Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ไขข้อข้องใจ ทำไม "เภสัชกร" ถึงถูกหาว่าเป็นอาชีพที่ล้นตลาด รุ่นพี่ช่วยตอบที อาจจะช่วยให้ฝันหนูมีความหวังก็ได้♥

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่า พอดีหนูมีข้อสงสัยกับอาชีพ เภสัชกร ซึ่งเป็นอาชีพที่หนูรัก และใฝ่ฝันเป็นอย่างมาก แต่หนูไม่มีโอกาศได้เรียนเพราะสอบไม่ติด แฮ่ๆ ทำให้ต้องทนเรียนพวกสายวิทยาศาสตร์ ใน มชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ในปีนี้พอดีหนูคิดอยากจะลองสอบตามล่าฝันเป็นเภสัชกรอีกครั้งค่า แต่มันติดยุตรงที่ว่า เภสัช กลับกลายเป็นอาชีพที่ล้นตลาด จบไปก็ไม่มีงานทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่หนูกลัวมากและเครียดมาก เลยอยากถามรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ค่ะ ว่าเป็นอย่างงั้นรึป่าว ช่วยหนูทีนะคะ หนูเครียดมาก พี่อาจจะช่วยอีกความฝันเล็กๆให้เป็นจริงได้นะคะ ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

15 ความคิดเห็น

ununhaha 24 ก.ย. 56 เวลา 16:21 น. 1

อีกอย่างค่ะ ถ้าหนูได้รับคำปรึกษาดีๆ ว่าเภสัชไม่ตกงานแน่นอน หนูจะยอมซิ่ว ลาออกอ่านหนังสือสอบให้ได้เลยนะคะ ช่วยหนูทีเถอะค่า ได้โปรด

0
ddddd 24 ก.ย. 56 เวลา 19:56 น. 2

เภสัชไม่ถึงกับตกงานมาก แต่ก็ไม่ได้ขาดแคลนอะไร ถามว่าค่อนข้างอิ่มตัวไหม ตอบเลยใช่ เรียน6ปี แต่เงินเดือนเริ่มต้นไม่สูงเท่าระยะเวลาที่เรียน อีกทั้งถ้าคิดจะเปิดร้านขายยาตอนนี้ อยากว่าเกลื่อนมากๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่ร้านขายยา เห็นแล้วแต่ละร้านก็ขายไม่ดีเท่าไหร่ ถือว่าไม่ได้เวิร์กมากเลยหละ ทำใจนิดนึง ถ้าเก่งจริงๆพี่ว่าไปเรียนหมอ ทันตะ ไม่ก็วิศวะ สถาบันดังๆเลย แนะนำตรงๆนะ ใครไม่เห็นด้วยไม่ได้ว่าอะไร

0
tuguygtuy 24 ก.ย. 56 เวลา 20:42 น. 3

ถามว่าตกงานมั้ย ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนะ แต่ที่แน่ๆตอนนี้ร้านขายยาตามกฎกระทรวงสาธารณสุขแบบใหม่ บังคับให้ร้านยาใหม่ต้องมีเภสัชคุมร้าน ห้ามใช้วุฒิพวกพยาบาลหรืออะไรสักอย่างเหมือนเมื่อก่อนอ้ะ แ้ลวทีนี้ร้านยาเก่าๆที่เปิดนานแล้ว แล้วที่ใช้วุฒิอื่นที่ไม่ใช่เภสัชก็ต้องเฟ้นหาเภสัชเพื่อเอาชื่อมาแขวน จ้างเภสัชก็ประมาณ เดือนละ 7000- 9000 อ้ะแล้วแต่ร้าน แต่ตัวเภสัชที่จบใหม่ถ้าจะเปิดร้านยาเองมีหวังได้ันั่งตบแมลงวันแน่ๆเพราะร้านยาปัจจุบันมีเกลื่อนมาก ร้านที่ขายดีคือเป็นร้านที่อยู่มานาน เจ้าเก่าแก่ที่คนทั้งละแวกนั้นรู้จักแล้วก็การเปิดร้านยาใหม่ก็ใช้เงินไม่ใช่น้อยๆเลยแค่ตู้ยาก็เป็นแสนแล้ว ส่วนทำงานรับราชการตามโรงพยาบาล เราก็ต้องเรียนให้ดีระดับนึงเลยอ่ะถึงจะมีงานทำ ไม่รู้สิเราคิดเหมือน คห 1 อ่ะ เภสัชเหมือนถึงจุดอิ่มตัวแล้วอ่ะ นอกจากว่า จขกท จะเป็นลูกร้านขายยาอันนี้ค่อยอีกเรื่อง



