Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ขอดี??? ของการจัดห้องเรียน (ห้องคิง-ห้องบ๊วย)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือ ในความคิดของเรา เราไม่เห็นด้วยกับการจัดห้องเรียน
แบบเอาเด็กที่มีเกรดดีๆ อยู่ห้องเดียวกัน แล้วก็รันๆ ห้องไปตามเกรด
จัดห้องแบบนี้ เรามีความสงสัยว่า.. ผลดีมันคืออะไร?
แต่ผลเสีย (ในความคิดของเรา) เราว่า เด็กที่ไม่ใฝ่เรียน เจอเพื่อนไม่ใฝ่เรียน
มันก็จับมือกันไม่ใฝ่เรียน เด็กเก่งก็เรียนนนนนไปเถอะ เรียนๆ เรียนแข่งกับเพื่อนในห้อง
เพราะทั้งห้องมีแต่คนความรู้เท่าๆ กัน มีแต่คนเก่งๆ มันก็จะเกิดควมเห็นแก่ตัว (บางคน)
บลาๆๆ

ถ้าเอามาคละๆ กัน เราว่าเด็กเก่งก็จะช่วยเด็กหัวไม่ดี ช่วยกันติว ช่วยกันฉุดเพื่อน
ถึงแม้มันจะช่วยไม่มาก แต่เราว่า มันก็ยังดีกว่กันจัดห้องแบบรันเกรดลงมาอ่ะ


#ขอบ่นนิดนึงที่โรงเรียนพูดไม่ได้ไง 5555555

แสดงความคิดเห็น

>

29 ความคิดเห็น

upallnight 17 ก.ย. 56 เวลา 00:22 น. 1

ก็จริงตามที่เธอคิดนะ แต่เราคิดว่าจัดเรียงเกรด ทำให้นักเรียนมีจุดมุ่งหมาย และตั้งใจเรียนมากขึ้น
จากความคิดเรานะ คนที่ขยัน เมื่อมาอยู่ด้วยกัน มันจะขยันขึ้นเอง ไม่ต้องให้ใครมาฉุดมาบอก
แต่ถ้าต้องรอให้คนที่เค้าขยันมาบอกย้ำเพื่อนให้ตั้งใจเรียนตลอดๆ ไม่ขยันขึ้นด้วยตัวเอง มันไม่แฟร์
จริงป่าว
สิ่งที่ควรจะคิดคือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน มุ่งมั่นด้วยตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมาเตือน เพราะอนาคตทุกคนมีเส้นทางของตัวเองอยู่แล้ว จะมาคอยรอเพื่อนไม่ได้หรอก(จริงๆนะ) ไฟต์ติ้ง
สู้สู้

0
S.K.Y 17 ก.ย. 56 เวลา 15:45 น. 2

เห็นด้วยกับ จขกท. อ่ะมันเหมือนแบ่งชนชั้น พวกครูก็เคร่งแต่เด็กห้องคิงแต่เด็กที่เรียนอ่อนๆก็ไม่ค่อยสนใจ

0
OnLy 13 & E.L.F. 17 ก.ย. 56 เวลา 16:18 น. 3
คือ เราจะบอกว่าเมื่อก่อนเราก็คิดงั้น
เราไม่ได้ว่าเด็กห้องบ๊วยทุกคนจะไม่ดีนะ แล้วก็เด็กห้องคิงก็ไม่ได้ดีไปทุกคนเหมือนกัน
คือเราเคยหลุดไปอยู่ห้องกลางๆอ่ะนะ
เวลาครูสอน ถ้าคาบครูดุจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าครูใจดี หรือครูปล่อยๆเพื่อนในห้องคุยมาก แบบไม่ค่อยสนใจเรียนเลย เราก็อารมณ์แบบ เซงอ่ะชั้นจะเรียน พวกที่ไม่เรียนก็นอนไปดิวะ
บางทีเพื่อนมันก็ชวนครูคุยถ่วงเวลาไปเรื่อยๆจนหมดคาบอ่ะนึกออกป่ะ
พอม.ปลาย ย้ายมาอยู่ห้องคิง มันก็มีแหละคนคุยอ่ะ แต่มันน้อยกว่ามาก สภาพในห้องมันพร้อมเรียนมากกว่า มีความตั้งใจมากกว่า มันทำให้บรรยากาศน่าเรียน เพราะส่วนใหญ่คนที่มาอยู่ห้องนี้ได้ มันก็ต้องตั้งใจมาเรียนอยู่แล้วแหละ
ไม่ได้ดูถูกว่าคนห้องบ๊วยไม่ตั้งใจเรียน เพื่อนบางคนเราหัวไม่ดี แต่อาศัยขยันทำงานส่ง ไรงี้คือเกรมันก็ดี แล้วก็มาอยู่ห้องคิงได้เหมือน (ถ้า รร.คัดไม่โหดจัดอ่ะนะ)
แล้วครูส่วนใหญ่น่ะเค้าก็ไม่ได้ทุ่มกับเด็กห้องคิงอย่างเดียว ที่คิดว่าเค้าเคร่งกับห้องคิงมากกว่าเพราะเห็นว่ามีความพร้อมมากกว่า ขยันทำการบ้าน เลยเข้าใจเร็วไปเร็ว
*ใช้คำว่าส่วนใหญ่ เพราะมีครูบางคนไม่ได้เดีแบบนี้อ่ะนะ
เชื่อเราดิ ถ้าอยู่ห้องไหนก็แล้วแต่ ถ้าตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานส่งไม่คุยในคาบอ่ะ ยังไงครูเค้าก็เอ็นดู สอนไม่กั๊กอยู่แล้วไม่ว่าจะคิงไม่คิง
*หมายเหตุ ไม่ใช่แค่ใครคนเดียวที่ทำนะ มันต้องยกห้อง*
เช่นว่า ห้องมี 40 คน ตั้งใจอยู่ 5 คน ที่เหลือ คุย หลับ เล่น มือถือ ไรงี้ ครูเค้าก็คงสอนเต็มที่ไม่ได้เพราะต้องคิดถึงเด็ก(ชั่ว)ที่เหลือ เพราะถ้าครูเค้าสอนเยอะ คน(ชั่ว)ส่วนมากก็จะว่าครู ว่าสอนเยอะ สอนไม่รู้เรื่อง บลาๆ ดีไม่ดี พวกที่เคยตั้งใจแรกๆ เห็นครูสอนง่าย ความฟิตก็น้อยลง แล้วกลายเป็นแบบคนส่วนใหญ่แทน
ส่วนอีกห้อง มี 40 คนเหมือนกัน แต่ 35 คนเรียน อีก 5 คนเล่น ครูเค้าสปีดได้ เพราะสุดท้ายเด็ก 5 คนที่เรียนไม่ทัน พวกส่วนน้อย จะอัพตัวเองขึ้นมาให้ทันเพื่อนที่เหลือเอง โดยอาศัยความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในห้องน่ะแหละ
เราว่าอยู่ในสังคมไหน นิสัยก็จะปรับไปตามนั้นล่ะ สู้ๆนะเพื่อน บ๊ายบายยยยยย
0
17 ก.ย. 56 เวลา 17:19 น. 4

