรียนวิทย์คณิตได้เหมือนกันนี่ วิทย์คณิตมันไปได้เยอะนะ ก็ลองคิดดูถึงอนาคตละกันนะ
0
pave 16 ส.ค. 56 เวลา 22:06 น. 3

เย้ อายุเท่าเราเลย แต่เราไม่เคยจะคิดหนีออกจากบ้านหรอกนะ= =
เราคิดว่า ม.3เนี่ย มันเด็กไปนะ ยังดูแลตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ
คิดดีๆนะ ถ้าเราหนีออกไป พ่อแม่ท่านก็คงจะเสียใจที่เราหนีท่านไป
อีกอย่าง ดีไม่ดี โดนจับไปขาย จะทำยังไง?
ไปอยู่ในที่อโคจร เป็นเด็กไม่ดี จะทำยังไง?
แล้วถ้าเรื่องไม่ดีแบบนี้เกิดขึ้นกับชีวิตเราจริงๆ อายุแค่นี้ จะหาทางรอดได้จริงๆน่ะเหรอ?
เราก็ไม่ว่าเธอนะ เราแค่คิดว่า เรายังเด็กกันอยู่เลย เรื่องหนีออกจากบ้าน มันเป็นเรื่องที่ไม่ดี
และถ้าทำให้พ่อแม่เสียใจ มันบาปนะ แค่เรื่องการเรียนเนี่ย คุยกันดีๆสิ...
เศร้าจัง

1
นกยูง, 6 ต.ค. 64 เวลา 09:06 น. 3-1

มีครั้งหนึ่งเราโดนยายตี,ตีและตีทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

วันต่อมาเราร้องไห้แทบจะทุกวันแต่เราเริ่มมีความคิดที่จะหนีบออกจากบ้าน

หลังจากวันนั้นได้ไม่นานเราก็เริ่มไม่อยากหนีออกจากบ้านเพราะกลัวเป็นหลายวันต่อมายายก็เริ่มด่า,ตี,หยิก,ทุกอย่างแม้เราไม่ได้ทำอะไรผิดตอนนั้นเราเริ่มที่มีความคิดหนีบออกจาบ้านอีกแล้วทุกคนคิดว่าเราควรหนีไปเลยมั้ยคะ

0
แวะมาน่ะ 16 ส.ค. 56 เวลา 22:08 น. 4

อย่าเพิ่งหนีออกจากบ้านเลย - - ออกไปมันจะดูโดดเดี่ยวน้ะ ม.3 เอง พ่อแม่ก็เป็นห่วง ลองไปคุยกับพ่อแม่ให้เข้าใจกันก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งคิดการใหญ่ บางทีสิ่งที่เราคิดว่า เราทำอย่างนี้มันต้องดีแน่ๆเลย มันก็อาจจะไม่ดีเสมอไปน้ะ :)
ใจเย็นๆ หาคนปรึกษาด้วยก่อนจะดีกว่าน้ะ -w-กดLIKE

0
kkkk 16 ส.ค. 56 เวลา 22:10 น. 5

อ่านคอมเมนต์นี้หน่อย เพราะ
เรา..อยากบอกว่าเราคิดเหมือนนายเลย

แต่ว่าเราลองปริ้นบทความเด็กดีต่างๆให้พ่อเราอ่าน ของพวกมุมผู้ใหญ่อะ ช่วงแรกนะ ด่าเราใหญ่เลย ว่าจะเอามาให้ดูทำไม หลังๆก็เริ่มเข้าใจขึ้น....มั้ง

ที่จะบอกคือ ถ้าอายุ14 หางานยาก(มาก) ส่วนใหญ่รับ15 ถ้าได้ก็อาจจะเพราะสงสารหรือรู้จักกัน เงินที่ได้ก็น้อยตาม อีกอย่างของในกทม.แพง กว่าตจว.เยอะนะ ถ้าจะมาต้องเก็บเงินไว้เป็นทุนให้ดีๆ

แต่ ทางที่ดีที่สุดเราว่า ถ้านายชอบด้านทำอาหาร ลองทำกับข้าวให้พ่อแม่กินบ่อยๆ จะได้รู้ว่าเราชอบ แล้วจากนั้น ก็ไปต่อพวกเฉพาะทางทำอาหารเลยย

ปล.คิดเยอะๆและคิดดีๆ เราคิดมาหลายปีแล้ว แต่ยังทำไมได้ เพราะ เลิกเรียน เราต้องมาช่วยพ่อขายของเหมือนกัน สู้ต่อไปนะเยี่ยม