เรารู้แค่นี้อ้ะ ผิดถูกยังไงก็รอคอมเม้นต่อไปนะ คือพ่อเราเป็นเภสัชบอกมาอ่ะ ให้กำลังใจ จขกท นะ

0
เหนื่อยใจ 24 ก.ย. 56 เวลา 20:52 น. 4

เภสัชเรียนมา 6 ปี เหนื่อยแทบตาย สุดท้ายมาจบที่ " ขี้ข้าหมอ "

ความเป็นศักดิ์ศรีของเภสัชกรหายไปไหนก็ไม่รู้

มันอยู่ที่ การจ่ายยาใน รพ. ปัจจุบันมีการจ้างเจ้าหน้าที่มาจ่ายยาแทน เภสัชกร เกลื่อนตาม รพ.มากๆ

อาจเป็นเพราะตัดงบก็ไม่รู้ แต่ถามเลย เรียนมาตั้งเยอะ ตรงไหนที่บอกว่าคุ้ม คิดก็ยังไม่ได้คิด แต่ก็น่ะแล้วแต่คน

ถ้าอยากเรียนเภสัช แนะนำให้เรียน การบริบาล จะได้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากขึ้นไปอีก

0
Zeratul 24 ก.ย. 56 เวลา 21:28 น. 5
อืม พี่เป็นเภสัชที่จบในปีนี้ (จบมาได้ 6-7 เดือน) สถานการณ์ในตอนนี้ ก็คือ เพื่อนพี่ทุกคน และเพื่อน ม.อื่นๆ ก็ได้งานกันทุกคนนะ พวกที่ไม่ได้ทำงานคือเรียนต่อ ขนาดคนไม่มีใบประกอบก็ยังหางานได้แบบไม่ยากเย็นนัก (แต่ก็ยากกว่าคนมีใบอยู่) เอาตรงๆเลยก็คือ ตอนนี้เภสัชยังขาดอีกเยอะ แต่ถ้าถึงรุ่นน้องแล้ว มันจะขาดอยู่อีกไหม พี่ตอบไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้เภสัชรุ่นนึงก็จบมาเยอะกว่าแต่ก่อนพอสมควรเลยนะ เอาเป็นว่าพี่จะแบ่งเป็นโรงพยาบาล ร้านยา แล้วก็โรงงานแล้วกัน
1. โรงพยาบาล: โรงพยาบาลโดยภาพรวมถือว่าขาดน้อยกว่าแต่ก่อนเยอะ แต่ก็ยังขาด ปีนี้มีตำแหน่งจับสลากใช้ทุนมา 350 ตำแหน่ง มีคนสมัครใจใช้ทุน 700 กว่าคน โรงพยาบาลส่วนมากคนจะไปด้านนี้กันเยอะ เพราะว่ามันได้ใช้ความรู้ตรงกับที่เรียนมาค่อนข้างเยอะ มีโอกาสได้ทำงานใกล้บ้านมากที่สุด เงินเดือนก็โอเค (ตอนนี้เภสัชโรงพยาบาลเพื่อนพี่ได้กัน 15000+5000+1500+3000+โอที(ส่วนมากประมาณ 3000-12000) บาท เนื้องานก็มีทั้งสบายและเหนื่อย(อันนี้แล้วแต่ที่) แต่ถามว่ายังขาดอีกเยอะไหม มันก็ยังขาดอีกเยอะ เพียงแต่ว่า เค้าไม่มีตำแหน่งมาให้ ทำให้หลายๆโรงพยาบาลต้องใช้เงินของโรงพยาบาลจ้างเภสัชเองเยอะเหมือนกัน ส่วนโรงพยาบาลเอกชนเค้าก็รับสมัครกันเยอะ (ขนาดพี่ทำงานแทบไม่ได้พัก ยังจะมีคนดึงพี่ไปทำ part time =*=) เพียงแต่เมื่อเทียบเงินเดือนกับสวัสดิการ ความมั่นคง อะไรหลายๆอย่าง ทำให้โรงพยาบาลรัฐดูน่าสนใจกว่า