เราว่าแบ่งอะดีนะ  เพราะว่าถ้าไม่แบ่งเลยอ่ะ  มันก็เหมือนกับมันไม่แฟร์อ่ะ  พวกเด็กที่ไม่เก่งถ้าเค้าขวนขวาย เดี่ยวเค้าก็ได้ไปอยู่ห้องคิงเอง  คือ ง่ายๆเลยนะ เด็กห้องคิงบางคนอาจจะไม่ได้เก่งอะไรมาก แต่เค้าใฝ่รู้ใฝ่เรียนจนกระทั้งสอบเข้าห้องคิงได้อะไรอย่างงี้  แล้วการที่เข้าพยายามสอบเข้ามาแล้วได้เรียนแบบธรรมดาๆ  เพื่อนๆคุยกันดังจ๊อกแจ๊กๆ แล้วเค้าต้องมานั่งทนฟังไปจนหมดคาบ แถมยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยก็ไม่ใช่  


                 แต่จะว่าอะนะ  อย่างที่จขกท.บอกเด็กบางคนหัวไม่ค่อยดีเท่าไหร่  แต่ว่าถ้าอย่างงั้นลองไปถามคุณครูในเรื่องที่ไม่เข้าใจดูเลยจะดีกว่าเหรอ 
เราก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ได้ผลกว่าถามเพื่อนอีกด้วย

    มีอีกหลายประการเลยหละ แต่เราไม่ได้ด่าว่าห้องบ๊วยไม่ฉลาดนะ  เราหมายถึงว่าการขวนขวายมันต่าง  หรือถ้าไม่ใช่เรื่องความขยันหรือใฝ่รู้ก็ต้องเป็นอันแรกคือหัวไม่ค่อนดีเท่าไหร่ซึ่งก็บอกไปแล้วว่าควรไปถามคุณครู

     เราไม่รู้ว่าจขกท.อยู่ห้องอะไรนะ  แต่เราว่าถ้าลองมาอยู่ห้องtop แล้วเราจะรู้สึกได้เองถึงความต่างในการเรียน มันอธิบายไม่ถูกนะ แต่มันต่างจริงๆ


