กระทู้โต้วาที : รับตรง.. มันคือ "ภาระ" หรือ "โอกาส"
ตั้งกระทู้ใหม่
ภาระ
โอกาส
ต้องหาเงินตามไล่สอบ หากไม่สอบก็เสียเปรียบเพื่อน
มันคือโอกาส ไม่มีการบังคับ วัดกันที่ความพร้อม
42 ความคิดเห็น
จริงๆ รับตรงคือการให้โอกาสในการลดคู่แข่งในรอบแอดมิชชั่น
ไม่จำเป็นว่ามีรับตรงที่ไหนต้องสมัครทุกที่ อันนี้ไม่จำเป็น
อย่างตัวผมเองสมัครแค่ที่เดียวคือที่ที่ใกล้บ้าน
ไม่อยากไปที่ที่มันไกล ๆ เพราะจะเสียค่าใช้จ่ายเยอะ
โอกาสมีไม่จริงหรอก ถ้าจะให้โอกาสจริงต้องยกเลิกการกำหนดเกรดก่อนสอบได้ใหมหละ
ถ้าเปิดรับแอด ก่อนรับตรงก็ดีไปอีกแบบนี้ คู่แข่งเก่งในรอบรับตรงก็จะน้อยลง ทำให้มีโอกาสได้มากขึ้น (คิดแบบโง่ๆอย่าด่าเรานะ)
แล้วแต่คนเลย เราว่าเป็นโอกาส
เราว่ามันเป็นการเปิดโอกาสให้รอบแอดด้วยนะ เชื่อเถอะว่าเด็กเก่ง 90% สอบรับตรงและเลือกรับตรง ถ้าทุกคนไปรวมกันรอบแอด เชื่อเถอะว่าโอกาสของคนคะแนนต่ำๆจะลดลงด้วย
อีกอย่างคือการรับตรงเหมือนการทดสอบตัวเองก่อน บางคนคิดว่าตัวเองเก่งจะเรียนนู้นเรียนนี่ การได้ลองไปสอบคือการวัดฝีมือ ถ้าไม่ได้ก็จะรู้ว่าตัวเองไม่ไหว ก็หาที่อื่นเข้า
ไม่ใช่ไปแอดอย่างเดียวโดยไม่รู้ฝีมือตัวเอง พอหลุดทุกอย่างก็จบ เป็นภาระต่อไปปีหน้าป่ะ?
รับตรงไม่ได้บังคับให้คุณไปสมัครเสียหน่อย ถ้ามันเป็นภาระสำหรับใคร ก็รอแอด รอโควต้าสิคะ
มีทางเลือกเยอะๆไม่ชอบหรือ ทำไมถึงจะต้องตัดทางเลือกของตัวเองด้วยล่ะคะ? หรือจะบอกว่าคุณๆที่ไม่ชอบสอบตรงเห็นว่าข้อสอบส่วนกลางของแอดที่มีปัญหาอยู่ทุกปีดีพอที่จะคัดนักเรียนนักศึกษาเข้าไปเรียนยังมหาลัย?
ถ้าบอกว่า ทำให้เสียเงินเยอะในการสอบรับตรง ง่ายๆๆเลยไม่อยากเสียเงินก็ไม่ต้องสอบ เช่นผม สอบแค่สองที่ คือที่ผมอยากเรียนจริงๆๆที่หนึ่ง และอีกที่คือที่ใกล้บ้าน (อันนี้สอบ เพราะพ่ออยากให้เรียน มหาลัยใกล้บ้าน
ตอนนี้หนูอยู่ม.6 หนูคิดว่า...