0
May Cavullone 16 ส.ค. 56 เวลา 22:23 น. 6

แนะนำนะคะ
อย่าเพิ่งออกเลย อายุ14ไม่มีใครจ้าง รู้สึกว่าจะผิดกฏหมายนะ(ไม่แน่ใจ)เรื่องของการใช้แรงงานเด็ก ขนาดพาร์ทไทม์ยังต้องอายุ 15 ขึ้นไปเลย
ส่วนเรื่องที่จะให้เรียนสายวิทย์ ลองคุยกับพ่อตรงๆดู
เพราะถ้าไม่ชอบจริงๆ อย่ามาเรียนสายวิทย์เลยน้อง มันเรียนหนักมาก

เหตุผลที่จะไม่เรียนน้องก็บอกไปเลยว่ามันฉุดเกรด อนาคตน้องอยากเป็นเชฟที่โรงแรม เวลาเข้ามหาลัยสอบโควต้าบางที่มันใช้เกรดด้วย แถมเรียนก็น้อยสายวิทย์ มีเวลาช่วยงาน&อ่านหนังสือมากกว่า โอกาสติดมันเยอะกว่า

แนะนำเฉยๆ น้า

0
ฟ้าใสใจชื่นบาน 16 ส.ค. 56 เวลา 22:41 น. 7

ถ้าจะหนีจริงๆ มาอ่านให้จบก่อน แล้วค่อยไป

คุยกับพ่อดูก่อนไหมคะ?ถ้าคิดหนีออกจากบ้านไป คนที่เป็นห่วงเราที่สุด คือพ่อกับแม่ พ่อแม่เขาจะอยู่ยังไง เคยคิดถึงใจท่านบ้างไหม น้องอายุยังน้อย ทางเลือกของน้องยังมีอีกเยอะนะ ชีวิตมันไม่ได้สวยงามเหมือนในโลกละครหรอกนะ ซึ่งถ้าน้องหนีออกไป พี่ก็ไม่รู้ว่าน้องจะเจออะไรบ้าง โลกใบนี้ โหดร้ายกว่าที่น้องคิดนะ แม่พี่ก็บังคับให้เรียนวิทย์-คณิตนะ แต่พี่ก็ยอมเรียน ถึงเกรดพี่ไม่ได้สวยเท่าไหร่ พี่ก็ทนเรียนนะ น้องคิดว่า น้องอยากเป็นเชพ แต่น้องลองเรียนต่อดูสิคะ น้องอาจจะได้ดีกว่านั้นก็ได้ น้องออาจจะได้เป็นเชพที่เมืองนอกเลยก็ได้ การเรียนสำคัญนะน้อง น้องอาจจะเถียงว่า เถ้าแก่น้อยหรือสตีฟจ๊อบเรียนไม่จบเขายังได้ดี ทุกคนอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนเขาเสมอไป เขามีความแสวงหาโอกาสที่จะไขว่คว้าทั้งความรู้ทั้งโอกาสของเขา น้องพร้อมหรือยังล่ะ ที่จะผจญภัยในโลกแห่งความจริง ถ้าน้องตัดสินใจไปแล้ว เวลาไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้ ของตอบแทนที่น้องอยากได้นั้น พี่ก็ไม่มีเหมือนกัน ถามว่าพี่อยากได้มั้ย พี่อยากได้นะ แต่พี่คิดว่ารอให้พี่หาเงินเองได้ก่อนดีกว่า น้องเคยถามเืพื่อนน้องมั้ย ว่าเพื่อนน้องได้สิ่งของเหล่านั้นมาได้ยังไง พ่อแม่ของเพื่อนน้องเขาเหนื่อยแค่ไหน กว่าจะได้สิ่งนั้นมาให้เพื่อนของน้อง น้องบอกว่าน้องเหนื่อย.... พี่เชื่อว่าพ่อแม่น้องเหนื่อยกว่าน้องหลายเท่า ใครหาข้าวให้น้องกิน ใครให้เงินน้องมาโรงเรียน ใครส่งเสียน้องเรียน ใครซื้อเสื้อผ้าให้น้องใส่ ใครที่รักและดูแลจนน้องมีอายุ14ปี ใครเป็นคนให้กำเนิดน้องมา ไม่ใช่ท่านทั้งสองหรอคะ? ถ้าน้องคิดว่า น้องโตแล้ว น้องอยากออกจากบ้าน พี่ก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ มันเป็นสิทธิ์ของน้อง แต่สิ่งที่น้องเสียไป มันจะทำให้น้องเสียใจตลอดชีวิต ...
...
.ขอบใจนะ ที่อ่านจบ ข้องใจ เคลียร์ได้ที่ ID พี่เลยน้อง....