เราอาจจะพิมพ์วกวนไม่รู้เรื่องเท่าไหร่อย่าว่ากันนะ

#ถ้าใครไม่พอใจขอโทษด้วยเน้อ  #ถึงเราจะไม่เรียนห้องคิงแต่เราว่ามันควรนั้นแหละ

#เราเรียน mep นะ และก็ไม่ได้ตั้งใจว่าห้องไหนด้วย.... อย่าโกรธเค้านะ  

0
Frog 17 ก.ย. 56 เวลา 17:25 น. 5

จขกท.ลืมคิดแง่ที่สำคัญไปแง่หนึ่งนะครับ คือถ้าเด็กเรียน ฉุดเด็กไม่เรียนให้กลับมาเป็นเด็กเรียนได้ เด็กไม่เรียนก็สามารถดึงเด็กเรียนให้ไปเป็นเด็กไม่เรียนได้เหมือนกันครับ
ส่วนที่หนึ่ง: สนับสนุนระบบห้องคิง
1.เราต้องยอมรับว่าผู้เรียนแต่ละคนมีความพร้อมและความถนัดในการเรียนแต่ละเรื่องไม่เท่ากัน
ระบบห้องคิง แท้จริงแล้วเป็นการพยายามจัดห้องเรียนตามสภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน นักเรียนที่หัวไว มีความตั้งใจ จะได้ไปข้างหน้า และนักเรียนที่ไม่ถนัดหรือไม่พร้อมจะเรียนในวิชานั้นๆจะได้ให้เวลากับการเรียนบทนั้นๆต่อไป
2. เกรดเฉลี่ย หรือ GPA ที่ใช้ในการจัดห้องนั้น นักเรียนไทยเข้าใจกันดีว่าเกรดนี้ไม่ได้มีที่มาเพียงว่า
ทำข้อสอบได้คะแนนดีๆแล้วเกรดจะดีเสมอไป โรงเรียนส่วนมากยังให้ความสำคัญกับคะแนนเก็บ
หรือเอาง่ายๆคือ งานที่ส่ง+จิตพิสัย ต่อให้สอบตกแล้วซ่อม ถ้าส่งงานครบเกรดก็ไม่อนาถหรอกครับ หรือถ้าตั้งใจเรียนจริงๆเอาให้ตายเกรดก็ไม่เน่าครับ (ยกเว้นโรงเรียนสองสามแห่งที่เราทราบกันดีว่าเด็กสอบตกเป็นเรื่องธรรมดา ) ดังนั้นGPAจึงแปรผันตรงกับคะแนนส่วนใหญ่ คือคะแนนเก็บ ซึ่งวัดถึงความรับผิดชอบมากกว่าครับ จากประโยคของจขกท. "ถ้าเอามาคละๆ กัน เราว่าเด็กเก่งก็จะช่วยเด็กหัวไม่ดี ช่วยกันติว " เราต้องย้อนถามกลับไปก่อนครับว่าคนสอนคือเด็กเก่งพร้อมสอน แต่ผู้เรียนพร้อมเรียนไหม
ซึ่งจากระบบการรันเกรดตามห้องแล้ว ถ้าผู้เรียนมีความรับผิดชอบพอที่จะมาฟังเด็กเก่งติวนั้น ผู้เรียนน่าจะมีความรับผิดชอบพอที่จะเข้าเรียนครบทุกคาบและส่งงานให้ครบก็ไม่น่าจะอยู่ห้องไกลกันมากจนมีปัญหาหรอกครับ
(ยกเว้นแต่ผู้เรียนจะสนใจมาเรียนเพราะห้องสอบอยู่ข้างหน้า 555+)
โดยส่วนตัวเคยฟังแนวคิดของนักเรียนบางคน เขาบอกผมสั้นๆว่า "เรียนเปิดเทอมเรียน 4 เดือน ซ่อมปิดเทอมซ่อม 1 เดือน เอาแค่จบม.6 เกรดก็ไม่ได้เอาไปทำอะไร ไม่เป็นไรหรอก" ฟังแล้วก็ตกใจเหมือนกันครับ แต่กลับมานั่งคิดดูแล้ว เราเอาเลขสี่ในใบเกรดไปทำอะไร นอกจากสมัครโควต้านู้นนี่
เราก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่รู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องทำให้สมบทบาทนักเรียนของเราครับ

บอกว่าเด็กเก่งเรียนไปแล้วแข่งกันเรียน ยังไงหรือครับ? ทุกคนย่อมอยากประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย แล้วแต่ว่าในด้านใด เด็กเก่งเหล่านี้คือเหล่าผู้ที่ให้ความสำคัญกับการเรียน เทียบๆไปแล้วเหมือนเล่นกีฬาครับ สนามนี้แพ้ก็แพ้ แต่เดี๋ยวคราวหน้าไปฟิตมาใหม่ แล้วเจอกัน ประมาณนี้ 555+
ทุกวันนี้โดยส่วนตัวเวลาทำโจทย์ไม่ได้ก็ไปถามเพื่อนเก่งๆ เขาก็สอนเรามา ไม่เห็นจะได้กั๊กสูตรกั๊กเทคนิคอะไรไว้เลย ทั้งๆที่คะแนนเราก้ไล่ๆเขามาติดๆ

0
แค่เธอ... 17 ก.ย. 56 เวลา 18:08 น. 6

เราก็เห็นด้วยนะ แต่มันมีข้อเสียอย่างหนึ่งคือ เด็กไม่เก่งไม่ตั้งใจเรียน จะพาเด็กเก่งเรียนแย่ลง ;w;

0
Capriccioso 17 ก.ย. 56 เวลา 18:39 น. 7

ในความคิดเรานะ เราว่าจัดเรียงห้อง ไม่คละอ่ะ ดีสุดแล้ว เพราะเด็กที่อยู่ห้องไม่เก่ง ถ้าเค้ามีจุดมุ่งหมาย ก็ต้องพยายามเองสิ ไม่ใช่จะให้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ต้องมีคนมาช่วยตลอดไรงี้ แล้วถ้าคละอ่ะนะ  แทนที่ร.ร.จะมีเด็กที่เก่งส่วนนึง และเด็กที่ขยัน ที่พยายามทำให้ตัวเองขึ้นมาอยู่ห้องดีๆ กลับมีแต่เด็กที่ความรู้ปานกลางเท่าๆกันไปหมด เพราะเด็กเก่งถูกคละกับเด็กไม่เก่ง เวลาอ.เขาสอนก็ต้องอธิบายให้เข้าใจทุกๆคน เหมือนเด็กเก่งๆจะไปข้างหน้าก็ไม่ได้ แต่ถ้าแยกห้องครูก็จะรู้ประสิทธิภาพของนร. ว่าห้องนี้ต้องสอนระดับไหน ห้องเก่งก็ให้เขานำๆไปเหอะ ห้องไม่เก่งครูก็จะได้ให้เวลา อธิบาย มากกว่าห้องอื่นๆ 
//คหสต.นะ  ไม่พอใจขอโทดด้วย

