โต้วาที: สังคมออนไลน์ ควรเปิดเผยตัวตน มากกว่าปกปิด

ซักพักท่านซ่อนจะเข้ามาเห็นต่าง . . .

เราว่ามันเป็นสิทธิส่วนบุคคล ของเขาว่าอยากเปิดเผยตัวหรือไม่ เพราะถึงยังไงเกิดทำความผิดขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหาตัวจาก ip หรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อตามจับตัว
เราจึงคิดว่า เรื่องการเปิดเผยตัวในสังคมออนไลน์ไม่มีความจำเป็นเท่าไร

เป็นคนนึงที่หนีจากโลกความจริงมาอยู่บนโลกออนไลน์นะ ถ้าเปิดเผยตัวตนก็กลัวคนที่รู้จักกันน่ะสิ 

#1
รู้ทันอีก !

----

เรื่องนี้ต้องยอมรับกันก่อน ว่าโลกจริงของเราไม่ใช่โลกในอุดมคติที่จะทำอะไรได้แบบอย่างมีสิทธิและเสรีภาพอย่างที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้
จริงอยู่หากดูที่ลายลักษณ์อักษรจะเป็นเช่นนั้น แต่ในเชิงปฏิบัติกลับไม่ใช่ ความอยุติธรรม อำนาจมืด รวมถึงบางเรื่องที่ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ในกฎหมายแต่ก็ให้ผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเราเช่นการอยู่ร่วมกับเพื่อนฝูง อยู่ร่วมในโรงเรียน หน่วยงาน องค์กร เรื่องพวกนี้หากพูดแบบเปิดเผยตัวอาจจะก่อให้เกิดผลเสียทางใดทางหนึ่ง
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีพื้นที่สาธารณะบางแห่งที่เปิดรับการพูดคุยอย่างเปิดอกโดยผู้พูดไม่จำเป็นต้องเผยตัว

ซึ่งนั่นก็คงไม่พ้นสังคมออนไลน์ หรือโลกอินเตอร์เน็ต

ซึ่งแต่ดั้งเดิม ด้วยเทคโนโลยีที่มีจำกัด จึงไม่อาจระบุตัวผู้ใช้ได้อย่างเด่นชัดมาตั้งแต่ต้น
ทว่าในปัจจุบันจากเทคโนโลยีที่พัฒนา การระบุตัวบุคคลผู้ใช้จึงสามารถทำได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
กระนั้น ดั้งเดิมของสังคมออนไลน์ก็ไม่ใช่พื้นที่ซึ่งเปิดเผยตัวผู้พูดตั้งแต่ต้น ทั้งยังเป็นพื้นที่เดียวที่สามารถพูดคุยอย่างเปิดอกโดยไม่ต้องเปิดเแยตัว
แล้วเราจะไปเปลี่ยนแปลงวิถีทางที่เป็นอยู่นี้ไปเพื่ออะไร ?

จริงอยู่ บางคนอาจจะกล่าวอ้าง ว่าบางคนได้ใช้สิทธิและเสรีภาพที่มีอยู่จนเกินขอบเขต ด้วยการสร้างความเสียหายกับบุคคลอื่นโดยการปล่อยข่าวลือใส่ร้ายอันไม่มีมูล
ทว่า ด้วยเหตุผลเพียงแค่นั้น ทำไมถึงได้เลือกที่จะแก้ปัญหาโดยการจำกัดสิทธิของพลเมืองดีทั่วไปที่ใช้สังคมออนไลน์อย่างถูกต้องด้วยการบังคับให้พวกเขาต้องเปิดเผยตัวแทนเสียล่ะ ?
แบบนั้นมันเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรือไม่ ? และแม้จะเปิดเผยตัว จะสามารถแก้การใช้สิทธิและเสรีภาพที่เกิดขอบเขตนี้ได้จริงหรือ ?

ไม่น่าจะแก้ได้

ดังนั้นจึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่หลงทิศทาง และทำลายจุดเด่นของสังคมออนไลน์ที่มีอยู่ไปแทน

และที่สำคัญ หลายครั้งมนุษย์เราจะเลือกฟังคำพูดที่มาจากผู้ที่มีหัวโขนอันโดดเด่นในสังคมแทนที่จะฟังเหตุและผลอันถูกต้องตามตรรกะของสิ่งที่พูด
ทว่าการปิดบังตัวตนสามารถทำลายการยึดมั่นถือมั่นนั้นได้ และจะทำให้มนุษย์เราเลือกฟังสิ่งที่มีเหตุผลในตัวของมันเองมากกว่าดูที่หัวโขนได้อย่างแน่นอน

ไม่จำเป็นครับ โลกออนไลน์มันก็เหมือนเกมออนไลน์ที่แต่ละคนจะมีอวาต้าร์ หรือบุคลิกที่แตกต่างกันไป แล้วแต่จุดประสงค์การเล่น

บ้างก็เพื่อผ่อนคลาย บ้างก็เพื่อหาเพื่อนอุดมการณ์เดียวกัน(แต่อาจไม่เป็นทียอมรับนักทางสังคม แม้จะไม่ผิดกฎหมายก็ตาม) บ้างก็เพื่อหาข้อมูล