0
sddssd 16 ส.ค. 56 เวลา 22:44 น. 8

ตอนเราอายุเท่าเธอ ครอบครัวเราก็ถามเราเรื่องการเรียน เรื่องเกรด
สำหรับเรา ไม่ว่าเราจะทำได้ดีสักแค่ไหน เราไม่เคยขออะไรตอบแทนเพื่อแลกกับเกรดเลย
เพราะเรามองว่าการที่ทำอย่างนั้น มันทำให้เด็กมีค่านิยมเรียนเพื่อเอาเกรดไปแลกของใช้
ทั้งๆที่จุดประสงค์ของการศึกษาคือต้องการให้คนมีความรู้และสามารถนำไปใช้ได้
แต่การเลี้ยงดูของผู้ปกครองสมัยนี้มันผิดที่มัวใส่ใจแต่เรื่องเกรด แล้วยังเอาของแพงๆมาล่อเด็ก

จขกท.คะ การศึกษามันมีค่านะ มีโอกาสได้เรียนแล้วก็เรียนไปเถอะ
คนอื่นที่เขาไม่มีเงินจะเรียน เขาอยากเรียนหนังสือกันจะตาย
ถึงใครจะพูดอะไรยังไงก็ช่างเขาเถอะ เพราะเราเรียนเพื่อเอาความรู้
ไม่ได้เรียนเพื่อเอาชนะคนอื่น ถ้าคุณคิดแต่ว่าจะแข่งกับคนอื่น คุณก็จะไม่มีความสุข
แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณจะแข่งกับตัวคุณเอง เอาชนะใจตัวเองให้ได้ คุณก็จะมีความสุขกับการเรียน

เพื่อนเราคนนึงมีฝันอยากเป็นเชฟที่โรงแรม เขาก็ไม่ออกจากโรงเรียนนะ
เขาก็เรียนไปจนจบม.6 แล้วก็ไปเรียนต่อด้านอาหาร
ส่วนคุณเหรอ กว่าคนเราจะไต่เต้าขึ้นไปเป็นเชฟได้นี่ มันต้องผ่านปัญหาหลายอย่าง
คุณคิดว่าคุณมีศักยภาพมากพอแล้วเหรอสำหรับปัญหาเหล่านั้น
เพราะแค่โดนพ่อด่าเรื่องเกรด คุณก็แทบจะหอบผ้าหนีออกจากบ้านแล้ว
แล้วนี่ถ้าไปตามร้านอาหารโดนลูกค้ากับเจ้านายด่าแรงๆ คุณไม่ต้องลาออกหนีเขาเลยเหรอ

คุณอย่าทำลายอนาคตที่กำลังจะไปได้ดีของตัวเองเพราะอารมณ์ชั่ววูบเลยนะ
มันไม่คุ้มจริงๆ เมื่อคุณโตขึ้นมองย้อนกลับมา เรื่องนี้มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย
เหมือนจุดเล็กๆดำๆในชีวิตที่พอเวลาผ่านไปมันก็จะหายไปเอง

0
หิวข้าว 16 ส.ค. 56 เวลา 22:53 น. 9

อย่าหนีออกจากบ้านไปเลย มันไม่ดีหรอกนะ ยอมเรียนๆ ไปเหอะ อาจจะไมชอบบ้างเเต่ก็ยังดีกว่าออกจากบ้านนะ