0
√ พีพาย ๔๐ . 17 ก.ย. 56 เวลา 20:07 น. 8
เเต่ละคนมีเป้าหมายไม่เหมือนกันนะ ไม่รู้นะเเต่คิดว่าถ้าเด็กรักเรียนอยู่รวมกันมันจะเป็นการจุดประกายความรู้ให้ขยันกันน่ะเเต่ลองคิดดิว่าเด็กขยันอยู่กับเด็กขี้เกียจเงี้ย ไฟขยันในตัวดับพอดี เพราะไม่รู้ว่าจะเรียนให้รู้เรื่องไปทำไมเพราะยังไงก็ไม่มีคู่เเข่งอยู่เเล้ว การจัดห้องอาจจะเป็นการประเมินไปในตัวว่าตัวเองอยู่ประมาณไหนของระดับชั้น จะได้ขยันเพิ่มขึ้น เเต่ยังไงก็เถอะนะ ถึงจะเป็นเด็กห้องบ๊วยอ่ะถ้าขยัน ยังไงความขยันก็ต้องผลักให้เขาขึ้นมาอยู่ห้องคิงได้เเล้ว เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เขาได้ขึ้นมาอยู่ห้องคิง ? ดีใจไง ภูมิใจไงเพราะตัวเองคืออยู่ห้องบ๊วยขึ้นมาอยู่ห้องคิง ความขยันชนะความเก่งเสมอล่ะ ตรรกะของเรานะ เรามีความเชื่ออย่างนั้น ส่วนคนที่ไม่ดันตัวเอง ไม่ขยันเองก็ต้องปล่อยเขาไปอยู่ดี ..
0
เหมือนในฝัน 17 ก.ย. 56 เวลา 20:18 น. 9

โรงเรียนเราตอนแรกก็จัดห้องนะ พอรุ่นเราก็มาเปลี่ยนไม่จัดห้องแล้ว(ไม่รู้ทำไมT_T) สิ่งที่ได้ตามมาก็คือพากันไม่เรียนเลยทั้งห้อง เรามาเรียนห้องที่เคยเป็นห้องคิงส์เมื่อปีที่แล้วแต่ตอนนี้มันเป็นแค่ห้องคละ อาจารย์ก็ชอบประชดประชันสารพัด ดูถูกห้องเราว่ารุ่นพี่ดีกว่าอย่างนู้นอย่างนี้ พวกเราไม่มีอะไรเทียบได้เลย พวกเราก็ได้แต่นิ่งเงียบ แค่เสียใจอยู่ลึกๆ โรงเรียนตอนนี้ไม่สามารถหาคนเก่งๆไปแข่งขันเป็นตัวแทนโรงเรียนได้ เพราะการตามหาคนเก่งๆมีแววยากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทรเพราะมันคละกัน ตอนนี้เพื่อนเราที่เคยตั้งใจเรียนก็เริ่มสติหลุดไม่เรียนกันแล้ว พากันตกต่ำทั้งห้อง เราว่ามีห้องคิงส์ดีกว่าค่ะ

จาก เด็กห้องคละ

0
fretty123 17 ก.ย. 56 เวลา 21:04 น. 10

 ในฐานะที่เราอยู่ห้องคิงมาตลอดม.ปลาย จนมาปีสุดท้าย ม.6 เราหลุดมาอยู่ห้องกลาง ด้วยเหตุผลเรื่องดวง เพราะถ้าเรียงตามเกรดเราจะต้องได้อยู่ห้องคิง
มันทำให้เรารู้บางอย่างว่า
1.คะแนนเราจะเกาะกลุ่มกับเพื่อนทุกครั้งที่สอบ ไม่รู้ทำไม คือตอนอยู่ห้องคิง เราอยู่กลางๆ ค่อนไปท้ายๆ 555555 แต่ถ้าเทียบในชั้นแล้ว ก็ต้นๆอยู่ เหมือนทั้งห้องมี 40 เราได้ 30ของห้อง ก็ประมาณไม่เกิน 35 ของสายอะไรประมาณนี้
แต่คือคะแนนเราจะเกาะกลุ่ม ก่อนสอบแวดล้อมอ่านหนังสือ ต่อให้เราไม่อ่านก็อดที่จะแวบๆไปติวกับเพื่อนไม่ได้ คะแนนเลยพอโอเค
2.อาจารย์จะสนใจใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเด็กห้องนี้ตั้งใจเรียน สนใจเรียน สอนแล้วอาจารย์รู้สึกดี แต่ห้องบ๊วย จะสอนไม่ฟัง อาจารย์จะหงุดหงิดไม่อยากสอนเพราะมันดื้อ
ข้อเสียคือคนที่อยากเรียนถ้าอยู่ห้องบ๊วยคือดับ เพราะแทบไม่ได้เรียน(เพื่อนเราโดนมาละ อยากเรียน แต่จารย์ไม่ค่อยอยากสอน เพราะทั้งห้องมันไม่ค่อยอยากเรียน)
ขอโทษที่พิมพ์ยาว อยากพิมพ์อีกอยู่ แต่กลัวไม่มีคนอ่าน 55555

0
back_club 17 ก.ย. 56 เวลา 21:35 น. 11

ลองมองกลับกัน
ถ้าเอาเด็กอ่อนเด็กเก่งมาเรียนปนกัน
จะเกิดความเลื่อมล้ำ เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว
เด็กอ่อนก็จะพาเกเร ฉุดเกรดเด็กเก่งลง
เด็กเก่งก็อยากจะช่วยดึงเกรด แต่บางทีเด็กอ่อนก็ไม่เอาไหน
ถึงยังไงแล้ว ถ้าเรียนรวมกันคนเก่งเค้าก็คบกับกลุ่มคนเก่งอยู่ดี
คนอ่อนก็จะเข้าหาคนอ่อนอยู่แล้ว เพราะเคมีตรงกัน
ชิวๆ ไม่เรียน ไม่ส่งงาน ก็กลุ่มอ่อน
ขยัน เคร่งเครียด ส่งงาน อ่านหนังสือ ก็กลุ่มเก่ง