2. ร้านยา : ตอนนี้ร้านยาคนขาดเยอะมากๆเลยครับ ตลาดร้านยาโตทุกปี ยอดขายรวมของร้านยาไม่เคยตก แต่ยอดขายของร้านยาเดี่ยวกลับลดลงทุกปี หมายความว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นมา มาจากร้าน chain store ล้วนๆ!!! แล้วตอนนี้ร้าน chain แข่งกันเปิดสาขากันมากมาย ทำให้คนขาดเยอะมาก ถึงขนาดร้าน chain บางร้าน (ร้าน e...) ให้ค่าแนะนำ คนที่หาเพื่อนมาทำงานได้ 2000 บาท ส่วนเงินเดือนรวมๆ 29000-30000 ต้นๆ (ถ้าไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวเพื่อนพี่คนที่ได้เยอะสุดได้ 35000 ส่วนแหล่งท่องเที่ยวได้ 50000) แต่มันยังมีค่าคอม ค่าโบนัส อะไรอีกนะ เนื้องานก็ไม่ถือว่าหนัก ทำให้เพื่อนพี่หลายคนออกไปอยู่ร้านยาเหมือนกัน แต่อย่าลืมนะครับว่าเงินเดือนที่ได้น่ะ มันคือเงินเดือนรวม เงินเดือนจริงแค่ประมาณ 15000-21000 บาท เพราะฉะนั้นร้านยาดูเหมือนว่าจะเป็นอะไรที่ หางานง่าย ตัวเลือกเยอะ เงินเดือนดี แต่อย่าลืมว่าเงินเดือนมันขึ้นช้านะครับ เพราะเท่าที่พี่รู้มา ร้านยาจะขึ้นให้ประมาณ 3-5% ต่อปี เมื่อคือว่าเงินเดือนจริงคือ 15000 มันก็ขึ้นปีละนิดเดียวเองครับ
3.โรงงาน โรงงานเป็นอีกที่ที่คนขาดเยอะ แต่กลับไม่ค่อยมีคนมาสมัคร สายโรงงานจะเป็นอะไรที่ทั้งรุ่น จะมีคนมาทำสัก 10 คน และพอผ่านไปครึ่งปี ก็เหลือคนทนอยู่ได้แค่ 5 คน เป็นแบบนี้จริงๆ ส่วนนึงเพราะเงินเดือนมันไม่ได้ล่อใจอะไรมากมาย (เพื่อนพี่คนที่ได้เยอะสุดได้ 35000 คนที่ได้น้อยสุดได้ 23000 บาท แต่ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 27000-30000 ครับ) แต่งานค่อนข้างปวดหัว และหนักมาก พี่เองก็ทำอยู่โรงงาน พี่ทำงาน 8 โมง - 2 ทุ่มเกือบทุกวัน ช่วงไหนกระทรวงมาตรวจก็อยู่ทำถึงเที่ยงคืน ตี 1 แถมหลายๆที่ไม่หยุดวันเสาร์ให้ด้วย สายโรงงานเราต้องเป็นหัวหน้าเค้า เพราะฉะนั้นนอกจากเราต้องเก่งเรื่องงานแล้ว เรื่องคนเราก็ต้องได้ด้วย บางที่ถึงกับให้เราเป็น supervisor ของที่นั่นตั้งแต่เราเริ่มทำงานที่นั่นเลย (แต่การเป็น supervisor ก็หมายความว่าเราจะไม่ได้ O.T. นะ) ทำให้คนไหลออกจากสายนี้ไปเยอะ แต่ข้อดีของสายโรงงานคือ เงินเดือนขึ้นค่อนข้างเร็วนะครับ เพื่อนพี่ที่อยู่บริษัท T.... ขึ้นปีละ 9% อีกคนอยู่ C.... ขึ้นปีละ 10% ส่วนอีกคนอยู่ R...... ขึ้นปีละ 9-14% ส่วนบริษัทที่พี่อยู่ พี่ยังไม่รู้ได้กี่ %(ฮา) ส่วนเงินเดือนพี่ได้ 3xxxx ครับ รวมโอด้วยก็ประมาณ 36xxx-37xxx ครับ
ส่วนสายงานด้านอื่นๆ อย่างพวก สสจ. อย. ศูนย์วิทย์ อะไรพวกนี้ พี่ไม่รู้อะไรมาก ขอไม่พูดถึงแล้วกันนะครับ สรุปคือโดยรวมยังถือว่าขาดอีกพอสมควร แต่ว่าถ้าถึงรุ่นน้องจะเป็นยังไง พี่ตอบไม่ได้จริงๆ เพราะตอนนี้คนจบมาแต่ละปีก็เยอะ ส่วนเรื่องเงินเดือน พี่ให้ไว้ประกอบการตัดสินใจเฉยๆ เพราะถ้าถึงรุ่นน้องจบมา ตัวเลขพวกนี้มันก็เปลี่ยนไปหมดแล้วครับ
2
Zeratul 3 ก.ค. 59 เวลา 16:31 น. 5-2