0
Ririn Elsiecxi 16 ส.ค. 56 เวลา 23:05 น. 10

อย่าไปเลย พี่ก็เคยคิดหนีมาหลายรอบ ถ้าเหนื่อยก็หยุดพักแล้วค่อยเดินต่อ         

ส่วนเรื่องเรียนก็คิดซะว่าทำเพื่ออนาคตของเรา เรียนสายนี้โอกาสเยอะจบม.6เลือก

คณะได้เยอะพี่ยังอยากอยู่เลยถ้าย้อนกลับไปได้    อยู่กับมันให้ได้ อย่าหนีปัญหา

  ส่วนเรื่องเหนื่อยก็คิดว่าทำเพื่อแม่เพื่อทดแทนบุญคุณท่าน


                                                              เดินต่อไปเถอะนะสู้ๆ      

0
PrincessP 16 ส.ค. 56 เวลา 23:21 น. 11

อายุเท่าเราเลย เราก็อยู่มอสามเหมือนกัน เราเคยคิดจะหนีออกจากบ้านเหมือนกันด้วย แต่สุดท้ายเราก็ไม่ทำ ฮะๆ
รอให้เวลาผ่านไปความรู้สึกโกรธไม่เข้าใจพ่อจะน้อยลงค่ะ อย่าเพิ่งทำอะไรบ้าๆอย่างนั้น เธอคิดว่าโลกนี้มันอยู่ง่ายอย่างนั้นเลยหรอ? วุฒิมอสามก็ยังไม่ได้จะหางานอะไรได้? ตอนนี้ขนาดคนจบปอตรียังตกงานเลย
อนาคตเธอยังมีอีกไกลนะ หน้าที่ของเราตอนนี้คือเรียนหนังสือ เราก็ทำให้ดีที่สุดค่ะ เรื่องไม่อยากเรียนสายวิทย์น่ะ ค่อยๆคุยกับพ่อไป เอาเหตผลคุยกัน แต่ขอให้เธอแน่ใจนะว่าที่เธอไม่อยากเรียนสายวิทย์น่ะ เป็นเพราะไม่ชอบเรียนจริงๆ หรือว่าไม่พยายาม? พยายามตั้งใจเรียนดูก่อนค่ะ วิทย์และเลขไม่ได้ยากถ้าเธอตั้งใจเรียน สู้ๆนะเราเป็นกำลังใจให้ เราก็โดนแม่บังคับเหมือนกัน เราขอแค่อย่างเดียวอย่าหนีออกจากบ้านนะ เพราะมันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากๆ

0
AliceRabbiT 16 ส.ค. 56 เวลา 23:32 น. 12

เราก็เป็นคนนึงแหละ ที่เคยเรียนแผนการเรียนพิเศษแล้วคนในครอบครัว
อยากให้เรียนสายวิทย์ แต่เราเลือก ศิลป์-ญี่ปุ่น
// เพราะเราชอบและถนัดด้านนี้แถมเรียนเก่งที่สุดด้วยนะตอนนี้ - -b

แฟนเราก็เคยหนีออกจากบ้านแล้วเหมือนกันตอน ม. 2-3 เนี่ยแหละ //จำไม่ได้
ชีวิตข้างนอกเนี่ย ลำบากกว่าที่คิดน่ะ แนะนำว่าอย่าเลยดีกว่า
ยิ่งเป็นสังคมในประเทศไทยยิ่งไม่เหมาะ อันตรายมากนะ

# เราก็เป็นประเภทที่ว่าคุยกับพ่อแม่ไม่รู้เรื่อง ดื้อมากด้วย เน้นๆเลย
ถ้าคุยดีๆไม่ได้ ลองเถียงดูว่า "ชีวิตของเรา เราต้องกำหนดเอง"
อะไรทำนองนี้ละนะแล้วก็เดินหนีไปไหนซักทีนึงซัก 10-15 นาทีดู
เพราะเราเรียนเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อพ่อแม่ หรือใคร


โอเค บางทีอาจจะเรียนให้ได้สูงๆเพื่อสามารถเลี้ยงพ่อแม่ได้
อันนี้เข้าใจ แต่ว่า.. ถ้าเราเรียนในแผนการเรียนที่ไม่ถนัด
เราก็จะทำเกรดออกมาได้ไม่ดี คะแนนไม่เป็นอย่างที่หวัง
แล้วเราจะเอาอะไรไปสมัครงานละนั่น ..?