0
Seesor 17 ก.ย. 56 เวลา 21:45 น. 12

เอิ่ม โรงเรียนเราตอนม.ต้น จะจัดห้อง 1 คือห้องคิง สองคือควีน ที่เหลือก็คละๆ กัน (ห้องพิเศษแยกไปอีกส่วนหนึ่ง) ซึ่งเราก็อยู่ห้องคิง เราว่ามันก็ดีนะคะ ได้อยู่กับเพื่อนที่ขยันๆ เก่งๆ ทำให้เราต้องขวนขวายตามไปด้วย

ขึ้นม.ปลาย จะจัดแบบ เอาเกรดสูงๆ มาคละกันอีกที แล้วแบ่งเป็นห้อง 1 กับห้อง 2  (สายวิทย์อะนะ) ที่เหลือคละเหมือนเดิม คราวนี้เราอยู่ห้อง 2 สังคมก็คล้ายๆ ห้องคิงม.ต้น แต่ห้อง 2 จะเรียบร้อยกว่า 5555

เราว่ามันเป็นผลดีนะคะ 
เด็กที่อยู่ห้องหลังๆ จะได้พยายามขวนขวายเพื่อถีบตัวเองมาห้องคิงบ้าง
แต่ถ้าเอามารวมๆ กันหมด เด็กดีก็อาจจะถูกเด็กเสียพาเสียไปด้วย

ห้องคละน่ะ โรงเรียนเราส่วนใหญ่ก็มีสูบบุหรี่ กินเหล้ากันแทบทุกห้อง แต่ห้อง 1 2 แล้วก็ห้องพิเศษจะแทบไม่มีประวัติด้านนั้นเลย ซึ่งมันก็เป็นข้อดีนั่นแหละค่ะ

0
จ้าจ้าจ้า 17 ก.ย. 56 เวลา 23:12 น. 13

เราเป็นคนนึงเลยนะ ที่ค่อนข้างจะเรียน พอใช้ได้ มั๊ง
คือ เราคิดว่าในทางทฤษฐี เป็นอะไรที่ฟังแล้วดูดีมากๆ
แต่พอมาดูในการปฎิบัติจริงๆ นะครับ จะมีเด็กที่ไม่เรียนซักกี่คนยอมฟังเด็กที่เรียน
คือ ส่วนมากในสังคมโลก จะมีคนที่ไม่ตั้งใจเรียนมากกว่าคนที่ตั้งใจเรียนอยู่แล้ว
ซึ่ง หากในห้องนึง มีคนตั้งใจเรียน ซัก5คน แต่มีคนไม่ตั้งใจเรียนซัก 35คน
พวกนายคิดว่า มันจะเกิดเหตุอะไรขึ้นหละ สิ่งที่จะเกิดก็จะมี
1.เด็กเรียน คบเด็กเรียน และ เด็กเรียนถูกรบกวนด้วยเสียงอันโหวกเหวก โวยวายของเด็กที่ไม่เรียน
2.เด็กเรียน คบเด็กไม่เรียน อาจจะฉุดให้เด็กเรียนตำ่ลงได้
เราอาจเปรียบได้ว่า การที่เอา นำ้ดีไปเจือนำ้เสีย หาก นำ้ดีไม่มากพอ ก็รังแต่จะทำให้ นำ้ดีกลายเป็นนำ้เสีย นะครับ แต่ถ้าเรามี นำ้ดีมากพอดีจะเจือนำ้เสีย อันนี้ก็โอเค
แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ในประเทศเราส่วนมากจะเป็นนำ้เสียนะครับ

อยากจะบอกว่า ทุกๆคนเป็นเพื่อนกัน ครับ อย่างผมผมก็คบคุยกันตลกเฮฮากับทุกคน
เพราะผมไม่ได้เป็นคนที่เรียนแบบ 100เปอเซน เรียนบ้างเล่นบ้าง แต่ เอนด้านการเรียนเป็นหลัก


สรุป มันเป็น ทฤษฐีที่ดีมากครับ แต่พอเอาเข้าใจ เราก็จะถูกตัวแปรๆต่างๆพัดพาไปในทางที่ไม่ค่อยตรงกับเป้าหมายสักเป็นส่วนมาก

ถ้าสมมุติ เด็กที่ไม่เรียนแล้วอยากเรียน ผมก็ช่วยได้ครับ แต่เอาให้แน่ใจจริงๆก่อนว่าอยากเรียน
ในห้องผม ก็มีเพื่อนที่ไม่เข้าใจ แต่เรียนไม่เก่ง ไม่ได้เกเร และพยายามจะเรียน
ผมก็พยายามจะช่วยเค้าตลอด สอนตลอด มาถามผมตรงไหน ผมก็จะสอนให้ละเอียดๆ
แต่พอเอาเข้าจริงๆ ในนิยามคำว่า เด็กไม่เรียน ส่วนมากจะเป็นเด็กที่ไม่มีจิตใจ สนใจในการเรียนเป็นทุกเดิมอยู่แล้ว ซึ่ง จุดนี้ก็ทำอะไรเค้าไม่ได้ แต่ผมโอเคกับ คนที่เรียนไม่เก่งแต่อยากเรียน แบบว่าเข้าใจช้านะครับ

สวัสดีจ้าาาา

0
hhhhhhhhh 18 ก.ย. 56 เวลา 14:00 น. 14

เราว่าดีนะ อย่าว่าเราเห็นแก่ตัวหรืออะไรนะ แต่เราเรียนอยู่ห้องคิง(กิฟ) ถ้าให้เราไปเรียนกับห้องบ๊วยงี้เราคงไม่ไปไหน แล้วการเรียนของห้องกิฟ กับบ๊วยมันต่างกันอ่ะ แต่เราอยากให้ทุกโรงเรียนใช้ระบบแบบสาธิตอ่ะ แบบแต่ละห้องกำหนดเกรดไว้ห้ามต่ำกว่าเท่านี้ ถ้าต่ำกว่าที่กำหนดก็ให้อยู่ห้องถัดลงมา นักเรียนก็จะมีความกระตือรือร้นอ่ะ