มีทั้ง2ระบบก็ดีค่ะ อยู่ที่ว่าใครพร้อมแบบไหนมากกว่ากัน
แต่ถ้าคิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรจริงๆ ก็ควรแจ้งล่วงหน้าค่ะ
อย่างน้อย2ปี ไม่ใช่นึกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน
เด็กเตรียมตัวไม่ทันค่ะ ไม่รู้ว่าจะโฟกัสอะไร
อ่านหนังสือวิชาที่จะต้องใช้สอบตรง หรือว่าตั้งใจทำงานส่งอาจารย์เผื่อเกรดจะได้ดีๆ
มาทำ2อย่างให้ดีมากๆพร้อมๆกันมันไม่ไหวหลอกค่ะ
เพราะว่าการเข้ามหาลัยมันคือจุดเปลี่ยนชีวิต หนูต้องเรียนจบคณะนี้และทำงานด้านนี้ตลอดชีวิต
รับตรงบางที่ก็ไม่ได้ออกอะไรยากนะ ไม่ต้องเรียนพิเศษยังสบายๆ
อย่างของผมสายคอม แค่ว่าคุณต้องใส่ใจกับมันแล้วก็ติดตามข้อมูลบ้าง แล้วก็เคยฝึกมาก่อนนิดหน่อย ซึ่งถ้าจะไปแอดนี่ ผมว่าคงจะไม่เข้าท่า เพราะสอบตรงแค่สอบที่จะใช้ที่จะเรียนต่อ วิชาที่อ่านก็ไม่ต้องมากมาย แต่แอดนี่...วิชาคอมจิ๋งเดียว จะวัดได้จริงๆเหรอ
จริงๆแล้วที่เรียนพิเศษ ก็เพื่อทำข้อสอบส่วนกลางให้ได้มากกว่า ข้อสอบรับตรงจริงๆไม่ค่อยออกเกินหลักสูตรเท่าไหร่
เราก็คิดว่าเป็นโอกาสนะ สำหรับคนที่มีความพร้อม ถ้าเขาติด เราก็ลดคู่้เเข่งในรอบเเอดไปได้เยอะเลย จะคิดมากทำไมในเมื่อเขาพร้อมกว่าเรา เเต่ถ้าพูดถึงเรื่องเงิน ถ้าจะบอกว่า เราก็พร้อม เเต่ไม่มีเงิน เราก็ต้องพยายามหามาให้ได้สิ เอาที่ที่เเน่ ที่ที่คิดว่าได้เเน่นอน
เราว่ามันเป็นโอกาสนะ
แต่ก็ต้องยอมรับ(นิดนึง)ว่าเป็นภาระ
อย่างเช่น บางมหาลัย ใช้แต่คะแนนแกทแพท มีแต่ยื่นคะแนนเข้าไป ไม่ได้ไปนั่งสอบที่ ม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคิดค่าสอบเพื่อ ???
หรือบางที่ มีการเรียกเอกสารของตนเองพร้อมๆกับการจ่ายเงิน ซึ่งข้อนี้เราก็ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะมันกลายเป็นว่า ถ้าเอกสารผิด > ไม่มีสิทธิ์สอบ > เสียเงินฟรี อาจจะต้องยอมรับอ่ะนะว่าเป็นความบกพร่องของผู้สอบ แต่บางที ความบกพร่องนี้ ก็อาจเกิดจากการที่ทางมหาลัยอาจจะให้ข้อมูลที่ไม่กระจ่างได้เหมือนกัน
เหอะๆ ไม่เกี่ยวคับ รับตรงถือว่าให้โอกาสเด็ก แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายค่าเรียนพิเศษ มันอยุ่ที่ตัวเด็ก ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้บังคับเด็กให้ทำซะหน่อย เด็กมันอยากสมัครกี่มหาวิทยาลัยนนั้นก้เรื่องของเขา เขาอยากติด เขาอยากสอบ เขาอยากลองก็ให้โอกาสเขาได้ทำสิเงินเขานิ แล้วรับตรงก็ทำให้เด็กในบางส่วนนั้นมีที่เรียนก่อน การรับตรงใช่ว่าคู่แข่งจะเยอะหนักหนา แค่โครต้าต่างๆเด็กก็ลดไปส่วนหนึ่งแล้ว อีกส่วนก็สอบรับตรงแบบทั่วประเทศ พอติด พวกแอดก็คู่แข่งก็น้อยลง แต่ถ้า!! ยกเลิกรับตรง เอาแต่แอด คิดบ้างป่ว่า ถ้าเด็กเก่ง เด็กที่ทำได้ ติด แล้วคนที่ไม่ติดงี้ก็เสียโอกาสดิ จะให้รอปีหน้าหรา ชาติไหนจะติดหมดล่ะ รับก็ใช่ว่าจะรับหมด คิดบ้าง!