เรื่องนี้มันหาวิธีแก้ยากน่ะ นอกจากจะเปิดใจคุยกัน
ไม่งั้นก็ไม่รู้เรื่องอะ เพราะเราก็ไม่รู้นิสัยของพ่อแม่จขกท.
เราเลยหาวิธีช่วยได้เท่านี้แหละ 

สู้ๆแล้วกัน เชื่อเรา อย่าไปเลย
"อดทนไว้เพื่อความฝันของตัวเองนะ"

 
0
JELE 17 ส.ค. 56 เวลา 00:28 น. 13

พี่ว่าอย่าเลยนะ มันอันตราย ถึงน้องจะคิดว่าน้องดูแลตัวเองได้แต่ที่จริงแล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้นน้องไม่รู้หรอก พี่ไม่เคยมีความคิดที่จะหนีออกจากบ้านหรอกนะ แต่พี่ก็เคยเจอเหตุการณ์แบบน้อง แม่พี่บังคับให้เรียนวิทย์คณิต แต่พี่ไม่ชอบวิทย์เลย พี่รักคณิตศาสตร์มาก พี่อยากเรียนศิลป์คำณวน สุดท้ายพี่ก็คุยกับพ่อแม่พี่ตรงๆ พ่อกับแม่ก็ให้พี่เลือกที่พี่อยากเรียน พี่ก็ว่าจะเลือกศิลป์คำณวนแหละ แต่พอพี่คิดดู พี่เชื่อว่าพ่อกับแม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เราเสมอ ถ้ามันไม่ดีจริง พ่อกับแม่คงไม่อยากให้เราเรียน จริงมั้ย?

พี่อยากให้น้องคิดดูดีๆนะ ทบทวนดูดีๆ พี่อยากให้น้องนึกถึงพ่อแม่ ถ้าท่านตื่นมาแล้วหาน้องไม่เจอ ท่านจะรู้สึกยังไง ถ้าท่านรู้ว่าน้องหนีออกจากบ้าน เพราะทางที่ท่านเลือกให้ น้องว่าท่านจะเสียใจแค่ไหน ลองคุยกับท่านหรือยัง?

พี่อยากให้น้องรักตัวเองที่สุด แต่ไม่ต้องเชื่อทุกความคิดทุกการตัดสินใจของตัวเอง น้องอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ต้องเลือก ต้องบังคับ แต่เชื่อเถอะ พ่อแม่รักเราจริง ไม่มีทางที่ท่านจะให้สิ่งที่ไม่ดีกับเราหรอกนะ หนีออกจากบ้านแล้วสบาย มันมีแค่ในละครเท่านั้นแหละ ชีวิตจริง มันไม่ใช่หรอกนะ

0
HyeonMaeLee 17 ส.ค. 56 เวลา 02:43 น. 14

ถ้าน้องหนีออกจากบ้าน....
คำถามแรกพี่อยากจะถามน้องว่า .......

"น้องไม่สงสารพ่อแม่หรอคะ??" น้องไม่รักพ่อแม่แล้วหรอ ??... น้องไม่สงสารเขาบางหรอ ??
น้องไม่คิดบ้างหรอ ว่าเค้าจะรู้สึกยังไง???
เสียใจ .. ตามหา... ร้องไห้ .. รอเวลาน้องกลับมาทุกวัน ... รอลูกมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา

ถ้ามองอีกหนึ่งมุม...
น้องลองนึกย้อนดูว่า ถ้าในวันหนึ่ง ลูกของน้องมาทำในสิ่งที่น้องคิดทำบ้าง น้องจะรู้สึกยังไงคะ ??


ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกจ้ะ ที่เลี้ยงลูกมาจนโต แล้วคิดร้ายหวังร้ายกับลูก
ถ้าเขาคิดร้ายหวังร้ายกับน้อง เขาคงทิ้งน้องไปตั้งนานแล้วล่ะคะ ....รึไม่จริง ?? :))
มีหลายคนอยากมี ครอบครัวที่มี พ่อ แม่ ลูก พร้อมหน้าพร้อมตา
มีน้องหลายอีกหลายคน ที่ไม่ได้โชคดีแบบน้อง ที่มีทั้ง พ่อและแม่
บางคน ไม่มีพ่อ บางคนไม่มีแม่ แต่น้องมีทั้งพ่อ และ แม่ !!!!
น้องคิดว่า น้องเป็นคนที่โชคร้าย หรือคะ ????