0
My-EnigmA 18 ก.ย. 56 เวลา 15:10 น. 15

มันทำให้ครูสอนเด็กได้สะดวก
เด็กเก่งก็ไปได้เร็ว แล้วก็ไม่ต้องมารอกัน ถ้าเก่งน้อยลงมาหน่อยก็อาจจะย้ำมากขึ้น

ถ้าปนกัน ความรวดเร็วในการรับสารต่างกันมาก
ครูก็ปวดหัวตาย

0
poarlaloy 18 ก.ย. 56 เวลา 17:42 น. 16

คนที่ขยันมีความพยายามก็อยู่ด้วยกันหน่ะดีแล้ว 


พวกเด็กไม่เอาถ่านก็กองๆกันไว้ อย่าเอามาปะปนกันเลยเราว่า


มันเสียบรรยากาศการเรียน ถ้าเอาเด็กพวกนี้มารวมด้วยไม่ดีนะตามความคิด


เสียงดังน่ารำคาญ  ความคิดเห็นส่วนตัว



1
เบื่อ 29 ก.ย. 57 เวลา 14:41 น. 18

เกลียดห้องคิงส์ แล้วก็ไม่ชอบห้องบ๊วย เอ้ะยังไงว่ะนี่
คหสต นะ
ห้องคิงส์ เว่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทุกเรื่อง ขยันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนตายกันไปข้างนึง
จริงจังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง กับทุกๆเรื่อง แม้แต่เรื่องไม่มีสาระพวกมันก็เครียดได้ บ้า่ไปแล้ว
ห้องบ๊วย สบายๆๆๆๆๆๆ แต่ ไม่เรียนนนนกันไง เด็กแต่ละคน หลากพฤติกรรม บางคนดี บางคน-*- ชิบหาย ถ้าถามนะ ไม่อยากอยู่ซักห้องหรอก แต่ถ้าเลือกได้ ยอมอยู่บ๊วยดีกว่า เพราะเป็นคนหัวช้า และไม่ชอบทำอะไรที่ .จริงจังกับชีวิตเกินไป..

0
พไพไ 11 เม.ย. 58 เวลา 22:53 น. 19

ห้องคิงส์เเต่โง่สุดดีกว่าเเน่นอนครับเพราะห้องคิงส์ก็มาจากห้องท้ายเเต่เก่งสุดนี่เเหละครับเหมือนเพิ่มระดับขึ้นมาน่ะครับ เราเก่งสุดในคนไม่เก่งมันจะดีไร สู้อ่อนสุดในคนเก่งดีกว่าอย่างน้อยเราก็เก่งกว่าคนไม่เก่งในห้องท้ายอยู่เเล้วเราถึงมาห้องคิงส์ได้

0
Yukie_21 26 เม.ย. 58 เวลา 10:01 น. 20

สำหรับเราน้า เราคิดว่า แบ่งห้องตามเกรดมันก็ดีนะ เพราะว่าถ้าเอาเด็กเก่งระดับห้องคิงส์ มารวมกับเด็กระดับต่ำกว่านั้น แล้วคิดว่าถ้าหนึ่งห้องมี 40 คน เรียนเก่งอยู่ 30 คน ไม่เก่งอยู่ 10 คน อาจารย์อาจจะสอนไปไวมากๆก็ได้ แล้วเด็กที่ไม่เก่งล่ะ จะตามทันหรือ ? เราว่าแบ่งแบบนี้ก็โอเคนะสำหรับโรงเรียนที่มีนร.เยอะๆ เพราะว่า เด็กเก่งอยู่กับเด็กเก่ง เรียนไปได้ไว รู้เรื่องเหมือนกันเรียนทันกัน และถ้าเด็กปานกลางอยู่กับปานกลาง ครูก็อาจจะช้าลงมาหน่อยและอาจจะอธิบายละเอียดขึ้นให้ได้เข้าใจ ไปแบบกลางๆไม่ช้าหรือไว ส่วนเด็กไม่ค่อยเก่งอยู่กับไม่ค่อยเก่ง ครูก็จะได้อธิบายให้ละเอียดมากกว่าเดิม ไปช้าๆเนิบๆแต่เข้าใจ ลองคิดดูน้าถ้าห้องนึงมีเด็กไม่เก่งมากกว่าเด็กเก่ง บางทีเด็กเก่งอาจจะโดนฉุดลงด้วยเด็กไม่เก่งก็ได้นะ ทำให้เรียนไม่รู้เรื่อง แล้วอาจจะรั่วไปเลย รร.เราก็คัดห้องคิงส์ตามเกรดเหมือนกันน่ะ ส่วนควีนก็เริ่มคละๆละ (เราอยู่ควีนจ้า) ถึงจะคละมันก็เหมือนเดิมอ่า เด็กไม่ค่อยเก่งเรียนไม่รู้เรื่องเลย เด็กเก่งก็เก่งไปอะไรแบบนี้ ยังไงมันก็จับกลุ่มแบบเดิม เด็กเก่งอยู่กะเก่ง ไม่เก่งก็เข้าพวกเดียวกัน เหมือนเดิมเลย แต่ไม่เก่งบางคนอยู่ห้องคละ พยามถีบตัวเองให้เก่ง (หายากนะ) อันนั้นก็ดีไปน้า แต่เราว่า จะอยู่ห้องไหนมันก็ไม่ค่อยสำคัญหรอกค่ะ ส่วนตัวก็ชอบคละอยู่ด้วยเพราะอย่างว่า เราเรียนพอได้ในกลุ่ม เราก็ช่วยสอนคนที่เก่งน้อยกว่า มันก็สนุกดีนะ อย่างไรอยู่ห้องไหนเดี๋ยวอาจจะชินไปเองแหละจ้า ขึ้นอยู่กับการจัดระบบของรร.ด้วยเนอะ เราคงทำอะไรไม่ได้ เป็นได้แค่นร.ตัวเล็กๆ ทำตามที่อาจารย์บอกเพียงเท่านั้น สู้ๆน้าค้า 