กระทู้นี้ตั้งแต่ปี 2013 อันนี้ 2016 แล้วนะครับ น้องไปเจอมาได้ยังไง เรื่องที่ๆพี่จบอ่านในข้อความลับแล้วกันครับ

0
ununhaha 24 ก.ย. 56 เวลา 22:38 น. 6
เยี่ยม ขอบคุณทุกๆความเห็นมากๆเลยนะคะ โดยเฉพาะความเห็นที่ 2 และความเห็นที่ 5 ที่ทำให้หนูรู้ว่า หนูเนี่ย ควรที่จะเดินตามความใฝ่ฝันของหนู ถึงแม้ในอนาคตหนูอาจจะตกงาน หรือไม่มีงานทำ แต่หนูก้อมีความสุขและภูมิใจที่ได้ชื่อว่าเป็น เภสัชกร คนนึงค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะที่ทำให้หนู้รู้ถึงหนทางที่แท้จริง ขอบคุณจิงๆค่า  ต่อจากนี้ถึงเวลาต้องทำความฝันให้มันสำเร็จแล้วค่า 
0
newmor 28 ก.ย. 56 เวลา 02:14 น. 7

สู้น่ะครับ เป็นกำลังใจ ในฐานะคนที่เรียนคณะนี้อยู่ก็รู้สึกว่าอาชีพนี้มีอะไรให้ทำหลากหลายดี ไม่ใช้แค่ทำงานตามโรงงานหรือโรงพยาบาลอย่างเดียว อีกออย่างการที่มีคนบอกว่าเราเป็นขี้ขาของอาชีพอื่น ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งอาชีพเภสัชกับอาชีพอื่นๆทางสายแพทย์ต่างช่วยกันเพื่อให้ผู้ป่วยหายจากการเป็นโรค หรือทุเลาลง ไม่ควรมองว่าเราเป็นขี้ข้าหรือเบี้ยล่างเขา แต่ที่เราทำคือช่วยกันรักษาผู้ป่วยคับ ^^สู้สู้