จึงมองว่าควรเป็นอิสระมากกว่าว่าผู้อาศัยในสังคมออนไลน์จะเลือกได้ว่าอยากเปิดเผย หรือปกปิด

ขอเพียงแค่
1) ว่าไม่ไปทำอะไรที่ไม่ดี หรือฉวยโอกาส หาผลประโยชน์ด้วยการหลอกลวง
2) หากมีกรณีปัญหาจากข้างต้นเกิดขึ้น และมีผู้เดือดร้อนจริงๆ ทางสังคมออนไลน์นั้นๆควรจะให้ความร่วมมือเปิดเผยรายละเอียดบางประการของบุคคลดังกล่าวตามสมควร เพื่อป้องกันหรือใช้ดำเนินคดีต่อไป


สรุปว่า แล้วแต่สะดวกครับ อยากปกปิดก็ปิดไป อยากเปิดเผยบริสุทธิ์ใจก็เห็นด้วย แต่ถ้ามีปัญหาขึ้นเพราะคนที่ปกปิด ผู้ดูแลพื้นที่นั้นควรให้ความร่วมมือในการเปิดเผยเพื่อความสงบของสังคมนั้นๆ

ความจริงเเล้ว....จะบอกว่าไงดีละถ้าเป็นกลางเราเอานะ เราควรจะเปิดเผยเเค่บางเรื่องเท่านั้น เเต่เรื่องส่วนตัว เช่น เรื่องส่วนตัวของเรา รูปตัวเอง ที่อยู่ของเรา เป็นต้นไม่ควรนำเปิดเผยนะเพราะทุกคนต่างก็มีสิทธิของตัวเองทั้งนั้นเพราะงั้นเเต่ที่เราเลือกฝั่งนี้เพราะเราคิดว่าไม่ควรจะเปิดเผยมากที่สุด ยกเว้นชื่อของเราเท่านั้น
เเละเราบอกไว้ก่อนว่าข้าพเจ้าอยู่ป.6ก็เขียนไปตามประสาของเด็กป.6เท่านั้น ถ้ามึนก็ขออภัยด้วย

ชอบนิ้วกลม//เกี่ยวมั้ย? 55555

ข้อดีอย่างนึงของสังคมออนไลน์คือ...ไม่รู้จักกันมาก่อน สามารถพูดสิ่งที่คิดได้ตรงๆ ส่วนเรื่องจริงใจหรืออะไรนั่น ต่อให้เปิดเผยตัวตนจริงๆถ้าคนมันเลว ยังไงก็เลวค่ะ ... //อย่างกรณี http://www.dek-d.com/board/view/2530918/#comment

ก็รู้หน้านะคะ....ไม่เห็นมีจิตสำนึกเลย แถมป่านนี้ยังหาตัวไม่เจอด้วย .... -0-)) เราว่ามันอยู่ที่คนค่ะ...โลกแห่งความจริงนั่นแหละที่เฟค เฟคมากกว่าสังคมออนไลน์ที่โดนบอกว่าไม่มีความจริงซะอีก (มนุษย์ไม่ได้ดีขนาดนั้น...)

แต่เราว่าน่าจะให้เปิดเผยมากกว่านี้
ไม่ใช่ว่าโกหกหมด...
คือไม่ได้หมายถึงเปิดเผยหมดเปลือก แบบพวกที่หลอกคนอื่น บางทีถ้ามาแบบไม่ดีแล้วโกงเราขึ้นมาล่ะ ? เราก็อยากให้คนนั้นเปิดเผยมากกว่านี้ จบนะ .

ชอบรัฐไทมากเลยอ่า คนสุดท้ายของเทพศิรินทร์ จริงๆตอนแรกเราเข้ามา ก็คิดในหลักทั่วๆไปว่า ปกปิดน่าจะเป็นสิ่งที่ควร หัวข้อที่กรุงเทพคริสเตียนได้นั่้นค่อนข้างได้เปรียบ แต่พอดูอันนี้แล้ว ถูกวาทศิลป์เจ๋งๆของเทพศิรินทร์ดึงมาทันทีเลย ..จริงอยู่ที่กรุงเทพคริสเตียนนั้นเก่ง ลีลาดีเช่นกันและดูมีเหตุผลที่ดีและหาได้ใกล้ตัวมากกว่า ..แต่วาทศิลป์ยังไม่จูงใจเราพอ.. คหสต.จ้า^^

ของแบบนี้มันขึ้นกับกรณีและก็ค่านิยมของแต่ละชาติล้วนๆเลยฮะะ

บ้านเมืองเราแสดงความเห็นได้จำกัด..เรื่องบางเรื่องแม้จะเป็นในสังคมออนไลน์ ปกปิดตัวตนไว้จะปลอดภัยกว่า(เป็นข้อเสียเนอะ)

ขอบคุณครับ ผมได้คลิปมาดูแก้เซ็งรอเปิดเทอมแล้ว
ได้ความรู้อีกตั้งหาก

เห็นด้วยครับ สนับสนุน เพราะ จะเกิดความไม่น่าเชื่อถือถ้าข้อมูลนั้นไม่ใช่ความจริง