ปอลิง.คหสต

0
นกน้อยในวง exo 22 พ.ค. 58 เวลา 12:04 น. 21

เราว่าก็ไม่น่าแบ่งนะไม่ดีเลยอ่ะ โรงเรียนฉันนี่จะได้อยู่ห้องไหนต้องสอบเอาฉันอยู่ห้องต้นๆนะมี 11ห้องอยู่ห้องที่2พอขึ้นม.ปลายก็เรียนสายวิทย์มี7ห้องก็ได้อยู่ห้อง2แต่ว่าเค้าเรียนไม่เก่งเลยนะเกรดได้ต่ำๆเอง เพื่อนน่ะตอนม.ต้นอยู่ห้องเดียวกันเก่งกว่าเรานะ ขึ้นม.ปลายนางก็เรียนสายวิทย์ไงสอบได้ห้องหกปัจจุบันก็คงจะเก่งกว่าฉันอยู่นั่นแหละ ตอนนี้อยู่ม.ห่าแล้วแหละโหรู้สึกว่าโคตรแก่เลยอ่ะมองไปทางไหนมีแต่เด็กๆ#ไม่เกี่ยวกันเลย

0
่ะำ่พะ่พหพ 19 ก.ค. 58 เวลา 18:00 น. 22

ถ้าเเบ่งตามสายอ่ะพอว่า เพราะมันต้องเรียนตามสายคณะที่จะเข้า เเต่พวกเด็กประถม ม.ต้น นี้จะเเบ่งกันเพื่อ เด็กเรียนก็อยู่เรียนหมด เด็กบ๊วยก็อยู่บ๊วยหมด แถมยังมีการเเบ่งเเยกชยชั้นอีกตากห่าง รร.เคยมีห้องคิง ตอนป.4 เเล้วรู้มั้ยตอนที่จบป.6 เป็นยังไง? จากคนที่รู้จักกันหมด ห้องคิงส์ก็คบเเต่ห้องคิงส์ เพื่อนห้องอื่นก็ลืมชื่อหมดเเล้ว ตอนจัดอำลา ห้องคิงส์เป็นห้องเดียวที่ไม่ได้เชิญมา นี่หรอสิ่บที่การศึกษาไทยต้องการ ถ้าเป็นระบอบคละ เด็กเรียนอาจเผลอตัวบ้าง เเต่มันก็ไม่มีการเเ้บ่งชนชั้นอ่ะ เด็กเรียนความจริงต่อให้พ้องบ้าเเค่ไหนมันก็เรียนได้ เเต่เด็กไม่เรียนอ่ะ ไปอยู่กับเด็กไม่เรียนด้วยกัน จาก เกือบๆศูนย์กลายเป็นติดลบ เเต่ห้องคิงส์จากเกือบสิบกลายเป็น 10+ งี้ นี่มันระบอบอะไรเนี่ย -*-

0
ไม่บอก 16 พ.ค. 59 เวลา 19:19 น. 23

ต้องคิดในแง่ของเด็กเรียนดีด้วยสิคะ เอาทุกคนมาอยู่ด้วยกันหมดสภาพแวดล้อมจะไม่ดีค่ะ แล้วเชื่อเถอะมันก็แบ่งพวกกันอยู่ดีอ่ะ เด็กเรียนก็เรียนไป เด็กเล่นก็เล่นไป เค้าไม่ช่วยกันหรอกค่ะ แล้วครูก็จะได้สอนง่ายด้วยไงคะ คิดสิคิดๆๆๆๆ

0
DoraCP 8 ก.ค. 60 เวลา 15:30 น. 24

ขอออกตัวว่าเห็นต่างจากหลายคอมเม้นในนี้เลยค่ะ ถูกค่ะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน มีอะไรก็ต้องทำด้วยตัวเอง แต่อย่าลืมว่าการช่วยเหลือกันก็เป็นสิ่งที่ดี ถ้าเราเก่งแล้วเราช่วยให้เพื่อนที่ไม่เก่งขยันขึ้นมาได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรอคะ มีอะไรเสียหายหรอ


เราว่าเราสนับสนุนระบบการเรียนแบบฝรั่งมากกว่า คือพอขึ้นม.ปลายแล้วจะเลือกลงวิชาอะไรก็ได้ตามที่ตัวเองชอบ เช่นอยากเป็นสถาปนิก ก็ลงเรียนฟิสิกส์กับศิลปะ ไม่ต้องเรียนเคมีกับชีวะแบบเด็กวิทย์คณิต หรือใครอยากเป็นหมอก็ลงชีวะ เคมี สุขศึกษาไปเลย ไม่ต้องมาเสียเวลาเรียนฟิสิกส์ แบบนี้ดีกว่ามั้ยล่ะ เผลอๆเข้าใกล้ความฝันกว่าเป็นอยู่ด้วย