น้องมองว่า พวกเขาบังคับน้อง ทำไมต้องให้ทำโน่น ทำนี่ ทำนั้น ที่ผมไม่อยากทำ
พี่อยากถามน้องกลับว่า . สิ่งที่เขาบอกให้น้องทำ .มันเป็นผลเสีย มันเป็นสิ่งที่ร้ายแรงต่อน้องมั้ยคะ ??
น้องลองมองย้อนดูนะคะ ... ไม่มีพ่อแม่คนไหน หวังร้ายต่อลูกหรอกคะ
ในสิ่งที่เขาบอกน้อง เพราะเขาอยากให้น้องได้ในสิ่งที่ดีที่สุด เขาเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับน้อง

.. แต่ในบางที มันก็ไม่มีใช่ทาง ที่น้องอยากเป็น ... จริงมั้ย ????
อันนี้พี่ตอบได้ว่า จริงน้ะ เพราะพี่ก็เคยเป็นแบบน้อง พ่อแม่พี่ ก้เคยเป็นแบบน้อง
แต่ทำไม พี่สามารถผ่านมาได้ ทำไมพี่ทำให้เขายอมรับในตัวพี่ได้ ???? :))

เพราะ " การแสดงจุดยืนค่ะ " ...จริงอยู่ที่เราไม่ชอบ แต่ก้ใช่ว่า เราจะพิสูจน์ให้เขาเห็นไม่ได้หนิคะ
ว่าสิ่งๆนั้น มันไม่เหมาะกับน้อง ... :))
- ถ้าชอบทำอาหาร - น้องก้เข้าครัวบ่อยๆ ใส่ใจ ให้ความสนใจในสิ่งนั้นๆๆ พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราชอบนะ
ชอบมากด้วยยย เหมาะกับสิ่งนี้ที่สุดแหละ พี่เชื่อค่ะ ..ว่าสักวัน พ่อแม่น้องต้องเห็นความพยายามของน้อง
และเขาก็ต้องยอมรับ

- น้องไม่ชอบสายวิทย์ แต่ก็ใช่ว่า น้องต้องต่อต้าน ต้องเถียงเขาหนิคะ แค่น้องพิสูจน์ให้เห็นว่ามันไม่เหมาะกับน้องก็พอ :)) น้องทำได้รึป่าวล้ะ ?? แต่อันดับแรกนะ น้องต้องกำหนดเป้าหมายในอนาคตของน้องก่อนน้ะคะ ว่าน้องอยากเป็นอะไร อยากทำอะไรในอนาคต

**สมัยนี้หันไปทางไหนๆ อาศัยวุฒิระดับการศึกษาทั้งนั้นค่ะน้อง ขนาดจบปริญญาตรีมา ตกงานกันเยอะแยะเลย นี่ก้เป็นสาเหตุหนึ่งมั้ยคะ ที่ทำไม พ่อแม่น้องถึงต้องอยากให้น้องเรียนสายวิทย์ ?? เพราะโอกาสที่มากกว่าคนอื่นไง :)) ...ในการที่น้องจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ...ทางเลือกที่มากกว่า ได้เปรียบกว่า เพราะเขามองไปถึงอนาคตของน้องไงละคะ แล้วที่เขาทำไป เพราะตัวเขาหรอคะ ??? ที่เค้าทำไปไม่ใช้เพราะเขาหวังดีกับน้องหรอคะ??

แต่.... ถ้าน้องเลือกที่จะหนีออกจากบ้าน .... คำว่างาน ที่ได้รายได้เยอะ หรือ โอกาสดีๆ ฟลุ๊กๆ คงเป็นไปได้ยากค่ะ ถ้าจะไปเป็นลูกจ้างคนอื่นนะ

น้องลองคิดดูน้ะ คิดดีๆ เวลาทำอะไรแล้ว พอทำแล้วสิ่งนั้นมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว
" คนเราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้นะคะ แต่สามารถทำปัจจุบันให้ดีได้ และจะเป็นการต่อยอดสร้างอนาคตของน้องด้วย "

คิดดีๆนะคะ ลองมองดูหลายๆ มุม
เอาใจเขามาใส่ใจเรา
ถ้าน้องคิดได้ .... ความคิดน้องก็จะโตขึ้นในอีกระดับหนึ่งเลยค่ะ :))
แล้วพอน้องโตกว่านี้ สามารถรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว
น้องจะได้ไม่มานั่งเสียใจ ไม่มานั่งเสียดาย นึกย้อนถึงอดีตว่า....
" ทำไมตอนนั้นเราถึงไม่คิดแล้วทำแบบนั้นน่ะ "
แล้วจะต่อมาด้วยคำว่า " ถ้าตอนนั้น เราทำอย่างนั้น โน่นนี่ เราคง ... นี่ โน่น นั้น ไปแล้ว "

*** คิดดีๆนะคะ เป็นกำลังใจให้
อย่าให้แค่อารมณ์ชั่ววูบมาเป็นตัวตัดสินอนาคตของน้องนะคะ
พี่เชื่อนะ ว่าน้องทำได้ :) สู้ๆค่ะ


ตั้งใจ

0
TRUTH 17 ส.ค. 56 เวลา 10:41 น. 15

น้องลองคิดการณ์ไกลหน่อยนะครับ



ตอยพี่อายุเท่าน้อง พี่เคยคิดถึงขั้นอยากจะคิดสั้นเลยล่ะครับ เพราะพี่เครียด เครียดเรื่ิิองเรียนเหมือนน้องน่ะแหละ
แต่สุดท้าย พี่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ฆ่าตัวตาย แล้วก็ไม่หนีออกจากบ้านด้วยครับ
เหตุผล?