มีสมองป่ โธ่ ก็คิดแค่ว่าเสียเงินล่ะว่ะ เด็กรับตรงบางคนมันก็ไม่พึ่งที่เรียนพิเศษอย่างเดียวหรอก บางคนก็อ่านแค่หนังสือ แล้ว รร ก็ใช่ว่าจะไม่ติวให้ จิงมั้ย??? ="=
เราคิดว่ามันคือโอกาสนะ การรับตรงคือการรับเด็กหัวกะทิเข้าไปก่อน จะได้ไม่ต้องไปแย่งที่ตอนแอดมิชชั่น จริงๆแล้วมันอยู่ที่ตัวเรามากกว่า เค้าเปิดโอกาสให้เราได้ไปสอบตรงแล้ว มันก็อยู่ที่เราว่าเราพร้อมหรือไม่ เมื่อเรามั่นใจว่าเราพร้อมแล้วสามารถติดรับตรงได้ ก็สบายแล้วค่ะ อย่างเราน่ะอยากติดรับตรงมากกว่าไปแอดฯอีกนะ
ถ้าติดรับตรงเป็นก็เป็นเกียรติย
ก็ดีทั้งสองทางนะ แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน
แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีสอบตรงก็ควรขยายโอกาสให้เด็กต่างจังหวัดด้วยการจัดสนามสอบที่ต่างจังหวัดด้วยและค่าสอบก็ไม่ควรแพงจนเกินไป
เด็กดำๆที่ไม่เอารับตรงผมว่าแม่งพูดชอบออกนอกประเด็นนะ เขาไม่ได้บังคับให้คุณสอบนะ อยากสอบก้สอบ พวกที่ไม่สอบเขาก้มีแอดให้ ยิ่งดีซะอีกที่มีรับตรงช่วยทำให้คะแนนน้อยๆ(มองอีกแง่คนรอบแอดก้รับน้อยลง)
ผมว่าถ้าพูดถึงโอกาสนั้น คงจะไม่ค่อยตรงเท่าไร
แต่ผมว่าการรับตรงนั้น มหาลัยจะได้นักเรียนที่มีความสามารถ และสนใจในสาขานั้นจริงๆ เพราะ จะมีการสอบวิชาวิชาความถนัคต่างๆ เช่น การสอบรับ คณะนิติศาสตร์ จะต้องรับเด็กที่มีความสนใจ กฎหมาย เข้าใจกฎหมายบ้าง มีพื้นฐาน เข้าไปศึกษาต่อ
และ เด็กส่วนใหญ่ที่ไปเรียนพิเศษ ก็เพื่อไปสอบ แอดมิชชั่นมากกว่าสอบตรงนะครับ เพราะ แอดมิชชั่นสอบวิชาพื้นฐานแล้วข้อสอบก็ วัวตะระ พื้นฐานเลย เด็กก็ต้องเรียนพิเศษเพราะกลัวตก แต่ถ้าสอบตรงเด็กก็จะเรียนเฉพาะวิชาที่นักเรียนสนใจที่จะเข้าศึกษา แล้ว สมมติ เพิ่มวิชาความถนัดนิติ เข้าไป เด็กก็จะกระจายความเสี่ยงด้วยการสมัครสอบเหมือนกันเสียตังค์เยอะกว่าสอบตรงอีก แล้วบอกว่า มหาลัยเอากำไร ผมว่างั้นทำไม Gat Pat ไม่สอบฟรีเลยละครับ งบประมาณที่ให้ครูไปเที่ยว เอามาจ่ายค่าข้อสอบแทนเด็กไม่ดีเหรอคร้าบบบบ
วันหลังเชิญผมก็ได้นะครับ 555555
เด็กในเมืองกับเด็กบ้านนอกก็คิดต่างกัน
เรียนในตำราต่างกันสภาพแวดล้อมต่างกัน
ผมก็ไม่เข้าใจเด็กในเมืองหรอกนะ
การรับตรงมันเป็นการเปิดโอกาสให้กับคนที่เค้าต้องการจริงๆ
แล้วมันยังช่วยลดคู่แข่งในรอบแอดมิด
พวกคุณไม่ดีใจรึไงที่รับตรงมันช่วยคุณให้มีโอกาสเพิ่มขึ้น
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?