แล้วอีกอย่างนะคะ เห็นคอมเม้นหลายคนบอกว่าเดี๋ยวจะมีแบ่งพวกกัน อ่อ ในความคิดคุณก็แบ่งไปแล้วอ่ะค่ะ ถ้าเราเปิดใจว่าเพื่อนที่เรียนไม่เก่งไม่ได้เป็นคนไม่ดีเสมอไป เราก็จะอยู่ร่วมกับเขาง่ายขึ้นอ่ะค่ะ พูดอย่างกับเพื่อนเป็นอาชญากรเลยนะคะ แต่ก็ไม่ใช่แค่เด็กเรียน นั่นหมายถึงเด็กหลังห้องหลายๆคนก็ต้องเปิดใจให้เด็กเรียนด้วย ไม่ใช่เห็นเขาเรียบร้อย พูดน้อยแล้วจะคิดว่าเขาหยิ่งเลยไม่คบ สรุปแล้วคือเราต้องอยู่กันแบบไม่มีอคติค่ะ ถึงจะอยู่ด้วยกันได้ จอบอ

0
Waterflames 26 ต.ค. 60 เวลา 17:15 น. 25

เราชอบแบ่งมากกว่าอ่ะ ;-;

ตอนป.1-6 รร.เราคือไม่แบ่งเกรดห้องไหนห้องเดิม ซึ่งเราไม่ชอบทำไมเราต้องมาอยู่กับคนที่ไม่เท่าเราด้วยอะ เรารู้สึกไม่แฟร์เลย

พอ ม.2 ได้มาอยู่ห้อง คิง คือแบบบรรยากาศมันใช่! มันใช่จริงๆ เราชอบมาก >< ได้ลองมาอยู่แล้วจะรู้ว่ามันดีมากๆค่ะ^^


ข้อเสียคือ เราจะไม่ได้อยู่กับเพื่อนสนิทค่ะ ..

0
pastelnightmare 19 มี.ค. 61 เวลา 22:10 น. 26

คละ ๆ กันเด็กไม่ตั้งใจเรียนก็ดึงคนเรียนเก่งลงอีก ให้คนไม่ตั้งใจเรียนดึงกันลงนั่นแหละ อย่ายุ่งกับคนตั้งใจเรียนเลย


***เพิ่มเติม***

โรงเรียนประถมของเรามีปีนึงที่คุณครูจัดห้องเป็นเก่งกับเก่ง อ่อนกับอ่อน (ในโครงการมี 2 ห้อง) แล้วจัดเหมือนเรียลริตี้ แข่งกันเรียน

โดย

- คนอ่อนมีสิทธิ์โดนย้ายมาห้องเก่งตอนปลายเดือนถ้าตั้งใจ

- คนเก่งถ้าคะแนนตกจะถูกจับไปเรียนกับคนอ่อน

- คนที่ได้ที่ 1-10 ในแต่ละห้อง (ทั้งห้องมี 40 คน) ถ้าอยู่ห้องเก่งจะเซฟโซน ห้องอ่อนมีสิทธิ์เลื่อนขึ้น


ผลที่ได้

- ปีนั้นมี นร.ในโครงการ สอบเข้า ม.1โรงเรียนดังในจังหวัดโรงเรียนนึง ได้เยอะมากแบบไม่เคยมีมาก่อน

- เกรดดีขึ้นมาก เห็นได้ชัดในห้องอ่อน

0
nang 30 เม.ย. 62 เวลา 23:51 น. 27

สุดท้ายผลเรียนเป็นแค่ใบเบิกทาง แต่ประสบการณ์จะนำพาเราไปสู่ อนาคต ดังนั้น ชีวิตเรา เราคือผู้กำหนด ว่าอยากให้เราเป็นแบบไหน ตอนนี้พี่ทำงานแล้ว เชื่อป่ะ ตอนเรียนก็ปานกลาง เพื่อนบางคนเรียนแย่มาก แต่พอ เรียนจบ ได้ทำงาน ได้มาเจอเพื่อนเก่าๆ จึงทำให้รู้ว่า คนเก่ง เรียนดี แต่ชีวิติความเป็นอยู่ รายได้ สู่เด็กเรียน เกเร เด็กปานดลางไม่ได้ เด็กเกเร ไม่เรียนแต่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง คนเรียนปานกลาง มีหน้าทีเป็นผู้จัดการ รายได้ดี แต่เพื่อนเรียนดีเลือกอาชีพ ราชการ เลยทำให้ใช้ชีวิต ที่ต่างจากเพื่อนคนอื่น


วัยเรียน ก็คือหน้าที เรียนให้จบ

วัยทำงาน นำความรู้มาเป็นแนวเพื่อหารายได้

วัยกลางคน เริ่มดำเนินชีวิตหาทีเที่ยวให้ตัวเอง

วัยชรา ให้ลูกหลานดูแล ต่อไป




0
Dee 21 พ.ค. 63 เวลา 22:58 น. 28

ทุกอย่างเป็นเพราะตัวนร.ถ้าสมมุติว่าเอาเด็กไม่เก่งมาอยู่กับเด็กเก่ง ก็จะทำให้การเรียนการสอนล่าช้าเพราะหัวสมองของเด็กไม่เท่ากัน เช่นเด็กเก่งเขาก็เข้าใจเร็วเวลาครูอธิบายส่วนเด็กไม่เก่งก็อาจจะเข้าใจล่าช้ากว่ามาก เพราะฉะนั้นการเเยกห้องจึงเป็นผลดีของทั้งสองฝ่าย

#ตัวเราต้องจัดการกับตัวเองให้ได้ไม่ใช่เกี่ยวกับห้องเรียน

0