น้องลองคิดดูนะ ถ้าน้องหนีไป น้องคิดว่าการใช้ชีวิตมันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ กรุงเทพเป็นเมืองที่น่ากลัว อายุแค่สิบสี่ยังทำอะไรไม่ได้หรอกครับ มันยังไม่น่าเชื่อใจพอ
ความฝันของน้องคือเป็นเชฟในโรงแรม แต่ถ้าน้องหนีออกจากบ้านแบบนี้ พี่ว่าน้องก็เป็นได้แค่พ่อครัวตามร้านอาหารข้างทางนั่นแหละครับ น้องอย่าคิดอะไรเด็กๆสิครับ โลกมันไม่ได้สวย การเรียนทำให้คนเป็นมนุษย์มากขึ้นนะครับ เรียนเถอะครับ พ่อแม่อยากให้เราสบายอยู่แล้ว แต่แค่ไม่รู่วิธีที่จะพูดกับเรายังไงก็เท่านั้น

สายวิทย์คณิตไม่ใช่ว่าจะเป็นเชฟไม่ได้นะครับ


ถ้าเกิดวันไหนที่ความฝันของน้องเป็นจริงขึ้นมา พ่อแม่ของน้องต้องร่วมยินดีด้วยแน่ๆครับ พ่อกับแม่น่ะไม่เคยคิดที่จะทำร้ายลูกด้วยการให้เรียนหรอกนะครับ



ทำให้พ่อแม่สบายใจเถอะ



-อยู่ที่น้องตัดสินใจแล้วล่ะ-

0
RR'am 17 ส.ค. 56 เวลา 18:33 น. 16

เราก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกันนะ เหมือนกับว่าทุกคนไม่รักเราแล้วแบบ ใช้เราทำนู่นทำนี่ เราไม่อยากทำ วันนี้ เราแบบ ทำการบ้าน แล้วแม่เรียกเราให้มาช่วยทำงานก่อน การบ้านเอาไว้ทีหลัง เราบอกว่า การบ้านมันเยอะมาก แล้วถ้าเราทำไม่เสร็จหรือไม่ทำนะ ก็จะโโนตี แม่ไม่เข้าใจความรู้สึกของเราเลย พี่คนโตก็เหมือนกัน ชอบทำหน้าประชดประชัน คิดว่าเลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิดแล้วเราจะชอบให้พี่ทำหน้าแบบนี้เหรอ ไม่มีวัน (เราเกลียดพ่อตัวเองที่สุดแหละ เค้าเคยบีบคอเราด้วย)