0
FFwanila 1 ต.ค. 56 เวลา 11:01 น. 8

ทำไมเป็นขี้ข้าหมอล่ะคะ ในเมื่อเวลาหมอสั่งจ่ายยามาเภสัชกรนี่แหละที่ต้องดูอีกที แล้วก็สั่งแก้ได้ด้วยนะ

0
ยยยp 1 ต.ค. 56 เวลา 20:10 น. 9

สั่งแก้เองไม่ได้ครับ ถ้าเห็นว่าหมอสั่งผิด ต้องนำเรื่องไปบอกหมอคนที่สั่งจ่ายยาว่าผิด แล้วก็ต้องให้หมอตัดสินใจอยู่ดี

0
มันจะยังไงกันนะ... 15 ต.ค. 56 เวลา 22:48 น. 12

เรื่องจริงค่ะ ที่เภสัชไม่สามารถสั่งแก้เองได้ ได้แต่บอกหมอว่า เดี๋ยวยามันตีกัน ถ้าหมอเขายังยืนยันจะใช้ เราก็ต้องใช้ตามหมอบอกค่ะ (แต่มีเขียนกำกับไว้ว่าบอกแล้วแต่-ังยืนยัน)

แต่ในกรณีเกิดอะไรขึ้นกับผู้ป่วยแล้วถึงขั้นขึ้นศาล เภสัชรอดตัวค่ะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

ทันตะจุฬา รุ่น74 25 ต.ค. 56 เวลา 21:12 น. 14

คณะเภสัช จุดนัดพบ สำหรับ ผู้สอบไม่ติดแพทย์และทันตะ จริงๆนะ

เหตุผลของเพื่อนที่เอนปีแรก พลาดทันตะ ได้เภสัชจุฬา

ปีต่อมาพยายามจนเอนติดทันตะจุฬาจนได้ มาอยู๋คณะเดียวกัน คือ..

"เภสัช เรียน6ปี ไม่คุ้ม เงินเดือน เราว่า ได้เงินเดือนพอๆหรือมากกว่ากับวิศวะที่เรียน4ปี นิดหน่อย โอกาศและความก้าวหน้าในการเรียนต่อเฉพาะทางในสาขาเภสัช ไม่มีแน่นอน ไม่เหมือนแพทย์เฉพาะทาง เช่น ศัลยแพทย์ หรือทันตแพทย์เฉพาะทาง เช่น หมอจัดฟัน เงินเดือนระดับแสน ส่วนคะแนนแอดคนติดเภสัชจุฬาที่1 ก็ไม่ติดทันตะจุฬาได้ ขี้เกียจโลกสวยตอบคนอื่นว่า ทำไมถึงเรียนเภสัช... คือเราไม่ติดทันตะ จบปะ"


ตลกจัง

0
Expo 3 พ.ค. 57 เวลา 17:22 น. 15

ปัญหาคือตอนนี้ ถึงแม้ พรบ ใหม่จะออกมา แต่ร้านยาที่จ้างผู้ช่วยเภสัช ยังมีอยู่ บางคนจบ จบ ปวช มา. พูดมีแบบเจ็บจี้ดอ่ะ.

" ชั้นไม่จบเภสัชก็ขายยาได้. ขายยาง่ายจะตาย ทำไมชั้นได้เงินน้อยกว่าเภสัช ชั้นก็ขายยาได้เหมือนกัน "

เอิ่มคือเจ็บจี้ดเลยค่ะ. ขอ บอกว่าที่เภสัชกรทุกท่านมา ณ โอกาส น้ี ว่า ขอความกรุณาอย่าสอนความรู้ที่มีมาให้ คนที่ไม่ได้เรียนเภสัช มาขายยาแทนเภสัชเลยค่ะ. มันผิดจรรยาบรรณ นอกจากนี้เค้ายังดูถูกคุณค่าของวิชาชีพเราด้วยค่ะ บางที่อบรมสามเดือนขายยาก็มีนะค่ะ

0