0
bethee 17 ส.ค. 56 เวลา 19:18 น. 17

   น้องคะพี่เข้าใจนะ แต่ก่อนพี่ก็เป็น พี่ไม่ชอบคณิตมากๆ สอบทีไรตกทุที แต่มีครั้งนึง ตอน ม3นี่แหละ พี่คบเพื่อนคนนึง เรียนน่าจะอ่อนกว่าพี่นะ แต่เขาขยันมาก แล้วเขาชอบดูถูกพี่ พี่ก็เลยพยายามชอบคณิตมา นั่งหน้าห้อง ไม่หลับ พยายามฟังครู ถ้าพี่ไม่เข้าใจก็ถาม จนพี่ชอบคณิตมากที่สุดตอนนี้ แต่ไม่ได้บอกว่าพี่เก่งนะ พื้นฐานพี่ไม่แน่น แล้วพี่ขี้เกียจพี่ก็จะพยายามทำความเข้าใจในบทนั้นๆก่อน ความรู้มันก็จะติดสมองเราเองจ้ะ 
   อีกอย่างนะ ม3เทอมนึงน่าจะยาก แต่ลองพยายามนะ ม3เทอม2จะง่ายขึ้น ม4จะง่าย ถ้าน้องเข้าใจ แล้วห้ามหนีออกจากบ้านเด็ดขาดนะ ! 
   ถึงแม้เราจะโกนธยังไงพ่อก็คือพ่อนะน้อง คิดดูนะจ๊ะ ถ้าน้องหนีออกจากบ้านไปไม่ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นเหรอ แล้วจะเรียนหนังสือยังไง คนในกรุงเทพก็ไม่ได้ดีแบบในละครทุกคนนะ เชื่อพี่สิ พี่จะเล่าให้ฟัง พี่ทะเลาะกับคุณแม่ทุกวัน แต่ความรักคือความรักน้อง น้องจะหาใครรักน้องแบบนี้ไม่ได้อีกแน่นอน เชื่อะี่สิ เน้อะ
ครอบครัวพี่เนี่ยขายเนื้อย่าง เลิกงานเที่ยงคืน ตอนเช้าตื่นหกโมงไปซื้อของ ทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ พี่เนี่ยเป็นลูกสาวคนเดียว พี่ต้องดูแลพ่อแม่ เป็นห่วงพี่ก็ต้องช่วย ถึงจะเหนื่อยยังไง ะ่อแม่พี่เหนื่อยกว่าเยอะ อยากให้น้องคิดดีๆนะคะ 
มีอะไรก็ปรึกษาพระเจ้า 

0
กุลภรณ์ 17 ส.ค. 56 เวลา 20:02 น. 18

วางแผนจะหนีตอนเรียนมหาลัยค่ะ เพราะน่าจะหางานง่ายกว่า ที่บ้านไม่ได้เข้มงวดแบบคุณเลยค่ะ ตรงกันข้าม กลับไม่ใส่ใจลูกเท่าที่ควร รักลูกไม่เท่ากัน เราว่า เรายอมเป็นแบบคุณ ให้พ่อแม่ใส่ใจ เข้มงวดดีกว่าค่ะ เราไม่อยากเป็นพวกลูกแม่ไม่รักเลย = (

0
pond 17 ส.ค. 56 เวลา 20:18 น. 19

น้องค่ะ พี่ไม่ได้จะมาว่าน้องนะค่ะ พี่เค้าใจน้องค่ะในวิชาที่เราไม่ถนัดนั้นเราอาจจะไม่ชอบใช่มั้ยอ่ะค่ะ พี่อยากให้น้องลองพยายามก่อนนะ เพราะเมื่อก่อนพี่ก็ไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย แต่แล้วพี้ก็เปลี่ยนไป อังกฤษที่ว่าง่ายๆแล้วคนอื่นสอบผ่านอ่ะ พี่ก็ตก น้องค่ะ เรื่องเรียนแล้วสอบตกอ่ะมันเป็นเรื่องธรมมดาค่ะ เพราะพี่ก็ถูกคาดหวังจากพ่อแม่เหมือนกัน แต่น้องลองคิดดูดีๆนะไม่มีใครหวังดีกับเราเท่าพ่อแม่แล้ว วันที่แม่คลอดน้องออกมามันเจ็บกว่าวันที่น้องเสียใจในเรื่องการสอบอีก ไม่มีใครชีวิตสมบูรณ์แบบหรอก อย่าคิดว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจนะ เพราะพ่อแม่ก็เคยเป็นเด็กมาก่อน รักแม่ให้มาก อย่าทำให้พ่อแม่ต้องเจ็บอีกเลย ถ้าน้องอยากเป็นเชฟก็มุ่งไปเลยแต่ไม่ใช่หนีออกจากบ้านค่ะ สู้ๆนะพี่เป็นกำลังใจให้เสมอ โชคดีค่ะ

0
ยัยพลอยนพเก้า 17 ส.ค. 56 เวลา 23:42 น. 20
เอาดิคิดว่าเจ๋ง คิดว่าแน่ก็เอา คิดจะไม่ตอบแทนพระคุณผู้เป็นพ่อเป็นแม่ หรือ จะใช้วิธีฉลาดๆ ดีๆ เจรจาก็เอาดิ ,, เย้ทำไมยะ จะหนีออกจากบ้านหน้าดีใจเรอะะะ เย้ให้ก็ได้ เย้ เย้ พอใจเปล่า เรามายินดี ดีใจด้วย 

... เฮ้อ เราไม่รู้จะพูดยังไง คิดดีๆ! แค่นี้แหละ ขอให้โชคดีนะ สู้ๆละกัน 
0